บัวลอย แป้งมันสําปะหลังอย่างเดียว

ขนมบัวลอย สูตรขนมไทยหวานหอมมีเอกลักษณ์ หากินที่ไหนไม่ได้ต้องเมืองไทยเท่านั้น เสิร์ฟพร้อมกันถึง 7 สูตรแป้งนุ่ม ทำกินเพลิน ๆ หลังอาหารเที่ยงก็อร่อย มาเติมความหวานให้ร่างกายกัน

บัวลอย แป้งมันสําปะหลังอย่างเดียว

         

เอ่ยถึงบัวลอยเชื่อว่าเพื่อน ๆ ร้อยทั้งร้อยจะนึกถึงบัวลอยไข่หวาน บัวลอยเผือก บัวลอยมะพร้าวอ่อน รวมถึงบัวลอยน้ำขิงกันเนอะ ถ้าบ้านใกล้ตลาดมีร้านขนมไทยก็หากินง่ายหน่อย แต่ถ้าบ้านไกลจะไหว้วานให้ใครซื้อคงลำบาก แบบนี้ต้องทำกินเองแล้วค่ะ กระปุกดอทคอมขอนำเสนอวิธีทำบัวลอย มีทั้งสูตรบัวลอยน้ำกะทิและบัวลอยน้ำขิง พร้อมแล้วลุย !

1. บัวลอยไข่หวาน

         

สูตรบัวลอยอันดับต้น ๆ ที่นึกถึงเลยคือ บัวลอยไข่หวาน สูตรนี้เนื้อแป้งใส่เผือก ฟักทอง และน้ำใบเตยลงไปด้วยทำให้ได้สีเม็ดบัวลอยจากธรรมชาติ หรือถ้าไม่สะดวกหาวัตถุดิบก็ใช้สีผสมอาหารแทนได้นะคะ บัวลอยเนื้อเหนียวนุ่มเข้ากันดีกับน้ำกะทิหวานหอม ยิ่งถ้ามีไข่หวานเคี้ยวสนุก ๆ ไปพร้อมกันด้วยแล้วละก็ อูย… ถูกใจใช่เลย ! 

บัวลอย แป้งมันสําปะหลังอย่างเดียว

ส่วนผสม บัวลอยไข่หวาน

      ◆ แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วย
      ◆ น้ำเปล่า 1/4 ถ้วย
      ◆ เผือกนึ่งสุก (หรือสีผสมอาหารสีม่วง)
      ◆ ฟักทองนึ่งสุก (หรือสีผสมอาหารเหลือง)
      ◆ น้ำใบเตยคั้นเข้มข้น (หรือสีผสมอาหารสีเขียว)
      ◆ กะทิ 1 ถ้วย
      ◆ น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
      ◆ เกลือป่น 1 ช้อนชา
      ◆ ไข่ไก่

วิธีทำบัวลอยไข่หวาน

      1. แบ่งแป้งออกเป็น 3 ส่วน ส่วนที่ 1 นวดผสมแป้งกับน้ำเปล่าและเผือกนึ่งสุก ส่วนที่ 2 นวดแป้งกับน้ำเปล่าและฟักทองนึ่งสุก ส่วนที่ 3 นวดแป้งกับน้ำใบเตย นวดผสมจนเข้ากันเป็นเนื้อเดียว ปั้นเป็นก้อนกลม ๆ แล้วนำไปคลุกแป้งข้าวเหนียวบาง ๆ เตรียมไว้ 
      2. ใส่น้ำกะทิลงในหม้อ เติมน้ำตาลทรายและเกลือป่นคนผสมจนละลาย นำขึ้นตั้งไฟพอเดือด รีบปิดไฟ เตรียมไว้
      3. ต้มน้ำเปล่าในหม้อจนเดือด นำบัวลอยลงต้มทีละสีจนลอยขึ้นมา จากนั้นตักขึ้นสะเด็ดน้ำ ใส่ลงในถ้วย ตักกะทิที่เตรียมไว้ใส่ลงไป
      4. ตอกไข่ไก่ใส่ถ้วย ค่อย ๆ เทลงในหม้อน้ำกะทิ รอจนไข่สุกตามชอบ จากนั้นตักใส่ลงในถ้วยบัวลอย พร้อมเสิร์ฟ

          + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ บัวลอยไข่หวาน สูตรขนมไทยในดวงใจ อร่อยไม่รู้ลืม

+++++++++++++++++++++


2. บัวลอยไข่หวานเม็ดแมงลัก

         

บัวลอยไข่หวาน ขนมไทยใส่กะทิก็ว่าอร่อยแล้ว แต่สำหรับเพื่อน ๆ ที่อยากเพิ่มความแนวลองใส่เม็ดแมงลัก ธัญพืชเพื่อสุขภาพลงไปสิคะ กลายเป็นเมนูใหม่ชื่อ บัวลอยไข่หวานเม็ดแมงลัก สูตรนี้ใช้แป้งบัวลอยสำเร็จรูปและกะทิสำเร็จรูป ทำง่ายเว่อร์ บัวลอยสีสวยกับเม็ดแมงลักเคี้ยวกรุบ ๆ เพิ่มออปชั่นอย่างมะพร้าวอ่อนลงไป พ่วงด้วยไข่หวาน ถ้วยเดียวคงไม่หนำใจต้องใส่ชามกันล่ะทีนี้


ส่วนผสม บัวลอยไข่หวานเม็ดแมงลัก

      ◆ แป้งบัวลอยสำเร็จรูป 250 กรัม
      ◆ น้ำเปล่า (สำหรับต้มบัวลอย)
      ◆ กะทิสำเร็จรูป 1,000 กรัม
      ◆ น้ำตาลทราย 160 กรัม
      ◆ น้ำตาลปี๊บ 100 กรัม
      ◆ เกลือป่น 1 ช้อนชา
      ◆ ใบเตยหอม (ล้างสะอาด)
      ◆ ไข่ไก่
      ◆ มะพร้าวอ่อน (หั่นเป็นชิ้น ๆ) 200 กรัม
      ◆ เม็ดแมงลัก

วิธีทำบัวลอยไข่หวานเม็ดแมงลัก

     

1. ใส่น้ำเปล่าลงในหม้อนำขึ้นตั้งไฟปานกลางรอจนน้ำเดือดพล่านแล้วใส่เม็ดบัวลอยลงไปต้มจนลอยขึ้นมาประมาณ 1 นาที จากนั้นปล่อยทิ้งไว้อีก 30 วินาที
      2. ตักเม็ดบัวลอยที่สุกแล้วลงแช่ในน้ำเย็นสักครู่ ตักขึ้นมาพักไว้
      3. ใส่กะทิลงในหม้อนำขึ้นตั้งไฟ เติมน้ำตาลทรายลงไป ตามด้วยน้ำตาลปี๊บ เกลือป่น และใบเตยคนผสมจนน้ำตาลละลาย
      4. ตอกไข่ไก่ลงไปต้มในกะทิจนสุก ตักขึ้นใส่ถ้วยพักไว้
      5. ใส่เม็ดบัวลอยต้มสุกลงไปในกะทิคนผสมให้เข้ากัน ใส่มะพร้าวอ่อนลงไป
      6. ตักบัวลอยน้ำกะทิใส่ถ้วย เตรียมไว้
      7. แช่เม็ดแมงลักในน้ำจนพอง
      8. ตักเม็ดแมงลักโรยลงในถ้วยบัวลอย พร้อมเสิร์ฟ

      ◆ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ บัวลอยไข่หวานเม็ดแมงลัก เมนูเดิมเพิ่มเติมคุณประโยชน์

+++++++++++++++++++++++

3. บัวลอยผัก บัวลอยดอกไม้

      

โอ้โห ! บัวลอยผัก บัวลอยดอกไม้สูตรนี้จากนิตยสาร Foodstylist สูตรนี้มาพร้อมความแปลกแป้งบัวลอยมีส่วนผสมของผักและดอกไม้ แต่อร่อยลงตัวนะคะ แป้งบัวลอยทำจากผักและดอกไม้ แหม... เจ๋งจริง คิดได้อย่างไรเนี่ย ชักคันไม้คันมือ ขอตัวไปซื้อส่วนผสมก่อนนะคะ 

บัวลอย แป้งมันสําปะหลังอย่างเดียว

ส่วนผสม บัวลอยผัก

      ◆ แป้งข้าวเหนียว 1/2 ถ้วย (ต่อผัก 30 กรัม)
      ◆ น้ำอุ่น 1/8 ถ้วย
      ◆ เผือกต้ม 30 กรัม
      ◆ ฟักทองต้ม 30 กรัม
      ◆ แครอทต้ม 30 กรัม

วิธีทำบัวลอยผัก

      ◆ แบ่งแป้งข้าวเหนียวผสมน้ำอุ่นเป็น 3 ส่วน นำแต่ละส่วนไปผสมกับน้ำอุ่น และเนื้อฟักทอง เผือกต้ม และแครอทต้ม (แยกใส่เพื่อให้ได้สีตามต้องการ) นวดรวมผสมให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วปั้นเป็นลูกกลม ๆ ตามต้องการ

ส่วนผสม บัวลอยดอกไม้

      ◆ แป้งข้าวเหนียว 1/2 ถ้วยตวง (ต่อน้ำดอกไม้ 1/4 ถ้วย)
      ◆ น้ำใบเตย 1/4 ถ้วย
      ◆ น้ำอัญชัน 1/4 ถ้วย
      ◆ น้ำกุหลาบ 1/4 ถ้วย

วิธีทำบัวลอยดอกไม้

      ◆ แบ่งแป้งข้าวเหนียวผสมน้ำอุ่นเป็น 3 ส่วน นำแต่ละส่วนไปผสมน้ำใบเตย น้ำกุหลาบ และน้ำดอกอัญชัน (แยกใส่เพื่อให้ได้สีตามต้องการ) จากนั้นคลุกเคล้าและนวดรวมผสมให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วปั้นเป็นลูกกลม ๆ ตามต้องการ

ส่วนผสม น้ำกะทิ (สำหรับ 4 ที่)

      ◆ หัวกะทิ 500 มิลลิลิตร
      ◆ หางกะทิ 300 มิลลิลิตร
      ◆ น้ำตาลทราย 250 กรัม
      ◆ เกลือป่น  2 ช้อนชา

วิธีทำน้ำกะทิ

      ◆ นำส่วนผสมทั้งหมดใส่หม้อแล้วตั้งไฟพอเดือด หรือจนน้ำตาลละลายเป็นอันใช้ได้

วิธีต้มบัวลอย

      ◆ เมื่อได้แป้งบัวลอยสีตามต้องการแล้วให้นำไปคลุกกับแป้งข้าวเหนียวบาง ๆ แล้วนำไปต้มในน้ำเดือด

     

◆ วิธีการสังเกตความสุก ถ้าแป้งบัวลอยสุกจะลอยขึ้นมา ตักใส่ชาม ราดด้วยน้ำกะทิอุ่นที่เตรียมไว้พอท่วม ถ้ามีเนื้อมะพร้าวอ่อนใส่ลงไปด้วยก็อร่อยมากยิ่งขึ้น

      ◆ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ บัวลอยไข่หวาน สูตรขนมไทยหวานละมุน ทำง่ายกว่าที่คิด

++++++++++++++++++++++

4. บัวลอยมันม่วงญี่ปุ่น

      

ถ้าหากใครรักเดียวใจก็ต้องเลือกบัวลอยสีเดียวสิเนอะ เกี่ยวกันไหมเนี่ย เอาล่ะ… อยากให้ลองทำบัวลอยมันม่วงญี่ปุ่นสูตรจากนิตยสารแม่บ้าน จับมันญี่ปุ่นมาทำเป็นเม็ดบัวลอย มีความหอมหวานมันจากกะทิ แม้จะมีสีเดียวแต่ก็ดูสวยดีเหมือนกันนะเนี่ย เดี๋ยวอ้อนคุณแฟนทำให้กินดีกว่า 


บัวลอย แป้งมันสําปะหลังอย่างเดียว

ส่วนผสม บัวลอยมันม่วงญี่ปุ่น

      ◆ แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วยตวง
      ◆ มันญี่ปุ่น (นึ่งสุกและบดละเอียด) 1/2 ถ้วยตวง
      ◆ น้ำร้อน 6 ช้อนโต๊ะ
      ◆ แป้งข้าวเหนียว (สำหรับทำแป้งนวล)
      ◆ น้ำเปล่า (สำหรับต้มเม็ดแป้ง) 
      ◆ น้ำเย็น (สำหรับแช่เม็ดแป้ง)
      ◆ กะทิ (ความเข้มข้นปานกลาง) 2 ถ้วยตวง
      ◆ น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
      ◆ น้ำตาลทราย 6 ช้อนโต๊ะ
      ◆ เกลือป่นหยาบ 3/4 ช้อนชา
      ◆ เนื้อมะพร้าวเผา (หั่นเป็นเส้น) 1/2 ถ้วยตวง
      ◆ ใบเตย 2 ใบ
      ◆ หัวกะทิ 1/4 ถ้วยตวง

วิธีทำบัวลอยมันม่วงญี่ปุ่น

      1. ผสมแป้งข้าวเหนียว มันญี่ปุ่นบดละเอียด และน้ำร้อนเข้าด้วยกัน นวดจนเนียนและสามารถปั้นเป็นก้อนได้
      2. ปั้นแป้งเป็นก้อนกลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1/2 เซนติเมตร โรยแป้งนวลเล็กน้อย (เพื่อไม่ให้แป้งติดกัน)
      3. ต้มน้ำเปล่าพอเดือด นำเม็ดแป้งลงต้มจนสุกลอยขึ้นมา ตักขึ้นไปแช่น้ำเย็นพอคลายความร้อน เสร็จแล้วตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
      4. ใส่กะทิลงในหม้อ ยกขึ้นตั้งไฟพอร้อน ใส่น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย เกลือป่น เนื้อมะพร้าวเผา และใบเตยลงไปต้มพอเดือด เติมหัวกะทิลงไป
      5. ใส่แป้งบัวลอยลงในหม้อคนให้เข้ากัน พอเดือดเล็กน้อยยกลง ตักใส่ถ้วย จัดเสิร์ฟ

      ◆ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ขนมบัวลอยมันม่วงญี่ปุ่น ขนมไทยคิดนอกกรอบ ทำง่ายปั้นสนุกมือ

++++++++++++++++++

5. บัวลอยสาคู

         

บัวลอยทั่วไปเป็นเม็ดกลม ถ้าใครอยากกินบัวลอยแบบอินดี้ขอแนะนำบัวลอยสาคูสูตรจากคุณเนินน้ำ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ใช้สาคูแทนแป้งบัวลอย เพิ่มสีสันจากน้ำดอกอัญชัน ตบท้ายด้วยแปะก๊วยสีเหลืองอร่าม บัวลอยถ้วยนี้ดูดีไฮโซจริง ๆ 


บัวลอย แป้งมันสําปะหลังอย่างเดียว

ส่วนผสม บัวลอยสาคู (สูตรนี้ทำได้ประมาณ 20 ถ้วย)

      ◆ สาคูเม็ดเล็ก 500 กรัม
      ◆ น้ำร้อนจัด 1+1/4 ถ้วย
      ◆ แป้งมันสำปะหลัง 1/2 ถ้วย
      ◆ น้ำดอกอัญชัน (หรือสีผสมอาหารสีม่วงเล็กน้อย)
      ◆ หัวกะทิ 7 ถ้วย
      ◆ หางกะทิ 3 ถ้วย
      ◆ น้ำตาลทราย 1 1/2 ถ้วย
      ◆ เกลือสมุทร 1 ช้อนโต๊ะ
      ◆ แปะก๊วยต้มสุก

วิธีทำบัวลอยสาคู

      

1. ใส่สาคูลงในอ่างผสม ค่อย ๆ ใส่น้ำร้อนลงไปแล้วนวดให้เข้ากันจนน้ำหมด ใส่สีผสมอาหารสีม่วงเล็กน้อย
      2. ใส่แป้งมันสำปะหลังลงไปนวดให้เข้ากันดี 
      3. คลึงเป็นแผ่นแล้วใช้มีดตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ 1 เซนติเมตร 
      4. เคล้าแป้งมันสำปะหลังให้ทั่วเพื่อไม่ให้แป้งจับตัวเป็นก้อน
      5. ต้มน้ำให้เดือด ใส่สาคูลงต้มจนสุกลอย ตักขึ้นล้างน้ำเย็น
      6. ใส่หัวกะทิและหางกะทิลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟปานกลาง หมั่นคนจนเดือด 
      7. จากนั้นใส่น้ำตาลทรายและเกลือสมุทรลงไป หมั่นคนอยู่เสมอ พอเดือดอีกครั้งชิมรสให้หวานนำและเค็มปะแล่ม
      8. ปิดไฟ ใส่สาคูต้มและแปะก๊วยต้มสุกลงไป ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ

      ◆ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ สาคูบัวลอยแปะก๊วย ขนมไทยร้อน ๆ ไอเดียใหม่

++++++++++++++++++++


บัวลอย แป้งมันสําปะหลังอย่างเดียว

ส่วนผสม ไส้บัวลอยงาดำ

      ◆ น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
      ◆ งาดำป่น 1 ถ้วย
      ◆ เนยถั่วชนิดหยาบ 170 กรัม

ส่วนผสม แป้งบัวลอย

      ◆ แป้งข้าวเหนียว (ตราช้างสามเศียร) 1 ถ้วย
      ◆ แป้งถั่วเขียว 3 ช้อนโต๊ะ
      ◆ น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย
      ◆ ผงแป้งข้าวเหนียวเล็กน้อย

ส่วนผสม น้ำขิง

      ◆ น้ำเปล่า 5 ถ้วย
      ◆ ขิงแก่เผาไฟ 3 - 4 ชิ้น
      ◆ น้ำตาลอ้อย 1 ถ้วย
      ◆ เกลือ 1/2 ช้อนชา

วิธีทำไส้บัวลอยน้ำขิง

         

1. เริ่มทำไส้ขนม โดยเทน้ำตาลทรายใส่อ่างผสม ตามด้วยงาดำป่น จากนั้นใส่เนยถั่วตามลงไป
          2. คลุกส่วนผสมให้เข้ากันค่ะ (ถ้าไม่ชอบหวาน ลดน้ำตาลได้นะคะ)
          3. ปั้นเป็นลูกกลม เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 ซม. จากนั้นนำไปแช่ช่องแข็ง เตรียมไว้

วิธีทำแป้งบัวลอยน้ำขิง


          ◆ เทแป้งข้าวเหนียวและแป้งถั่วเขียวลงใส่อ่างผสม ตามด้วยน้ำเปล่า นวดจนแป้งเนียนแล้วลองปั้นดูค่ะ ถ้ามีรอยแป้งแตกให้เติมน้ำได้เล็กน้อยค่ะ 

วิธีทำน้ำขิง


          ◆ ปอกขิงที่เผาไฟสัก 2-3 ชิ้น จะฝานเป็นแผ่น หรือทุบเล็กน้อยก็ได้ค่ะ ต้มน้ำให้เดือด ใส่ขิงลงไป ตามด้วยน้ำตาลอ้อยแล้วปล่อยให้เดือดสัก 5 นาที ยกลง

วิธีทำบัวลอยน้ำขิง


          1. ปั้นแป้งกลม ๆ แล้วกดให้แบน ใช้มือแตะผงแป้งข้าวเหนียวเพื่อไม่ให้แป้งปั้นติดมือนะคะ 
          2. วางไส้ขนมลงไปตรงกลางแผ่นแป้งห่อให้มิดชิดค่ะ เวลาต้มไส้จะได้ไม่แตก
          3. ห่อเรียบร้อยแล้วนำไปคลุกกับผงแป้งข้าวเหนียว เพื่อขนมจะได้ไม่ติดกันค่ะ จนไส้ขนมหมดนะคะ อย่าห่อแป้งหนามาก เวลารับประทานจะต้องอ้าปากกว้างเห็นลิ้นไก่นะคะ
          4. เมื่อปั้นเสร็จเรียบร้อยแล้วนำหม้อน้ำขิงขึ้นตั้งไฟ พอน้ำขิงเดือด นำขนมลงต้มทันทีค่ะ เมื่อขนมสุก ตัวขนมจะลอยขึ้นเหนือน้ำ ตักใส่ชามเสิร์ฟ

          ◆ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ บัวลอยน้ำขิง ของหวานเพื่อสุขภาพร้อน ๆ จ้า

+++++++++++++++++++++

7. บัวลอยไมโครเวฟ

          เด็กหอ หรือมนุษย์คอนโดถ้าอยากทำบัวลอยกินเองแต่อุปกรณ์ไม่ครบก็จบเนอะ แต่สำหรับสูตรบัวลอยที่เรายกตัวอย่างมานี้ไม่ต้องใช้หม้อต้มให้วุ่นวาย แค่มีไมโครเวฟก็พอแล้วค่ะ ขอนำเสนอบัวลอยไมโครเวฟ ทุกขั้นตอนทำด้วยไมโครเวฟ เม็ดบัวลอยหลากสีอีกด้วย อยากรู้ว่าทำอย่างไรต้องลองเองค่ะ


บัวลอย แป้งมันสําปะหลังอย่างเดียว

ส่วนผสม บัวลอยไมโครเวฟ

      ◆ แป้งข้าวเหนียว 350 กรัม
      ◆ ฟักทอง (หั่นเป็นชิ้นเล็ก) 100 กรัม
      ◆ น้ำเปล่า (สำหรับต้มฟักทอง)
      ◆ เผือก (หั่นเป็นชิ้นเล็ก) 100 กรัม
      ◆ น้ำเปล่า (สำหรับต้มเผือก)
      ◆ น้ำใบเตยคั้นเข้มข้น 100 มิลลิลิตร
      ◆ กะทิสำเร็จรูป 2 ถ้วยตวง
      ◆ น้ำตาลปี๊บ 1/2 ถ้วยตวง
      ◆ เกลือป่น 1/2 ถ้วยตวง

วิธีทำบัวลอยไมโครเวฟ

      1. ใส่ฟักทองลงในถ้วยกระเบื้อง เติมน้ำเปล่าให้ท่วม จากนั้นนำเข้าไมโครเวฟใช้ไฟแรงประมาณ 5 นาที จนฟักทองสุก เตรียมไว้
      2. ใส่เผือกลงในถ้วยกระเบื้อง เติมน้ำให้ท่วม จากนั้นนำเข้าไมโครเวฟ ใช้ไฟแรงประมาณ 5 นาที จนเผือกสุก เตรียมไว้
      3. แบ่งแป้งข้าวเหนียวเป็น 3 ส่วน แล้วนำไปผสมกับฟักทองต้มสุก ผสมกับเผือกต้มสุก และผสมกับน้ำใบเตย นวดให้เข้ากันจนแป้งเปลี่ยนสี จากนั้นปั้นแป้งแต่ละสีเป็นก้อนกลมเล็ก ๆ เตรียมไว้
      4. ใส่น้ำเปล่าลงในถ้วยกระเบื้องนำเข้าไมโครเวฟ ใช้ไฟแรง ต้มน้ำจนเดือด นำถ้วยออกจากเตา จากนั้นใส่เม็ดบัวลอยทั้งหมดลงในน้ำเดือดแล้วนำกลับเข้าไมโครเวฟ ใช้ไฟแรง ต้มนานประมาณ 5 นาที จนเม็ดบัวลอยสุก และลอยขึ้น นำออกจากเตา ตักบัวลอยพักทิ้งไว้ในน้ำเย็น 
      5. คนผสมกะทิ น้ำตาลปี๊บ และเกลือเข้าด้วยกัน นำเข้าไมโครเวฟใช้ไฟแรงประมาณ 3-5 นาที นำออกจากเตา เติมเม็ดบัวลอยลงในกะทิ นำกลับเข้าเตา ต้มนานประมาณ 2 นาที นำออกจากเตา ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ

      ◆ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ บัวลอยไมโครเวฟ ขนมหวานแบบไทยทำได้ง่าย ๆ

          ใครเบื่อทำเบเกอรี่ลองมาทำบัวลอยขนมไทยกันดีไหม แม้อุปกรณ์ไม่ครบก็ใช้ไมโครเวฟได้เหมือนกัน ทั้งนี้เพื่อน ๆ สามารถสร้างสรรค์เม็ดบัวลอยจากผัก ดอกไม้ หรือสีผสมอาหารก็ได้ ใช้น้ำกะทิสด หรือน้ำกะทิสำเร็จรูปก็แล้วแต่ เอาตามสะดวกเลยค่ะ ทุกอย่างพลิกแพลงได้หมดไม่มีอะไรตายตัว เอ้า... เข้าครัวกันได้แล้วค่ะ

แป้งมันสําปะหลังทำบัวลอยได้ไหม

วัตถุดิบบัวลอยดอกไม้ แป้งข้าวเหนียว 150 กรัม แป้งมันสำปะหลัง 2 ช้อนโต๊ะ มันม่วงสุก 50 กรัม น้ำเปล่า 1/4 ถ้วยตวง

แป้งมันสําปะหลัง ทำขนมได้ไหม

แป้งมันสามารถเอามาทำอาหาร อย่างเช่น น้ำราดหน้า กระเพาะปลาน้ำแดง แป้งหอยทอด แป้งกุยช่าย เป็นต้น รวมทั้งทำขนมได้หลากหลาย เช่น บัวลอย ทับทิมกรอบ ขนมชั้น ขนมฟักทอง ครองแครง ไข่เต่า เป็นต้น

บัวลอยใช้แป้งข้าวเหนียวอย่างเดียวได้ไหม

แป้งบัวลอยนุ่มหนึบ ปั้นเป็นรูปน้องเหมียว เอาใจทาสแมวเสียหน่อย น่ารักด้วยอร่อยด้วย แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วย กะทิ 1 1/2 ถ้วย น้ำตาลปี๊บ 2/3 ถ้วย

แป้งมันสําปะหลัง ทำอะไรบ้าง

เมนูที่ทำจากแป้งมันสำปะหลัง ได้แก่ ลอดช่องสิงโปร์ เต้าส่วน บัวลอย ครองแครงแก้ว ทับทิมกรอบ ขนมชั้น ขนมปลากริมไข่เต่า เป็นต้น ส่วนอาหารคาว ได้แก่ กุยช่ายทอดหรือหอยทอด ซึ่งต้องผสมแป้งผสมแป้งสาลีลงไปเพื่อให้ได้ความกรอบและนุ่ม เพราะถ้าใช้แป้งมันสำปะหลังอย่างเดียวอาหารทอดจะไม่กรอบ แป้งมันสำปะหลังหรือแป้งมัน