| นอกจากการสัมภาษณ์ข้างต้นแล้วยังมีการพิจณาพี่โหวงเฮ้งอีก อ่านเพิ่มเติม:คัดคนผ่าน life style VS โหงวเฮ้ง และที่สำคัญที่สุดบุคลิกภาพเป็นสิ่งที่คำคัญและเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด อ่านเพิ่มติม:บุคลิกดี มีชัยไปกว่าครึ่ง ความปลอดภัยบนออนไลน์เป็นเรื่องที่ผู้ใช้งานให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกับข้อมูลส่วนตัว และข้อมูลด้านการชำระเงิน ซึ่ง HTTP และ HTTPS เป็นตัวแปรสำคัญอย่างหนึ่งด้านความปลอดภัย ผู้ที่ใช้บริการอินเตอร์เน็ตคงจะเคยเจอกับปัญหาด้านความปลอดภัยใช่ไหมครับ บางเว็บไซต์เปิดมาจะเจอกับหน้าจอที่มีแถบสีแดงพร้อมแจ้งเตือน “เว็บไซต์นี้ไม่สามารถให้การเชื่อมต่อที่ปลอดภัย” หรือข้อความอื่นๆ ที่ไม่สามารถทำให้เข้าถึงเว็บไซต์ได้ หรือบางเว็บในแถบ URL จะพบข้อความ Not Secure หรือไม่ปลอดภัยด้านหน้า ซึ่งทำให้เป็นที่หวาดระแวงของบรรดาผู้ใช้งาน โดยสาเหตุมาจากระบบความปลอดภัยของเว็บไซต์นั้นๆ สังเกตได้ว่าเว็บไซต์ที่ไม่ปลอดภัยจะขึ้นต้นด้วย HTTP นั่นเองครับ ส่วนเว็บไซต์ที่ปลอดภัยจะเป็นการใช้งาน HTTPS ซึ่งทั้งสองอย่างนี้ต่างกันอย่างไรมาดูกันครับ HTTP (Hypertext Transport Protocol) เป็นโปรโตคอลสำหรับสื่อสารจะใช้เมื่อเรียกโปรแกรมบนเบราว์เซอร์อย่าง Chrome, Firefox, Internet Explorer เพื่อเรียกดูข้อมูลหรือเว็บนั้นๆ เบราว์เซอร์จะใช้ HTTP เป็นตัวเรียกให้เซิร์ฟเวอร์ส่งข้อมูลมาให้เพื่อแสดงผลบนหน้าจอได้อย่างถูกต้อง โดยเป็นการส่งข้อมูลแบบ Clear text ไม่ได้ทำการเข้ารหัส ทำให้สามารถถูกดักจับและอ่านข้อมูลได้ง่าย HTTPS (Hypertext Transfer Protocol over Secure Socket Layer หรือ Http over SSL) คือการเพิ่ม S หรือ Secure เข้ามาเพิ่มความปลอดภัยให้มากขึ้นนั่นเองครับ โดย HTTPS จะเป็น โปรโตคอลที่เข้ารหัสในการสื่อสาร โดยใช้ Asymmetric Algorithm ซึ่งหากมีการดักจับข้อมูลก็อ่านไม่รู้เรื่องอยู่ดีครับ เช่นเราป้อนรหัส 12345678 อัลกอรีธึ่มจะเปลี่ยนเป็น XsR7o/86 เปลี่ยนโดยสิ้นเชิงแบบนี้ทำให้ผู้ไม่หวังดีเข้าถึงข้อมูลของเราไม่ได้นั่นเอง ซึ่งผู้ที่จะอ่านข้อมูลที่ถูกได้นั้นจะมีเพียงผู้ป้อนและผู้รับปลายทางเท่านั้น ทำให้นิยมใช้กับเว็บไซต์ที่ต้องการความปลอดภัยสูงอย่างธนาคาร เว็บที่ใช้บัตรเครดิต รวมถึงร้านค้าออนไลน์ด้วย ทำให้ปัจจุบันผู้ประกอบการเริ่มนิยมติดตั้งใบรับรองความปลอดภัย SSL Certificate ให้กับเว็บไซต์มากขึ้น ซึ่งข้อดีของ HTTPS มีดังนี้
สำหรับเจ้าของเว็บไซต์ที่ต้องการอัพเดต เปลี่ยนแปลง HTTP เป็น HTTPS สามารถติดต่อขอคำปรึกษาได้ที่ บริษัท ดีไอทีซี จำกัด 02-555-0999 อีเมล [email protected] ���Ѵ���(English) The objectives of the research were first to study the relationship between Buddhist art and Buddhist teachings, second to study the concept of tourism and religious monuments, and third to study the role of temples on art preservation for tourism. The research methods used were documentary research, formal interviews of abbots, art experts, and questionnaire survey. The research findings of Buddhist teachings related to art creation indicated the teaching of the worship (Puja), the threefold training(Sikkhattaya), the ways of making merit (Punnakiriyavatthu), the three charateristics of all things(Tilakkhana), the shrine(Cetiya), the sorrowful ways(Apaya), the observance of Uposatha, and the ten perfections (Dasaparami). The historical research revealed that temples originating during Buddhas time were the lodgings intended by donors. Then this practical living place became more and more adorned for the sake of merit. Temples became an art center and later a cultural heritage. Therefore, visits to Buddhist temples were both educational, relaxing and merit making. The temples chosen in this study were famous for different artistic creations. They were created mainly to be used in Buddhist activities. All temples mentioned tried to preserve artistic and cultural heritage in original condition. The monks in charge of conservation of the temples were aware of Buddhist art conservation in the same way as scholars are. Art experts suggested that temples should use Buddhist art in order to inspire Dhamma in the heart of tourists without too much attention to financial benefits. Tourists suggested that the temples should provide leaflets, books for tourists (34%), and to arange the temple areas to be neat and clean (30%). The Department of Fine Arts and related organizations could support and suggest to temples how to improve effectively coping with increasing tourism without losing peaceful and religious characteristics.โปรแกรมเงินเดือน Prosoft HRMI ใช้คำนวณเงินเดือนและค่าแรงของพนักงาน มีระบบประมวลผลเงินเดือน ถูกต้อง แม่นยำ รองรับเงื่อนไขการคำนวณต่างๆ ได้หลากหลาย ครอบคลุมเรื่องงาน HR มีแบบฟอร์มครบถ้วน รายงานมากกว่า 100 รายงาน ไม่ว่าจะเป็นสลิปเงินเดือน (Pay Slip), หนังสือรับรองการทำงาน, หนังสือรับรองหัก ณ ที่จ่าย, ภงด.91 สำหรับยื่นกรมสรรพากร, สำนักงาน ประกันสังคม, กองทุนทดแทนและกรมแรงงาน และสามารถ export ไฟล์ได้ |
แบบประเมินการสัมภาษณ์ competency
ลิขสิทธิ์ © 2024 th.paraquee Inc.
