บัตรเครดิต ต้องทำประกันไหม

สมัครใช้บริการได้ที่ธนาคารกรุงเทพทุกสาขา เพียงกรอกรายละเอียดพร้อมลงลายมือชื่อในใบคำขอเอาประกันชีวิตและชำระเบี้ยประกันภัย พร้อมแนบเอกสารประกอบตามที่บริษัทกำหนด

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารกรุงเทพทุกสาขา หรือบัวหลวงโฟน โทร. 1333 หรือบริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) โทร. (66) 0 2777 8888 หรือ www.bangkoklife.com

เมื่อนึกถึงคำว่า ประกันชีวิต หรือประกันภัย หลายคนอาจจะมองข้ามว่าเป็นเรื่องที่ไกลตัว ยังไม่จำเป็น บ้างก็คิดว่ายังไม่ถึงวัยที่ต้องใช้ประกัน แต่เมื่อภัยมาถึง หรือเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น กรมธรรม์ประกันที่ซื้อเอาไว้จะสามารถช่วยเหลือและเป็นที่พึ่งให้เราได้อย่างทันท่วงที ทั้งได้รับความคุ้มครองและชดเชยในยามที่สูญเสีย ซึ่งเราสามารถซื้อประกันให้กับตนเองหรือให้กับคนที่เราห่วงใยหรือต้องการความคุ้มครองได้หลากหลายจุดประสงค์ ทั้งประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ประกันรถยนต์ และประกันการเดินทาง เป็นต้น

หลายคนบอกว่าซื้อประกันก็เหมือนได้ซื้อหลักประกันคุ้มครอง แต่นอกเหนือจากความคุ้มครองที่จะได้จากประกันที่เราจ่ายไปแล้ว เรายังสามารถได้สิทธิประโยชน์ได้จากการชำระค่าเบี้ยประกันด้วยบัตรเครดิตได้อีกด้วย และที่สำคัญ การจ่ายด้วยบัตรเครดิต KTC นั้น จะทำให้คุณได้รับสิทธิประโยชน์ในหมวดหมู่ประกัน มากถึง 5 ข้อ คือ

บัตรเครดิต ต้องทำประกันไหม

1. สิทธิประโยชน์สุดคุ้มกว่าการชำระค่าเบี้ยประกันด้วยเงินสด คือคุณจะได้รับเครดิตเงินคืนจากการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตด้วย โดยจะได้รับสูงสุดถึง 15% จากค่าเบี้ยประกันที่คุณชำระ คืนเข้าบัญชีบัตรเครดิตแบบง่ายๆ เลย

บัตรเครดิต ต้องทำประกันไหม

2. ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย โดยสามารถนำคะแนน KTC FOREVER มาเลือกผ่อนชำระ 0% ได้นานสูงสุด 10 เดือน

บัตรเครดิต ต้องทำประกันไหม

3. ไม่ต้องกังวลว่ากรมธรรม์ประกันที่คุณถืออยู่ในตอนนี้ จะเป็นเบี้ยประกันปีใหม่ หรือปีต่อ คุณสามารถชำระค่าเบี้ยประกันด้วยบัตรเครดิต KTC ได้เลย

บัตรเครดิต ต้องทำประกันไหม

4. รับคะแนนตามปกติ ทุก 25 บาท รับ 1 คะแนน ซึ่งคะแนนนี้สามารถนำไปใช้แลกสิทธิประโยชน์ได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นบัตรกำนัล ส่วนลดร้านค้า หรือแม้แต่ใช้แลกไมล์สายการบิน

บัตรเครดิต ต้องทำประกันไหม

5. บัตรเครดิต KTC มีสิทธิประโยชน์ประกันที่หลากหลายหมวดหมู่และร่วมกับบริษัทประกันชั้นนำมากมาย คุณสามารถเลือกซื้อประกันจากบริษัทที่เข้าร่วมสิทธิประโยชน์กับบัตรเครดิต KTC อย่าง Krungthai-AXA , AIA, Thai Life, FWD, Allianz Ayudhya, Bangkok Life และอื่นๆ อีกมากมาย รวมไปถึงทุกหมวดหมู่ของประกัน ไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ประกันรถยนต์ ประกันการเดินทาง หรือแม้แต่ประกันที่อยู่อาศัย ก็สามารถชำระค่าเบี้ยได้ด้วยบัตรเครดิต KTC

นอกจากนี้ หลายคนอาจจะมีข้อสงสัยว่า แล้วเราจะชำระค่าเบี้ยประกันปีใหม่ และปีต่อด้วยบัตรเครดิต KTC ผ่านช่องทางไหนได้บ้าง?  วันนี้ เราได้รวบรวมช่องทางการชำระเงินด้วยบัตรเครดิต KTC ของ 5 บริษัทประกันชั้นนำ ดังนี้

มีบริการอยู่ชนิดหนึ่งที่มักจะถูกเสนอขายทางโทรศัพท์ ก็คือ การขายประกัน ซึ่งผู้ที่ถูกเสนอมักจะเป็นผู้ถือบัตรเครดิต ซึ่งพวกบริษัทประกันจะได้ข้อมูลลูกค้าจากบริษัทผู้ให้บริการบัตรเครดิต  และจะมีการเชิญชวนให้ซื้อประกัน

ลักษณะการขายประกัน
การขายประกันที่นิยมกันมากน่าจะเป็นประกันเกี่ยวกับการประกันอุบัติเหตุและประกันชีวิต โดยที่ผู้รับโทรศัพท์มักจะได้รับการพูดจาหว่านล้อม ว่าการซื้อประกันทางโทรศัพท์เบี้ยประกันจะต่ำประมาณ 100-200 บาทและจะได้รับเงินถึง 100,000-500,000 บาท  บริษัทประกันหลายรายใช้โทรศัพท์เข้าไปที่เบอร์ของผู้บริโภคและชักชวนให้ทำประกันชีวิต  โดยการอ้างถึงสิทธิประโยชน์มากมาย เมื่อผู้บริโภคเกิดความรำคาญอาจจะตัดบทไปว่า ตกลง ครับหรือ ค่ะ เพียงแค่คำเดียวเท่านั้นก็จะมีการบันทึกเสียงเอาไว้ว่าผู้บริโภครายนั้นได้สมัครบริการประกันชีวิตแล้ว

เพราะฉะนั้นจงจำไว้ว่าอย่าตอบรับโดยใช้คำว่า สนใจหรือตกลง เพราะจะถือว่าสัญญาได้เกิดขึ้นแล้ว ขอให้ยืนยันคำเดียวง่าย ๆ ว่า ไม่ หรืออาจจะให้เขาส่งตัวแทนมาพบเพื่อให้อธิบายผลประโยชน์ต่าง ๆ จะดีกว่าถ้าเราสนใจอย่าเพิ่งไปรับปาก  แต่ถ้าหากมีการตอบตกลงไปแล้วเราจะมีวิธีการทำอะไรได้บ้างสำหรับผู้บริโภค

ยกเลิกประกันทำอย่างไร
อย่าลืมครับว่าผู้บริโภคมีสิทธิที่จะปฏิเสธได้หรือบอกยกเลิกสัญญาได้หากไม่ได้รับกรมธรรม์  หรือไม่พึงพอใจภายใน 15 วัน ซึ่งผู้รับอาจจะทำเป็นจดหมายแบบตอบรับทางไปรษณีย์ก็ได้และทำสำเนาไว้เป็นหลักฐาน ที่ต้องทำอย่างนี้ก็เพราะเหตุว่า เมื่อคุณตอบตกลงไปแล้วและเปลี่ยนใจจะขอยกเลิกคุณจะไม่สามารถติดต่อกลับได้เลย

นอกจากนี้ยังมีพวกแก็งค์มิจฉาชีพหลอกขายประกันทางโทรศัพท์มากมายโดยอ้างการเก็บเบี้ยถูก คุ้มครองสูง แต่เมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้วกับเคลมประกันไม่ได้หรือติดต่อไม่ได้ ลองคิดดูว่าถ้ามีอะไรเกิดขึ้นหน้าตาคุณก็ไม่เคยเห็น สำนักงานอยู่ไหนก็ไม่รู้ และเมื่อเกิดปัญหาขึ้นใครจะจัดการให้กับคุณ เพราะฉะนั้นก่อนที่จะตัดสินใจตอบรับควรขอกรมธรรม์มาศึกษาดูก่อน 15 วัน หากไม่พอใจสามารถยกเลิกได้  ย้ำต้องทราบข้อมูลของตัวแทนขายให้ละเอียด ถ้าไม่แน่ใจโทรเช็ค 1186 สายด่วนประกันภัย ของ คปภ. เพื่อความชัวร์นะครับ

บ่อยครั้งที่เราจะได้ยินข่าวหรือเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการทำประกันผ่านบัตรเครดิตในทางที่ไม่ค่อยดีนัก เช่น โดยหลอกขายประกันโดยเจ้าหน้าที่บอกว่า ลูกค้าที่ถือบัตรเครดิตทุกคนทำประกันหมดหรือเผลอพูดตกลงทำไปแบบมึนงง ส่วนมากเจ้าหน้าที่ ๆ โทรมามักจะเริ่มด้วยการบอกว่าเราเป็นผู้ได้รับคัดเลือกให้นำเสนอโปรโมชั่นพิเศษตามนี้ แล้วก็อธิบายยาว ๆ ไป เจ้าหน้าที่ ๆ โทรมามักมีคุณสมบัติพิเศษในการตื๊อ หากไม่ว่างคุยอยากวางสายก็มักเชิญชวนให้ลองฟังดูก่อน หากเผลอฟังไปแล้วก็ยาวบางทีจะวางสายยังยากเลย

การฟังข้อเสนอการขายประกันผ่านทางโทรศัพท์นั้น ข้อแนะนำ ก็คือ เราควรอยู่ในสถานะที่ว่างและสามารถพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ได้ หากเราไม่อยากพลาดโอกาสที่ดีจริง ๆ ก็ควรนัดให้เจ้าหน้าที่โทรมาใหม่ในเวลาที่เหมาะสม เราต้องมีเวลาว่าง เงียบ สามารถนั่งคุยเพื่อสอบถาม พิจารณารายละเอียดของประกันเพิ่มเติมได้ แต่หากเจ้าหน้าที่โทรมาในขณะที่เราไม่พร้อม ไม่ว่าง ไม่สะดวกคุย ก็ขอให้ปฏิเสธการพูดสายไป ต้องใจแข็ง เจ้าหน้าที่เขามีหน้าที่ต้องหว่านล้อมเพื่อให้เราฟังอยู่แล้ว พูดไปตรง ๆ เลยว่าตอนนี้ไม่สะดวกแม้ฟังไปก็คงไม่อาจตัดสินใจอะไรได้ น้องเอาเวลาไปโทรหาลูกค้าที่เขาพร้อมฟังก่อนดีกว่านะคะ พูดไปแบบนี้น่าจะได้ผลกว่า ตอบบ่ายเบี่ยงแค่ไม่ว่างคุย หากไม่สำเร็จต้องตัดบทแล้ววางสายไปเลยอย่าไปคิดมาก

มีกรณีที่หลายคนยอมฟังเจ้าหน้าที่ทั้งที่ไม่พร้อม ฟังไปยืดยาว ยังไม่ค่อยเข้าใจรายละเอียดก็ถูกเจ้าหน้าที่รวบรัดให้ต้องตอบตกลง เพื่อบันทึกว่าเรายินยอมตามเงื่อนไขและจะมีการตัดเงินในบัญชีบัตรเครดิตของเรา พร้อมกับส่งกรมธรรม์มาให้ หากเราพูดคำว่าตกลงไปเมื่อไหร่ทางเจ้าหน้าที่จะมีการอัดเสียงของเราไว้เป็นหลักฐาน นั่นก็หมายความว่าเราตกลงยินยอมตามเงื่อนไขที่ได้พูดคุยกันทางโทรศัพท์นั้น แต่หากเรายังไม่ได้พูดว่าตกลงก็ถือว่ายังไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ทีนี้หากกรณีที่เราหลวมตัวพูดตกลงไปมีไม่น้อยเช่นกันที่โดนหว่านล้อม หรืออาจเพราะตัดความรำคาญทำให้พูดตกลงไป พอวางสายจัดการธุระเสร็จสรรพมีเวลามานั่งพินิจพิเคราะห์กลับรู้สึกว่าที่จริงเราไม่ได้อยากทำประกันตัวนี้เลย ทำอย่างไรดีล่ะทีนี้จะยกเลิกได้หรือไม่จะยกเลิกทันหรือเปล่า ยอดเงินจะมาตัดบัญชีบัตรเครดิตเมื่อไหร่ กลัวยกเลิกไม่ได้ ยกเลิกบัตรเครดิตไปเลยดีไหม หรือว่าโทรไปยกเลิกกับธนาคารได้หรือเปล่า คำถามต่าง ๆ นานา เหล่านี้ก็ผุดขึ้นมาทันที

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่าธนาคารเจ้าของบัตรเครดิตของเราจะไม่สามารถยกเลิกการทำประกันผ่านบัตรเครดิตของเราได้ เราต้องโทรยกเลิกกับบริษัทประกันที่โทรติดต่อมาเท่านั้น ธนาคารอาจแค่ให้ข้อมูลชื่อหรือเบอร์ติดต่อของลูกค้ากับทางบริษัทประกันไปเท่านั้น หากเราอยากยกเลิกให้ติดต่อกลับไปที่บริษัทประกันนั้นโดยเร็วที่สุด หากไม่ทราบว่าเป็นบริษัทประกันอะไรที่โทรมา ก็ให้เอาเบอร์ที่เจ้าหน้าที่โทรเข้ามาไปสอบถามกับทางธนาคารก็ได้ว่าเป็นเบอร์โทรของบริษัทประกันอะไร เมื่อโทรไปติดต่อก็ให้บอกชื่อ นามสกุล พร้อมวันและช่วงเวลาโดยประมาณที่เราพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ เพื่อบริษัทจะค้นข้อมูลได้

การทำประกันภัยผ่านบัตรเครดิตจะต้องมีขั้นตอนในการบันทึกเข้าระบบ หากเราโทรติดต่อยกเลิกได้เร็วก็อาจยกเลิกในระบบได้ทัน โดยที่ยังไม่มีการออกกรมธรรม์ สิ่งสำคัญที่จะมั่นใจว่าได้รับการยกเลิกแล้ว ก็คือ ทางเจ้าหน้าที่จะให้เราพูดคำว่า ขอยกเลิกการทำประกัน แล้วบันทึกเสียงไว้ แบบนี้ถึงจะเป็นยกเลิกจริง ๆ ต้องอย่าลืมอีกอย่างที่สำคัญ ก็คือ ให้สอบถามชื่อและเบอร์โทรติดต่อของเจ้าหน้าที่ทำการยกเลิกประกันให้เราไว้ด้วย เผื่อกรณีที่เกิดปัญหาอะไรขึ้นในอนาคต เช่น ประกันไม่ได้ถูกยกเลิก ยังมียอดเข้ามาตัดบัตรเครดิต เราจะได้ทราบว่าต้องติดต่อใคร มีเช่นกันที่โทรกลับไปตามเบอร์ที่โทรติดต่อมาไม่ได้หรือไม่มีคนรับสาย ก็ขอให้เดินทางไปติดต่อที่บริษัทโดยตรง โดยให้พกบัตรประชาชนไปด้วย เพื่อไปทำเรื่องยกเลิกที่บริษัทโดยตรง

ส่วนกรณีที่ทำการตกลงทำประกันผ่านบัตรเครดิตไประยะหนึ่งแล้ว แต่ภายหลังมาพิจารณาดูแล้ว อยากยกเลิก ก็ยังสามารถทำได้เช่นเดียวกัน โดยจะต้องทำเป็นลายลักษณ์อักษรระบุว่าต้องการยกเลิกกรมธรรม์เล่มไหน พร้อมแนบกรมธรรม์เล่มจริง สำเนาบัตรประชาชนที่เซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง ส่งไปยังบริษัทประกันด้วยการส่งแบบไปรษณีย์ลงทะเบียน ย้ำว่าต้องเป็นการส่งแบบลงทะเบียนเพราะสามารถอ้างอิงได้ค่ะ หากยกเลิกด้วยวิธีนี้ภายใน 30 วัน นับจากวันที่ได้รับกรมธรรม์ก็ถือว่ายกเลิกได้ทัน หากมีค่าเบี้ยประกันที่เข้าในบัญชีบัตรเครดิตทางบริษัทประกันก็จะต้องคืนเงินให้กับลูกค้าด้วย แต่หากยกเลิกด้วยวิธีนี้ภายหลังจาก 30 วัน นับจากวันที่ได้รับกรมธรรม์ก็ถือว่ายกเลิกไม่ทัน กรมธรรม์ได้เดินแล้ว หากยังยืนยันอยากยกเลิกก็ทำได้เพียงแต่อาจจะไม่ได้รับค่าเบี้ยคืนหรือได้รับคืนแค่เท่ากับมูลค่าเวนคืนในกรมธรรม์เท่านั้น การส่งเอกสารไปยกเลิกแบบเป็นลายลักษณ์อักษรพร้อมกรมธรรม์นี้จะทำให้มั่นใจว่ากรมธรรม์ได้ถูกยกเลิกแน่นอน

โทรศัพท์เพื่อติดต่อไปที่บริษัทประกันที่ทำสัญญาและแจ้งความประสงค์ขอยกเลิกสัญญา จากนั้น ธนาคารจะให้ลูกค้าทำการส่งสำเนาบัตรประชาชนไปที่บริษัทประกัน โดยลูกค้าต้องทำการเขียนข้อความเพื่อขอยกเลิกสัญญา พร้อมระบุเลขที่กรมธรรม์ที่ได้ระบุไว้บนสัญญา เมื่อเขียนบันทึกเสร็จสิ้นให้ทำการส่งแฟ็กซ์กลับไปที่บริษัทประกัน

ขั้นตอนนี้ เป็นขั้นตอนที่สามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีที่รู้สึกอึดอัดและไม่อยากที่จะส่งเบี้ยประกันรายเดือนอีกต่อไป และเหมือนจะเป็นภาระรายเดือนที่ตนเองต้องแบกรับไว้ โดยที่การทำประกันไม่ควรที่จะพ่วงกับบัตรเครดิต แต่ควรเลือกซื้อประกันต่างหาก

หากมีข้อสงสัยต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ลูกค้าสามารถติดต่อได้ที่สายด่วนประกันภัย 1186 หรือหากต้องการร้องเรียนเรื่องประกันก็ร้องเรียนได้ที่ คปภ. หรือสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยได้ทุกจังหวัดทั่วประเทศ