บ้านเชียงเป็นแหล่งโบราณคดีที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ซึ่งค้นพบว่าเคยเป็นที่อยู่อาศัยและที่ฝังศพของคนก่อนประวัติศาสตร์ยุคโลหะเมื่อราว 5,000 กว่าปีมาแล้ว มีความเจริญก้าวหน้าทางวัฒนธรรมและเทคโนโลยีสูงมาแต่โบราณ ชาวบ้านเชียงโบราณเป็นชุมชนยุคโลหะที่รู้จักทำการเกษตรกรรม เลี้ยงสัตว์ นิยมทำเครื่องมือเครื่องใช้และเครื่องประดับจากสำริดในระยะแรก และรู้จักใช้เหล็กในระยะต่อมาแต่ก็ยังคงใช้สำริดควบคู่กันไป Show ชาวบ้านเชียงรู้จักทำเครื่องปั้นดินเผาเป็นภาชนะสีเทาทำเป็นลายขูดขีด ลายเชือกทาบ และขัดมัน รู้จักทำภาชนะดินเผาลายเขียนสีรูปทรงและลวดลายต่าง ๆ มากมาย กรมศิลปากรได้ส่งเครื่องปั้นดินเผาที่ขุดพบที่บ้านเชียงนี้พบว่ามีอายุประมาณ 5,000-7,000 ปีซึ่งเครื่องปั้นดินเผาลายเขียนสีที่พบที่บ้านเชียงนี้ นับว่ามีอายุเก่าแก่กว่าที่ค้นพบที่ประเทศสาธารณรัฐจีนและอาจจะเก่าแก่ที่สุดในโลกก็เป็นได้ การค้นพบโบราณวัตถุที่มีความสำคัญทางโบราณคดีและก่อนประวัติศาสตร์ในบริเวณหมู่บ้านเชียงนั้น เริ่มต้นเมื่อประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๐ เมื่อราษฎรชาวบ้านเชียงบางคนสังเกตเห็นและมีความสนใจเศษภาชนะดินเผาที่มีลวดลายเขียนสีแดงที่มักพบเสมอ เมื่อมีการขุดพื้นดินในบริเวณหมู่บ้าน จึงได้นำไปเก็บรักษาไว้ที่โรงเรียนประชาบาลประจำหมู่บ้านและจัดแสดงให้ผู้คนสนใจได้เข้าชมชื่อโบราณวัตถุ :ภาชนะดินเผาเขียนสีแบบศิลปะ :สมัยก่อนประวัติศาสตร์ชนิด : ดินเผาขนาด :สูง 48.8 เซนติเมตร ปากกว้าง 35.4 เซนติเมตรอายุสมัย :วัฒนธรรมบ้านเชียงสมัยปลาย 2,300 - 1,800 ปีมาแล้วลักษณะ :ภาชนะดินเผาก้นกลม ปากผายออก มีการตกแต่งด้วยการเขียนสี เต็มทั้งใบสภาพ :...ประวัติ :...สถานที่จัดแสดง :พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ บ้านเชียง จังหวัดอุดรธานีคิวอาร์โค้ด สำหรับเข้าถึงระบบฐานข้อมูล :
จากผลการตรวจหาอายุเดิมด้วยวิธีทางวิทยาศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนียระบุว่า ภาชนะดินเผาลายเขียนสีบ้านเชียงมีอายุ 7,000-5,000 ปีมาแล้ว รวมทั้งผลการตรวจหาอายุที่มหาวิทยาลัยนารา ประเทศญี่ปุ่น ก็ได้รับผลว่ามีอายุราว 6,400 ปีมาแล้วเช่นกัน แต่จากการศึกษาวิเคราะห์เพิ่มเติมในภายหลัง ทำให้ได้ข้อมูลใหม่ว่า ภาชนะดินเผาลายเขียนสีแดงที่บ้านเชียง มีอายุราว 2,300-1,800 ปีมาแล้วเท่านั้น (คือ ยุคก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลาย ที่มีการใช้เหล็กทำเครื่องมือเครื่องใช้แพร่หลาย และมีเครื่องประดับที่ทำด้วยสำริดประณีตและซับซ้อนมากขึ้นแล้ว) เครื่องปั้นดินเผาบ้านเชียง เป็นเครื่องปั้นดินเผาของไทยสมัยก่อนประวัติศาสตร์ ที่ขุดพบได้ที่หมู่บ้านบ้านเชียง จ.อุดรธานี แบ่งออกเป็น 3 สมัย 1.เครื่องปั้นดินเผาบ้านเชียงสมัยต้น (อายุประมาณ 5,600 – 3,000 ปี)
3.เครื่องปั้นดินเผาบ้านเชียงสมัยปลาย (อายุประมาณ 2,300 – 1,800 ปี) แหล่งโบราณคดีบ้านเชียงได้จดทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี พ.ศ. 2535 ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญครั้งที่ 16 ที่เมืองแซนตาเฟ ประเทศสหรัฐอเมริกา “เครื่องปั้นดินเผาบ้านเชียง”เป็นโบราณซึ่งเป็นหลักฐานทางประวัติสาสตร์ชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นหลักฐานชั้นต้น ซึ่งมีความน่าเชื่อถือมากว่าเป็นสิ่งที่บรรพบุรุษของมนูษย์เคยสร้างขึ้น ส่วนรายละเอียดต่างๆจะแน่ชัดหรือถูกต้องเพียงใดก็ขึ้นอยู่กับวิธีการทางวิทยาสาสตร์ด้วย เครื่องปั้นดินเผาบ้านเชียง เกิดยุคใดศิลปะเครื่องปั้นดินเผาของบ้านเชียงนั้น สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ยุค ได้แก่ ภาชนะดินเผาสมัยต้น อายุ 5,600–3,000 ปี มีลายเชือกทาบ ซึ่งคาดกันว่าเป็นปอกัญชา ทั้งยังมีลายขูดขีด และมีการเขียนสีบ่า โดยพบวางคู่กับโครงกระดูก บางใบใช้บรรจุศพเด็ก และยังมีประเพณีการฝังศพ โดยการฝังสิ่งของเครื่องใช้ลงไปเช่น ขวาน ใบหอก เป็นต้น
เครื่องปั้นดินเผาบ้านเชียง กี่ปีอายุสมัย : วัฒนธรรมบ้านเชียงสมัยปลาย 2,300 - 1,800 ปีมาแล้ว ลักษณะ : ภาชนะดินเผาก้นกลม ปากผายออก มีการตกแต่งด้วยการเขียนสี เต็มทั้งใบ
เครื่องปั้นดินเผาลายบ้านเชียงภาคอะไร"เครื่องปั้นดินเผาบ้านเชียง" แหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่มีอายุกว่า 3,500 ปีที่สำคัญของประเทศไทย เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกคือแหล่งโบราณคดีบ้านเชียง ที่ตำบลบ้านเชียง อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี ซึ่งได้มีการค้นพบแหล่งโบราณคดี รวมถึง "เครื่องปั้นดินเผาบ้านเชียง"
เครื่องปั้นดินเผาเกี่ยวกับยุคสมัยใดคนไทยรู้จักท าเครื่องปั้นดินเผามาตั้งแต่ยุคหินกลาง โดยนักประวัติศาสตร์ได้ขุดพบเครื่องปั้นดินเผา ณ แหล่งโบราณคดีบ้านเชียง ซึ่งยูเนสโกได้ประกาศให้เป็นมรดกโลก จากนั้นก็พัฒนาการมาเป็นล าดับ ตั้งแต่ สมัยทวารวดี ศรีวิชัย สุโขทัย อยุธยา ธนบุรี จนถึงรัตนโกสินทร์ แม้บางครั้งจะได้รับอิทธิพลจากภายนอก แต่ ก็สามารถคลี่คลาย ประดิษฐ์ ...
|