โครงงาน ปฐมวัย เรื่อง ต้นไม้

  • โครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง ดอกไม้มหัศจรรย์ อนุบาล3/3
  • โครงงานวิทยาศาสตร์เด็กปฐมวัย
  • โครงงาน \”ทานตะวันชูช่อ\”
  • โครงงานในชั้นเรียนระดับปฐมวัย
  • โครงงาน เครื่องบิน

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

โครงงาน ปฐมวัย เรื่อง ต้นไม้

โครงงานวิทยาศาสตร์เด็กปฐมวัย

วีดีโอนี้เป็นส่วนหนึ่งในการศึกษาวิชาวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย

โครงงาน ปฐมวัย เรื่อง ต้นไม้

โครงงาน \”ทานตะวันชูช่อ\”

เด็กนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1
โรงเรียนอนุบาลจันทร์เจ้า

โครงงาน ปฐมวัย เรื่อง ต้นไม้

โครงงานในชั้นเรียนระดับปฐมวัย

โครงงาน ปฐมวัย เรื่อง ต้นไม้

โครงงาน เครื่องบิน

สรุปการเรียนรู้โครงงานเครื่องบิน ในกรอบการเรียนรู้ \”เท่าทันเทคโนโลยี ด้วยวิถีพอเพียง\” ของลูกๆ บ้านพวงชมพู ชั้นอนุบาล 2 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนบ้านคุณแม่

โครงงาน ปฐมวัย เรื่อง ต้นไม้

นอกจากการดูหัวข้อนี้แล้ว คุณยังสามารถเข้าถึงบทวิจารณ์ดีๆ อื่นๆ อีกมากมายได้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆWiki

โครงงาน ใบไม้แปลงร่าง จดั ทำโดย นกั เรยี นชนั้ อนุบาลปีท่ี 2 และ ช้ันอนบุ าลปที ่ี 3 นางสาวอรญั ญา พูลดำริห์ ครผู ู้รับผิดชอบ โรงเรียนวดั เนินยาง(ประยรู ราษฎรว์ ิทยาคาร) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจันทบุรีเขต 1

ชือ่ โครงงาน : ใบไม้แปลงร่าง ผจู้ ัดทำโครงงาน : นกั เรยี นชนั้ อนบุ าลปีท่ี ๒ และ นักเรียนชัน้ อนุบาลปีที่ ๓ โรงเรียนวดั เนนิ ยาง ครทู ปี่ รึกษา : นางสาวอรญั ญา พลู ดำรหิ ์ บทที่ 1 บทนำ ท่มี าและความสำคญั ของปญั หา ตน้ ยางใตห้ รอื ต้นยางนาเป็นต้นไม้ท่ีอย่คู ู่กบั หมบู่ ้านเนนิ ยางมานานกว่า 100 ปี มีความสงู ถึง 30 - 40 เมตร ลำต้นตรง คนโอบไม่มิด ซง่ึ จะข้นึ บริเวณวดั และโรงเรียนวัดเนินยางเทา่ น้ัน เปน็ ไม้พันธ์ุทมี่ กี ารนำเอาลูกไป เพาะเพ่ือขยายพันธุ์ ตน้ ยางนาเปน็ ไม้อนรุ ักษซ์ งึ่ หา้ มมกี ารตัด ทำลาย โดยเดด็ ขาด ตน้ ยางมีหลากหลายพันธ์ซุ ึง่ แต่ละพนั ธุก์ ็ใหป้ ระโยชนแ์ ตกต่างกนั ออกไป ต้นยางนาจะเป็นตน้ ยางท่ีไม่ได้ไว้ กรีดเพ่ือไดน้ ้ำยางออกมาแปรรูปเหมือนยางพาราทว่ั ๆไป จากการทโ่ี รงเรียนวัดเนินยางมีตน้ ยางนาขน้ึ อยู่บรเิ วณโรงเรยี นนนั้ ทำให้ได้เหน็ ได้สมั ผสั กับตน้ และใบยาง นา นักเรียนมีความสนใจและสนุกสนานในการทำกจิ กรรมต่างๆจากต้นยางนา ได้ทำกิจกรรมศิลปะสรา้ งสรรคโ์ ดย การนำใบไมม้ าทำเปน็ สิง่ ประดิษฐต์ า่ งๆ การทำโมบายรปู ใบไมจ้ ากกระดาษ การนำใบไม้มาทำเปน็ สงิ่ ประดิษฐ์ ต่างๆ เด็กๆมีความสงสยั วา่ นอกจากเราทำใบไม้จากกระดาษได้แลว้ นน้ั เราสามารถเอาใบไมจ้ รงิ ๆมาทำเปน็ อะไรได้ อีกบา้ ง เพราะถา้ ใบยางมันหล่นจากต้นไม้แล้วมันกเ็ อาไปใช้ทำอะไรต่อไม่ไดน้ อกจากกลายเป็นขยะหรือนำไปหมกั เป็นปุ๋ยคอกเพ่ือนำไปบำรงุ ต้นไม้ จึงเกิดความสนใจและเปน็ จุดเร่มิ ต้นที่พัฒนาโครงงานในการทีจ่ ะนำใบไมม้ าทำ กิจกรรมอ่นื ๆต่อไปได้อีก วตั ถปุ ระสงค์การทำโครงงาน 1. เพื่อเปน็ การนำเอาใบยางท่ีมอี ย่มู ากมายบรเิ วณโรงเรียน มาใช้ให้เกิดประโยชน์ 2. เป็นการสร้างรายได้ให้กบั นกั เรียน 3. ฝกึ ใหเ้ กิดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สมมตฐิ าน 1. ใบยางสามารถนำมาประดิษฐเ์ ป็นดอกไม้ได้ ตัวแปรที่ศึกษา ตวั แปรตน้ : ใบยางจากตน้ ยางนา ตวั แปรตาม : ความสวยงามของกลบี ใบยาง ตัวแปรควบคุม : สีสันของใบยาง

ผลท่ีคาดว่าจะไดร้ ับ 1. ได้ผลติ ภัณฑ์ทีส่ วยงามท่ีมาจากใบยาง 2. นักเรียนมรี ายได้ 3. นกั เรียนมที กั ษะทางวทิ ยาศาสตร์ เกิดการวเิ คราะห์และการหาคำตอบ ขอบเขตของโครงงาน ศกึ ษาวธิ กี ารลอกใบยางดว้ ยวธิ กี ารต่างๆ และวิธีการทจี่ ะทำให้ใบยางเกดิ สีสันทส่ี วยงาม ระยะเวลา โดยการศึกษาและทดลองและประดษิ ฐ์ใชเ้ วลาในการดำเนินการ วนั ท่ี 2 – 31 มกราคม 2563 สถานที่ โรงเรยี นวดั เนนิ ยาง หม่ทู ่ี 1 ตำบลคมบาง อำเภอเมือง จังหวัดจนั ทบุรี

บทที่ 2 เอกสารทเ่ี ก่ยี วข้อง ใบยางนา ช่อื ไทย ยางนา(Yang) ชอ่ื ทอ้ งถนิ่ ยางขาว ยาง ยางแมน่ ้ำ ยางหยาก (ท่วั ไป) ยางกุง (เลย) ยางเนิน (จันทบุรี) ชนั นา ยาง ตงั (ชุมพร) ยางควาย (หนองคาย) ชื่อวิทยาศาสตร์ Dipterocarpus alatus Roxb ex G Don วงศ์ DIPTEROCARPACEAE ลักษณะทางพฤกศาสตร์ ลกั ษณะทั่วไป ไมต้ ้น ขนาดใหญ่ สูงประมาณ 30 - 40 เมตร ไม่ผลัดใบ เรอื ดยอดเป็นพุ่มกลมหนา ลำต้น เปลาตรง เปลือกนอกสีเท่าอมขาว เรยี บหนา หรือแตกสะเก็ดเป็นหลุมตน้ื ๆ เปลือกในสีนำ้ ตาลอมชมพู ลกั ษณะใบ ใบเดย่ี ว เรียงสลับ รูปไขแ่ กมขอบขนาน ขนาดกวา้ ง 8 – 15 เซนติเมตร ยาว 20 – 35 เซนติเมตร โคนใบมนกว้าง ขอบใบหยกั เปน็ คลน่ื เล็กน้อย ปลายใบสอบทู่ เน้ือใบหนา ใบอ่อนมีขนสีเทา ใบแก่ เกล้ยี งหรอื เกอื บเกล้ียง กาบหุ้มยอดหรือใบอ่อนมีขนอ่อนสีน้ำตาล ลกั ษณะดอก ช่อกระจะ สัน้ ๆ ออกทีซ่ อกใบใกลป้ ลายกงิ่ ดอกย่อยสีชมพู กลีบเลีย้ งเช่อื มตดิ กนั เปน็ รปู ถว้ ย กลบี ดอกเชื่อมติดกนั ปลายกลบี แยกออกเปน็ 5 แฉก บิดเวยี นตามกนั แบบกังหนั เกสรเพศผู้มี 29 อนั ลักษณะผล ผลแห้งกลบี เล้ียงเจริญเป็นปี ทรงกลมรี มีครีบตามยาว 5 ครบี มีปกี ยาว 2 ปกี ยาว 10 – 12 เซนติเมตร เสน้ ปีกตามยาวมี 3 เส้น เมล็ดลักษณะคลา้ ยแปง้ สีขาวมีร้ิวสีน้ำตาลกระจายอยู่ทว่ั ไป ระยะการออกดอกติดผล ออกดอกชว่ งเดอื นธันวาคม – เดือนมกราคม ผลจะแกจ่ ดั ในต้นเดอื น พฤษภาคม เขตการกระจายพันธ์ุ พบขนึ้ เปน็ กลมุ่ ตามท่ีราบริมธาร ในป่าดบิ ท่วั ไป ท่ีมีดนิ อุดมสมบูรณ์ ดินลึกและมี ความชุ่มชนื้ เพียงพอ ความสงู 200 -600 เมตร จากระดับน้ำทะเล การใช้ประโยชน์ สว่ นใหญ่ใชใ้ นการก่อสรา้ งท่วั ไป ทำไม้บาง ไม้อัด หมอนรองรถไฟ นำ้ มนั ยางที่ได้จาก การเจาะตน้ ใช้ทาไม้ ยาแนวหรอื ทาเคร่ืองจักสาน ทำยา เป็นต้น สรรพคณุ ตำรายาไทย น้ำต้มเปลอื ก กนิ แก้ตับอักเสบ บำรุงร่างกาย ฟอกเลอื ด บำรงุ โลหิต และใช้ทาถู นวด (ขณะร้อนๆ) แก้ปวดตามข้อ ต้นมีนำ้ มันยาง รสร้อนเมาข่ืน มสี รรพคณุ หา้ มหนองและสามานแผล ใช้ทาแผล เน่าเปอ่ื ย แผลมีหนอง แผลโรคเรื้อน แก้โรคหนองใน ใช้ยาเคร่ืองจักสาน ทาไม้ อุดเรือร่ัว และผสดข้ีเล่ือยจดุ ไฟ หรือทำไต้ นำ้ มันยางผสมกับเมลด็ กุยช่าย (Allium tuberosum Roxb.) คัว่ ให้เกรียม บดใหล้ ะเอยี ด ใช้อุดฟันแก้ ฟันผุ น้ำมันยาง 1 สว่ น ผสมกบั แอลกอฮอล์กิน 2 สว่ น กนิ เป็นยาขบั ปัสสาวะ แก้มตุ กดิ ระดูขาว จบิ เปน็ ยาขับ เสมหะ

องค์ประกอบทางเคมี น้ำมันยางเป็นของเหลวขน้ มกี ล่ินเฉพาะ ไดจ้ ากการเจาะโพรงเข้าไปในต้นแล้วเอา ไฟลน นำ้ ยางจะไหลลงมาขงั ในแอ่งที่เจาะไว้ น้ำมันยางท่ีได้เรียกว่า “Gurjun Balsam” หรือ “Gurjun oil” เม่ือ นำมากลั่นดว้ ยไอน้ำจะได้น้ำมันระเหยงา่ ยร้อยละ 70 มีองค์ประกอบเปน็ alphagurjune และ B-gurjunene การฟอกสีใบยาง การฟอกสโี ครงใบยางเพอื่ ทำใหโ้ ครงใบยางขาวสะอาด เม่ือนำไปย้อมสจี ะได้สีสวยตามตอ้ งการ ทำให้ได้ ผลติ ภัณฑท์ ส่ี วยงาม ในดา้ นคุณภาพ การฟอกสโี ครงใบยางน้ีแนะนำให้ใช้นำ้ ยาไฮเตอร์ ซ่ึงอยใู่ นรปู ของสารละลาย มีจำหนา่ ยทว่ั ไปและใชไ้ ด้สะดวก วิธที ่ีต้องนำมาทำใหเ้ จอื จางด้วยนำ้ โดยอตั ราสว่ นผสมทเี่ หมาะสมท่สี ดุ คือ นำ้ ยาไฮเตอร์ 1 สว่ น นำ้ 6 สว่ น ใช้เวลาในการฟอกสปี ระมาณ 4 ช่ัวโมง จะได้โครงใบยางท่ขี าวสะอาด และไม่ เสียหาย หลังจากนัน้ นำโครงใบยางขนึ้ ล้างน้ำให้สะอาด ผ่ึงแดด จนแหง้ สนทิ เก็บรวบรวมพร้อมนำไปย้อมสีหรอื สเปรยส์ ี เพื่อนำไปประดิษฐ์ดอกไม้และผลติ ภณั ฑต์ า่ งๆตามตอ้ งการ สสี ดใสและใกลเ้ คยี งกับสขี องดอกไม้ตาม ธรรมชาติ อีกทัง้ สีของดอกไม้หรอื ผลติ ภณั ฑต์ า่ งๆจะมีความคงทนสามารถอยใู่ นท่รี ่มได้นานถึง 3 ปี

บทท่ี 3 วธิ ดี ำเนินการทำโครงงาน วัสดใุ นการทำดอกไม้ 1. ใบยางนา 2. น้ำยาฟอกขาว 3. เกสรดอกไม้ 4. ฟลอรา่ เทป 5. ลวดเบอร์ตา่ งๆ 6. กา้ น 7. ดา้ ย 8. คมี ตัดลวด 9. สีผสมอาหารสำหรบั ยอ้ มสีใบยาง 10. อุปกรณ์การตกแต่งตา่ งๆ เครื่องมอื และอปุ กรณ์ เคร่ืองมือและอุปกรณ์ในการประดิษฐด์ อกไมจ้ ากใบยาง 1. กะละมังสำหรบั แช่ใบยาง 2. หม้อ 3. เตาแก๊ส วธิ ดี ำเนนิ การ 1. เกบ็ ใบยางสดตามจำนวนท่ีต้องการมาหมักในนำ้ สะอาด ใบยางที่หมักตอ้ งไม่แนน่ จนเกินไป 2. นำไปต้มกับน้ำสะอาดนาน 3 ช่วั โมง เนื้อเยื่อใบกจ็ ะเปื่อย 3. ใชแ้ ปรง แปรงใบยางจนเน้ือเยื่อหลุดหมด เหลือแตโ่ ครงร่างใบ ล้างนำ้ ใหส้ ะอาด นำไปผึง่ ใหแ้ ห้ง 4. ใช้น้ำยาฟอกขาวไฮเตอร์ ผสมกบั นำ้ สะอาด 5. แชใ่ บยาง โดยใสใ่ หก้ ระจายไม่ซ้อนทบั กนั จนแนน่ เกนิ ไป นาน 3 – 4 ช่ัวโมง สงั เกตดูวา่ เสน้ ใบยางขาว ดแี ลว้ นำมาลา้ งดว้ ยน้ำสะอาด 3 – 4 ครั้ง นำไปผ่ึงใหแห้ง 6. นำใบยางทีผ่ า่ นการฟอกสีและผง่ึ จนแหง้ แล้วไปย้อมสีตามตอ้ งการ และนำไปผ่ึงให้แห้ง 7. นำใบยางทีแ่ หง้ ดีแลว้ ไปประดษิ ฐ์เปน็ ดอกไม้ชนิดต่างๆได้ตามต้องการ

บทท่ี 4 ผลการทดลองและวิเคราะห์ผล การวเิ คราะห์ข้อมลู ผลจากการจัดทำโครงงานเรือ่ ง ใบไมแ้ ปลงรา่ ง ทำให้ได้รบั ความรเู้ รื่องวิธีการทจี่ ะนำใบยางทม่ี ีอยู่บริเวณ รอบๆโรงเรยี นมาประดษิ ฐเ์ พื่อใหเ้ กดิ ประโยชนส์ งู สดุ ผลปรากฏวา่ ดอกไมท้ ี่ทำมาจากใบยาง โดยมีการศึกษาถึง ประโยชนแ์ ละสรรพคุณต่างๆของตน้ ยางนา และศึกษาวธิ กี ารแปรผลติ ภัณฑใ์ ห้เกิดมีสีสนั สวยงาม และนำมาใช้ ประดิษฐเ์ ปน็ ดอกไม้ได้ ผลการวิเคราะหข์ อ้ มูล เมื่อเรานำใบยางมาประดิษฐ์เปน็ ดอกไม้ตามต้องการไดแ้ ล้วนน้ั จะเห็นไดว้ ่าเป็นการเพิ่มมูลค่าของใบยาง และดอกไม้จากใบยางนี้ อายุการใชง้ านนาน ไมน่ ้อยกวา่ 1 ปี เมื่อวางไว้ในท่รี ่ม นำไปตกแตง่ สถานท่ตี ่างๆได้ และ ยังถือวา่ เปน็ ส่งิ ทสี่ รา้ งรายได้ได้เปน็ อย่างดีทีเดียว

บทท่ี 5 สรุปอภิปรายผลและข้อเสนอแนะ สรุปผลการวเิ คราะหข์ อ้ มลู คณะผูจ้ ัดทำได้ประดิษฐ์ดอกไม้จากใบยางนีข้ ้นึ มาเพื่อ เปน็ การใช้ประโยชน์จากใบยางท่ีมีอยู่รอบบรเิ วณ โรงเรียน โดยผ่านกรรมวธิ ีต่างๆจนได้กลีบใบท่ีสวยงาม สามารถนำมาประดษิ ฐ์เปน็ ดอกไม้ได้หลายชนิด เช่น ดอก กหุ ลาบ ดอกสายรุ้ง ดอกบัวเผอ่ื น ดอกชบา ดอกแคทลยี า ดอกลลิ ลี่ ดอกเฟื่องฟา้ เปน็ ต้น ขอ้ เสนอแนะ ใบยางท่จี ะนำมานนั้ ต้องเป็นใบยางสดทมี่ ีอายปุ ระมาณตั้งแต่ 2 ปขี ้ึนไป ไมแ่ กห่ รอื ออ่ นเกนิ ไป ไม่มตี ำหนิ สามารถย้อมสไี ด้หลากหลายตามความต้องการ และนำมาประดิษฐเ์ ปน็ ดอกไม้ได้หลากหลายชนดิ ไมต่ ้องทะนุ ถนอมมากนัก เพียงแค่พน่ ละอองน้ำเข้าไป เพราะมีคุณสมบัตเิ ด่นคนื รูปได้ ดอกไมจ้ ะกลับมามีสสี นั สดใสและคืน รปู ทรงสวยงามดั่งเดิมเสมอ และยังเปน็ การนำเอาวัสดใุ นทอ้ งถ่ินมาแปรเปลี่ยนเพม่ิ มูลค่าได้อยา่ งนา่ สนใจซ่ึงราคาของดอกไม้จากใบ ยางสามารถขายได้ต้ังแต่ก้านละ 15 – 100 บาท

ภาคผนวก

วัสดอุ ุปกรณ์ หม้อ กะละมงั ใบยาง นำ้ ยาฟอกขาว เกสรดอกไม้ สผี สมอาหาร ฟลอรา่ เทป ลวด ก้าน อปุ กรณ์ตกแตง่ ด้าย คมี ตัดลวด

ข้ันตอนการดำเนนิ การ เกบ็ ใบยางจากตน้ โดยเลอื กใบสดไม่อ่อนและไมแ่ กจ่ นเกินไป ลา้ งนำ้ ด้วยน้ำใหส้ ะอาด

ขนั้ ตอนการดำเนนิ การ นำไปต้มประมาณ 3 ช่วั โมง ใชแ้ ปรงสฟี นั ขดั ใบออกใหห้ มด

ข้นั ตอนการดำเนินการ ผึ่งลมใหแ้ ห้ง

ขั้นตอนการดำเนนิ การ ผสมน้ำยาฟอกขาวในน้ำสะอาด แชใ่ บยางท้งิ ไว้ 3 ช่วั โมง

ข้นั ตอนการดำเนินการ ผึง่ ลมให้แห้ง

ข้ันตอนการดำเนนิ การ ใบยางท่ีฟอกขาวแล้วนำมายอ้ มสีตามต้องการ จากน้ันนำไปผง่ึ ลมให้แหง้

ขน้ั ตอนการดำเนนิ การ ข้นั ตอนการประกอบดอกไม้จากใบยาง

เอกสารอา้ งอิง แหลง่ ข้อมูล: สำนกั งานหอพรรณไม้ - กรมอุทยานแหง่ ชาติ สัตวป์ ่าและพนั ธพ์ุ ชื https://medthai.com/%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B8%B2/ http://www.phargarden.com/main.php?action=viewpage&pid=274 http://www.thaismescenter.com/ https://pradyakakandee.wordpress.com/ http://keawkung.blogspot.com/