Show ต่อที่ 1 (ลงทะเบียนทาง SMS): รับเครดิตเงินคืน 2% ต่อที่ 2 ทางเลือกที่ 1 : (ลงทะเบียนทาง SMS) ทางเลือกที่ 2 : (ลงทะเบียนทาง SMS) ในยุคแห่งเทคโนโลยีและดิจิทัลที่ผู้คนล้วนแล้วแต่ชื่นชอบความสะดวกสบาย ทันสมัย และรวดเร็วทันใจ การใช้บัตรเครดิตจึงกลายเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งในการดำรงชีวิตมากขึ้น ด้วยเทรนด์การซื้อสินค้าออนไลน์สูงขึ้นและสิทธิประโยชน์ที่ได้รับจากบัตรเครดิต เมื่อบัตรเครดิตสามารถตอบสนองวิถีการใช้ชีวิตให้เกิดความสะดวกสบาย ทำให้หลายคนขาดความระมัดระวังและขาดวินัยทางการเงินในการใช้จ่าย จนนำไปสู่ภาวะการมีหนี้สินท่วมหัว มาดูสัญญาณอันตรายที่กำลังเตือนว่า “เรากำลังมีหนี้สินท่วมหัวจากบัตรเครดิตหรือไม่” ผ่อนชำระตามจำนวนยอดหนี้ขั้นต่ำของบัตรเครดิต เมื่อไหร่ก็ตามที่เริ่มจ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำ แสดงว่ากำลังขาดความสามารถในการชำระหนี้ได้เต็มจำนวนและเริ่มจ่ายหนี้ไม่ไหว ซึ่งรู้หรือไม่ว่าการจ่ายขั้นต่ำ แปลว่า ต้องจ่ายดอกเบี้ยโดยไม่จำเป็น และกว่าจะจ่ายหนี้หมดต้องใช้เวลานานขึ้น มีค่าใช้จ่ายจากบัตรเครดิตเกินกว่า 40% ของรายได้แต่ละเดือน โดยปกติแล้วควรมีหนี้บัตรเครดิตไม่เกิน 10 - 20% ของเงินเดือน และควรเป็นการใช้จ่ายเพื่อความจำเป็น เช่น อาหาร สบู่ ยาสีฟัน ผงซักฟอก เป็นต้น แต่หากจ่ายหนี้บัตรเครดิตสูงทะลุ 40% ต่อเดือน แสดงว่ากำลังขาดสภาพคล่องอย่างหนักและอาจไม่มีเงินเหลือพอไปจ่ายหนี้ที่จำเป็นในชีวิตในเรื่องอื่น เช่น กู้ซื้อบ้าน ซื้อรถยนต์ หรือเพื่อการศึกษาบุตร เป็นต้น มีบัตรเครดิตหลายใบและวงเงินเต็มเกือบทุกใบ หลายคนมีบัตรเครดิตมากกว่า 2 ใบ และยิ่งมีการใช้จ่ายจนเต็มวงเงินแทบทุกใบ แสดงว่ากำลังก่อหนี้สูงกว่ารายได้ที่หาได้ เพราะบัตรแต่ละใบมักจะให้วงเงินสูงกว่า 1.5 - 5 เท่าของเงินเดือน ยิ่งบัตรกดเงินสดมักจูงใจด้วยการให้วงเงินจำนวนสูงๆ ดังนั้น ยิ่งใช้เงินผ่านการรูดบัตรจนเต็มวงเงิน ถือเป็นสัญญาณอันตรายต่อการเป็นหนี้ท่วมหัว ไม่รู้ยอดค่าใช้จ่ายที่แน่นอนในแต่ละเดือน ในยุคที่แผนการตลาดและโปรโมชั่นออกมาเพื่อดึงดูดลูกค้า ทำให้หลายคนขาดความระมัดระวังในการใช้จ่าย โดยเฉพาะซื้อผ่านบัตรเครดิตเพราะคิดแค่ว่า “รูดไปก่อน ค่อยจ่ายทีหลัง” หรือ “สิ้นเดือนค่อยว่ากัน” หมายความว่ากำลังไม่รู้ภาระหนี้สินที่แน่นอนของตัวเองในแต่ละเดือน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการวางแผนในการใช้เงินในอนาคต ยิ่งมีรายได้มาจากแหล่งเดียวแต่มีพฤติกรรมการใช้จ่ายอย่างเมามัน ย่อมนำไปสู่การเป็นหนี้โดยไม่รู้ตัว เงินไม่เหลือเก็บเพราะจ่ายหนี้บัตรเครดิตหมด หากเกิดเหตุฉุกเฉินที่ไม่คาดคิด เช่น เกิดอุบัติเหตุต้องใช้เงินอย่างเร่งด่วนหรือเกิดเจ็บป่วยต้องไปโรงพยาบาล แต่มีเงินเหลือติดบัญชีไม่กี่ร้อยบาท เพราะแต่ละเดือนนำเงินไปจ่ายหนี้บัตรเครดิตจนหมด ทางออกคงต้องไปกู้ยืมเงินจากช่องทางอื่น หรือกดเงินสดจากบัตรเครดิตหรือบัตรเงินสด แย่ไปกว่านั้น คือการกู้หนี้นอกระบบ ผลที่ตามมาหนีไม่พ้นการเป็นหนี้ไม่มีที่สิ้นสุด กดเงินสดจากบัตรเครดิตหรือบัตรเงินสดใบใหม่ เพื่อนำไปจ่ายหนี้บัตรใบเดิม หากเริ่มมีปัญหาเรื่องการจ่ายหนี้บัตรเครดิต หลายคนมักแก้ปัญหาด้วยการสมัครบัตรใบใหม่เพื่อจะได้วงเงินก้อนใหม่ จากนั้นก็กดเงินสดเพื่อนำไปจ่ายหนี้บัตรเครดิตหรือบัตรกดเงินสดใบเดิม อาการแบบนี้แสดงว่ากำลังเข้าข่ายการมีภาระเป็นหนี้สะสม และมีภาระดอกเบี้ยมหาศาลที่คิดคำนวณเป็นรายวัน และเกิดหนี้สินเพิ่มพูนจากดอกเบี้ยมหาโหดนี้ สิ่งเหล่านี้แม้จะเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของปัญหาเล็กๆ ที่หากไม่ใส่ใจและตระหนักถึงความสำคัญของการวางแผนทางการเงิน อาจนำไปสู่ปัญหาชีวิตที่แก้ไขได้ยากและเป็นสาเหตุหลักอันดับต้นๆ ของปัญหาสังคมไทยปัจจุบัน เหมือนที่ Thomas Fuller กล่าวว่า “Debt is the worst poverty” ซึ่งน่าจะเข้ากับสุภาษิตอันคลาสสิคของไทยที่ว่า “การไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ” นั่นเอง สำหรับผู้ที่สนใจ อยากเรียนรู้เทคนิคและกระบวนการวางแผนชำระหนี้อย่างถูกต้อง เพื่อให้มีเงินเหลือออม สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมผ่าน e-Learning หลักสูตร “หมดหนี้ มีออม” ฟรี!!! >> คลิกที่นี่ ในยุคนี้คงไม่มีใครที่พกเงินสดกันแล้วใช่ไหมคะ ไม่ว่าจะช็อปปิ้งในออนไลน์หรือซื้อตามหน้าร้านค้า การท่องเที่ยว การเดินทาง หรือแม้แต่จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ หลายคนก็เลือกชำระผ่านบัตรเครดิต หรือบัตรเดบิตกันทั้งนั้น แต่ถ้าเราใช้อย่างไม่มีสติก็อาจจะมีผลเสียตามมาได้ วันนี้เราจะบอก 10 วิธีสร้างวินัยในการใช้บัตรเครดิต ยิ่งใช้แบบถูกวิธียิ่งมีแต่ได้กับได้ 1. เช็กจำนวนบัตรเครดิตที่มีอยู่ 2. เลือกใช้บัตรที่ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี 3. ใช้บัตรตอนได้รับประโยชน์สูงสุด 4. ใช้บัตรเครดิตแทนเงินสดที่มี 5. ไม่เป็นนักผ่อนตัวยง 6. ไม่ผูกบัตรเครดิตแบบตัดออนไลน์
7. เก็บก่อนรูด 8. เช็กยอดการใช้ทุกครั้ง 9. ไม่ชำระขั้นต่ำ เพราะการชำระขั้นต่ำนั้น จะมีการเสียดอกเบี้ยทันทีและยิ่งถ้าเดือนถัดไปรูดใช้บัตรเครดิตเพิ่มทั้งๆที่ยังจ่ายยอดเก่าไม่ครบ ก็จะยิ่งทำให้มีภาระการจ่ายเพิ่มขึ้นอีกรวมไปถึงดอกเบี้ยที่สูงตามขึ้นด้วย ทางที่ดีแนะนำให้ชำระจำนวนเต็มของยอดที่ใช้จ่ายไป เพื่อไม่ให้เกิดการเสียดอกเบี้ยเกินความจำเป็น 10. จ่ายตรงจ่ายครบ เมื่อเราสร้างวินัยการใช้บัตรเครดิตจนเป็นนิสัยที่ดีแล้วบัตรเครดิตจะให้ประโยชน์และสิทธิพิเศษต่างๆอีกมากมาย มาดูกันว่าเมื่อคุณใช้บัตรเครดิตอย่างถูกวิธีแล้วจะได้อะไรบ้าง 1. ได้เงินไปใช้ก่อน 2. ได้ความสะดวกและปลอดภัย 3. ได้รางวัลมากมาย 4. ได้วางแผนการใช้เงิน 5. ได้สร้างเครดิตให้ตัวเอง เห็นไหมคะว่าการสร้างวินัยการใช้บัตรเครดิตที่ดีแล้ว นอกจากเราจะไม่ต้องกังวลกับการเป็นหนี้บัตรเครดิต เรายังได้สิทธิพิเศษมากมายนอกเหนือจากที่เราตั้งใจไว้อีกด้วย พอรู้อย่างนี้แล้วเราหันมาสร้างวินัยการใช้บัตรเครดิต อย่างถูกวิธีให้มีแต่ได้กับได้กันนะคะ บัตรเครดิตวงเงินเต็มสามารถผ่อนสินค้าได้ไหมA : การผ่อนสินค้าวงเงินในบัตรต้องเท่ากับหรือมากกว่าราคาสินค้า หากวงเงินในบัตรมีไม่เพียงพอไม่สามารถผ่อนได้ แนะนำลูกค้าชำระยอดค่าใช้จ่ายในบัตรให้มีเพียงพอต่อการผ่อนชำระเสียก่อน
บัตรเครดิตผ่อนสินค้าได้ไหมการผ่อนชำระผ่านบัตรเครดิต คืออะไร? การชำระเงินแบบผ่อนชำระผ่านบัตรเครดิต เป็นอีกหนึ่งช่องทางการชำระเงินที่อำนวยความสะดวกในการจ่ายเงินให้กับคุณ โดยคุณสามารถเปลี่ยนยอดใช้จ่ายบริการจากยอดเต็มจำนวนเป็นการผ่อนชำระแบบรายเดือน สำหรับยอดใช้จ่ายตั้งแต่ 2,500 บาท ขึ้นไป เฉพาะบัตรเครดิตของธนาคารที่กำหนดไว้เท่านั้น
บัตรเครดิตบัตรผ่อนสินค้าต่างกันยังไงมาถึงคำถามสำคัญกันก็คือ บัตรผ่อนสินค้ากับบัตรเครดิตแตกต่างกันตรงไหน แน่นอนว่าทั้งสองใบแตกต่างกันมากทีเดียว อย่างเช่น เรื่องของการใช้งานบัตรผ่อนสินค้าอาจจะมีข้อจำกัดในเรื่องของสินค้าและบริการบางอย่างที่ไม่เข้าร่วมรายการก็ใช้ไม่ได้ แต่บัตรเครดิตใช้ได้หมด สองบัตรเครดิตจะมีดอกเบี้ยที่ถูกกว่าบัตรผ่อนสินค้า(ในกรณีที่บัตร ...
บัตรเครดิตใช้แทนกันได้ไหมธนาคารจะออกบัตรเครดิตให้แก่บุคคลที่ธนาคารได้ไว้วางใจและมีสถานะทางการเงินหรือเครดิตที่ดีเท่านั้น การเป็นผู้ถือบัตร ย่อมแสดงให้เห็นถึงว่าเป็น “บุคคลหรือลูกหนี้เฉพาะเจาะจง” ที่ธนาคารอนุญาตให้ก่อหนี้กับธนาคารได้เท่านั้น ผู้ถือบัตรจะอนุญาตให้บุคคลอื่นนำบัตรเครดิตไปรูดแทนตนเองไม่ได้ ธนาคารจึงมีข้อกำหนดเพิ่มเติมให้ทำบัตรเสริม ...
|