อลีนตา รีสอร์ท ปราณบุรี รีวิว

ผมชอบทะเล โดยเฉพาะทะเลปราณบุรี ชอบความเงียบสงบและบรรยากาศแถวนั้น คือไม่เยอะแยะเท่าหัวหิน แต่ก็ไม่เงียบเหงาจนหาอะไรทำไม่ได้

ตอนแรกที่เราเลือกจะถ่ายรูป Pre Wedding ริมทะเล ก็คิดกันอยู่แล้วว่าคงต้องไปที่ปราณบุรี แต่ก็ยังคิดหารีสอร์ทได้ไม่ลงตัวเสียที ด้วยเงื่อนไขข้อหนึ่งคือ เราอยากให้ทางโรงแรมช่วยจัดซุ้มดินเนอร์ริมทะเลสำหรับคู่รักให้ด้วย สำหรับเป็นฉากถ่ายรูป

ซึ่งทีมงานของอลีนตารีสอร์ท (Aleenta Resort) ก็ตอบรับกลับมาอย่างรวดเร็ว พร้อมราคาและรายละเอียดจนเราประทับใจ และวิ่งไปจองที่พักในงานไทบเที่ยวไทยแทบไม่ทัน (เพื่อความประหยัด 55)

การเดินทาง

• รีสอร์ทมีรถรับส่งจากกรุงเทพฯ แต่แพงมาก สะดวกที่สุดคือขับรถมาเองครับ
• ระยะทางจากหัวหินแค่ 30 กิโลเมตรครับ ขับรถ 40 นาทีก็ถึง
• รีสอร์ทอยู่ติดทะเลปราณเลยครับ ใกล้ๆ กับ Villa Maroc
• ลองดูเส้นทางจากใน Google Maps ได้ครับ
• เส้นทางจากหัวหิน
• Google Map – อลีนตา รีสอร์ท
• คำเตือน: อลีนตาที่ปราณบุรีมีอยู่ 2 ส่วนครับ คือส่วนของ Frangipani Wing ซึ่งสร้างมาก่อน และส่วนของ Aleenta Wing ที่เพิ่งสร้างใหม่ ทั้งสองที่อยู่ไม่ห่างกันมาก ที่เรารีวีวคือ Aleenta Wing

ลั๊นลา อลีนตา~~

เนื่องจากเป็นทริปถ่ายรูป Pre Wedding ผมและทีมงานตากล้องจึงมาเช็คอิน เร็วหน่อย เรามาถึงที่รีสอร์ทช่วงเที่ยง ซึ่งก็หาไม่ยากเพราะใหญ่โตและมีชื่อแปะอยู่ในแผนที่ Google Map เลย

ที่จอดรถอยู่ตรงข้ามรีสอร์ท ลงรถปุ๊บก็มีพนักงานวิ่งมาช่วยยกกระเป๋า เอาผ้ามาคลุมรถ แล้วก็กางร่มพาเดินเข้ารีสอร์ท

ห้อง Reception เป็นแบบเปิด ตามแบบนิยมของรีสอร์ทริมทะเล

มี Welcome Drink, ผ้าเย็น และผลไม้ต้อนรับด้วย

สังเกตุว่าแขกส่วนใหญ่เป็นฝรั่ง เกาหลี แล้วก็ญี่ปุ่น มีแค่ห้องเรา 2 ห้องเท่านั้นที่เป็นคนไทย -_-“

ความน่ารักของอลีนตาคือห้องพักริมทะเลจะมีลักษณะเป็นโดมกลมๆ ริมชายหาด ส่วนห้องพักที่อยู่ห่างทะเลออกมานิดนึงจะเป็นสไตล์บ้านพักตากอากาศในยุโรป (ได้ยินมาว่าห้องพักที่นี่กวาดรางวัลด้านการออกแบบมาเพียบ)

เราเช็คอินทั้งหมด 2 ห้อง โดยผมกับว่าที่เจ้าสาว (ในตอนนั้น) พักห้อง Pool Suite คือติดทะเล ส่วนตากล้อง (ก็น้องชายผมเอง) และผู้ช่วยพักห้อง Ocean View Suite

ห้องพัก

ห้องพัก Pool Suite จะเป็นเหมือนโดมกลมๆ มองจากข้างนอกนี่น่ารักมากๆ มีเปลขนาดใหญ่อยู่หน้าห้อง ทดสอบแล้วลงไปนอนได้ 2 คนโดยที่ไม่เบียด

ไฮไลท์เด็ดของห้องพักที่อลีนตาคือทุกห้องจะมีสระขนาดเล็กส่วนตัวให้ด้วย พร้อมที่พ่นน้ำนวดตัว ซึ่งก็คนละอารมณ์กับอ่างจากุซซี่แบบที่ Centara แต่ผมชอบแบบสระมากกว่า

เปิดเข้ามาดูในห้อง เปิดแอร์เย็นสบายรอไว้แล้ว บรรยากาศในห้องสบายๆ ชิวๆ เพราะเพดานเป็นกลมๆ เหมือนอยู่บังกะโลที่ดูดีมาก พร้อมเสียงเพลงบ๊อซซ่าเบาๆ

ว่าแต่เสียงเพลงมาจากไหน ? ผมมองเห็นอะไรแว๊บๆ ตรงที่วางหนังสือ ว่าแล้วก็วิ่งเข้าไปกรี๊ดดดด จนคุณนาย @CherryJaja ต้องเข้ามาถามว่าเป็นอะไำร ?

“ไอ .. ไอ .. ไอพ็อดมินิ ~~~~~ <3” สาวกกรีดร้อง
“เหรอออออออ” คุณนายพูดเสร็จก็ทำหน้าเอือมแล้วไปเดินเล่นต่อ …..(“-_-)

ใช่แล้ว ทุกห้องมีเครื่องเสียงพร้อมไอพ็อดมินิให้เลือกเพลงได้เป็นพันเพลง มีตั้งแต่บ๊อซซ่าที่ฟังไม่รู้เรื่องแต่เข้ากับบรรยากาศ เพลงฝรั่ง เพลงจีน ไปจนถึงเพลงไทยเดิม

ในห้องมีผลไม้ต้อนรับพร้อมกับของหวานต้อนรับ 2 แก้ว (ฟรีอีกแล้ว) เรียกว่าอะไรไม่รู้แต่อร่อยมาก (ซัดโฮกทันที)

เดินไปด้านหลังจะเป็นส่วนของตู้เย็น บาร์ ตู้เสื้อผ้า ก็ปกติดีตามเกรดโรงแรม

ห้องน้ำกว้างมาก และแน่นอนไม่มีอ่าง ถ้าอยากนอนแช่ก็ไปลงที่สระน้ำหน้าห้องแทน ฝักบัวเป็นแบบ Rain Shower น้ำแรงกระซวกลงมาทีสะใจมาก

เพื่อความธรรมชาติ เพดานข้างบนฝักบัวเลยไม่มีนะจ๊ะ เปิดโล่งรับแสงจันทร์ตอนกลางคืนได้ หรือใครอยากอาบน้ำฝนตอนฝนตกก็ได้เช่นกัน

ข้อควรรู้

• จะสังเกตุว่าภายในห้องไม่มีอะไรอย่างนึงที่ปกติทุกโรงแรมจะมี … นั่นก็คือทีวีครับ ใช่ครับที่รีสอร์ทนี้ไม่มีทีวี  !! 
• จากการสอบถามพนักงาน ได้ความว่าเป็นคอนเซ็ปท์ของรีสอร์ทตั้งแต่เริ่มก่อสร้างแล้ว ประมาณว่าอยากให้คนมาพักได้เต็มอิ่มกับทะเล ความสวยงามของธรรมชาติ มากกว่านอนดูทีวีในห้อง
• แปลกดี แต่ชอบนะ
• ถ้าไม่ถูกใจเพลงในไอพ็อด ถอดออกแล้วเอาไอโฟนเสียบลงไปเล่นเพลงแทนได้
• ที่ห้องน้ำจะมีประตูให้ออกมาลงสระน้ำได้เลย โดยปกติจะล็อคไว้ ซึ่งก็ดีแล้ว เพื่อความปลอดภัย หุๆ
• ทุกครั้งที่เราออกจากห้องพักไปไหนก็ตาม กลับมาปุ๊บจะเห็นว่าพนักงานเข้ามาเก็บห้องพักให้เรียบร้อย ปูผ้าเรียบปรี๊ด เหมือนเข้ามาพักใหม่ทุกครั้ง จนเราพูดกันเล่นๆ ว่าสงสัยพนักงานที่นี่จะเป็นนินจา (ฮา)

บริการ

อาหารเช้า เราสามารถเลือกได้ว่าจะไปทานที่ห้องอาหาร ซึ่งก็จะเหมือนตามโรงแรมทั่วไป หรือจะให้มาเสิร์ฟที่หน้าห้องพักก็ได้ ด้วยความอยากรู้เราเลยเลือกให้มาเสิร์ฟที่หน้าห้องพัก ซึ่งพนักงานจะขอรับออร์เดอร์ล่วงหน้าเลยว่าจะทานอะไรบ้าง

ถึงเวลาตอนเช้าก็จะมีโต๊ะอาหารวางไว้สวยงามที่หน้าห้อง พร้อมที่คลุมอาหารเช้าไว้อีกที พอเราเดินมาทานปุ๊บพนักงานที่ไม่รู้แอบดูเราจากมุมไหนก็จะกระโดดลงมาเปิดอาหารให้ทันที

อาหารเช้าคุณภาพดีพอสมควร ให้ทุกอย่างมาพร้อม นั่งทานริมทะเลส่วนตัวแบบนี้ก็เก๋ไปอีกแบบ ข้อเสียคือพอแดดเริ่มแรงจะเริ่มร้อนละ ถึงจะมีร่มบังแดดให้ก็เถอะ

เพราะงั้นควรตื่นเช้าหน่อย ทานตอนพระอาทิตย์เพิ่งขึ้นจะฟินมาก ~~

อย่างที่บอกว่าเรามาเพื่อถ่ายรูป Pre Wedding ซึ่งทางรีสอร์ทก็สอบถามรายละเอียด ช่วงเวลาที่จะตั้งซุ้ม อาหารที่เสิร์ฟ และมีทีมงานมาช่วยดูแลเป็นอย่างดี

ระหว่างถ่ายภาพ คุณ James (เข้าใจว่าเป็น Manager ของที่นี่) ถึงกับเข้ามาดูแลด้วยตัวเอง เพื่อให้ทุกอย่างออกมาดีเยี่ยม ซึ่งทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี(มาก)

คือต้องยอมรับว่าพนักงานที่นี่เขาเทรนมาดีจริงๆ ครับ ละเอียด ดูแลแทบทุกอย่างที่เราต้องการ คือผมเคยไปโรงแรมมาหลายที่ ก็มีที่อลีนตานี่แหล่ะครับที่พนักงานบริการดีที่สุดเท่าที่เคยไปพักมาเลย

สรุป

บอกได้คำเดียวว่าประทับใจครับ ถ้ามีโอกาสจะมาพักที่อลีนตาอีกรอบแน่นอนครับ 🙂

• ห้องพัก, อาหาร, บรรยากาศ, บริการ ดีมาก
• ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มาก ขับรถประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง
• เหมาะสำหรับคู่รัก หรือมากับครอบครับ
• ราคาสูง (แต่ถ้าซื้อในงานเที่ยวไทยก็พอสู้ไหว)
• อาจจะไม่เหมาะกับทัวร์กินแหลก, เมาแอ๋, หรือแสงสียาวค่ำคืน

ราคา, Reference

• ซื้อในงานเที่ยวไทย ห้อง Pool Suite ประมาณคืนละ 5,800 บาท (Aleenta Wing) [ราคาเมื่อตุลาคม 2554]
• รูปถ่าย Pre Wedding ที่อลีนตารีสอร์ท
• เว็บอลีนตารีสอร์ท