ประเทศที่ยกเว้นวีซ่าให้ไทย ล่าสุด

หมายเหตุ
* คนชาติบราซิล เกาหลีใต้ และเปรู ได้รับสิทธิการยกเว้นการตรวจลงตราเพื่อการท่องเที่ยวและพำนักได้ไม่เกิน 30 วัน ในขณะเดียวกัน ทั้ง 3 ประเทศดังกล่าวก็มีความตกลงยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดากับไทย ซึ่งมีผลให้คนชาติทั้งสามพำนักอยู่ในประเทศไทยได้ไม่เกิน 90 วัน โดยไม่ต้องขอรับการตรวจลงตรา
** ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน 2551 คนชาติของประเทศ/เขตเศรษฐกิจที่ได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราเพื่อการท่องเที่ยวและพำนักอยู่ได้ครั้งละไม่เกิน 30 วัน (ผ. 30) ที่เดินทางเข้าประเทศไทยที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองที่มีเขตติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน (ด่านพรมแดนทางบก) จะได้รับอนุญาตให้พำนักอยู่ได้ครั้งละไม่เกิน 15 วัน ยกเว้น คนมาเลเซียที่เดินทางเข้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองที่มีเขตติดต่อกับมาเลเซีย (ด่านพรมแดนทางบก) จะได้รับอนุญาตให้พำนักอยู่ได้ครั้งละไม่เกิน 30 วัน ทั้งนี้ ในทางปฏิบัติ เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองอนุโลมให้ผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและราชการของประเทศ/เขตเศรษฐกิจดังกล่าว ได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราเช่นเดียวกับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดา

หากคุณกำลังวางแพลนเดินทางท่องเที่ยวทั่วโลก เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ แต่ยังมีความกังวลในเรื่องของการขอวีซ่าแล้วไม่ผ่าน จนทำให้ต้องโบกมือลาประเทศในฝันไปหลายทริป วันนี้ KTC จะมาเสนอทางเลือกที่สะดวกสบาย ให้คุณบินลัดฟ้าไปเที่ยวต่างประเทศแบบไม่ต้องขอวีซ่าให้ยุ่งยาก 

เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด -19 มีแนวโน้มที่ดีขึ้น ส่งผลให้หลายประเทศเริ่มเตรียมเปิดรับนักท่องเที่ยว หรือเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขในการเข้าประเทศ ขอแนะนำ 10 ประเทศที่ผู้ถือพาสปอร์ตไทยไม่ต้องขอวีซ่ามาฝาก พร้อมให้คุณไปเที่ยวได้แบบไร้กังวล ชนิดที่ว่าจองตั๋วเครื่องบิน ที่พักโรงแรม แล้วลากประเป๋าเดินทางบินลัดฟ้าไปยังดินแดนในฝันได้เลย 

แนะนำ 15 ประเทศยอดฮิตเดินทางได้ไม่ต้องขอวีซ่า 

1. ประเทศลาว 

เที่ยวพระราชวังหลวงพระบางประเทศลาว

สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ประเทศเพื่อนบ้านที่เต็มไปด้วยธรรมชาติสวยงาม ศิลปะ วัฒนธรรมต่าง ๆ ที่มีเสน่ห์ดึงดูดใจ และยังมีรถไฟความเร็วสูงลาว - จีน ช่วยให้เดินทางสะดวกสบายมากขึ้นนอกจากจะเป็นประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่าแล้ว คุณสามารถเที่ยวลาวได้สูงสุด 30 วัน การเดินทางไปเที่ยวลาวง่าย ค่าใช้จ่ายไม่สูงเมื่อเทียบกับทัวร์ต่างประเทศ อีกทั้งภาษาและวัฒนธรรมของลาวก็ใกล้เคียงกับบ้านเรา 

สถานที่เที่ยวแนะนำ : หอพระบาง (Haw Pha Bang) ตั้งอยู่ในบริเวณของพระราชวังหลวงพระบาง ในเมืองหลวงพระบาง ปัจจุบันพระราชวังหลวงพระบางเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง (Museum Luang Prabang) สามารถให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ ที่สำคัญได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมจากยูเนสโก ที่สำคัญเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองที่ชาวลาวสักการะบูชา

2. ประเทศกัมพูชา 

เที่ยวอาณาจักรขอมประเทศกัมพูชา

ประเทศกัมพูชาเป็นอีกหนึ่งประเทศเพื่อนบ้านที่น่าไปท่องเที่ยว ให้คุณเดินทางไปเที่ยวง่าย ๆ แบบไม่ต้องขอวีซ่า สามารถเที่ยวได้นานสูงสุด 14 วัน กัมพูชาเป็นดินแดนแห่งอารยธรรม สถาปัตยกรรม และเทวสถานเก่าแก่นับพันปี โดยเดินทางไปเที่ยวได้หลายทาง ทั้งรถไฟ รถบัส และทางเครื่องบิน 

สถานที่เที่ยวแนะนำ : นครธม (Angkor Thom) เมืองหลวงแห่งสุดท้ายและเป็นเมืองที่เข้มแข็งที่สุดของอาณาจักรขอม เป็นสิ่งก่อสร้างทางศาสนาที่ใหญ่ที่สุดของโลกมีขนาด 200,000 ตารางเมตร สูง 60 เมตร สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 เป็นเมืองรูปสี่เหลี่ยมมีคูน้ำล้อมรอบทั้ง 4 ด้าน และมีประตูเมืองทั้ง 4 ทิศ ส่วนตรงกลางเมือง คือปราสาทบายนมีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นในสไตล์ขอม

3. ประเทศเวียดนาม 

เที่ยวอ่าวฮาลองประเทศเวียดนาม

เวียดนามหนึ่งในประเทศใกล้บ้านเราที่เดินทางไปท่องเที่ยวง่าย ๆ ไม่ต้องขอวีซ่า สามารถอยู่เที่ยวได้ 30 วัน เวียดนามเมืองแห่งความสวยงามของธรรมชาติ และเต็มไปด้วยศิลปะวัฒนธรรม ทั้งเวียดนามเหนือ เวียดนามกลาง เวียดนามใต้ โดยมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายจุด ให้คุณได้สัมผัสความสวยงามของธรรมชาติ ตั้งแต่ภูเขาสวยไปจนถึงชายหาดและทะเลทราย 

สถานที่เที่ยวแนะนำ : อ่าวฮาลอง (Ha Long Bay) มรดกโลกทางธรรมชาติจากองค์กรยูเนสโก เป็นอ่าวที่อยู่ทางตอนเหนือของประเทศเวียดนาม นอกจากจะมีทิวทัศน์สวยงามแล้ว ยังเต็มไปด้วยเกาะหินปูนรูปร่างแปลกและแตกต่างกันไป จนกลายเป็นความน่าอัศจรรย์ของธรรมชาติ

4. ประเทศเกาหลีใต้ 

เที่ยวพระราชวังคยองบกกุงประเทศเกาหลีใต้

เกาหลีใต้จุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยว ล่าสุด! ประเทศเกาหลีใต้มีมาตรการแบบใหม่ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ สามารถเดินทางเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า เที่ยวได้นาน 90 วัน ด้วยการสมัครลงทะเบียนผ่านระบบ K-ETA (Electronic Travel Authorization) ล่วงหน้าเพื่อเข้าสู่เกาหลีใต้ แต่หากการยื่นขอ K-ETA ไม่ได้รับอนุมัติ คุณจะต้องเดินทางเข้าประเทศด้วยการขอวีซ่าแทน เกาหลีใต้โด่งดังในเรื่องของความสวยงามของธรรมชาติ ร้านอาหาร แหล่งช้อปปิ้ง และสถานที่ท่องเที่ยวพระราชวังมากมาย 

สถานที่เที่ยวแนะนำ : พระราชวังคยองบกกุง (Gyeongbokgung Palace) สถานที่เที่ยวแนวประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรมต่าง ๆ ที่นี่เป็นพระราชวังที่มีขนาดใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในกรุงโซล สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1394 ในสมัยพระเจ้าแทโจ (Taejo of Joseon) ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์โชซอน อีกทั้งยังเป็นทั้งสัญลักษณ์และแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของกรุงโซล

5. ประเทศญี่ปุ่น 

เที่ยวพระราชวังอิมพีเรียลประเทศญี่ปุ่น

หลังจากมีการยกเว้นวีซ่าประเทศญี่ปุ่นก็กลายเป็นจุดหมายทางยอดฮิตของคนไทย ให้คุณสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้อย่างไม่มีเบื่อ ไม่ต้องขอวีซ่าท่องเที่ยวให้ยุ่งยาก และยังสามารถเที่ยวได้นาน 15 วัน ประเทศญี่ปุ่นมีภูมิประเทศอันเป็นเอกลักษณ์ ด้วยเป็นหมู่เกาะกลางทะเลที่ทอดยาวอยู่บนมหาสมุทรแปซิฟิก มีความสวยงามของธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ และยังดินแดนที่มากด้วยอารยธรรมที่แสนงดงาม

สถานที่เที่ยวแนะนำ :  พระราชวังอิมพีเรียล (Imperial Palace) สถานท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งในประวัติศาสตร์ และยังเป็นสถานที่ประทับของสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งราชวงศ์เมจิ แห่งประเทศญี่ปุ่น ภายในล้อมรอบด้วยคูเมือง ประตูทางเข้าที่งดงาม และป้อมปราการเก่าแก่ ที่สำคัญมีสวนดอกไม้หลากหลายพันธุ์ และจะผลิบานตามฤดูกาล 

6. ประเทศบราซิล

เที่ยวเซาเปาลูประเทศบราซิล

บราซิลเป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 5 ของโลก และมีประชากรมากที่สุดในทวีปอเมริกาใต้ เปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินเข้าประเทศได้ไม่ต้องขอวีซ่า เที่ยวได้นาน 90 วัน บราซิลอุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ วัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ และสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ มากมาย ให้คุณค้นพบเสน่ห์และสีสันแบบบราซิลแท้ ๆ

สถานที่เที่ยวแนะนำ : เซาเปาลู (Sao Paulo) เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในบราซิล และเป็นหนึ่งในเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่นี่ขึ้นชื่อในเรื่องแกลเลอรี่งานศิลปะ ตลาด และสีสันยามค่ำคืน ให้คุณสัมผัสความหลากหลายทางวัฒนธรรม เยี่ยมชมสถานที่สำคัญทางศาสนา ฝึกภาษาโปรตุเกสกับคนท้องถิ่น และพักผ่อนที่สวนสาธารณะ

7. ประเทศฟิลิปปินส์ 

เที่ยวเกาะเซบูประเทศฟิลิปปินส์

ฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่ประกอบด้วยเกาะเล็กใหญ่ประมาณ 7,641 เกาะ มีลักษณะภูมิประเทศที่ถูกโอบล้อมด้วยน้ำทะเลและธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ บวกกับบ้านเมืองเป็นสถาปัตยกรรมแนวยุโรป ทำให้สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกตลอดทั้งปี สามารถเดินทางเข้าโดยที่ไม่ต้องขอวีซ่า และพักอยู่ได้นาน 30 วัน อีกทั้งยังเป็นประเทศที่เหมาะสำหรับเดินทางไปหาแรงบันดาลใจ และสัมผัสมิตรภาพผู้ของคนในดินแดนที่แปลกใหม่สักครั้ง

สถานที่เที่ยวแนะนำ : เกาะเซบู (Cebu) อยู่ทางใต้ของประเทศฟิลิปปินส์ ที่นี่มีน้ำทะเลสีฟ้าใสและชายหาดสวยงาม ภายในเกาะยังมีกิจกรรมที่พลาดไม่ได้ คือ การว่ายน้ำกับเหล่าฉลามวาฬอย่างใกล้ชิด ที่ประเทศฟิลิปปินส์การว่ายน้ำกับฉลามวาฬ ไม่ผิดกฎหมายและได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลของประเทศฟิลิปปินส์โดยตรง

8. ประเทศมาเลเซีย  

เที่ยวเก็นติ้งไฮแลนด์ประเทศมาเลเซีย ขอบคุณภาพจาก : www.viator.com

มาเลเซียประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า ให้คุณเดินทางเข้าประเทศได้ง่าย ๆ และสามารถอยู่เที่ยวนาน 30 วัน เป็นอีกหนึ่งประเทศที่เที่ยวง่าย มีความทันสมัย และรายล้อมไปด้วยสถาปัตยกรรมสวย ๆ ที่มีกลิ่นอายของวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของชาวมุสลิม

สถานที่เที่ยวแนะนำ : เก็นติ้งไฮแลนด์ (Genting Highlands) เป็นสถานที่พักผ่อนยอดนิยมในวันหยุดของชาวมาเลเซีย ตั้งอยู่บนเขา ดินแดนที่ไม่เคยหลับใหล และยังเต็มไปด้วยความบันเทิงมากมาย อาทิ สวนสนุกขนาดใหญ่, ศูนย์การค้า, โรงหนัง, ดิสโก้, หน้าผาจำลอง และเครื่องเล่นจำลองการกระโดดร่มแห่งเดียวในเอเชีย

9. ประเทศอินโดนีเซีย 

เที่ยวภูเขาไฟโบรโม่ประเทศอินโดนีเซีย

อินโดนีเซียประเทศที่มีประชากรมากที่สุดอันดับ 4 และมีหมู่เกาะมากที่สุดในโลก ให้คุณสามารถเดินท่องเที่ยวท่องเที่ยวได้โดยไม่ต้อวขอวีซ่า และสามารถพักเที่ยวได้นาน 30 วัน อินโดนีเซียมีวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ และมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามมากมาย มีภาษาที่ใช้ในการสื่อสารกว่า 300 ภาษา นับว่าเป็นดินแดนมหัศจรรย์ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์อันน่าหลงใหล

สถานที่เที่ยวแนะนำ : ภูเขาไฟโบรโม่ (Mount Bromo) ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติโบรโมเทงเกอร์เซเมรู เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาเทงเกอร์มาสซีฟ บนเกาะชวาตะวันออก และยังเป็นภูเขาไฟที่ยังมีการประทุอยู่เป็นระยะ ๆ ทำให้นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกสนใจและเดินทางมาเยือนทุกปี

10. ประเทศสิงคโปร์ 

เที่ยวการ์เด้น บาย เดอะ เบย์ประเทศสิงคโปร์ ขอบคุณภาพจาก FB : Gardens by the Bay

ประเทศสิงคโปร์ ประเทศที่สามารถเดินทางเที่ยวได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า และสามารถอยู่เที่ยวได้นาน 30 วัน ให้คุณเที่ยวชมเมืองที่รวมความหลากหลายทางวัฒนธรรมไว้ได้อย่างลงตัว และยังเป็นศูนย์กลางพาณิชย์สำคัญของโลกแห่งหนึ่ง การเดินทางสะดวกสบายไม่จากกรุงเทพฯ บิน ไปสิงคโปร์ ใช้เวลาเดินทางราว 2 ชั่วโมง 20 นาที เหมาะสำหรับเดินทางมาเที่ยวพักผ่อนในระยะสั้น ๆ 

สถานที่เที่ยวแนะนำ : การ์เด้น บาย เดอะ เบย์ (Gardens By The Bay) เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่และมีชื่อเสียงมากที่สุดของประเทศสิงคโปร์ หรือสวนสนุกระดับโลก อย่าง สวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์  (Universal Studios Singapore)  และชมการแสดงไฟสุดอลังการบนอ่าว Marina Bay Sands เรียกได้ว่าเป็นสีสันของสิงคโปร์ที่ไม่ควรพลาด

11. ประเทศบราซิล

เที่ยวชมรูปปั้นพระเยซู Christ the Redeemer ประเทศบราซิล

สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล เป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดทั้งในทวีปอเมริกาใต้และภูมิภาคลาตินอเมริกา บราซิลนอกจากจะมีทีมฟุตบอลอันดับโลกแล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวติดอันดับโลกหลายแห่ง ให้คุณสามารถเดินทางเที่ยวได้นาน 90 วัน แบบไม่ต้องขอวีซ่า จึงไม่น่าแปลกใจที่ประเทศนี้จะเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
 
สถานที่เที่ยวแนะนำ : เที่ยวชมรูปปั้นพระเยซู Christ the Redeemer ที่มีขนาดใหญ่และมีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก ตั้งอยู่บนยอดเขาสูงใจกลางเมืองริโอ เดอ จาเนโร (Rio de Janeiro) มีความสูงราว 38 เมตร กางแขนกว้าง 28 เมตร ทำขึ้นจากคอนกรีตเสริมใยเหล็กและหุ้มด้วยหินสบู่ นอกจากจะเป็นสถานที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจของชาวคริสต์ในบราซิลทั้งหมด และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองอีกด้วย

12. ประเทศตุรกี

เที่ยววิหารเซนต์โซเฟียประเทศตุรกี

ประเทศตุรกี มีชื่ออย่างเป็นทางการว่าสาธารณรัฐตุรกี หรือ สาธารณรัฐทูร์เคีย โดยมีพื้นที่ส่วนน้อยในอีสต์เทรซในยุโรปตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศตุรกีมีพรมแดนติดต่อกับ 8 ประเทศ และยังเป็นประเทศที่มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติที่สวยงาม โบราณสถานที่สะท้อนถึงอารยธรรมโบราณกว่าพันปี ทัศนียภาพอันงดงามชวนฝัน ที่นี่นับเป็นสวรรค์ของนักผจญภัย โดยคุณสามารถเดินทางมาเที่ยวได้นานถึง 30 วัน โดยที่ไม่ต้องขอวีซ่า 

สถานที่เที่ยวแนะนำ : วิหารเซนต์โซเฟีย (Hagia Sophia) โบราณสถานสำคัญของ อิสตันบูล (Istanbul) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองอิสตันบูล การตกแต่งภายในใช้สีฟ้าเป็นโทนสีหลัก และยังเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่สร้างขึ้นในสมัยของจักรพรรดิจัสติเนียนในจักรวรรดิไบแซนไทน์อีกด้วย ที่นี่เป็นสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นจากฝีมือของมนุษย์ที่มีความสวยงามอลังการมากที่สุดแห่งหนึ่งบนโลก เรียกได้ว่าเป็นแลนด์มาร์กที่ห้ามพลาดเมื่อมาถึงประเทศตุรกี

13. ประเทศคีร์กีซสถาน

เที่ยวหอบูรานาประเทศคีร์กีซสถาน

ประเทศคีร์กีซสถาน เป็นประเทศในเอเชียกลาง มีพรมแดนติดกับประเทศจีน คาซัคสถาน ทาจิกิสถาน และอุซเบกิสถาน อีกทั้งยังเป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูง เพราะเหตุนี้ทำให้มีความหลากหลายทางภูมิศาสตร์ ทั้งภูเขาสูง ที่ราบ และทะเลสาบ จนได้ฉายาว่า สวิตเซอร์แลนด์แห่งเอเชียกลาง ที่สำคัญให้คุณเดินทางแบบไม่ต้องขอวีซ่ามาสัมผัสความสวยงามได้นานถึง 60 วัน 

สถานที่เที่ยวแนะนำ : หอบูรานา (Burana Tower) หอคอยโบราณที่สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 ใกล้กับเขตเมือง Bishkek เดิมทีหอคอยมีความสูง 45 เมตร แต่จากเหตุแผ่นดินไหวทำให้โครงสร้างหลักถูกทำลายจนเหลือความสูง 25 เมตร สร้างมาจากดินเผาเเล้วทำเป็นอิฐวางเรียงรายกัน เพื่อเป็นหอสังเกตการณ์ในอดีต ปัจจุบันนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมความสวยงามของวิวทิวทัศน์ด้านบนได้ นับว่ามีความสวยงามเเละน่ามาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่งอีกเเห่ง

14. ประเทศวานูอาตู

เที่ยวเกาะ Skye ประเทศวานูอาตู

ประเทศวานูวาตู เป็นประเทศหมู่เกาะที่ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ ให้คุณเดินทางแบบไม่ต้องขอวีซ่าและอยู่เที่ยวได้นานถึง 30 วัน ที่วานูวาตูมีสถานที่เที่ยวมากมาย อาทิ หมู่เกาะ ป่าเขียวชอุ่ม น้ำตก ทัวร์ผจญภัย และวัฒนธรรมท้องถิ่นที่เจริญรุ่งเรือง ให้คุณสัมผัสทัศนียภาพชายฝั่งทะเลที่งดงาม และดื่มด่ำไปกับมรดกทางวัฒนธรรมที่น่าสนใจ

สถานที่เที่ยวแนะนำ : เกาะ Skye เป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยวที่รักธรรมชาติ และยังเป็นเกาะสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีทั้งที่ราบ เนินเขา และแอ่งน้ำ ให้คุณมาสัมผัสกับความงดงามที่เหมือนดินแดนในเทพนิยาย ทั้งภูเขา สายน้ำ และหมู่บ้านที่ถูกห้อมล้อมด้วยบรรยากาศสุดโรแมนติก

ประเทศอะไรไม่ต้องขอวีซ่า 2022

พาสปอร์ตไทยสามารถเข้าได้กี่ประเทศ

คนไทยไปประเทศไหนได้บ้าง

คนไทยไปบราซิลต้องขอวีซ่าไหม