เตารีด ไอ น้ำ ที่ ดี ที่สุด

โดยที่ผู้ใช้สามารถกำหนด ระยะใกล้ หรือไกลระหว่าง ตัวเสื้อผ้า และหน้าเตารีดได้ตามที่ต้องการ โดยเฉพาะผ้าที่มีความหนา และเรียบยาก เราสามารถที่จะ แนบหน้าเตารีดให้ใกล้กับเนื้อผ้า เพื่อให้ไอน้ำสัมผัสกับเนื้อผ้าได้ใกล้มากขึ้น

รวมถึงสายท่อที่ต่อจากหม้อต้มด้านล่าง ส่งต่อไอน้ำขึ้นมายังหน้าเตารีด ที่ยังมีความคล้ายกับเตารีดไอน้ำในแบบเดิมอยู่ การใช้งานหากใครที่เคยใช้เตารีดไอน้ำมาก่อนแล้ว ก็จะเคยชินกับการเปลี่ยนมาใช้เตารีดไอน้ำแบบยืน

ข้อดีของการใช้เตารีดไอน้ำแบบยืน

หลายคนที่ยังคงคุ้นเคยกับการใช้เตารีดไอน้ำแบบทั่วๆ ไปกันอยู่ และมองว่า เตารีดไอน้ำในรูปแบบยืนนั้น คงมีรูปแบบการใช้ และประสิทธิภาพที่เหมือนๆ กัน รวมถึงความกังวลว่า หากเปลี่ยนไปใช้แล้ว จะสามารถใช้ได้ดีเท่าแบบเดิมหรือไม่ และอีกหลายคำถาม ตรงนี้จะเป็นข้อดีที่ได้เปรียบเมื่อเทียบกับเตารีดไอน้ำ ในแบบที่ต้องใช้ที่รองรีด

1.รีดผ้าได้เรียบ

ด้วยความได้เปรียบของการปรับเปลี่ยนรูปทรงเตารีด ให้เป็นแบบแนวตั้ง .โดยมีโครงแขวนเสื้อผ้า เพื่อให้สะดวกในเวลารีดได้มากกว่า การวางเสื้อผ้าลงแนวราบบนที่รองรีด ที่อาจสร้างปัญหาให้กับผู้ที่ไม่ถนัดในการรีดเสื้อ และทำให้บางครั้งการรีดเสื้อ กลายเป็นการทำให้เสื้อผ้าเรายับยิ่งกว่าเดิมอีก

รวมถึงรูปแบบการใช้งานของตัวเตารีด ที่เราสามารถแนบหน้าเตารีดได้ใกล้หรือไกล ตามความต้องการของเรา หรือตามเนื้อผ้า พลังไอน้ำจากหน้าเตารีด ที่มีความแรงเทียบเท่า หรือมากกว่าในบางรุ่น

และบางยี่ห้อของเตารีดไอน้ำ ซึ่งเสื้อผ้าที่มีการรีดที่เรียบ ก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่ง ที่ช่วยเสริมให้เรามีการแต่งกายที่ดูดีขึ้น ดังนั้นเราคงเห็นในรูปแบบการรีดเสื้อเดิมๆ ในอดีต ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาของตัวเตารีด ที่ใช้รีดเสื้อ จากขนาดที่ใหญ่ มีน้ำหนักมาก ต้องใช้ ที่รองรีดผ้า และ น้ำยาอัดกลีบผ้า

2.ไม่ต้องใช้เทคนิคในการรีดผ้า

จุดดีในเรื่องนี้อาจจะเป็นการตอบโจทย์ ได้ตรงกับความต้องการ ของผู้ใช้หลายคนทีเดียว เพราะในแต่ละครั้งของการรีดผ้าในรูปแบบเดิมๆ เราจะต้องกังวลในการวางเสื้อผ้า ลงบนที่รองรีด และต้องวางในรูปแบบไหน การรีดส่วนไหนก่อน ถึงจะไม่ทำให้ส่วนอื่นของเสื้อผ้ายับ

แต่ด้วยโครงสร้างของตัวเตารีดไอน้ำแบบยืน ที่เน้นโครงแขวนในแนวตั้ง ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าในรูปแบบไหนก็ตาม เราสามารถรีดได้ทั่วทั้งชุด โดยที่ไม่ทำให้ส่วนไหนของเสื้อผ้ายับซ้ำซ้อนได้อีก โดยเฉพาะการชุดราตรี หรือชุดที่มีการกลีบรอบตัว อย่างกระโปรงอัดพลีท เป็นต้น

3.ใช้เวลาน้อย

ด้วยความที่มีการใช้งานที่ง่ายกว่า ทำให้ช่วยลดเวลาสำหรับเสื้อผ้าที่รีดยากๆ ซึ่งรวมถึงการใช้ไฟที่น้อยลง ใช้เวลาน้อยกว่า แต่ได้จำนวนเสื้อผ้าที่รีดเท่าเดิม หรือมากกว่าเดิมอีกด้วย

4.เหมาะกับชุดที่รีดยาก

หากใครที่เคยผ่านไปร้านขายเสื้อผ้าแบบส่ง หรือร้านขายเสื้อผู้หญิงแบบ ชุดเดรส หรือชุดราตรีก็ตาม เราจะเห็นว่าร้านเหล่านี้มีการนำเอา เตารีดไอน้ำในรูปแบบยืนนี้เข้ามาใช้แทนที่ เตารีดแบบใช้ที่รองรีด

เพราะนอกจากรูปแบบชุดเสื้อผ้า ที่รีดยากทั้งการเข้ารีตถึงมุมตามจุดต่างๆ ของเสื้อผ้าแล้ว ตัวเนื้อผ้าของเสื้อผ้าผู้หญิง ที่ส่วนใหญ่จะมีทั้ง ความหนา และเรียบยากอย่าง ผ้าลินิน หรือเนื้อผ้าที่บางมากอย่าง ชีฟอง ซึ่งการที่จะทำให้เรียบ และไม่เป็นอันตรายต่อเนื้อผ้า หากเป็นการใช้เตารีดไอน้ำแบบเดิม ก็อาจจะทำให้รีดได้ช้า และไม่เรียบเท่ากับเตารีดไอน้ำในแบบยืน

5.แผ่นหน้าเตารีดไม่เกิดคราบ

เป็นผลดีจากการเปลี่ยนรูปแบบการใช้ จากที่ต้องวางหน้าเตารีดทับกับตัวเนื้อผ้า มาเป็นการที่ผู้ใช้งานจับ และปล่อยไอน้ำในแนวตั้งโดยตรงกับตัวเนื้อผ้า และอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยเลี่ยงการเกิดคราบบนหน้าเตารีดได้คือ การที่เตารีดไอน้ำรุ่นนี้ ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้น้ำยารีดเสื้อ หรือน้ำยาอัดกลีบอีกต่อไป

ถึงแม้บางรุ่นของเตารีดไอน้ำในรูปแบบยืนนี้ จะระบุว่าสามารถใช้ได้ก็ตาม เพราะด้วยพลังไอน้ำที่มีอย่างต่ำ 30 กรัมต่อนาที และสามารถปรับเพิ่มระดับได้อีก รวมถึงกำลังไฟที่ขั้นต่ำอยู่ที่ 1600 วัตต์นั้น สามารถทำให้เสื้อผ้าเรียบได้แบบง่ายๆ โดยไม่ต้องพึ่งน้ำยารีดเสื้อให้เรียบ

ปัญหาในการใช้เตารีดไอน้ำแบบยืน

1.คอยปรับระดับความร้อน 

ในการใช้งานปกตินั้น เราคงรู้กันอยู่แล้วว่า ทั้งในเตารีดไอน้ำแบบเดิม และเตารีดไอน้ำในแบบยืนนี้ เราจะรู้ระดับความร้อนที่ควรใช้ในแต่ละเนื้อผ้ากันอยู่แล้ว อย่างเช่น เนื้อผ้าบางมาก อย่างผ้าชีฟอง ก็ควรใช้ระดับความร้อนเริ่มต้น หรือผ้ายีนส์ก็ควรเพิ่มระดับความร้อนมากขึ้น

แต่สำหรับเตารีดไอน้ำในแบบยืน หากมีการเติมน้ำที่หม้อต้มในปริมาณที่เกินครึ่งหม้อ ในช่วงแรกของการรีดผ้า ระดับความร้อนจะเป็นตามที่เราตั้งไว้ แต่ด้วยปริมาณน้ำที่มาก อาจทำให้เกิดความร้อนที่เพิ่มมากขึ้นได้

ตรงนี้ผู้ใช้จึงควรระวัง และคอยดูปริมาณไอน้ำที่ออกมาจากหน้าเตารีด ว่ามีทั้งความร้อน และตัวไอน้ำที่มากขึ้นหรือไม่ หากใช่ควรที่จะปรับลงระดับความร้อนลงมา

2.ความจำกัดในการเคลื่อนย้ายขณะรีดผ้า

ข้อนี้อาจจะเป็นสำคัญรวมถึงข้อที่ผู้ใช้ควรระวังร่วมด้วย ถึงแม้จะดูว่าเป็นข้อจำกัดของการใช้งาน เตารีดไอน้ำในรูปแบบนี้ก็ตาม ในการใช้งานเตารีดไอน้ำแบบใช้ ที่รองรีดผ้า นั้น เราอาจจะมีการเสียบเตารีดไอน้ำ

กับ รางปลั๊กไฟ และสามารถที่จะเคลื่อน หรือเลื่อนตัวที่รองรีดได้บ้าง ตามความยาวของสายเตารีดไอน้ำ แต่ในขณะที่เราเปลี่ยนมาใช้เตารีดไอน้ำในรูปแบบยืนแล้วนั้น เราไม่สามารถที่จะเคลื่อนย้ายโครงที่แขวนเสื้อผ้า

ในขณะที่เตารีดไอน้ำทำงานอยู่ได้ ซึ่งการใช้งานในรูปแบบนี้ อาจส่ผลเสีย และอันตรายต่อผู้ใช้งานได้ ถึงแม้ผู้ใช้อาจจะไม่คุ้นเคย แต่การปลอดภัยไว้ก่อนจะเป็นการดีที่สุด

3.ความยาวของสายท่อที่มีจำกัด

หากจะเปรียบเทียบสายท่อส่งไอน้ำ ที่เชื่อมต่อหม้อต้มด้านล่าง กับหน้าเตารีดของเตารีดไอน้ำในรูปแบบยืน กับเตารีดไอน้ำในแบบเดิม อาจจะมีความสั้นกว่า ซึงในความที่สายท่อสั้นกว่านี่เอง ที่จะทำให้หลายคนอาจจะยังไม่คุ้นชิน

และเหมือนในการรีดแต่ละครั้งสายท่อจะตึง ซึ่งไม่เหมือนสายเตารีดไอน้ำแบบใช้ที่รองรีด ที่มีความยาวกว่า และสามารถเคลื่อนย้ายตัวที่รองรีดได้บ้าง และความจำกัดในเรื่องนี้นี่เอง ที่ทำให้ในขณะใช้งานเตารีดไอน้ำรูปแบบยืน จึงไม่ควรที่จะเคลื่อนย้ายโครงแขวนเสื้อ และตัวเตารีดร่วมด้วย

วิธีเลือกซื้อเตารีดไอน้ำแบบยืน

1.เลือกขนาดของหม้อต้ม

เราสามารถที่จะกะปริมาณ หรือจำนวนในการรีดเสื้อผ้าในแต่ละครั้ง ซึ่งการเลือกขนาดของหม้อต้ม ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ใช้ในการพิจารณเลือกซื้อ หากเรามีการรีดเสื้อต่อครั้งในจำนวนที่มาก หรือใช้เวลาในการรีดเกิน 1 ชั่วโมง หรือใกล้เคียง การเลือกซื้อขนาดของหม้อต้มตั้งแต่ 1.7 ลิตรขึ้นไป ก็เป็นขนาดที่เหมาะสมกับการใช้งาน และสะดวกที่จะไม่ต้องคอยเติมน้ำลงหม้อต้มเรื่อยๆ อีกด้วย

2.พลังความแรงของไอน้ำ

หลายคนจากที่เคยใช้เตารีดไอน้ำในรูปแบบเดิมๆ นั้น คงมีคำถามกับเรื่องของ การใช้งานเตารีดไอน้ำในรูปแบบยืนนั้น จะรีดเสื้อได้เรียบหรือไม่ จุดสำคัญคือ การเลือกดูที่พลังไอน้ำ ที่ส่วนใหญ่แล้ว เตารีดไอน้ำในรูปแบบนี้ จะเริ่มต้นที่ความแรงของไอน้ำในระดับ 30 กรัมต่อนาที หรือมีความสามารถที่จะช่วยให้เสื้อเรียบได้เร็วมากขึ้น ก็เลือกซื้อที่การให้พลังไอน้ำในระดับ 35 กรัมต่อนาที ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่สูงเพียงพอแล้ว

3.กำลังไฟ

โดยปกติแล้วการที่จะให้เสื้อผ้าเรียบนั้น สำหรับเตารีดไอน้ำขึ้นอยู่ที่ปัจจัย 2 อย่างคือ พลังไอน้ำ และกำลังไฟที่ใช้ในการให้ความร้อน และสิ่งที่ผู้ซื้ออาจจะต้อง พิจารณาในการเลือกซื้อเตารีดไอน้ำในรูปแบบนี้ ควบคู่ไปกับการพิจารณาพลังไอน้ำไปด้วยก็คือ กำลังไฟ หรือจำนวนวัตต์นั่นเอง ส่วนใหญ่แล้วในระดับมาตรฐานจะเริ่มต้นที่ 1600 วัตต์ หรือถ้าต้องการให้มากขึ้นก็จะอยู่ที่ 1800-2000 วัตต์ ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่ใช้ได้ดีเลยทีเดียว

คำถามที่พบบ่อยของเตารีดไอน้ำแบบยืน FAQS

เตารีดไอน้ำแบบยืนใช้ดีไหม

การปรับเปลี่ยนหน้าเตารีด และวิธีการใช้ของเตารีด ที่เป็นในรูปแบบตั้ง และเราสามารถที่จะจับหัวเตารีด เพื่อกะไอน้ำให้ออกมาใกล้เสื้อผ้าได้เท่าไหร่ เป็นรูปแบบที่ทำให้การใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสะดวกสบายในการรีดผ้า

ที่ไม่จำเป็นต้องกางเสื้อผ้าบนที่รองรีดอีกต่อไป รวมถึงในอดีตเราอาจจะมีความกังวล เรื่องการซักผ้าผ่าน เครื่องซักผ้า , เครื่องซักผ้าฝาหน้า หรือ เครื่องอบผ้า นั้น

ความกังวลทั้งหมดเหล่านี้ จะทำให้เกิดการยับบนเนื้อผ้ามาก และทำให้การรีดเสื้อยากมากขึ้น แต่สำหรับผู้ที่ใช้เตารีดไอน้ำในรูปแบบแนวตั้ง ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องความยับของเสื้อผ้า ว่าจะมีมากน้อยแค่ไหน

เพราะการปรับเปลี่ยนรูปแบบของตัวเตารีด ให้เป็นการแขวนเสื้อผ้ากับโครงแนวตั้งแทน ที่จะวางราบบนที่รองรีด ทำให้สอดคล้องกับไอน้ำที่ออกมา และช่วยให้เนื้อผ้าเรียบได้ง่ายกว่าการรีดผ้าด้วยเตารีดไอน้ำในแบบเดิมๆ

เตารีดไอน้ำแบบยืนรีดผ้าเรียบไหม

ด้วยความเคยชินของการใช้งานเตารีดไอน้ำ ในรูปแบบเดิมที่ต้องมีที่วางรีดเสื้อ และใช้การกดทับของเตารีดร่วมกับ ตัวไอน้ำที่ออกมาเพื่อช่วยให้เสื้อผ้าเกิดความเรียบขึ้นนั้น ทำให้เราคิดว่า การรีดเสื้อในรูปแบบแนวตั้ง จะทำให้เสื้อเรียบได้อย่างไร หรือเรียบแต่อาจจะเรียบได้ไม่เท่ากับการรีดเสื้อ โดยใช้เตารีดไอน้ำในแบบเดิมๆ

โดยเฉพาะสำหรับเสื้อผ้าบางตัว ที่เป็นเนื้อผ้าที่บางอย่างชีฟอง ที่มีความบางมาก ความระวังในการใช้ความร้อนก็ต้องมีมากตามไปด้วย และผ้าที่เนื้อหนา เรียบยากอย่างลินิน ก็ต้องอาศัยเทคนิคในการรีดเฉพาะตัว ชุดเดรส หรือชุดราตรี ที่เป็นชิ้นเดียวกันทั้งตัว ปัญหาในการวางพาดบนที่วางรีดในแบบเดิมๆ ก็จะเกิดปัญหาที่เกิดรอยยับใหม่ขึ้นเรื่อยๆ ที่รีดไม่เสร็จเสียที

แม้แต่เสื้อผ้าที่เรามองว่า เป็นแบบเสื้อผ้าที่รีดได้ง่ายๆ อย่าง กางเกงสแล็ค , ผ้ากันเปื้อน หรือผ้าคลุมให้นม ก็ตาม ก็อาจต้องใช้เวลาในการรีดกว่าที่จะเรียบได้ ปัญหาที่เกิดจากรูปแบบการรีดเสื้อ และเตารีดแบบเดิมๆ ทำให้เกิดการคิดค้น และผลิตเตารีดไอน้ำแบบใหม่ขึ้นมา ที่ในวันนี้ความกังวล ไม่ว่าจะเป็นของคนทำงาน หรือแม่บ้าน จะหมดไปในทันที

เพราะในความจริงแล้ว เตารีดไอน้ำแบบยืนนั้น มีพลังไอน้ำที่มีระดับพลังไอน้ำอย่างต่ำอยู่ที่ 30 กรัมต่อนาที และยังสามารถปรับระดับเพิ่มขึ้นได้ ตามเนื้อผ้าที่มีความหนา และเรียบยาก อีกทั้งกำลังไฟที่มีค่าอย่างต่ำอยู่ 1600 วัตต์

ซึ่งขึ้นอยู่กับรุ่น และยี่ห้อของเตารีดไอน้ำในรูปแบบยืน รูปแบบเตารีด ที่เราสามารถจับ ให้ไอน้ำพ่นใกล้ หรือไกลห่างจากตัวเสื้อผ้าได้ที่เราต้องการ สิ่งเหล่านื้คือ ส่วนสำคัญ ที่เตารีดไอน้ำในรูปแบบใหม่นี้มีเพิ่มมากขึ้นจากเตารีดไอน้ำแบบเดิม และเป็นสิ่งที่ช่วยให้การรีดผ้าได้เรียบ และง่ายกว่าเดิม

เตารีดไอน้ำแบบยืนไม่ค่อยร้อนเท่าเตารีดไอน้ำแบบอื่นหรือไม่

โดยปกติแล้วหน่วยวัดความร้อน หรือพลังไอน้ำของเตารีดไอน้ำจะวัดกันเป็นหน่วยต่อนาที และสำหรับเตารีดไอน้ำในรุ่นทั่วๆ ไปนั้น จะมีระดับการให้ไอน้ำเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 20 กรัมต่อนาที

แต่สำหรับเตารีดไอน้ำในรูปแบบยืนนั้น จะมีการให้พลังไอน้ำเริ่มต้นที่ 30 กรัมต่อนาทีเป็นอย่างน้อย ที่สำคัญมีตัวปรับระดับ หรือ volume ได้มากถึง 5 ระดับเลยทีเดียว ดังนั้นปัญหาเรื่องความไม่ร้อนในขณะรีดเสื้อ หรือให้พลังไอน้ำได้ไม่ร้อนเท่าเตารีดไอน้ำแบบทั่วไป จึงไม่เป็นเรื่องจริง

เตารีดไอน้ำแบบยืนมีราคาแพงกว่าเตารีดไอน้ำรูปแบบอื่นๆ หรือไม่

หากเราเปรียบเทียบราคากัน จะรู้เลยว่าราคาเทียบเท่า หรืออยู่ในระดับเดียวกัน ในบางรุ่น และยี่ห้อของเตารีดไอน้ำรูปแบบธรรมดา จะมีราคาที่สูงกว่าเตารีดไอน้ำแบบยืนอีกด้วย

โดยส่วนใหญ่แล้ว ระดับราคาสำหรับเตารีดไอน้ำในแบบนี้ จะอยู่ระดับที่หลัก 2,000-4,000 โดยส่วนใหญ่ ที่ถือว่าเป็นระดับกลางๆ ที่ไม่แพงมากเกินไป และในส่วนของเตารีดไอน้ำแบบทั่วๆ ไป ที่มียี่ห้อก็จะอยู่ในระดับราคาเท่านี้เช่นเดียวกัน

รีวิวเตารีดไอน้ำแบบยืน Philips gc558

สรุป

เราคงเคยมองดูว่า งานรีดผ้าเป็นงานที่ใครหลายคนต้องบอกว่า ไม่ใช่เรื่องถนัด เพราะไม่เพียงแต่ต้องรีดให้เรียบแล้ว การรีดให้จับจีบ มีความเรียบทั่วเสมอกันทั้งตัวเสื้อ กางเกง และกระโปรงนั้น ถือว่าเป็นงานละเอียด ที่ต้องอาศัยประสบการณ์ และความชำนาญเฉพาะ

เตารีดไอน้ํา ยี่ห้อไหนดี 2023

เตารีดไอน้ำแรงดันสูงยี่ห้อไหนดีที่สุด

เตารีดไอน้ำยี่ห้อไหนดีราคาถูก

เตารีดไอน้ำแบบยืน ยี่ห้อไหนดี