“เริ่มต้นสวย ชีวิตก็ไปได้สวยจริงไหม?” เพราะจุดเริ่มต้นที่สำคัญของผู้หญิง คือ การก้าวเข้าสู่วัยเริ่มสาว ซึ่งเป็นช่วงวัยที่พบการเปลี่ยนแปลงหลายด้าน ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สรีระ ฮอร์โมน ไปจนถึงด้านอารมณ์ สาวๆ หลายคน อาจรู้สึกกังวลกับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้และมีจำนวนไม่น้อย ที่พบปัญหาเกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์ในเพศหญิงอีกด้วย ซึ่งปัจจุบันพบมากขึ้นในวัยเริ่มสาว ที่เป็นเช่นนี้เพราะเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง ได้แก่ Show
ไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุใดก็แล้วแต่ หากไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกวิธี ปล่อยทิ้งไว้นานๆ อาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพในระบบสืบพันธุ์ของสาวๆ ซ้ำร้ายอาจส่งผลต่อการมีบุตรยากตามมาอีกด้วย ประจำเดือนมาไม่ปกติอีกเรื่องที่สาวๆ ห้ามละเลย ถ้าไม่อยากมีบุตรยาก “เป็นเรื่องใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้าม” กับปัญหาสุดคลาสสิคของผู้หญิงวัยเริ่มสาว ที่ส่วนใหญ่ต้องเคยผ่านประสบการณ์ “ประจำเดือนมาไม่ปกติ” แล้วทั้งนั้น แน่นอนว่าต่างคนก็ต่างอาการ แต่แบบไหนกันที่อาจส่งผลต่อการมีบุตรยากโดยไม่รู้ตัว วิธีสังเกตุอาการประจำเดือนมาไม่ปกติที่ส่งผลต่อการมีบุตรยาก 1. ความถี่ของการมีประจำเดือน ทั้งนี้ปกติธรรมชาติของผู้หญิง จะเกิดการตกไข่เพื่อแสดงความพร้อมในการตั้งครรภ์ ประมาณ 80% ของการมีประจำเดือน นั่นหมายความว่าการมีประจำเดือน 10 ครั้ง จะพบไข่ตกเพียง 8 ครั้งเท่านั้น ฉะนั้นหากจะมาวัดกันเรื่องความถี่ของการมีประจำเดือนคงต้องระวังกันให้ดี ยิ่งใครอยากมีลูกแล้วละก็ยิ่งต้องระวังกันไปใหญ่ โดยอีกปัจจัยหนึ่งที่จะทำให้เกิดความผิดปกติ คือ ความเครียด ที่ส่งผลต่อการตกไข่ ทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติเสี่ยงต่อการมีบุตรยากได้เช่นกัน 2. ปริมาณและระยะเวลาของเลือดประจำเดือนที่ออก 3. อาการปวดประจำเดือน
จากสถิติพบว่าการปวดประจำเดือนพบได้ถึง 50% ในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ ส่วนใหญ่จะปวดท้องส่วนล่าง กระจายไปบริเวณหลังหรือต้นขา มักจะปวดในวันแรกของการมีประจำเดือน เมื่ออายุมากขึ้นอาการจะลดลง แต่ถ้าอายุมากแล้วยังมีอาการปวดมากขึ้น อาจบ่งบอกได้ว่ามีความผิดปกติบางอย่างซ่อนอยู่ โดยสังเกตได้จากอาการปวดท้องน้อยเกือบทุกครั้ง รู้สึกปวดหน่วงๆ ลงช่องคลอดหรือทวารหนัก ปวดทั้งก่อนและหลัง หรือระหว่างมีประจำเดือน ซึ่งมักจะมีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ หากปล่อยทิ้งไว้อาจเป็นสาเหตุของการมีบุตรยาก ได้แก่ภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่บริเวณรังไข่ หรือช็อคโกแลตซีสอีกด้วย” “ดูแลตัวเองเบื้องต้นให้ประจำเดือนมาปกติลดความเสี่ยงภาวะมีบุตรยาก” สำหรับผู้หญิงวัยเริ่มสาว สามารถดูแลตัวเองง่ายๆ เริ่มต้นที่เปลี่ยนการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งจะช่วยทำให้ระบบการผลิตฮอร์โมนเข้าสู่ภาวะปกติได้เร็วขึ้น มีประจำเดือนสม่ำเสมอมากขึ้น เช่น
การสังเกตความผิดปกติของประจำเดือนที่เกิดขึ้น จะช่วยประเมินได้ว่ามีแนวโน้ม มีบุตรยาก หรือไม่ หากพบอาการหรือกังวลสาวๆ ควรรีบปรึกษาแพทย์ เพื่อเข้ารับการวินิจฉัยและรักษาภาวะผู้มีบุตรยากต่อไป เพราะ “การดูแลตัวเองเป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลย” โดยเฉพาะอนาคตหากต้องแต่งงานมีครอบครัว การเตรียมตัวเพื่อลดความเสี่ยงมีบุตรยากจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง
อีกเรื่องที่ทำให้สาวๆ กังวลใจในลำดับต้นๆ คงหนีไม่พ้น “อาการตกขาว” ซึ่งเป็นภาวะที่พบบ่อยและสามารถเกิดขึ้นได้กับผู้หญิงทุกคน สำหรับผู้หญิงเข้าสู่วัยเริ่มสาว หลายคนสงสัยว่าอาการตกขาวเกิดจากอะไร ตกขาวผิดปกติคือแบบไหน เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าร่างกายหรือระบบสืบพันธุ์มีปัญหาหรือไม่ ถ้าแต่งงานมีครอบครัวจะส่งผลต่อการมีบุตรยากหรือเปล่า แน่นอนว่าต้องมีคำถามเกิดขึ้นมากมาย แต่ขั้นแรกควรรู้ก่อนว่าอาการตกขาวมีแบบไหนบ้าง? 1. ตกขาวแบบปกติ รู้ไว้ ไร้กังวล “ตกขาว” เป็นของเหลวที่ถูกผลิตโดยต่อมภายในช่องคลอด จะมีลักษณะใสไม่มีสี หรือเป็นสีขาวไม่มีกลิ่นเหม็น ปริมาณไม่มากและไม่ทำให้เกิดอาการคัน เพื่อนำพาเซลล์ที่ตายแล้วและแบคทีเรียในช่องคลอดออกมา เสมือนการทำความสะอาดและป้องกันการติดเชื้อในระบบสืบพันธุ์ ผู้หญิงทุกคนเป็นได้และไม่เป็นอันตราย 2. ตกขาวผิดปกติแบบนี้ อย่านิ่งนอนใจ
3. ป้องกันเบื้องต้นก่อนเป็น “ตกขาว” ได้ดังนี้
สำหรับสาวๆ ที่เกิดอาการ “ตกขาวไม่ปกติ” ต้องให้แพทย์ตรวจภายในหาสาเหตุว่าติดจากเชื้ออะไร เพื่อที่จะได้รักษาตรงตามอาการ หากไม่มั่นใจไม่ควรรักษาเอง เพราะอาจทำให้ ระคายเคือง และติดเชื้อมากกว่าเดิม หากไม่รีบทำการรักษา อาจทำให้เกิดโรคเกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์ในเพศหญิง ส่งผลต่อการเกิดอาการมีบุตรยากตามมาในไม่ช้า
พอเริ่มก้าวสู่วัยเริ่มสาวปฏิกิริยาตามธรรมชาติของร่างกาย ก็เริ่มส่งสัญญาณต่างๆ ออกมาให้เห็น เช่น
“อาการปัสสาวะมีเลือด” ที่เกิดขึ้นกับสาวคนไหน ก็คงตกใจไม่น้อย อาการแบบนี้ บ่งบอกว่าระบบสืบพันธุ์กำลังมีปัญหารึเปล่านะ? ปกติแล้วปัสสาวะจะมีสีใส สีเหลืองอ่อน หรืออาจมีสีเหลืองเข้ม ขึ้นอยู่กับว่าดื่มน้ำมากน้อยแค่ไหน หากเมื่อใดที่ปัสสาวะของเรามีสีผิดปกติ เช่น สีออกแดง นี่อาจเป็นอาการปัสสาวะเป็นเลือด Hematuria (Blood in the Urine) คือ มีเลือดออกมาพร้อมกับปัสสาวะ ซึ่งสามารถสื่อถึงโรคอันตรายต่างๆ อาจเป็นผลทั้งทางตรงและทางอ้อม นำมาซึ่งภาวะมีบุตรยากได้ด้วยเช่นกัน ปัสสาวะเป็นเลือดสามารถพบได้หลายลักษณะ หลายสี สามารถแสดงถึงบริเวณที่เกิดได้ด้วย
ผลจากการปัสสาวะเป็นเลือดบ่งบอกสาเหตุของโรคอะไรได้บ้าง?
การป้องกันปัสสาวะเป็นเลือดโดยปกติแล้ว ไม่สามารถป้องกันได้โดยตรง แต่มีวิธีช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคที่เป็นสาเหตุได้ ดังนี้
อย่างไรก็ตามหากปัสสาวะเป็นเลือด หรือกังวลควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาสาเหตุและการรักษาที่ถูกวิธีต่อไป สำหรับการปัสสาวะเป็นเลือดที่นำไปสู่ภาวะมีบุตรยากนั้นยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจน ส่วนใหญ่พบว่าอาจเป็นผลข้างเคียงจากโรคไต ส่งผลให้เข้าสู่ภาวะมีบุตรยาก เพราะโดยทั่วไปหากไตเสื่อม รังไข่อาจจะไม่ทำงาน ทำให้ไม่มีประจำเดือน หรือประจำเดือนมาไม่ปกติ ยากแก่การตั้งครรภ์ และมีบุตรยากเป็นต้น หลังเป็นประจำเดือนช่วยตัวเองได้ไหมการช่วยตัวเองในขณะมีประจำเดือน หากไม่ได้สอดใส่สิ่งของเข้าสู่ช่องคลอด อันตรายก็ถือว่าไม่มีค่ะ สามารถที่จะทำได้โดยปลอดภัย
มีอะไรหลังมีประจําเดือนโดยทั่วไปการมีเพศสัมพันธ์หลังประจำเดือนหมด 1 วันไม่ทำให้ตั้งครรภ์ การกินยาคุมกำเนิดฉุกเฉินให้กินเม็ดแรกให้เร็วที่สุดหลังจากมีเพศสัมพันธ์และไม่เกิน 72 ชั่วโมง ส่วนเม็ดที่สองกินหลังยาเม็ดแรก 12 ชั่วโมง การกินยาคุมกำเนิดฉุกเฉินอาจทำให้มีเลือดออกผิดปกติหรือมีรอบประจำเดือนคลาดเคลื่อนได้ การมีเลือดผิดปกตินี้สามารถหายไปได้เอง ...
มีเพศสัมพันหลังเป็นประจําเดือน2วันจะท้องไหมเรื่องที่สอง ผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์ในวันท้ายๆ ของประจำเดือนมีโอกาสท้องได้ครับ พบได้ในคนที่ประจำเดือนมาช่วง 21-24 วันเป็นรอบเดือนที่สั้นกว่าคนทั่วไป (คือ 28-30 วัน) ซึ่งทำให้ไข่จะตกเร็วกว่าเดิมเป็นช่วงวันที่ 10-12 ของรอบเดือน ทั้งนี้ อสุจิจะสามารถมีชีวิตอยู่ในท่อนำไข่ได้นาน 2-3 วันจนถึง 5 วัน ดังนั้น ถ้ามีประจำเดือนมา ...
หลังหมดประจําเดือนกี่วันถึงจะท้องดังนั้น วันที่ 9-20 ของรอบเดือน เป็นวันที่มีโอกาสตั้งครรภ์ค่ะ ย้ำอีกครั้งว่า “เมื่อนับประจำเดือนที่มาวันแรก เป็นวันที่ 1 นะคะ” ดังนั้น ถ้าหนูเป็นคนที่ประจำเดือนมา 7 วัน แล้วหนูนับเอาวันประจำเดือนหมด 3 วัน (กลายเป็นวันที่ 10 ของรอบเดือน)
|