DescriptionVERTEX Wall Screen 150″ Matt White 16:9จอรับภาพจากเครื่องฉายโปรเจคเตอร์แบบแขวนมือดึง VERTEX ขนาดเส้นทะแยงมุม (Diagonal) 150 นิ้ว อัตราส่วน 16:9 โดยมีความกว้าง (ความสูง) และความยาวของจอ 74 x 131 นิ้ว หรือ 187 x 332 เซ็นติเมตร เนื้อจอรับภาพ (Fabric) แบบ Matt White Show VERTEX เป็นจอรับภาพแบบจอแขวนมือดึง ขนาดจอ 150″ 74×131 นิ้ว (187 x 332 cm) อัตราส่วน 16:9 เนื้อจอติดกับแกนเหล็กและใช้ระบบลูกปืนกลม (roller lock) ล็อกแกนหมุนเพื่อป้องกันการติดขัด มีระบบ Retard ป้องกันการดีดกลับของจออย่างรุนแรงเมือจัดเก็บ เนื้อจอสีขาวทำจากวัสดุ Fiber ด้านหลังเคลือบสีดำทนต่อการฉีกขาดป้องกันการติดไฟและสามารถทำความสะอาดได้ คุณสมบัติเฉพาะของจอ:
มีเครื่องฉายโปรเจคเตอร์ Projector ละ อยากซื้อ จอฉาย ซื้อยังไงดีมีคำตอบค่ะเคยสงสัยไหมค่ะว่า จอ 150 นิ้ว ขนาดจริงๆแล้วคือเท่าไหร่ แล้วจอแบบแขวนมือดึง กับจอไฟฟ้าจะซื้อแบบไหนดีกว่ากัน เนื้อจอที่เรียกกันว่า H D กับ Matt white ต่างกันยังไง จอแบบ 1:1 กับจอ wide screen ต่างกันตรงไหน....มาพบกับคำตอบกันค่ะ ขนาดของจอฉายหรืออัตราส่วนของภาพโดยทั่วไปแล้วจอฉายจะมีอยู่ 4 แบบค่ะ คือ 1. Square Format (1:1) หมายถึง ความสูงและความกว้างของเนื้อจอมีขนาดเท่ากัน เป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส เราจะเรียกจอแบบนี้ว่า จอขนาด 70x70 นิ้ว (183x183 ซม) หรือ 50x50 นิ้ว (127x127 ซม) เวลาฉายภาพ จอแบบนี้ภาพจะเหลือบนล่างนะคะ 2. Video Format (4:3/1.33:1) หมายถึง อัตราส่วนระหว่างความสูงและความกว้างของจอเป็น 4 : 3 เหมือนจอโทรทัศน์รุ่นเก่าๆ ค่ะ (PAL,NTSC ) รูปจอจะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้านิดๆ จอแบบนี้จะมีหน่วยวัดที่เป็นเส้นทแยงมุม เช่น ทแยงมุม 100 นิ้ว ทแยงมุม 300 นิ้ว 3. HDTV 16:9 (1.78:1 )หมายถึง อัตราส่วนระหว่างความสูงและความกว้างของจอเป็น 16: 9 ภาพจะเป็น Wide screen เหมือนจอภาพยนตร์ หรือภาพที่เราเห็นจากเครื่องเล่น DVD รูปจอจะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวกว่าแบบ 4:3 จอแบบนี้จะมีหน่วยวัดที่เป็นเส้นทแยงมุม เช่น 92 นิ้ว, 106 นิ้ว เหมือนแบบ 4:3 แต่ว่าขนาดกว้างxยาว จะต่างกันค่ะ 4. 16: 10 (1.6:1) หมายถึง อัตราส่วนระหว่างความสูงและความกว้างของจอเป็น 16: 10 ภาพจะเป็น Wide screen เหมือนจอภาพยนตร์ ขนาดกว้างxยาว จะต่างกันกับ 16:9 นิดหน่อยค่ะ ตารางเปรียบเทียบขนาดภาพ ค่ะ แต่ขนาดดังกล่าวเป็นขนาดของเนื้อจอนะคะ เวลาซื้อมาติดตั้งจะมีความยาวของกระบอกจอเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เช่นจอแบบแขวนมือดึง ขนาดทแยงมุม 100 นิ้ว จะมีความยาวกระบอกจอประมาณ 2.15-2.30 เมตร แต่ถ้าเป็นแบบมอเตอร์ไฟฟ้ากระบอกจอจะมีความยาวประมาณ2.30-55 เมตรขึ้นอยู่กับแต่ละยี่ห้อ แต่โดยทั่วไปแล้วจอมอเตอร์จะมีกระบอกจอที่ยาวกว่าแบบแขวนมือดึงค่ะเนื่องจากมีส่วนที่เป็นมอเตอร์ควบคุมซ่อนอยู่ส่วนจอตรึงจะมีขอบจอไม่กว้างมากนักอาจจะเพิ่มจากความกว้างของเนื้อจอประมาณ10-15 ซม. ชนิดของจอฉายภาพโปรเจคเตอร์ 1 จอฉายแบบแขวนมือดึง เหมาะสำหรับติดประจำห้องโดยยึดจอไว้กับฝ้าหรือกำแพงเวลาใช้ก็แค่ดึงจอลงมา จอจะมีระบบล็อคไว้เมื่อลงสุด และสามารถดึงกลับไปในกระบอกจอเมือเลิกใช้ 2 จอฉายแบบมอเตอร์ไฟฟ้าหน้าตาคล้ายๆกับแบบแรกแต่มีมอเตอร์จอซ่อนอยู่ในกระบอกจอ สะดวกตรงที่ไม่ต้องออกแรงดึงเองแต่จะมีรีโมทคอนโทรล คอยควบคุมการขึ้น-ลงของจอ ซึ่งจะเป็นรีโมททั้งแบบมีสายและไร้สายเหมาะสำหรับจอขนาดใหญ่หรืออยู่ในตำแหน่งที่ดึงจอไม่สะดวกค่ะ ปัจจุบันจอไฟฟ้ามีการพัฒนา ขั้นไปอีกหลายแบบ เช่น จอ มอเตอร์ไฟฟ้า แบบ Tab-tension Screen จอชนิดนี้จะมีสลิงดึงด้านข้างจอทั้งสองด้านเพื่อให้จอภาพ ตึงมากขึ้น ขนาดมักไม่เกิน 300 นิ้ว หรือจอแบบ Roller Screen จอชนิดนี้จะมากับจอภาพที่มีขนาดใหญ ตั้งแต่ 300 นิ้วขึ้นไป ไม่มีกระบอกจอแบบเหล็กครอบ มีแกนหมุนเก็บผ้า จากด้านล่าง ขึ้นบน เหมาะสำหรับติดซ่อนไว้ในฝ้า หรือทำกล่องครอบไว้ ค่ะ 3. จอฉายแบบขาตั้งเหมาะสำหรับงานที่ต้องเคลื่อนย้าย งานนอกสถานที่ที่ไม่มีตำแหน่งยึดจอหรือต้องการใช้งานชั่วคราวน้ำหนักจะมากกว่าแบบมือดึงเพราะมีขาตั้งมาด้วยค่ะ ส่วนขาตั้งจะมีทั้งที่เป็นแบบ3 ขา(Tripod Projection Screen) หรือแบบ2 ขาตั้งขึ้นมาจากด้านข้าง(Easy Fold Screen)
4. จอฉายแบบตรึง (Fixed Flam) เป็นจอที่ขึงมาในกรอบบางยี่ห้ออาจมีกรอบอลูมิเนียมบุกำมะหยี่สีดำบางยี่ห้อเป็นสีน้ำเงินเนื้อจอมักเป็นแบบHD ซึ่งใช้สำหรับการชมภาพยนตร์ติดตั้งภายในห้องค่ะ นอกจากนี้แล้ว จอตรึงอีกแบบที่นิยมใช้ในบ้านเราตามร้านอาหารต่างๆจะเป็นจอที่เจาะตาไก่แล้วร้อยกับโครงจอค่ะ จอแบบนี้มักใช้จอที่เป็นจอหนัง(พลาสติก) มาทำมีขนาดใหญ่ตั้งแต่150-300 นิ้ว ราคาไม่สูงมากเหมาะกับงานกลางแจ้งต่างๆซึ่งปัจจุบันก็หาซื้อและสั่งทำได้ง่ายขึ้นค่ะ 5. จอแบบตั้งโต๊ะ(portable Screen) เป็นจอขนาดเล็กส่วนมากจะมีขนาดประมาณ40-50 นิ้ว เพื่อความสะดวกในการพกพาเวลาใช้ก็ดึงกระบอกจอออกมาแล้ววางบนโต๊ะนำเสนอเพื่อใช้งานได้ทันที 6. จอแบบตั้งพื้น (Floor Screen) เป็นจอที่เหมาะสำหรับการเคลื่อนย้าย งานนอกสถานที่ ราคาจะสูงกว่าแบบขาตั้งธรรมดาแต่ดูสวยกว่าโดยจอประเภทนี่จะมีฐานจอขนาดใหญ่ใช้ดึงจอจากด้านล่างขึ้นมาแล้วยึดกับโครงยึดจอด้านหลัง 7 จอภาพแบบฟิล์มติดกระจก I Film screen เป็นเนื้อฟิล์มติดกระจกแบบมีกาวในตัว มองได้ทั้งสองด้าน สำหรับติดโชว์หน้าร้าน แล้วตั้งเครืองฉายโปรเจคเตอร์ไว้ในร้าน ค่ะ เนื้อจอฉาย 1. Matte White มีค่าGain 1.0เป็นจอที่ได้รับความนิยมในตลาดสูงมากเนื่องจากราคาที่ไม่สูงจนเกินไปเหมาะกับงานนำเสนอตัวหนังสือจากคอมพิวเตอร์เครื่องฉายสไลด์หรือ Overhead สามารถทำความสะอาดได้ง่ายด้วยน้ำเปล่าหรือน้ำสบู่กันเชื้อราได้และไม่ติดไฟง่าย 2. Glass Beaded มีค่าGain 2.5 ราคาจะสูงกว่าแบบ Matt White สามารถสะท้อนแสงได้ดีกว่าเหมาะสำหรับสถานที่ที่มีแสงรบกวนสูงและมีตำแหน่งของผู้ชมไม่กว้างมากนักเพราะจอมีมุมมองภาพที่แคบแนะนำในการใช้งานกับการนำเสนอรูปภาพต่างๆไม่เหมาะกับการฉายภาพที่เป็นข้อมูลตัวหนังสือคอมพิวเตอร์เช่นexcel ,word หรือภาพจากOverhead นอกจากนี้เนื้อจอยังกันเชื้อราได้และไม่ติดไฟง่าย แต่ต้องระมัดระวังไม่ให้เนื้อจอยับนะคะเพราะจะทำให้คุณภาพของภาพลดลงมากทีเดียวค่ะ(ตอนนี้ไม่มีจำหน่ายแล้วค่ะ) 3. Rear projection screen เนื้อจอภาพแบบฉายหลังจอแบบนี้จะใช้ในกรณีที่เราติดตั้งเครื่องฉายไว้ด้านหลังจอ เนือจากสีออกเทาเขียว จอที่มีคุณภาพดีจะมีการกระจายแสงที่ดีให้ภาพที่คมชัด ราคาจะสูงกว่า2 แบบแรกมากค่ะ 4. High Definition หรือจอ HD จอแบบนี้นิยมใช้กับห้องโฮมเธียเตอร์ในบ้าน แต่ก็สามารถใช้ในห้องประชุมได้ด้วยภาพที่ได้จะให้คุณภาพสูงมากอย่างเห็นได้ชัดเมื่อฉายเทียบกับจอแบบMatt white และGlass beaded ทีสำคัญราคาสูงพอๆกับคุณภาพค่ะ นอกจากจอที่ยกตัวอย่างมาแล้วยังมีเนื้อจออีกหลายชนิดตามแต่ผู้ผลิตแต่ละรายค่ะ ที่นี้พอรู้รายละเอียดแล้วว่าจอฉายภาพแต่ละแบบเป็นอย่างไรเรามีกฎง่ายๆ4 ข้อในการเลือกซื้อจอค่ะ 1 เลือกการใช้งาน ว่าต้องเคลื่อนย้ายจอไหม หรือติดอยู่กับที่ จะ ใช้จอ แขวน จอขาตั้ง หรือจอไฟฟ้า 2 เลือกเนื้อจอ ให้เหมาะกับ การใช้งานและงบประมาณ อยากได้ภาพคมๆ ก็ใช้จอแบบ HD ใช้งาน Present ทั่วไป ก็เป็น Matt white หรือ High gain 3 เลือกอัตราส่วนภาพ อิงกับอัตราส่วนของโปรเจคเตอร์ได้ก็จะดี ค่ะ เช่นถ้าโปรเจคเตอร์เป็นแบบ XGA จอที่ใช้ก็เป็นจอแบบ 4:3 ถ้ืาโปรเจคเตอร์เปฺ็นแบบ WXGA (1280x800 ) ก็เลือกใช้จอแบบ 16:10 ค่ะ 4 เลือกขนาดจอ ตามขนาดห้อง แสงรบกวน และความสว่างของเครื่องฉายโปรเจคเตอร์ ถ้าห้องกว้าง 8 เมตร ลึก 10 เมตร แต่เพดานแค่ 2.75 เมตร ก็จะแนะนำจอทแยงมุม 120 นิ้ว(244x183 ซม) เพราะ ความสูงห้องบังคับ หรือห้องกว้างมาก แต่โปรเจคเตอร์ที่มีสว่างแค่ 2700 Lumens ก็แนะนำจอที่ไม่เกิน 100 นิ้ว หากมีแสงรบกวนในห้องมากค่ะ
ข้อความทั้งหมด มาจากประสบการณ์ของผู้เขียน ไม่ใช่หลักวิชาการ หากผิดพลาด ติงกันได้นะคะ แล้ว พบกันใหม่ สนใจสินค้าเพิ่มเติม https://www.soundscreen.co.th ได้เลยค่ะ |