แบ ต Apple Watch 3 หมดเร็ว

เราตกอยู่ในอาการเมาค้างหลังประเด็นสำคัญและแน่นอนว่าเรายังคงค้นพบรายละเอียดใหม่ ๆ เกี่ยวกับสายฝนที่ Tim Cook และเพื่อนร่วมงานของเขานำเสนอให้เราเมื่อวานนี้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้น Steve Jobs Theaterที่ฉันต้องการเป็นห้องนั่งเล่นในบ้านของฉันอยู่แล้ว

คราวนี้เราจะมาพูดถึง Apple Watch Series 3 ใหม่และโดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่ทำให้ผู้ใช้แต่ละคนกังวลอยู่เสมอ ระยะเวลาของแบตเตอรี่a.

ดัชนี

Apple Watch Series 3 แบตอึดทั้งวัน?

ตามข้อมูลที่ Apple ให้ไว้ Apple Watch Series 3 ใหม่มี "อายุการใช้งานแบตเตอรี่ตลอดทั้งวัน" โดยอิงจากการใช้งานประจำวัน 18 ชั่วโมง และในการทำเช่นนี้เขาใช้การแสดงออกที่น่าดึงดูดพอ ๆ กับที่ไม่ชัดเจน: “ ถึงเวลากินข้าวแล้ว”. อย่างไรก็ตามความจริงก็คือในไม่ช้าผู้ใช้จำนวนมากจะเริ่มบ่นว่านาฬิกาของพวกเขาไม่ได้ใช้งานตลอดทั้งวันนั่นคือเรายืนยันว่าข้อมูลนี้อ้างอิงจากการใช้งานเฉพาะในลักษณะที่ยิ่งใช้งานน้อยลง เอกราช ยิ่งไปกว่านั้นในบางกรณี แบตเตอรี่ของรุ่น LTE จะหมดเร็วขึ้น.

เพื่อสร้างสิ่งนั้น เอกราช 18 ชั่วโมง สำหรับ Apple Watch Series 3 จะมีการวัดการใช้งานซึ่งรวมถึงการตรวจสอบเวลา 90 ครั้งการรับการแจ้งเตือน 90 ครั้งการใช้แอปพลิเคชันที่แตกต่างกัน 45 นาทีและการฝึกอบรม 30 นาทีพร้อมกับการเล่นเพลง และรุ่น LTE ยังมีการเชื่อมต่อ LTE สี่ชั่วโมงและการเชื่อมต่อกับ iPhone 14 ชั่วโมงผ่านการเชื่อมต่อบลูทู ธ

สมัครสมาชิกช่อง Youtube ของเรา

แต่ความจริงก็คือ เมื่อคุณใช้ Apple Watch เพื่อพูดคุยหรือออกกำลังกายอายุการใช้งานแบตเตอรี่จะสั้นกว่าที่คุณใช้ การเชื่อมต่อ LTE ในทางกลับกันสิ่งที่ไม่ควรทำให้เราประหลาดใจมากเกินไปเนื่องจากเหตุผลแล้วการเชื่อมต่อเพิ่มเติมหมายถึงการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้น แต่ก็อาจจะน้อยที่สุด

ว่ายน้ำพูดฟัง ... การใช้งานที่แตกต่างกันระยะเวลาที่แตกต่างกัน

ดังนั้นตามที่ Apple Watch Series 3 มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่หนึ่งชั่วโมงเมื่อเรารับสายหรือโทรออกผ่านการเชื่อมต่อ LTE หรือสามชั่วโมงเมื่อเราเชื่อมต่อกับ iPhone

ในกรณีที่เราต้องการใช้ Apple Wart Series 3 เพื่อฟังเพลงโปรดของเราเมื่อเชื่อมต่อกับ iPhone แบตเตอรี่ของ Apple Watch จะมีอายุการใช้งาน ไม่เกิน 10 ชั่วโมงซึ่งแสดงถึงการปรับปรุงที่โดดเด่นมากกว่ารุ่นก่อนหน้าซึ่งมีความเป็นอิสระในการใช้งานนี้เมื่อใช้งานหกชั่วโมงครึ่ง น่าเสียดายที่ Apple ไม่ได้อ้างถึงระยะเวลาของแบตเตอรี่หากเราต้องการฟังเพลงผ่านการเชื่อมต่อ LTE แต่สิ่งที่เรารู้ก็คือ Apple Watch Series 3 จะช่วยให้คุณสามารถฟัง Apple Music ทั้งหมดของคุณได้โดยไม่ต้อง จำเป็นต้องมี iPhone อยู่ใกล้ ๆ

ผู้ใช้จำนวนมากใช้นาฬิกาอย่างเข้มข้นในการออกกำลังกายประจำวัน ในกรณีนี้, เมื่อพูดถึงการออกกำลังกายแบตเตอรี่ของ Apple Watch Series 3 จะใช้งานได้นานถึง 10 ชั่วโมงในกรณีของการออกกำลังกายในร่มโดยมี iPhone อยู่ใกล้ ๆ อย่างไรก็ตามเมื่อพูดถึงการออกกำลังกายกลางแจ้งโดยไม่ใช้ iPhone ช่วงนี้จะลดลงอย่างรวดเร็ว เพียงแค่เปิด GPS แบตเตอรี่ Apple Watch Series 3 จะใช้งานได้ห้าชั่วโมง (อายุการใช้งานเท่ากับแบตเตอรี่ Apple Watch Series 2 ที่เปิด GPS) และพร้อมกันที่ LTE และ GPS อายุการใช้งานแบตเตอรี่จะลดลงเหลือสี่ชั่วโมง ซึ่งหมายความว่ามีอิสระน้อยลง 60%

และเวลาในการโหลด?

ตามข้อมูลของ Apple Apple Watch Series 3 จะชาร์จถึง 80 เปอร์เซ็นต์ในเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงครึ่งโดยแบตเตอรี่จะกลับมาเป็นพลังงานหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ในสองชั่วโมงโดยใช้สายชาร์จแม่เหล็กที่มาพร้อมกับ Apple Watch ที่ให้มา ดังนั้น, เวลาในการโหลดไม่เปลี่ยนแปลงซึ่งจะเหมือนกับเวลาในการชาร์จของ Apple Watch Series 2

ข้อมูลเกี่ยวกับแบตเตอรี่ของ Apple Watch Ultra

Apple Watch Ultra ออกแบบมาสำหรับนักกีฬาที่เน้นความทนทานของร่างกาย นักผจญภัยท่องโลก และผู้ชื่นชอบกีฬาทางน้ำ ซึ่งล้วนต้องการแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานสำหรับการแข่งขันและสำรวจ เราจึงปรับแต่งทุกรายละเอียดของ Apple Watch Ultra เพื่อระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ และเนื่องจากทุกคนจะใช้ Apple Watch ในแบบที่แตกต่างกันไป เราจึงทดสอบค่าอื่นๆ อีกหลายด้านด้วยเช่นกัน

Apple ทำการทดสอบระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ของ Apple Watch Ultra ในเดือนสิงหาคม 2022 โดยใช้ Apple Watch Ultra (รุ่น GPS + Cellular) รุ่นก่อนการผลิตจริง ซึ่งจับคู่กับ iPhone ทั้งนี้อุปกรณ์ทุกเครื่องได้รับการทดสอบโดยใช้ซอฟต์แวร์รุ่นก่อนเปิดให้ใช้งานจริง ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่นั้นแตกต่างกันไปตามการใช้งาน สัญญาณจากระบบเซลลูลาร์ การกำหนดค่า และปัจจัยอื่นๆ อีกหลายอย่าง โดยผลลัพธ์จริงจะแตกต่างออกไป

สำหรับใครที่ใช้งาน Apple Watch ตลอดวัน และอยากจะประหยัดแบตเตอรี่ไว้ใช้งานกับกิจกรรมบางอย่าง ทีมงานมีวิธีช่วยประหยัดแบตง่าย ๆ มาแนะนำให้ตั้งค่ากันค่ะ

8 วิธี ช่วยประหยัดแบตเตอรี่ Apple Watch เมื่อต้องเก็บพลังงานไว้ใช้ในกิจกรรมอื่น ๆ

1. อัปเดต watchOS ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด

สิ่งแรกแน่นอนว่า ให้เราทำการอัปเดตซอฟต์แวร์ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดทุกครั้ง สำหรับ watchOS ส่วนใหญ่ก็จะมีการปล่อยอัปเดตพร้อม iOS เวอร์ชันใหม่อยู่แล้ว เราก็อัปเดต iOS บน iPhone ก่อน จากนั้นก็มาอัปเดต watchOS ที่ Apple Watch ของเรา

ไปที่ การตั้งค่า (Settings) > ทั่วไป (General) > รายการอัปเดตซอฟต์แวร์ (Software Update)

หลังอัปเดต watchOS เวอร์ชันล่าสุด ช่วงแรก ๆ หลายคนอาจจะกังวลว่าแบตจะหมดไวขึ้นหรือไม่ หรือแบตไหลหรือไม่ แต่ไม่ต้องกังวล เนื่องจากซอฟต์แวร์ใหม่จะมีการแก้ไขข้อผิดพลาดและปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้งานให้ดียิ่งขึ้น ปรับปรุงอายุการใช้งานแบตเตอรี่ รวมถึงความปลอดภัยด้วย ก็ควรอัปเดตสม่ำเสมอนะคะ

2. เปิดโหมดประหยัดพลังงาน ระหว่างออกกำลังกาย

เราสามารถลดภาระของแบตเตอรี่ลงได้มากขึ้น หากเปิดใช้งานโหมดประหยัดพลังงานระหว่างออกกำลังกาย เมื่อเราเริ่มออกกำลังกายโหมดประหยัดพลังงานก็จะเปิดใช้งานทันที

ไปที่ การตั้งค่า (Settings) > ออกกำลังกาย (Workout) > เปิดโหมดประหยัดพลังงาน (Power Saving Mode)

การทำงานของโหมดนี้จะปิดการเปิดหน้าจอที่เปิดตลอดและ ปิดเซ็นเซอร์การวัดอัตราการเต้นของหัวใจในตัวเครื่องระหว่างเดินและวิ่ง ส่งผลให้การคำนวณพลังงานที่เผาผลาญจากการออกกำลังกายบางอย่างอาจจะมีความแม่นยำน้อยลง

3. เปิดใช้งานโหมดโรงภาพยนตร์

ถ้าหากเราอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ได้ใช้งาน Apple Watch เช่น อยู่ในเวลาทำงาน ประชุม งีบหลับ หรืออยู่ในโรงภาพยนตร์ เราก็สามารถเปิดใช้งานโหมดโรงภาพยนตร์ได้ ช่วยประหยัดแบตได้เยอะ

การเปิดก็ทำง่าย ๆ แค่ปัด Control Center ขึ้นมา > แตะไอคอน โหมดภาพยนตร์ (Theater Mode)

เนื่องจากเวลาที่เราเปิดโหมดนี้ เมื่อยกข้อมือขึ้นมาหน้าจอก็จะไม่แสดง ต้องใช้นิ้วแตะปลุกหน้าจอ รวมถึงการแจ้งเตือนต่าง ๆ ก็จะไม่แจ้งเตือนเข้ามาด้วย

4. ลดการแจ้งเตือน

หากเราสวมใส่ Apple Watch อยู่ แอปต่าง ๆ ก็จะแจ้งเตือนมาที่บนข้อมูลด้วย หากบางแอปที่เราไม่ต้องการติดตามข้อมูลตลอดเวลา ก็สามารถเลือกปิดการแจ้งเตือนลงไปได้ ก็ช่วยลดการใช้งานแบตเตอรี่ได้ดีเลยทีเดียว

สามารถปิดได้ที่ แอป Watch บน iPhone > การแจ้งเตือน (Notification) > เลื่อนลงด้านล่าง > ปิดการแจ้งเตือนแอปที่เราไม่ต้องการติดตามตลอดเวลา

5. หลีกเลี่ยงหน้าปัดที่ใช้พลังงานเยอะ

สำหรับหน้าปัดที่มีลูกเล่นหรือการเคลื่อนไหวเยอะ ๆ ก็จะใช้พลังงานแบตเตอรี่เยอะด้วย เพราะทุกครั้งที่เรายกข้อมือขึ้นมาดู หน้าปัดเหล่านี้ก็จะมีการเคลื่อนไหวและทำงานต่อ

นอกจากนี้ หากหน้าปัดมีกลไกหน้าปัดที่เกี่ยวข้อกับการใช้งานเซ็นเซอร์ของ Appple Watch ก็อาจจะส่งผลให้แบตเตอรี่หมดไวด้วยเช่นกัน เช่น การวัอัตราการเต้นของหัวใจ การตรวจจับเสียงรบกวน เป็นต้น

ส่วนหน้าปัดที่ประหยัดพลังงานก็จะเป็นหน้าปัดที่มีสีดำล้วน เช่น หน้าปัดตัวเลข ตัวเลขสองคู่ ตัวเลข 1 คู่ เป็นต้น

6. ปิดการยกข้อมือขึ้นเพื่อปลุก

แน่นอนว่าเวลาที่เรายกข้อมือขึ้นมาบ่อย ๆ Apple Watch จะแสดงหน้าจอสว่างขึ้นทุกครั้ง ก็ส่งผลต่ออายุของแบตเตอรี่ด้วย แต่เราสามารถปิดการใช้งานยกข้อมือขึ้นเพื่อปลุกได้ และใช้วิธีเลื่อนปุ่ม Digital Crown เพื่อปลุกหน้าจอแทนได้  Apple Watch จะได้ไม่แสดงแสงสว่างขึ้นทุกครั้งเวลาที่เรายกมือ

ปิดได้ที่ การตั้งค่า (Settings) > จอภาพและความสว่าง (Display & Brightness) > ปิด แสดงหน้าจอเพื่อยกข้อมือขึ้น (Wake on Wrist Raise)

7. ลดความสว่างหน้าจอลง

ถ้าเราต้องการใช้ฟีเจอร์ยกข้อมือขึ้นเพื่อปลุกอยู่หรือใช้งานแอปต่าง ๆ บน Apple Watch เป็นเวลานาน เราก็อาจจะเลือกใช้วิธีการลดแสงสว่างของหน้าจอลงก็ได้ วิธีนี้ก็ช่วยประหยัดพลังงานได้เช่นกัน

สามารถตั้งค่าได้ที่ การตั้งค่า (Settings) > จอภาพและความสว่าง (Display & Brightness) > แตะที่ส่วนปรับความสว่าง แล้วเลื่อนปุ่ม Digital Crown ขึ้นหรือลง เพื่อปรับความสว่าง

ถ้าหากใช้ฟีเจอร์ยกข้อมือขึ้นเพื่อปลุกอยู่ ก็เปิดไว้นะคะ

8. เปิดใช้โหมดประหยัดพลังงาน

วิธีสุดท้าย ถ้าหากเราต้องการเก็บแบตเตอรี่ Apple Watch ไว้ใช้งานจริง ๆ ก็อาจจะเปิดใช้งานโหมดประหยัดพลังงานไว้ก่อนในตอนที่ยังไม่ได้ใช้งาน Apple Watch  อาจจะเหมาะกับคนที่เดินทางไกลแล้วไม่ได้นำที่ชาร์จมาด้วยหรือไม่มีที่สำหรับชาร์จ

แนะนำอีกนิด สำหรับใครที่ใช้ Apple Watch รุ่นเซลลูลาร์ เวลาที่เราออกกำลังกายนอกสถานที่หรือเวลาที่อยู่ห่างกับ iPhone ทำให้ Apple Watch จะสลับไปใช้ข้อมูลเซลลูลาร์ ก็อาจจะทำให้เปลืองแบตเตอรี่ได้ ถ้าหากเราต้องการประหยัดแบตจริง ๆ และไม่จำเป็นจะต้องรับสายโทรเข้าโทรออก ก็อาจจะปิดการใช้ข้อมูลเซลลูลาร์ไปก่อนได้นะ

ทั้งหมดนี้ก็เป็นวิธีที่จะช่วยประหยัดแบตเตอรี่ Apple Watch ระหว่างใช้งาน เหมาะกับคนที่จะต้องเก็บแบตเตอรี่ไว้ทำกิจกรรมอื่น เช่น เดินทางไกล แล้วไม่ได้นำที่ชาร์จมาด้วย หรือไม่มีที่สะดวกชาร์จ ก็สามารถใช้วิธีเหล่านี้ช่วยประหยัดแบตก่อนได้นะคะ จะได้มีแบตเตอรี่ไว้ใช้ในกิจกรรมที่ต้องการ