แผนภาพ โครงเรื่อง พ่อค้าจาก เมาะ ตะ มะ

เรื่อง “ราชาธิราช” เป็นนิยายร้อยแก้วพงศาวดารมอญ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ  ให้เจ้าพระยาพระคลัง (หน) พระยาอินทรอัคราช พระภิรมรัศมี พระศรีภูริปรีชา ร่วมกันแปลพงศาวดารมอญละเรียบเรียงเป็นภาษาไทยใน พ.ศ.2328 โดยเจ้าพระยาพระคลัง (หน) เป็นผู้อำนวยการการแปล พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช มีพระราชประสงค์ให้เป็นคติบำรุงสติปัญญาและเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่าน เนื่องจากเรื่องราชาธิราชเป็นวรรณคดีที่มีสาระความรู้ความบันเทิงรวมถึงกลวิธีการประพันธ์ภาษาร้อยแก้วอันไพรเราะและเหมาะสมแก่เหตุการณ์ในเรื่อง

ใจความของเรื่อง

ชาลีติดเกมงอมแงมคิดว่า หนังสือวรรณคดีไทยน่าสนใจกว่าเกมคอมพิวเตอร์ เพราะมีสีสันน่าสนใจจนไม่รู้สึกว่าหนังสือวรรณคดีไทยเหมือนยาขมอีกต่อไปและทำให้รุ้จักบทร้อยกรองที่ไพรเราะมีความหมาย ได้รู้จักผมแกละ เด็กโบราณที่มีม้าก้านกล้วยเป็นของเล่นและได้ท่องเที่ยวไปในโลกของการอ่าน ชาลีชวนมะปรางท่องโลกวรรณคดีดอตคอมและแนะนำให้รู้จักผมแกละ มะปรางตื่นเต้นที่ได้รู้จัก มะกะโท พ่อค้าจากเมาะตะมะผู้ฉลาดหลักแหลมที่เป็นตัวละครสำคํญในวรรณคดีร้อยแก้วเรื่องราชาธิราช ตอน กำเนิดมะกะโท ดังนี้

       เรื่องนี้เกิดขึ้นใสมัยกรุงสุโขทัย ราชธานีซึ่งเรื่องก็มีอยู่ว่า มีชายหนุ่มคนหนึ่งนามว่ามะกะโท เขาเป็นบุตรพ่อค้าชาวมอญอยู่บ้านเกาะวาน เมืองเมาะตะมะ (เมืองในพม่าในปัจจุบัน) เมื่ออายุได้ 15 ปี บิดาก็ถึงแก่ความตาย เขาจึงทำหน้าที่ค้าขายแทนบิดาวันหนึ่งเขาได้คุมคนหาบสามสิบคนหาบสินค้าไปขาย ยัง เมืองสุโขทัย ครั้นมาถึงตำบลมะเตวะคนหาบ

สินค้าคนหนึ่งของเขาเกิดป่วยกระทันหัน ด้วยความสงสารมะกะโทจึงช่วยหาบสินค้าแทน เมื่อเขาหาบสินค้าไปถึงยอดเขาเกิดฝนตกหนักและมีพายุ ทันใดนั้นก็เกิดฟ้าฝ่าลงมาถูกคานหาบหัก โชคดีที่เขาไม่เป็นอะไรถึงแม้ว่าเขาจะเปลี่ยนคานหาบถึงสามครั้ง แต่ก็ถูกฟ้าผ่าถึงสามครั้งด้วยกัน เมื่อเขามอง ไปทางทิศตะวันตกมีฟ้าแลบเห็นเป็นปราสาทหรือราชวัง

            เพื่อให้รู้แน่ว่าปรากฏการณ์อันประหลาดนั้นคืออะไร เขาจึงไปหาโหรเพื่อให้ช่วยทำนายในสิ่งที่เขา เห็นนั้น แต่โหรตั้งเงื่อนไขไว้ว่าเขาต้องนำเงินมากองสูงเพียงศรีษะจึงจะทำนายให้และ ถึงแม้ว่ามะกะโทจะมีเงินอยูเพียงไม่กี่บาทแต่ความที่เขาเป็นคนฉลาดจึงนำเงิน ที่เขามีอยู่ไปวางไว้บนจอมปลวกและบอกให้โหรมาดู ฝ่ายโหรก็คิดว่าชายผู้นี้ฉลาดนักจึงทำนายให้ว่า มะกะโทเป็นผู้มีบุญญาธิการและจะได้เป็นใหญ่ในทางทิศตะวันตก

           เมื่อเดินทางมาถึงกรุงสุโขทัยเขาก็ขายสินค้าจนหมดแล้ว จึงบอกให้คนหาบกลับบ้านไปส่วนตัวเขาเอง จะอยู่ในเมืองก่อนและแล้วก็ไปขออาศัยอยู่กับนายช้างของพระร่วงเจ้าผู้ ครองกรุงสุโขทัย โดยปกติแล้วมะกะโทเป็นคน ขยันหมั่นเพียร ดังนั้นเขาจึงช่วยนายช้างดูแลช้างทั้งกลางวันและกลางคืน นายช้างจึงรักและเอ็นดูเขา มากเมื่อได้รับพระราชทานเงินเดือนก็จะแบ่งให้มะกะโททุกครั้ง

           อยู่มาวันหนึ่ง สมเด็จพระร่วงเจ้าเสด็จไปยังโรงข้าวของพระองค์ในขณะที่ทรงทอดพระเนตร ช้างอยู่ บนเกย พระองค์ทอดพระเนตรเห็นมะกะโทกวาดพื้นโรงช้างอยู่ จึงตรัสถามนายช้างว่าเขาเป็นใครเมื่อทรงทราบความจริงจากนายช้างให้เลี้ยงดู มะกะโทไว้ให้ดี เมื่อพระองค์ทอดพระเนตรช้างอยู่นั้นก็ทรงค่ายพระสลาออกมาแล้วบ้วนพระโอษฐ์ลง เหนือแผ่นดิน ดินกระจายออกไปและทันใดนั้นก็ทอดพระเนตรเห็นเบี้ย ๆ หนึ่งจึง ตรัสให้มะกะโทเก็บเอาเบี้ยๆหนึ่งไว้ มะกะโทกราบบังคมแล้วจึงเก็บเอาเบี้ยตามรับสั่ง

       ฝ่ายมะกะโทก็ทีความยินดียิ่งนักถึงแม้ว่าเบี้ยนั้นจะมี ค่าเพียงน้อยนิดก็ตามเขาคิดว่ามันมีค่าสำหรับเขามากเพราะเป็นเบี้ยที่ตนได้ รับพระราชทาน และเพื่อทำให้มันมีค่ามากยิ่งขึ้นเขาจึงไปซื้อเมล็ดพันธุ์ผักกาดจาก ตลาด แต่ว่าคนขายไม่รู้จะขายให้เขาอย่างไรเพราะจำนวนเงินที่เขานำมาซื้อนั้นน้อย เกินไปที่จะตวงเมล็ดผักกาดแลกเปลี่ยนกันได้ ดังนั้นมะกะโทจึงบอกทางออกให้กับคนขายโดยที่เขาเอานิ้วมือชุบเขฬะแล้วก็จิ้ม ลงไป ในเมล็ดพันธุ์ผักกาด

        “เอาล่ะ ฉันขอเพียงเท่านี้ก็พอไม่ต้องการมากกว่านี้”มะกะโทกล่าว  คนขายพันธุ์ผักยิ้มและยกย่องในความมีปัญญาเฉลียวฉลาดของเขา และคิดว่าชายผู้นี้จะได้เป็นใหญ่ ในอนาคตอย่างแน่นอน  หลังจากได้เมล็ดพันธุ์ผักกาดมาแล้วมะกะโทก็เตรียมดินแล้วจึงนำเมล็ดพันธุ์ผักกาดไปปลูกไว้ใกล้ ๆ นั้น เขาใช้มูลช้างเป็นปุ๋ยทำให้ผักงอกงาม

         ครั้นอยู่มาวันหนึ่ง พระร่วงเจ้าเสด็จมาทอดพระเนตรช้างอีกมะกะโทจึงเก็บผักกาดมาแล้วรีบนำไปถวาย พระองค์ ด้วยทรงแปลกพระทัยสมเด็จพระร่วงเจ้าตรัสถามว่าเขาได้ผักกาดมาจากไหนทะกะโท จึงกราบทูลให้ทรงทราบเมื่อทรง ได้ฟังเช่นสมเด็จพระร่วงเจ้าก็มีพระทัยยินดีนักและทรงดำนิว่าบุตรรามัญน้อย นี้ประกอบด้วยความเพียรและมีความเฉลียวฉลาดจึงแต่งตั้งให้เป็นคนทำงานในครัว หลวง มะกะโทก็ทำงานด้วยความขยันขันแข็งเหมือนอย่างเคย สมเด็จพระร่วงเจ้าทรงชอบพระอัชฌาสัยที่เห็นมะกะโทมีความอุตสาหะ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ตั้งให้เป็นขุนวังมอบให้กล่าวในนอกพระราชวัง เมื่อเห็นขุนวังมะกะโทก็มีความอุตสาหะรักษาพระนครอย่างขยันขันแข็ง สมเด็จพระร่วงเจ้าทรงพระเมตตาเขาดุจบุตรในอุทร ทุกคนให้ความเคารพยำเกรงเขามาก ครั้นต่อมามะกะโทได้ขอพระบรมราชานุญาติกลับไปเยี่ยมหมู่บ้านเดิมของตน เนื่องจากเขาเป็นคนดีทุกคนจึงชอบเขาและให้ความเคารพยำเกรง เจ้าเมืองเมาะตะมะนามว่าอลิมามางเกิดความอิจฉาและคิดแผนกำจัดเขาเสีย อย่างไรก็ตามมะกะโทรู้แผนเสียก่อนเขาจึงตัดสินใจกำจัดอลิมามางก่อน และได้รับเลือกให้เป็นเจ้าเมืองคนใหม่ หลังจากได้ขึ้นครองเมืองแล้วมะกะโทก็สร้างเมาะตะมะขึ้นใหม่จากนั้นจึงมีพระ ราชสาสน์พร้อมเครื่องราชบรรณาการไปถวายสมเด็จพระร่วงเจ้า พระองค์ทรงดีพระทัยยิ่งนักจึงพระราชทานนามแก่มะกะโทว่า   

 “ พระเจ้าฟ้ารั่ว ” พระเจ้าฟ้ารั่วได้ขยายพระราชอาณาเขตออกไปอย่างกว้างขวาง

มะปรางคิดว่าถ้าอยากมีความรอบรู้เหมือนผมแกละ ต้องอ่านหนังสือให้มากกว่านี้เป็นตอนเริ่มเรื่องราชาธิราชเท่านั้นยังมีเรื่องสนุกๆ อีกหลายตอนถ้าอยากรู้ต้องไปหาฉบับจริงมาอ่านมีคำศัพท์ยากๆโดยเฉพราะราชาศัพท์ให้เปิดพจนานุกรมก็จะทราบคำอ่าน คำแปลของคำนั่นๆ พร้อมกับทิ้งคำถามให้มะปรางกับชาลีคิดต่อว่า มะกะโทเป็นใหญ่เป็นโตได้เพราะคำทำนายหรือว่าเพราะอะไร