บล็อก ไดอะแกรม เครื่องรับวิทยุ am

เคร่ืองรับวทิ ยุ AM แบบต่าง ๆ 4.1 เครอ่ื งรบั วิทยุ AM เคร่ืองรบั วิทยุ AM ถือเป็นเคร่ืองรับวิทยุทีถ่ ูกประดิษฐ์คิดคน้ ข้ึนมาไดใ้ นสมยั เร่ิมแรกของการสื่อสารดว้ ยคลื่นวิทยุ โดยถูกพัฒนามาจากวิทยุโทรเลข และวิทยุโทรศัพท์ ในปี พ.ศ. 2439 กูกลิเอลโม มาร์โคนี (Guglielmo Marconi) นกั วิทยาศาสตร์ชาวอติ าลี ผซู้ ่ึงไดน้ าเสนอเครื่องมือสาหรับการสร้างสญั ญาณแบบไร้สายไดป้ ระดษิ ฐ์ระบบส่ือสารแบบโทรเลข ไรส้ ายชุดแรกข้นึ มา ในปี พ.ศ. 2450 ลี เดอ ฟอเรส (Lee De Forest) ไดป้ ระดษิ ฐ์หลอดสุญญากาศ (Vacuum Tube) ชนิดหลอด ไทรโอด (Triode Tube) ข้ึนมา สามารถใชใ้ นการขยายสญั ญาณคลื่นวิทยุและคลื่นเสียงได้ ใชใ้ นการส่งสญั ญาณคล่นื วทิ ยุและ โทรเลข มีการพฒั นาการสื่อสารด้วยคลนื่ วทิ ยุอย่างตอ่ เนื่อง และมีความสาคญั เพิ่มมากข้ึน จนเกิดการใช้งานอย่างแพร่หลายใน กิจการดา้ นการแพร่กระจายคล่ืนวิทยุ สญั ญาณคลืน่ วิทยุไดถ้ ูกนามาประยกุ ตส์ าหรับงานดา้ นโทรเลขไร้สายเป็นหลกั ซ่ึงโทร เลขแบบไร้สายน้ีไดก้ ลายเป็นระบบส่ือสารท่มี ีความสาคญั มากข้ึน เม่อื ถกู นาไปใชง้ านร่วมกบั การสื่อสารในเรือเดินสมทุ ร ในปี พ.ศ. 2459 แฟรงก์ คอนราด (Frank Conrad) นกั วิทยุสมคั รเล่นและเป็นวิศวกรจากบริษทั เวสติงเฮาส์ ประเทศ สหรัฐอเมริกา ไดเ้ ริ่มทดลองส่งสญั ญาณกระจายเสียงเพลงจากบา้ นที่เมอื งพิตสเ์ บริ ์ก โดยที่นกั วทิ ยสุ มคั รเลน่ คนอื่นๆ สามารถ รับสัญญาณการกระจายเสียงน้ีได้ เสมือนเป็นผูฟ้ ัง “คอนเสิร์ตไร้สาย” ของ แฟรงก์ คอนราด ร่วมกนั ทาให้บริษทั เวสติงเฮาส์ ได้เห็นถึงการทาการตลาดวทิ ยุกระจายเสียงที่กาลงั จะมีมูลค่าสูง และในปลายปี พ.ศ. 2459 บริษทั เคดีเคเอ (KDKA) จึงได้ ก่อต้งั ข้นึ โดยเป็นสถานีวิทยุกระจายเสียงเชิงพาณิชยแ์ ห่งแรก ในปี พ.ศ. 2464 มีการเปิดสถานีวิทยกุ ระจายเสียงหลายสถานี เชน่ สถานี WSZ, KYW, WGY และ WEAF เป็นตน้ ในการใหบ้ ริการขา่ วสารตา่ งๆ มีการโฆษณาสินคา้ มกี ารออกอากาศการ แข่งขนั กีฬา และมีการหาเสียงเลือกต้งั ของสหรัฐอเมริกา ในปี พ.ศ. 2466 ไดเ้ กิดสถานีวิทยุกระจายเสียงเพ่มิ มากข้นึ กวา่ 500 สถานี และมีเคร่ืองรับวทิ ยมุ ากกว่าสี่ลา้ นเครื่องถกู ใชง้ านในประเทศสหรัฐอเมริกา เคร่ืองรับวิทยุ AM คือ เครื่องรับวิทยทุ ่ีสามารถใชร้ ับสญั ญาณวิทยุที่ส่งมาจากเครื่องส่งวิทยุกระจายเสียง AM เพ่ือ รบั ฟังขอ้ มลู ข่าวสารทสี่ ่งกระจายเสียงมาได้ เคร่ืองรบั วทิ ยุ AM ถือไดว้ ่าเป็นเครื่องรบั วทิ ยแุ บบเร่ิมตน้ ทถี่ กู สร้างข้นึ มาใชง้ าน สามารถสร้างเคร่ืองรับวิทยขุ ้ึนมาใชง้ านไดโ้ ดยงา่ ย เพียงใชอ้ ปุ กรณอ์ ิเลก็ ทรอนิกส์เพียงไม่ก่ีชิ้นมาประกอบวงจรร่วมกนั ก็ สามารถรบั ฟังวิทยกุ ระจายเสียงในระบบ AM ได้ และยงั ไดม้ ีการพฒั นาระบบเคร่ืองรับวิทยุ AM อยา่ งตอ่ เนื่องเร่ือยมาจนถึง ปัจจบุ นั เคร่ืองรบั วิทยุ AM ยคุ แรกๆ ท่ีถกู ผลติ ข้ึนมาใชง้ าน แสดงดงั รูปท่ี 4.1 รูปท่ี 4.1 เคร่ืองรับวทิ ยุ AM ยุคแรกท่ผี ลติ ข้นึ มาใชง้ าน

เคร่ืองรบั วิทยุ AM มกี ารพฒั นาการรับสัญญาณอยา่ งตอ่ เน่ืองเรื่อยมา เพือ่ ทาให้การรับสญั ญาณมีคุณภาพ สามารถ เลือกรับสถานีวิทยุที่ตอ้ งรับฟังได้ชัดเจนไม่เกิดการบกวนจากสถานีวิทยุอ่ืนๆ สามารถแบ่งการพฒั นาเครื่องรับวิทยุ AM ออกไดเ้ ป็น 3 แบบ ดงั น้ี 1. เครื่องรบั วิทยุ AM แบบเบ้อื งตน้ (Primitive AM Receiver) 2. เครื่องรบั วิทยุ AM แบบเลือกความถี่วิทยุ (Tuned Radio Frequency AM Receiver) หรือเครื่องรบั วทิ ยุ AM แบบ TRF 3. เคร่ืองรับวิทยุ AM แบบซูเปอร์เฮเทอโรดายน์ (Superheterodyne AM Receiver) 4.2 เคร่ืองรบั วทิ ยุ AM แบบเบื้องตน้ เครื่องรบั วิทยุ AM แบบเบ้ืองตน้ เป็นเครื่องรับวิทยุ AM แบบท่สี ร้างข้นึ มาใชง้ านไดง้ ่าย มสี ่วนประกอบของวงจร ไม่มาก แต่มีคุณภาพในการทางานต่า สัญญาณเสียงท่ีรับออกมาได้เบา ไม่มีวงจรขยายสัญญาณเสียง ทาให้การรับฟัง สญั ญาณเสียงตอ้ งใชห้ ูฟังขนาดเล็กช่วยในการรับฟัง ส่วนประกอบของเครื่องรับวิทยุ AM แบบน้ีแบง่ ออกเป็น 5 ส่วน ไดแ้ ก่ สายอากาศรับคล่ืนวิทยุ ภาคปรับเลือกความถี่วิทยุแต่ละสถานี (Tuned Frequency) ภาคดีเทกเตอร์ (Detector) ภาคกรอง ความถี่วิทยุ (Radio Frequency Filter) และหูฟัง (Earphone) บล็อกไดอะแกรมเครื่องรับวิทยุ AM แบบเบ้ืองตน้ แสดงดงั รูป ท่ี 4.2 RF RF AF รูปท่ี 4.2 บลอ็ กไดอะแกรมเคร่ืองรบั วทิ ยุ AM แบบเบ้อื งตน้ จากรูปที่ 4.2 แสดงบล็อกไดอะแกรมเคร่ืองรบั วทิ ยุ AM แบบเบ้ืองตน้ การทางานของเคร่ืองรับวิทยอุ ธิบายได้ ดงั น้ี คลืน่ แมเ่ หล็กไฟฟ้าของทกุ สถานีส่งวิทยุ AM ถูกสายอากาศรับรับเขา้ มารอทภ่ี าคปรับเลือกความถ่วี ิทยุ ภาคปรับ เลือกความถ่ีวิทยุจะกาหนดเลือกความถ่ีวิทยุคลื่นพาห์เพียง 1 สถานีผ่านไปได้ ตามการปรับเลือกของผูฟ้ ั ง ความถ่ีวิทยุ คลื่นพาห์อื่นๆ ท่ีไม่ตอ้ งการจะถูกกาจดั ท้ิงไป ส่งต่อความถ่ีวิทยุคล่ืนพาห์สถานีที่เลือกรับไปเข้าภาคดีเทกเตอร์ เพื่อทา หน้าท่ีตดั ความถ่ีวิทยุคลื่นพาห์ AM ออกไปซีกหน่ึง ตามรูปตัดความถี่วิทยุคล่ืนพาห์ AM ซีกลบทิ้งไป เหลือความถี่วิทยุ คล่ืนพาห์ AM ซีกบวกส่งตอ่ ไปเขา้ ภาคกรองความถีว่ ทิ ยุ เพ่อื ทาหนา้ ทก่ี าจดั ความถวี่ ิทยคุ ลื่นพาห์ AM ทงิ้ ไป เหลือเฉพาะความถ่ี เสียงส่งตอ่ ไปเขา้ หูฟังทาการเปล่ียนความถเี่ สียงในรูปสญั ญาณไฟฟ้าให้เป็นความถ่เี สียงในรูปสัญญาณทางกล ไดอะแฟรมหูฟัง สน่ั ตามความถีเ่ สียงท่รี บั ได้ เครื่องรบั วทิ ยุ AM แบบเบ้อื งตน้ ท่สี รา้ งมาใชง้ าน แสดงดงั รูปท่ี 4.3

RF RF AF T1 D1 C2 L1 L2 C1 รูปท่ี 4.3 วงจรเคร่ืองรบั วิทยุ AM แบบเบ้อื งตน้ จากรูปที่ 4.3 แสดงวงจรเครื่องรับวิทยุ AM แบบเบ้ืองตน้ เคร่ืองรับวิทยุแบบเบ้ืองตน้ น้ี มกั นิยมเรียกว่า เคร่ืองรับ วิทยุแร่ (Crystal Radio Receiver) วงจรประกอบดว้ ยหมอ้ แปลง 1 ตวั ตวั เก็บประจุ 2 ตวั และไดโอด 1 ตวั อุปกรณ์แต่ละตวั ทา หนา้ ที่ ดงั น้ี หมอ้ แปลง T1 แยกออกเป็น 2 ขด ไดแ้ ก่ ขด L1 เป็นขดลวดปฐมภูมติ ่อกบั สายอากาศรับ ทาหนา้ ท่ีเหนี่ยวนาสญั ญาณ ความถี่วิทยุ AM ทุกสถานีทรี่ ับได้ ส่งไปใหว้ งจรปรบั เลอื กความถีว่ ิทยุ ขด L2 เป็นขดลวดทตุ ยิ ภมู ิตอ่ ขนานร่วมกบั ตวั เก็บประจุ C1 เป็นวงจรเรโซแนนซ์แบบขนาน โดยตวั C1 ปรับเปลี่ยนค่าได้ เพือ่ ปรบั เลือกความถ่ีวิทยุ AM ให้ผา่ นไปไดเ้ พียง 1 สถานี ที่ ตรงกบั ค่า ความถี่เรโซแนนซ์ของวงจร ตวั ไดโอด D1 เป็นไดโอดดเี ทกเตอร์ ทาหนา้ ท่ตี ดั ความถ่ีวิทยุคล่นื พาห์ AM ท่ีรับเขา้ มาออกไปซีกหน่ึง อาจเป็นซีก บวกหรือซีกลบก็ได้ ถา้ ใชข้ าแอแคโทด (K) ออกเอาตพ์ ุต ความถว่ี ิทยุคลื่นพาห์ AM ซีกบวกถกู ส่งออก ถา้ ใชข้ าแอโนด (A) ออกเอาตพ์ ุต ความถ่วี ิทยคุ ล่ืนพาห์ AM ซีกลบถูกส่งออก ตวั เก็บประจุ C2 เป็นตวั กรองความถี่วิทยุ ทาหนา้ ที่กาจดั ความถ่ีวทิ ยุคล่ืนพาห์ AM ที่ยงั เหลืออยู่ให้หมดไป เหลือ เฉพาะความถี่เสียง การกรองความถี่วิทยุของตวั C2 แสดงดงั รูปที่ 4.4 RF AF C2 รูปท่ี 4.4 การกรองความถว่ี ทิ ยุดว้ ยตวั C2 จากรูปท่ี 4.4 แสดงการกรองความถ่ีวิทยุดว้ ยตวั C2 การทางานอธิบายได้ ดงั น้ี ช่วงจงั หวะที่ความถ่ีวิทยุคลื่นพาห์ซีก บวกป้อนเขา้ มา ตวั C2 ประจุแรงดนั ไฟฟ้าไวบ้ นบวก (+) ล่างลบ (-) และช่วงจงั หวะที่ความถ่ีวิทยุคลื่นพาห์ซีกบวกไมถ่ ูก ป้อนเขา้ มา ตวั C2 คายประจุแรงดนั ไฟฟ้าออกมาจ่ายให้หูฟัง การทางานเป็ นเช่นน้ีตลอดเวลาท่ีมีความถวี่ ิทยุคลื่นพาห์ซีก บวกป้อนเขา้ มา ไดส้ ัญญาณเสียงจา่ ยให้หูฟัง การทางานของวงจรเครื่องรับวิทยุแร่ตามรูปท่ี 4.3 อธิบายได้ ดงั น้ี

สายอากาศรับสญั ญาณความถีว่ ทิ ยุคลืน่ พาห์ AM ทุกสถานีเขา้ มาท่ี L1 ตวั L1 ทาการเหน่ียวนาความถี่วิทยคุ ล่ืนพาห์ AM ทุกสถานีไปให้วงจรปรบั เลือกความถีว่ ิทยุ L2, C1 ทต่ี ่อเป็นวงจรเรโซแนนซแ์ บบขนาน เลือกความถ่วี ิทยุคล่ืนพาห์ AM ที่ต้องการเพียง 1 สถานีตรงกบั ค่า ความถ่ีเรโซแนนซ์ของวงจร ค่าความถี่เรโซแนนซ์ปรับเปลี่ยนได้ด้วยตวั C1 ส่งผ่าน ความถี่วิทยุคล่ืนพาห์ AM ไปให้ตวั D1 ทาการตดั สัญญาณความถ่ีวิทยุคล่ืนพาห์ AM ท่ีรับมาซีกลบทิ้งไป เหลือซีกบวก ส่งออกเอาต์พุต ไปให้ตวั C2 ทาการกรองความถ่ีวิทยุคล่ืนพาห์ AM ท่ีติดมาดว้ ยออกไป เหลอื เฉพาะความถีเ่ สียงส่งไปใหห้ ู ฟัง ไดอะแฟรมหูฟังเกิดการส้ันตามจงั หวะความถเี่ สียง เป็นสัญญาณเสียงเหมือนทางดา้ นเคร่ืองส่งท่สี ่งมา ขอ้ เสียของเครื่องรับวทิ ยุแร่ คือ มคี ณุ ภาพและประสิทธิภาพในการรับสญั ญาณไม่ดี สถานีท่มี คี วามแรงมาก จะแทรก เขา้ มาไดง้ ่าย ทาให้สัญญาณเสียงท่รี ับไดเ้ กิดการรบกวนกนั และวงจรไมม่ ีภาคขยายสัญญาณ ทาใหส้ ญั ญาณที่รับไดด้ งั เบาไม่ เทา่ กนั และสญั ญาณเสียงไม่ชดั เจน 4.3 เครอ่ื งรบั วิทยุ AM แบบเลอื กความถ่วี ทิ ยุ (TRF) เครื่องรับวิทยุ AM แบบเลือกความถ่ีวิทยุ (TRF) เป็นเครื่องรับวิทยุท่ีพฒั นาข้ึนมาจากเครื่องรับวิทยุ AM แบบ เบ้ืองตน้ โดยเพ่ิมภาคปรับเลือกความถี่วิทยุต้งั แต่ 1 ภาคข้ึนไป เพ่ือทาให้การรับคลื่นวิทยุแต่ละสถานีมีคุณภาพมากข้ึน เพ่ิม ภาคขยายความถวี ทิ ยุ (RF Amplifier) หรือภาคขยาย RF เพอ่ื ให้ความถ่ีวิทยุคลื่นพาห์สถานีท่ีรับไดม้ ีความแรงเพ่ิมข้ึน และเพิ่ม ภาคขยายเสียง เพือ่ ให้สญั ญาณเสียงที่ไดอ้ อกมามีความแรงมากพอสามารถขบั ลาโพงให้เกิดเสียง บล็อกไดอะแกรมเคร่ืองรับวิทยุ AM แบบเลือกความถ่ีวทิ ยุ (TRF) แสดงดงั รูปท่ี 4.5 RF RF RF AF AF 12 รูปท่ี 4.5 บล็อกไดอะแกรมเครื่องรับวทิ ยุ AM แบบเลือกความถวี่ ิทยุ (TRF) จากรูปที่ 4.5 แสดงบล็อกไดอะแกรมเครื่องรับวิทยุ AM แบบเลือกความถ่ีวิทยุ (TRF) การทางานของเคร่ืองรับวิทยุ อธิบายได้ ดงั น้ี คลื่นแม่เหลก็ ไฟฟ้าของทกุ สถานีส่งวทิ ยุ AM ถกู สายอากาศรับรับเขา้ มารอทภี่ าคปรับเลือกความถว่ี ทิ ยุ 1 ภาคปรบั เลือกความถวี่ ิทยุ 1 จะกาหนดเลือกความถ่ีวทิ ยุคลืน่ พาห์เพียง 1 สถานีผ่านไปได้ ตามการปรับเลือกของผูฟ้ ัง ความถี่วิทยุ คลื่นพาห์อื่นๆ ท่ีไม่ตอ้ งการจะถูกกาจดั ท้ิงไป ส่งต่อความถี่วิทยุคลื่นพาห์สถานีท่ีเลือกรับไปเขา้ ภาคขยายความถ่ีวิทยุ ขยาย ความถ่ีวิทยุคลนื่ พาห์ทรี่ บั เขา้ มาใหม้ คี วามแรงมากข้ึน ส่งต่อความถ่ีวทิ ยคุ ลน่ื พาหท์ ่ีขยายแลว้ ไปใหภ้ าคปรับเลือกความถ่ีวทิ ยุ 2 มีค่าการตอบสนองความถ่ีวิทยุค่าเดียวกบั ภาคปรับเลือกความถี่วทิ ยุ 1 ส่งต่อไปให้ภาคดีเทกเตอร์ ทาก ารตดั ความถี่วทิ ยุ คล่ืนพาห์ AM ออกไปซีกหน่ึง ตามรูปตดั ความถ่วี ิทยุคล่ืนพาห์ AM ซีกลบทิ้งไป เหลือความถ่ีวทิ ยุคล่ืนพาห์ AM ซีกบวก ส่งต่อไปเข้าภาคกรองความถี่วิทยุ ทาการกาจัดความถ่ีวิทยุคลื่นพาห์ AM ทิ้งไป เหลือเฉพาะความถี่เสียงส่งต่อไปเขา้

ภาคขยายเสียงทาการขยายสญั ญาณเสียงในรูปสัญญาณไฟฟ้าให้แรงมากข้นึ ส่งต่อไปใหล้ าโพง ทาการเปลยี่ นความถเ่ี สียงใน รูปสัญญาณไฟฟ้าใหเ้ ป็นความถเ่ี สียงในรูปสัญญาณทางกล ไดอะแฟรมลาโพงส่นั ตามความถีเ่ สียงทีร่ ับได้ เคร่ืองรับวิทยุ AM แบบ TRF ทสี่ รา้ งมาใชง้ าน แสดงดงั รูปท่ี 4.6 RF RF RF AF AF T1 G D D1 B C L1 L2 C1 R1 Q1 C3 L3 L4 C5 R3 Q2 C4 T2 S E 2 R2 C2 1 +VS รูปท่ี 4.6 วงจรเครื่องรับวทิ ยุ AM แบบ TRF จากรูปท่ี 4.6 แสดงวงจรเคร่ืองรับวิทยุ AM แบบ TRF แบบหน่ึง มีส่วนประกอบของวงจรเพิ่มข้ึนมา ช่วยเสริมให้ คุณภาพการรบั สัญญาณคล่ืนวิทยุของเครื่องรับวิทยุ AM ดีข้ึน ส่วนทเี่ พม่ิ คอื ภาคขยายสญั ญาณทาใหส้ ัญญาณเสียงทีร่ ับได้มี ความชดั เจนมากข้ึน อุปกรณ์ประกอบวงจรแต่ละส่วนทาหนา้ ท่ี ดงั น้ี หมอ้ แปลง T1 แยกออกเป็น 2 ขด ไดแ้ ก่ ขด L1 เป็นขดลวดปฐมภูมิตอ่ กบั สายอากาศรับ ทาหนา้ ทเ่ี หนี่ยวนาสญั ญาณ ความถี่วทิ ยุ AM ทุกสถานีท่รี ับได้ ส่งไปให้วงจรปรับเลือกความถี่วิทยุท่ี 1 ประกอบดว้ ยขดลวด L2 เป็นขดลวดทุติยภูมขิ อง T1 ต่อขนานร่วมกบั ตวั เก็บประจุ C1 เป็นวงจรเรโซแนนซ์แบบขนาน โดยตวั C1 ปรบั เปลยี่ นคา่ ได้ เพ่อื ปรบั เลือกความถว่ี ิทยุ AM ใหผ้ ่านไปไดเ้ พียง 1 สถานี ที่ตรงกบั ค่าความถี่เรโซแนนซ์ของวงจร เฟต Q1 ตวั ตา้ นทาน R1, R2 และตวั เก็บประจุ C2 ต่อวงจรร่วมกนั เป็ นวงจรขยายความถ่ีวิทยุ ทาการขยายความถี่วิทยุ เพียง 1 สถานีท่ีวงจรปรับเลือกความถี่วทิ ยุที่ 1 รบั เขา้ มา ใหส้ ัญญาณมคี วามแรงมากข้นึ แบบไม่ผดิ เพ้ียน หมอ้ แปลง T2 แยกออกเป็ น 2 ขด ได้แก่ ขด L3 เป็ นขดลวดปฐมภูมิต่อขนานร่วมกบั ตวั เก็บประจุ C3 เป็ นวงจรเร โซแนนซ์แบบขนานทาหนา้ ที่วงจรปรับเลือกความถี่วทิ ยุท่ี 2 โดยตวั C3 ปรับเปล่ียนค่าไดเ้ พื่อปรับเลือกความถวี่ ิทยุ AM ให้ ผ่านไปไดเ้ พียง 1 สถานี ตรงกบั ค่าความถ่ี เรโซแนนซข์ องวงจรปรับเลอื กความถว่ี ิทยุท่ี 1 ส่วนตวั L4 เป็นขดลวดทตุ ิยภูมิของ T2 เป็นตวั รบั สญั ญาณความถี่วทิ ยคุ ลื่นพาห์ AM ทีช่ ุดปรับเลือกความถี่วิทยุที่ 2 ส่งมา ตวั ไดโอด D1 เป็นไดโอดดเี ทกเตอร์ ทาหนา้ ที่ตดั ความถ่ีวิทยุคลืน่ พาห์ AM ท่ีรบั เขา้ มาออกไปซีกหน่ึง อาจเป็นซีก บวกหรือซีกลบก็ได้ ถา้ ใชข้ าแอแคโทด (K) ออกเอาตพ์ ุต ความถ่ีวิทยุคลนื่ พาห์ AM ซีกบวกถูกส่งออก ถา้ ใชข้ าแอโนด (A) ออกเอาตพ์ ตุ ความถว่ี ทิ ยคุ ล่นื พาห์ AM ซีกลบถูกส่งออก ตวั เก็บประจุ C5 เป็ นตวั กรองความถี่วิทยุ ทาหนา้ ท่ีกาจดั ความถ่ีวทิ ยุคลื่นพาห์ AM ที่ยงั เหลืออยู่ให้หมดไป เหลอื เฉพาะความถเี่ สียง ทรานซิสเตอร์ Q2 และตวั ตา้ นทาน R3 ต่อวงจรร่วมกนั เป็นวงจรขยายความถ่เี สียง ทาการขยายความถ่ีเสียงให้มีความ แรงมากข้นึ การทางานของวงจรเครื่องรับวิทยุ AM แบบ TRF อธิบายได้ ดงั น้ี

สายอากาศรบั สัญญาณความถี่วทิ ยคุ ล่นื พาห์ AM ทกุ สถานีเขา้ มาท่ี L1 ตวั L1 ทาการเหน่ียวนาความถ่ีวิทยุคล่ืนพาห์ AM ทุกสถานีไปให้วงจรปรับเลือกความถี่วิทยุท่ี 1 ประกอบด้วย L2, C1 ท่ีต่อเป็นวงจรเรโซแนนซ์แบบขนาน เลือกความถ่ี วิทยุคล่ืนพาห์ AM ที่ต้องการเพียง 1 สถานีตรงกับค่าความถ่ีเรโซแนนซ์ของวงจร การปรับเลือกค่าความถ่ีเรโซแนนซ์ ปรับเปลี่ยนที่ตวั C1 ส่งผ่านความถี่วิทยุคลื่นพาห์ท่ีรับเขา้ มาไปให้วงจรขยายความถ่ีวิทยุ ประกอบดว้ ยตวั Q1, R1, R2 และ C2 ขยายสญั ญาณความถวี่ ิทยุคล่ืนพาห์ AM ที่รับเขา้ มาให้มคี วามแรงมากข้ึน ส่งตอ่ ความถี่วิทยุคลื่นพาห์ทข่ี ยายแลว้ ไปใหภ้ าคปรับ เลือกความถีว่ ิทยุท่ี 2 ประกอบด้วย L3, C3 ที่ต่อเป็นวงจร เรโซแนนซ์แบบขนาน มีค่าการตอบสนองความถี่วิทยุค่าเดียวกบั ภาคปรบั เลือกความถีว่ ทิ ยุท่ี 1 เหน่ียวนาผ่านตวั L4 ส่งต่อไปให้ตวั D1 ทาหนา้ ทีเ่ ป็นวงจรดเี ทกเตอร์ ทาการตดั สญั ญาณความถี่ วิทยุคล่ืนพาห์ AM ที่รับมาซีกลบทิ้งไป เหลือซีกบวกส่งออกเอาต์พุต ไปให้ตวั C5 ทาหน้าท่ีเป็ นวงจรกรองความถี่วิทยุ คล่ืนพาห์ AM ท่ีติดมาด้วยออกไป เหลือเฉพาะความถี่เสียงส่งไปให้วงจร ขยายเสียงประกอบดว้ ยตวั Q2 และ R3 ทาการ ขยายสัญญาณเสียงในรูปสัญญาณไฟฟ้าใหแ้ รงมากข้ึนส่งต่อไปหูฟังไดอะแฟรมหูฟังเกิดการส้ันตามจงั หวะความถ่ีเสียง เป็น สญั ญาณเสียงเหมอื นทางดา้ นเครื่องส่งทส่ี ่งมา นอกจากน้ันยงั สร้างวงจรด้วย IC ภาครับข้ึนมาใช้งานกบั เครื่องรับวิทยุ AM แบบ TRF โดยเฉพาะ ได้แก่เบอร์ ZN414Z โครงสรา้ งภายในตวั IC เบอร์ ZN414Z แสดงดงั รูปท่ี 4.7 100 kW 1 kW IC ZN414Z +1.5 V LC ZN414Z 3 10 nF 2Z RF RF RF 100 nF 1 0V OUT 3 2 IN 1 GND รูปที่ 4.7 โครงสร้างภายในตวั IC เบอร์ ZN414Z ใชใ้ นวงจรเคร่ืองรับวิทยุ AM แบบ TRF จากรูปท่ี 4.7 แสดงโครงสร้างภายในตวั IC เบอร์ ZN414Z ใชใ้ นวงจรเครื่องรับวิทยุ AM แบบ TRF ทาหนา้ ท่ีเป็น ภาคขยายสญั ญาณความถ่วี ิทยุให้แรงข้ึน ภายในประกอบดว้ ยภาคขยายความถ่ีวิทยุ (RF) หลายภาค พรอ้ มท้งั มีวงจรดเี ทกเตอร์ ทาการตดั สัญญาณความถว่ี ทิ ยุคลื่นพาห์ AM ท่ีรับเขา้ มาออกไปซีกหน่ึงให้เรียบร้อย ส่งความถี่วิทยุคลื่นพาห์ AM ซีกท่ีเหลือ ออกเอาตพ์ ุต ตวั IC มีขาต่อใชง้ าน 3 ขา เช่นเดียวกบั ทรานซิสเตอร์ ทาให้สะดวกในการต่อใช้งาน สามารถใชไ้ ด้กบั แหล่งจ่าย แรงดนั ไฟฟ้าคา่ ต่าเพียง 1.5 V เครื่องรบั วิทยุ AM แบบ TRF ใชต้ วั IC เบอร์ ZN414Z ประกอบร่วมวงจรใช้งาน แสดงดงั รูปที่ 4.8 0.3 . (30 SWG) 80 R2 R4 +1.5 V 5. 1 kW 10 kW C5 Z 50 . 9. R1 = 100 kW 2-3 kW 0.3 . RF 1R030 kW 470 nF (30 SWG) 80 C4 AF 470 nF L1 2 ZNU4114Z 3 QBC1 547 C1 = 150 pF 1 1R050 W 1C02nF 2V5R01W RF 1C003 nF

(ก) วงจร (ข) ขดลวด L1 พนั บนแกนเฟอร์ไรต์ รูปท่ี 4.8 วงจรเคร่ืองรบั วิทยุ AM แบบ TRF ใชต้ วั IC เบอร์ ZN414Z ประกอบร่วมวงจรใชง้ าน จากรูปที่ 4.8 แสดงวงจรเครื่องรับวิทยุ AM แบบ TRF ใชต้ วั IC เบอร์ ZN414Z เขา้ มา ร่วมทางานในวงจรเคร่ืองรับ วิทยุ AM อุปกรณป์ ระกอบวงจรแตล่ ะส่วนทาหนา้ ที่ ดงั น้ี ตวั L1, C1 ตอ่ เป็นวงจรเรโซแนนซแ์ บบขนาน ทาหนา้ ทีเ่ ลอื กความถว่ี ิทยคุ ล่ืนพาห์ AM ทตี่ อ้ งการเพียง 1 สถานีตรง กบั ค่าความถี่เรโซแนนซ์ของวงจร โดย L1 ยงั ทาหน้าที่เป็นสายอากาศเคร่ืองรับวิทยุ รับสัญญาณความถ่ีวิทยุ AM ทุกสถานีท่ี รบั ได้ ตวั C1 ปรับเปล่ยี นค่าได้ เพอ่ื ปรบั เลอื กความถ่วี ิทยุ AM ใหผ้ ่านไปไดเ้ พียง 1 สถานี ทีต่ รงกบั ค่าความถ่ีเรโซแนนซ์ของ วงจร ตวั IC เบอร์ ZN414Z (U1) ทาหนา้ ที่เป็นภาคขยายสัญญาณความถี่วิทยุคล่ืนพาห์ AM ที่รับเขา้ มาให้แรงข้ึน ภายใน ประกอบดว้ ยภาคขยายความถว่ี ทิ ยุ (RF) หลายภาค พรอ้ มท้งั มวี งจรดีเทกเตอร์ประกอบร่วมดว้ ย ตวั R1, C2 เป็นตวั กาหนดการลดไบแอสทีจ่ ะป้อนให้อนิ พตุ ขา 2 ตวั U1 ตวั C3 ทาหนา้ ทีเ่ ป็นวงจรกรองความถี่วิทยุ โดยการกาจดั ความถี่วิทยุคลื่นพาห์ AM ทีย่ งั เหลืออยู่ใหห้ มดไป เหลือ เฉพาะความถเี่ สียงออกมา ตวั C4 ทาหน้าที่เป็นวงจรเชื่อมต่อสัญญาณเสียงที่ส่งมาจากตวั U1 ให้ผ่านไป และป้องกนั แรงดนั ไฟฟ้ากระแสตรง ไมใ่ ห้ผ่าน ตวั R2 ทาหนา้ ที่เป็ นวงจรกาหนดแรงดนั ไฟฟ้ากระแสตรงจ่ายให้ตวั U1 ทางาน ตวั Q1, R3, R4, และ R5 ทาหนา้ ทีเ่ ป็ นวงจรขยายสญั ญาณเสียง ตวั VR1 ทาหนา้ ทเ่ี ป็นวงจรควบคุมความดงั เสียง (Volume Control) ปรับเร่งลดความดงั เสียงที่ส่งไปใหห้ ูฟัง ตัว C5 ทาหน้าท่ีเป็ นวงจรเช่ือมต่อสัญญาณเสียงท่ีส่งมาจากภาคขยายเสียง ให้ผ่านไปให้หูฟัง และป้องกัน แรงดนั ไฟฟ้ากระแสตรงไมใ่ ห้ผ่าน การทางานของวงจรเคร่ืองรบั วทิ ยุ AM แบบ TRF ใชต้ วั IC เบอร์ ZN414Z ร่วมทางาน อธิบายได้ ดงั น้ี สายอากาศรับสัญญาณความถี่วิทยุคล่ืนพาห์ AM ทุกสถานีเข้ามาท่ี L1 ไปตกคร่อมวงจรปรับเลือกความถ่ีวิทยุ ประกอบด้วย L1, C1 ท่ีต่อเป็นวงจรเรโซแนนซ์แบบขนาน เลือกความถ่วี ิทยุคลน่ื พาห์ AM ที่ตอ้ งการเพียง 1 สถานีตรงกบั คา่ ความถเี่ รโซแนนซ์ของวงจร การปรบั เลือกคา่ ความถี่เรโซแนนซ์ปรับเปล่ียนที่ตวั C1 ส่งผ่านความถ่ีวทิ ยุคลน่ื พาหท์ ่รี ับเขา้ มา ไปให้ตวั U1 ท่ีขา 2 ทาการขยายความถวี่ ิทยุคลื่นพาห์ AM ทีร่ ับเขา้ มาใหม้ ีความแรงมากข้ึน ส่งต่อความถี่วิทยุคลื่นพาห์ต่อให้ วงจรดเี ทกเตอร์ ทาการตดั สัญญาณความถี่วิทยคุ ล่ืนพาห์ AM ทีร่ บั มาซีกลบท้ิงไป เหลอื ซีกบวกส่งออกเอาตพ์ ุตท่ีขา 3 ของตวั U1 ไปให้ตวั C3 ทาหนา้ ท่ีเป็นวงจรกรองความถ่วี ิทยุคลนื่ พาห์ AM ที่ติดมาดว้ ยออกไป เหลอื เฉพาะความถี่เสียงส่งตอ่ ไป ผา่ น ตวั C4 เป็ นวงจรเช่ือมต่อสญั ญาณเสียงไปให้วงจรขยายเสียงประกอบดว้ ยตวั Q1, R3, R4, และ R5 ทาการขยายสญั ญาณ เสียง ในรูปสัญญาณไฟฟ้าให้แรงมากข้ึนส่งผา่ นตวั C5 เป็นวงจรเชื่อมต่อสัญญาณเสียงไปหูฟัง ไดอะแฟรมหูฟังเกิดการส้ันตาม จงั หวะความถ่ีเสียง เป็นสัญญาณเสียงเหมอื นทางดา้ นเคร่ืองส่งท่สี ่งมา สามารถปรับเร่งลดความดงั เสียงท่จี า่ ยให้หูฟังได้โดย ปรับท่ีโวลมุ่ VR1 ขอ้ เสียของเคร่ืองรบั วทิ ยุ AM แบบ TRF คือ มคี วามยงุ่ ยากในการจดั สร้างและจดั การระบบมาก โดยตอ้ งใช้วงจร ปรับเลือกความถี่จานวนมากชุดเพื่อให้แยกสัญญาณไดด้ ีข้ึน การเพิ่มการขยายสัญญาณความถว่ี ิทยใุ ห้แรงข้ึนเพื่อเพิ่มความ ไวในการรับคลืน่ ไดด้ ขี ้ึนทาได้ยากและมีขีดจากดั เพราะถา้ ขยายมากเกินไปเคร่ืองรับวิทยุ AM แบบ TRF จะถา่ ยทอดสญั ญาณ

ออกอากาศไปแทน เกิดการรบกวนกบั เคร่ืองรับวิทยุ AM เครื่องใกลเ้ คียง สัญญาณเสียงที่รับได้แต่ละสถานีมีความดงั ของ สัญญาณไมเ่ ท่ากนั ดงั บา้ งเบาบา้ งแตกต่างกนั ไป ตามความแรงของสัญญาณคลน่ื วทิ ยุ AM ท่ีรบั ได้ รบั สัญญาณคลื่นวิทยุไดแ้ รง ไดส้ ัญญาณเสียงดงั แรง รับสัญญาณคล่ืนวิทยุไดเ้ บาได้สัญญาณเสียงดงั เบา ทาให้ทุกสถานีท่ีรับได้มีความดงั ของเสียงออกมา แตกต่างกนั เกิดความยุ่งยากในการปรับความดงั เสียง 4.4 เคร่ืองรบั วิทยุ AM แบบซูเปอร์เฮเทอโรดายน์ เครื่องรับวิทยุ AM แบบซูเปอร์เฮเทอโรดายน์ เป็นเคร่ืองรับวิทยุท่ีถูกพฒั นาข้ึนมาจากเคร่ืองรับวิทยุ AM เลือก ความถี่วทิ ยุ (TRF) ให้มคี ุณภาพดขี ้ึน ท้งั ดา้ นความไวในการรับสัญญาณ ดา้ นแยกรบั สญั ญาณแตล่ ะสถานี ดา้ นวงจรปรบั เลือก รับความถว่ี ทิ ยุ ดา้ นการรบกวนเครื่องรับวิทยใุ กลเ้ คียง และดา้ นความดงั ของสัญญาณเสียงท่ีรับไดแ้ ตกตา่ งกนั เครื่องรับวิทยุ AM แบบน้ีนิยมเรียกวา่ เคร่ืองรบั วทิ ยุ AM แบบซูเปอร์เฮท (Superhet AM Receiver) เป็นเคร่ืองรบั วทิ ยุ AM แบบท่นี ิยมใช้ งานอยา่ งแพร่หลายในปัจจุบนั ดว้ ยคณุ สมบตั ทิ ด่ี หี ลายประการ ดงั น้ี 1. มีความไวในการับสญั ญาณวทิ ยแุ ต่ละสถานีดี สามารถรับสัญญาณสถานีเบาๆ ได้ 2. แยกการรบั สัญญาณไดด้ ี เลอื กรบั ความถ่ีสถานีที่ตอ้ งการได้ 3. ไม่เกิดการรบกวนกบั เครื่องรับวิทยุที่อย่ใู กลเ้ คียง 4. สัญญาณท่รี ับไดม้ คี วามชดั เจนดี ไม่ผดิ เพ้ยี น 5. มรี ะดบั ความดงั ของสญั ญาณเสียงทีร่ ับไดท้ ุกสถานีใกลเ้ คียงกนั 6. สามารถนาหลกั การของซูเปอร์เฮทไปพฒั นาใช้งานกบั ระบบส่ือสารดว้ ยคลื่นวิทยุแบบอ่ืนๆ ได้ เช่น เครื่องรับ วทิ ยุกระจายเสียง FM เครื่องรับโทรทศั น์ และเครื่องรับส่งวิทยุส่ือสารชนิดตา่ งๆ เป็นตน้ หลกั การทางานของเครื่องรบั วทิ ยุ AM แบบซูเปอร์เฮเทอโรดายน์ เป็นดงั น้ี 1. นาสญั ญาณความถว่ี ิทยุจากสถานีท่ีรบั เขา้ มา กบั สญั ญาณความถ่ีวิทยุท่ีถูกกาเนิดข้ึนมาภายในเคร่ืองรับวิทยุไป ทาการเฮเทอโรดายน์ (Heterodyne) กนั ภาคเฮเทอโรดายน์น้ีถกู เรียกวา่ ภาคมกิ เซอร์ 2. วงจรปรับเลือกความถี่วทิ ยุ ถูกติดต้งั ไวใ้ นส่วนก่อนหนา้ ภาคท่ีจะทาเฮเทอโรดายน์เท่าน้นั และตอ้ งให้ทาการ เลือกรบั สัญญาณวทิ ยุจากสถานีส่งโดยตรง 3. หลงั จาการทาเฮเทอโรดายน์แลว้ จะถูกวงจรเลือกรับความถ่ีเลอื กรับเฉพาะความถี่ผลต่างมีค่าความถ่ีคงที่คา่ หน่ึง เป็นความถีท่ ี่สามารถผา่ นเขา้ ไปทางานไดใ้ นเครื่องรับวิทยุแบบซูเปอร์เฮเทอโรดายน์ ความถี่ท่ีถกู ใชง้ านในเคร่ืองรบั วิทยุแบบน้ี ใชเ้ ป็ นความถี่ผ่านเขา้ เคร่ืองรับวิทยุของทุกสถานีตลอดย่านใช้งานของการส่งกระจายเสียง ดงั น้นั จะสามารถ สร้างวงจรเลือกรับความถ่ีคงท่ี (Fixed Tune Circuit) ไวใ้ นเคร่ืองรับวิทยุแบบซูเปอร์เฮเทอโรดายน์ได้ ความถ่ีท่ีใช้น้ีถูก เรียกวา่ ความถ่ปี านกลาง หรือ IF (Intermediate Frequency) 4. วงจรเลือกรับความถี่ IF ถูกสร้างข้ึนอย่างมิดชิดในกระป๋ องโลหะ เพ่ือช่วยป้องกันการแพร่กระจายคลื่นของ ความถี่ IF ออกไปภายนอกได้ ช่วยป้องกนั การรบกวนกบั เคร่ืองรับวทิ ยุ AM ทอี่ ยูใ่ กลเ้ คียงได้ 5. ความถ่ี IF ทใ่ี ชง้ านเป็นความถ่ใี นยา่ นต่ากว่าความถี่วทิ ยทุ ีใ่ ชเ้ ป็นคลนื่ พาห์ของสถานีเครื่องส่งวทิ ยุ ดงั น้นั ในการ แพร่กระจายคลน่ื ความถ่ี IF ออกไป ก็จะไมท่ าให้เกิดการรบกวนกบั เครื่องรับวิทยทุ อี่ ยู่ใกลเ้ คียง 6. การนาความถี่ IF ไปใช้ในเคร่ืองรับวิทยุแบบซูเปอร์เฮเทอโรดายน์ สามารถสร้างวงจร ขยายสัญญาณความถี่ IF ใหม้ อี ตั ราการขยาย (Gain) สูงๆ ได้ และวงจรขยายสัญญาณทาไดง้ า่ ย เคร่ืองรับวิทยุ AM แบบซูเปอร์เฮเทอโรดายน์ ตามมาตรฐานของคณะกรรมาธิการกิจการสื่อสาร หรือ FCC (Federal Communications Commission) เป็นหน่วยงานมาตรฐานในประเทศสหรฐั อเมริกา กาหนดความถีท่ ่ีใชส้ ่งคลื่นวทิ ยุจากสถานี ส่งวิทยุในช่วงความถี่ 540 - 1,600 kHz ใช้ความถ่ีปานกลาง (IF) ท่ีค่า 455 kHz เป็ นความถี่มาตรฐานทุกสถานีส่ง

วิทยุกระจายเสียง AM ทร่ี ับเขา้ เครื่องรบั วทิ ยุ AM บล็อกไดอะแกรมเครื่องรับวิทยุ AM แบบซูเปอร์เฮเทอโรดายน์ แสดงดงั รูป ที่ 4.9 RF IF IF IF AF AF LO (AGC) รูปที่ 4.9 บลอ็ กไดอะแกรมเคร่ืองรบั วทิ ยุ AM แบบซูเปอร์เฮเทอโรดายน์ จากรูปที่ 4.9 แสดงบล็อกไดอะแกรมเคร่ืองรับวิทยุ AM แบบซูเปอร์เฮเทอโรดายน์ แบ่งออกเป็นภาคการทางาน ต่างๆ แต่ละภาคมหี นา้ ท่ีทางานอธิบายได้ ดงั น้ี ภาคปรับเลอื กความถว่ี ทิ ยแุ ละขยาย หรือจูน RF และขยาย ทาหนา้ ทกี่ าหนดเลือกความถีว่ ิทยคุ ลื่นพาห์ทส่ี ่งมาเพยี ง 1 สถานีผ่านไปได้ ตามการปรับเลือกสถานีของผูฟ้ ัง ความถี่วิทยุคล่ืนพาห์ค่าอ่ืนๆ ท่ีไม่ตอ้ งการจะถูกกาจดั ท้ิงไป และนา ความถว่ี ทิ ยุคล่นื พาหท์ ี่รบั ไดไ้ ปทาการขยายสญั ญาณใหม้ ีความแรงมากข้นึ ก่อนส่งตอ่ ไป ภาคโลคอลออสซิลเลเตอร์ (Local Oscillator) ทาหน้าที่ผลิตความถ่ีวิทยุข้ึนมา มีค่า ความถ่ีและความแรงคงที่ ตลอดเวลา ค่าความถ่ที ี่ผลิตข้ึนมาน้ีสามารถเปลี่ยนแปลงคา่ ไปตามการปรับเลือกความถ่ีวิทยขุ องสถานี (RF) ทรี่ บั เขา้ มา โดย ความถ่ีโลคอลออสซิลเลเตอร์ (LO) จะถูกผลิตข้นึ มามีค่าความถีส่ ูงกว่าความถข่ี องสถานีวิทยุ (RF) ที่รับเขา้ มา เท่ากบั ความถี่ ปานกลาง (IF) คือ 455 kHz เสมอ เช่น ภาคปรบั เลอื กความถว่ี ิทยรุ ับความถ่ี RF เขา้ มา 1,000 kHz ความถ่ี LO จะถูกผลติ ข้นึ มา เทา่ กบั 1,455 kHz เป็นตน้ ค่าความถ่ี LO น้ีสามารถหาไดจ้ ากสูตร ดงั น้ี fLO = fRF + fIF แทนค่า fLO = 1,000 kHz + 455 kHz = 1,455 kHz ภาคมกิ เซอร์ ทาหนา้ ทีผ่ สมคลน่ื ความถีว่ ทิ ยุที่รับเขา้ มาจากภาคปรับเลอื กความถว่ี ิทยุ (fRF) และภาคโลคอลออสซิล เลเตอร์ (fLO) ความถีว่ ิทยุที่ถูกผสมในภาคน้ีไดอ้ อกมาหลายคา่ ดงั น้ี 1. ความถี่วทิ ยจุ ากสถานีวทิ ยุทีร่ บั เขา้ มา (fRF) 2. ความถวี่ ทิ ยทุ ่ีผลิตข้ึนมาจากภาคโลคอลออสซิลเลเตอร์ (fLO) 3. ความถ่วี ิทยุผลบวกระหว่างความถ่วี ิทยจุ ากสถานีวทิ ยทุ ี่รับเขา้ มา (fRF) กบั ความถวี่ ทิ ยทุ ี่ผลติ ข้นึ มาจาก ภาคโลคอลออสซิลเลเตอร์ (fLO) ไดค้ วามถ่วี ิทยุออกมาเป็น (fLO + fRF) 4. ความถี่วทิ ยุผลต่างระหวา่ งความถ่ีวิทยุจากสถานีวิทยุที่รับเขา้ มา (fRF) กบั ความถี่วิทยุท่ีผลติ ข้ึนมาจาก ภาคโลคอลออสซิลเลเตอร์ (fLO) ไดค้ วามถวี่ ทิ ยอุ อกมาเป็น (fLO - fRF) คา่ ความถ่วี ิทยุผลต่างน้ีเองเป็ นค่าความถ่ีปานกลาง (fIF) ที่ ถูกนาไปใชง้ าน สามารถหาไดจ้ ากสูตร ดงั น้ี fIF = fLO - fRF= 455 kHz

ภาคขยายความถ่ีปานกลาง หรือภาคขยาย IF ทาหนา้ ที่กาหนดให้เฉพาะค่าความถ่ีปานกลาง (fIF) ผ่านเขา้ มา โดย วงจรเลือกรับความถี่ปานกลาง (จูน IF) นาความถ่ีน้ีไปทาการขยายสัญญาณให้แรงมากข้ึนโดยไม่เกิดความผิดเพ้ียน โดยปกติ ภาคขยายความถ่ีปานกลางจะมีมากกว่า 1 ภาคข้ึนไป ภาคดเี ทกเตอร์และกรองความถี่ ทาหนา้ ที่ตดั สญั ญาณความถ่ี IF ออกซีกหน่ึง อาจเป็นซีกบวกหรือซีกลบกไ็ ด้ ทา การกรองความถ่ี IF ทง้ิ ไป ใหเ้ หลือเฉพาะความถ่เี สียง (AF) ส่งตอ่ ไปภาคขยายเสียง และมบี างส่วนของสญั ญาณเสียงจะถูก วงจรกรองความถ่ีทาใหเ้ ป็ นแรงดนั ไฟฟ้ากระแสตรงพลิ้ว ส่งป้อนกลบั ไปให้อินพุตภาคขยาย IF หรืออาจถึงภาคมิกเซอร์ ดว้ ย เพื่อควบคุมอตั ราขยายสญั ญาณโดยอตั โนมตั ิ ทาให้ความแรงของสัญญาณความถว่ี ิทยแุ ละความถี่ IF แต่ละสถานีที่รับได้ ส่งออกมามีระดบั ใกลเ้ คียงกนั เรียกการควบคุมโดยอตั โนมตั ิน้ีว่า การควบคุมอตั ราขยายอตั โนมตั ิ (Automatic Gain Control ; AGC) ภาคขยายเสียง ทาหน้าท่ีขยายสญั ญาณเสียงที่รับมาจากภาคดเี ทกเตอร์ให้มีความแรงมากข้ึน โดยสัญญาณเสียงท่ี ถูกขยายยงั มรี ูปสัญญาณคงเดิมไมผ่ ดิ เพ้ยี นไป ส่งต่อไปขบั ลาโพงให้เปลง่ เสียงในรูปอากาศส่ันสะเทอื นท่หี ูคนไดย้ ินออกมา แหล่งจ่ายกาลังไฟฟ้า (Power Supply) เป็นแหล่งกาเนิดแรงดนั ไฟฟ้ากระแสตรง และกระแสไฟฟ้ากระแสตรง ออกมา ตามความตอ้ งการของวงจร แหล่งจ่ายที่ใชง้ านแบง่ ออกไดเ้ ป็น 2 ส่วน ไดแ้ ก่ ส่วนแรกอาจใชแ้ บตเตอรี่ (ถ่านไฟฉาย) จ่ายให้วงจรโดยตรง ส่วนที่สองโดยการนาแหล่งจ่ายไฟฟ้ากระแสสลบั ที่ใชต้ ามบา้ นเรือนมาแปลงให้เป็ นแหล่งจ่ายไฟฟ้า กระแสตรงจ่ายใหว้ งจร 4.5 บทสรปุ เครื่องรับวทิ ยุ AM คอื เครื่องรับวทิ ยุท่สี ามารถใชร้ ับสัญญาณวิทยุท่สี ่งมาจากเครื่องส่งวิทยุกระจายเสียง AM เพือ่ รับฟังขอ้ มูลข่าวสารท่สี ่งกระจายเสียงมาได้ เคร่ืองรับวิทยุ AM ถือไดว้ า่ เป็นเครื่องรับวิทยุแบบเร่ิมตน้ ทถ่ี ูกสรา้ งข้ึนมาใชง้ าน สามารถสร้างเคร่ืองรับวิทยขุ ้ึนมาใชง้ านไดโ้ ดยงา่ ย เพียงใชอ้ ุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพยี งไม่ก่ีชิ้นมาประกอบวงจรร่วมกนั ก็ สามารถรับฟังวิทยุกระจายเสียงในระบบ AM ได้ และยงั ไดม้ ีการพฒั นาระบบเครื่องรับวิทยุ AM อยา่ งตอ่ เน่ืองเรื่อยมาจนถึง ปัจจบุ นั แบ่งการพฒั นาเคร่ืองรบั วทิ ยุ AM ออกไดเ้ ป็น 3 แบบ คอื เคร่ืองรบั วิทยุ AM แบบเบ้อื งตน้ เครื่องรับวิทยุ AM แบบ เลอื กความถวี่ ิทยุ และเคร่ืองรับวทิ ยุ AM แบบซูเปอร์เฮเทอโรดายน์ เคร่ืองรับวิทยุ AM แบบเบ้อื งตน้ เป็นเคร่ืองรบั วิทยุ AM แบบท่สี รา้ งข้ึนมาใชง้ านไดง้ ่าย มีส่วนประกอบของวงจร ไม่มาก แต่มีคุณภาพในการทางานต่า สัญญาณเสียงที่รับออกมาได้เบา ไม่มีวงจรขยายสัญญาณเสียง ทาให้การรับฟัง สัญญาณเสียงตอ้ งใชห้ ูฟังขนาดเลก็ ช่วยในการรับฟัง ส่วนประกอบของเคร่ืองรับวิทยุ AM แบบน้ีแบง่ ออกเป็น 5 ส่วน ไดแ้ ก่ สายอากาศรับคลน่ื วิทยุ ภาคปรับเลอื กความถวี่ ิทยุแต่ละสถานี ภาคดีเทกเตอร์ ภาคกรองความถี่วทิ ยุ และหูฟัง เครื่องรับวิทยุ AM แบบเลือกความถี่วิทยุ (TRF) เป็นเครื่องรับวิทยุที่พฒั นาข้ึนมาจากเครื่องรับวิทยุ AM แบบ เบ้ืองตน้ โดยเพิ่มภาคปรับเลือกความถี่วิทยุต้งั แต่ 1 ภาคข้ึนไป เพื่อทาให้การรับคล่ืนวิทยุแต่ละสถานีมีคุณภาพมากข้ึน และ ความถี่วิทยุคลื่นพาห์สถานีท่ีรับไดม้ ีความแรงเพิ่มข้ึน เพิ่มภาคขยายเสียง เพ่ือให้สัญญาณเสียงท่ีได้ออกมามีความแรงมากพอ สามารถขบั ลาโพงให้เกิดเสียง เครื่องรับวิทยุ AM แบบซูเปอร์เฮเทอโรดายน์ เป็นเคร่ืองรับวิทยุที่ถูกพฒั นาข้ึนมาจากเครื่องรับวิทยุ AM เลือก ความถ่ีวทิ ยุ (TRF) ใหม้ คี ณุ ภาพดขี ้ึน ท้งั ดา้ นความไวในการรับสัญญาณ ดา้ นแยกรับสญั ญาณแตล่ ะสถานี ดา้ นวงจรปรับเลือก รับความถี่วทิ ยุ ดา้ นการรบกวนเครื่องรับวิทยุใกลเ้ คียง และดา้ นความดงั ของสญั ญาณเสียงที่รับไดแ้ ตกตา่ งกนั เคร่ืองรับวิทยุ AM แบบน้ีนิยมเรียกว่า เคร่ืองรบั วิทยุ AM แบบซูเปอร์เฮท เป็นเครื่องรับวิทยุ AM แบบท่ีนิยมใชง้ านแพร่หลายในปัจจบุ นั ดว้ ยคณุ สมบตั ิท่ีดหี ลายประการ ดงั น้ี มคี วามไวในการบั สญั ญาณวทิ ยแุ ต่ละสถานีดี สามารถรับสัญญาณสถานีเบาๆ ได้ แยก

การรับสัญญาณไดด้ ี เลือกรบั ความถีส่ ถานีที่ตอ้ งการได้ ไม่เกิดการรบกวนกบั เครื่องรบั วิทยุท่ีอยู่ใกลเ้ คยี ง สัญญาณท่รี บั ไดม้ ี ความชัดเจนดี ไม่ผิดเพ้ียน มีระดบั ความดงั ของสัญญาณเสียงที่รับไดท้ ุกสถานีใกลเ้ คียงกนั และสามารถนาหลกั การซูเปอร์เฮท ไปพฒั นาใชง้ านกบั ระบบส่ือสารดว้ ยคลืน่ วิทยุแบบอื่นๆ ได้ เช่น เครื่ องรับวิทยุกระจายเสียง FM เคร่ืองรับโทรทศั น์ และ เคร่ืองรับส่งวิทยุส่ือสารชนิดตา่ ง ๆ เป็นตน้