Burn 2023 เบ ร น เอา ม น ไป เผา

เผาผลาญ Burn ผู้เขียน แพทริค เนสส์ ผู้แปล กานต์สิริ โรจนสุวรรณ Text Copyright © Patrick Ness 2020 Thai Language Translation 2023 by Words Wonder Publishing Co., Ltd. Granted by Michelle Kass Associates 85 Charing Cross Road London WC2H 0AA พิมพ์ครั้งที่ 1 มีนาคม 2566 ราคา 395 บาท ISBN 978-616-8175-27-9 จัดพิมพ์โดย บริษัท สำ นักพิมพ์ เวิร์ด วอนเดอร์ จำกัด 664/19 ถนนพระราม 3 บางโพงพาง ยานนาวา กรุงเทพฯ 10120 บรรณาธิการ วัชรวิชญ์ ออกแบบปก Napon Suzuki รูปเล่ม เปมิกา ตันติทวีโชค พิสูจน์อักษร สวภัทร เพ็ชรรัตน์ พิมพ์ที่ บริษัท วิชั่น พรีเพรส จำกัด จัดจำ หน่ายโดย บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด (มหาชน) เลขที่ 1858/87-90 ถนนเทพรัตน แขวงบางนาใต้ เขตบางนา กรุงเทพฯ 10260 โทรศัพท์ 0-2826-8000 https://www.se-ed.com/

Burn เผาผลาญ แพทริค เนสส์ เขียน กานต์สิริ โรจนสุวรรณ แปล

ค�ำน�ำส�ำนักพิมพ์ Burn เป็นอีกหนึ่งผลงานที่ยอดเยี่ยมของผู้แต่งมากความสามารถ อย่าง Patrick Ness ซึ่งเป็นผู้แต่ง A Monster Calls และชุดไตรภาค Chaos Walking นี่เป็นหนังสือแฟนตาซีแนว Alternate History คือใช้ช่วงเวลาจริง ในประวัติศาสตร์ ในที่นี้คือปี 1957 มาด�ำเนินเรื่องแต่เติมความเเฟนตาซี ลงไป นั่นคือมังกร! มังกรที่มีอยู่จริงบนโลกใบนี้ และการมีอยู่จริงของ มังกรก็ได้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อการใช้ชีวิตของเรา โดยคุณสามารถ จ้างมังกรมาช่วยงาน หรือคุณจะเข้าลัทธิบูชามังกรก็ย่อมได้เช่นเดียวกัน ครอบครัวของซาราห์ ตัวเอกของเรื่องตัดสินใจจ้างมังกรมาช่วยงาน ในฟาร์ม ซึ่งจะน�ำพวกเขาไปสู่เหตุการณ์ที่น่าสนใจ น่าตื่นเต้น และคิด ไม่ถึงมากมาย ขอบคุณ กานต์สิริ โรจนสุวรรณ นักแปลที่แปลกับเรามาตั้งแต่เล่มแรก ขอบคุณ Art of Napon Suzuki ที่ท�ำปกออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมครับ มีความสุขกับการอ่านครับ ส�ำนักพิมพ์ Words Wonder

กล่าวน�ำ นามของเขาคือราชาซาลาแมนเดอร์ องอาจสามารถสร้างทะเลทราย มือถือเหล็กนาบอย่าง ‘ผู้เผาศพ’ ที่อารี กระหายและสาแก่ใจที่จะได้เผาทั้งแผ่นดิน ซูซ์ซีซูซ์ นักร้องเพลงร็อก นักแต่งเพลง และโปรดิวเซอร์ (เพลง Burn Up วง ซูซ์ซีแอนด์เดอะแบนชีส์) เผาเลย ยาหยี เผา เพลง Disco Inferno วง เดอะแทรมป์ส

ตอนที่ 1

11 Burnเผาผลาญ 1 เย็นวันอาทิตย์อันหนาวเหน็บต้นปี ค.ศ.1957 ซึ่งอันที่จริงเป็น วันเดียวกับที่ดไวต์ เดวิด ไอเซนฮาวร์เข้าพิธีปฏิญาณตนรับต�ำแหน่ง ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาเป็นสมัยที่สอง ซาราห์ ดูเฮิร์สต์อยู่กับพ่อ ในลานจอดรถของปั๊มน�้ำมันเชฟรอน รอมังกรที่พ่อจ้างมาช่วยงานในฟาร์ม “เขามาสาย” ซาราห์เอ่ยขึ้นเบาๆ “มัน” พ่อบอกพลางถ่มน�้ำลายใส่ดินเปื้อนน�้ำมัน น�้ำลายกระเด็น ใส่รอยแยกในแอ่งที่จับตัวเป็นน�้ำแข็งพอดี “อย่าเรียกชื่อมัน อย่าบอก ชื่อของลูกกับมัน เรียกมัน ไม่ใช่เขา” นี่ไม่ได้ตอบค�ำถามเรื่องความล่าช้าของมังกร หรืออาจจะตอบก็ได้ ตอบด้วยความบูดบึ้งของพ่อ ด้วยการถ่มน�้ำลาย “ข้างนอกนี่หนาวสะท้านเลยค่ะ” เธอพูด “ก็หน้าหนาว” “หนูรอในรถกระบะได้ไหมคะ” “ลูกกระตือรือร้นจะมากับพ่อให้ได้เองนะ” “ก็หนูไม่รู้นี่ว่าเขาจะมาสาย มันจะมาสาย”

12 Burnเผาผลาญ “ลูกไว้ใจพวกมันไม่ได้หรอก” แล้วท�ำไมพ่อถึงจ้างมังกรล่ะ ซาราห์คิด แม้จะรู้ว่าอย่าพูดไปจะ ดีกว่า เธอรู้ค�ำตอบเสียด้วยซ�้ำ ก็เพราะไม่มีเงินมากพอจะจ้างคนมาถาง ทุ่งทางใต้สองแปลงนั้น ทุ่งตรงนั้นต้องเพาะปลูก ถ้าปลูกพืชพันธุ์ก็ยังมี โอกาส ถึงจะเป็นโอกาสเล็กๆ แต่ก็มีโอกาสที่จะไม่เสียฟาร์มให้ธนาคาร ถ้ามังกรใช้เวลาหนึ่งเดือนหรือประมาณนั้นเผาต้นไม้ โกยขี้เถ้ากับเศษ ซากต่างๆ ออกไปทิ้ง บางทีพอถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ แกเร็ท ดูเฮิร์สต์ ก็อาจได้ไถดินที่ด�ำเป็นถ่านด้วยม้าคู่หนึ่งซึ่งจ้างมาในราคาถูกกับคันไถ ที่ล้าสมัยไปสามสิบปี บางทีเมื่อถึงเดือนเมษายน ทุ่งใหม่ทั้งสองแปลง ก็จะพร้อมให้เพาะปลูก แล้วบางทีนั่นอาจเพียงพอที่จะยับยั้งเจ้าหนี้ไว้ได้ จนถึงฤดูเก็บเกี่ยว เรื่องที่ต้องคิดเหล่านี้ประเดประดังให้ทั้งซาราห์กับพ่อเหนื่อยล้าใน ช่วงสองปีนับตั้งแต่แม่ตายไป เพราะงานในฟาร์มค่อยๆ หนักหนาเกินกว่า ที่คนสองคนจะดูแลมากขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นหนี้มากขึ้นทุกที ความกังวลนี้ รุนแรงจนผลักความโศกาอาดูรไปพ้นเพื่อให้ได้ท�ำงานในทุกๆ ชั่วโมงที่ พ่อตื่นอยู่ และทุกๆ ชั่วโมงที่ซาราห์ไม่ได้ไปโรงเรียน ซาราห์ได้ยินพ่อถอนหายใจยาวๆ ซึ่งมักเป็นสัญญาณน�ำว่าพ่อ ใจอ่อน “ลูกจะขับรถกลับบ้านก็ได้” พ่อเหลียวหน้ามาบอกเบาๆ “ถ้าเจอผู้ช่วยเคลบี้ล่ะคะ” เธอถาม เครียดขึ้นมาอย่างที่มักจะเป็น เมื่อนึกถึงผู้ช่วยนายอ�ำเภอเคลบี้ “ลูกคิดจริงๆ หรือว่าพ่อจะนัดเจอมังกรรับจ้างถ้าไม่รู้ว่าคืนนี้เคลบี้ ไม่อยู่เวร ลูกขับรถไปได้เลย”

13 Burnเผาผลาญ เธอยืนอยู่ข้างหลังห่างเขาห้าฟุต แต่ก็ยังแอบยิ้ม “ขอบคุณค่ะ พ่อ” เธอพูด เธออายุเกือบสิบหกแล้ว อีกสองสามเดือนก็จะได้ใบขับขี่ที่ออก โดยรัฐวอชิงตันอันเกรียงไกร แต่คนเรายอมมองข้ามเรื่องมากมายเพื่อการ ท�ำฟาร์ม เว้นเสียแต่ผู้ช่วยเคลบี้จะเป็นคนมอง และเว้นเสียแต่ว่าคนที่ถูก มองคือซาราห์ ดูเฮิร์สต์ ผู้มีสีผิวเข้มกว่าพ่อมาก แต่ก็อ่อนกว่ามากๆ จาก สีผิวของแม่ที่รักผู้ล่วงลับไปแล้ว ผู้ช่วยเคลบี้มีความคิดหลายอย่างเกี่ยว กับประเด็นเหล่านี้ ผู้ช่วยเคลบี้มีแต่จะลิงโลดหากพบว่าซาราห์ ดูเฮิร์สต์ ลูกสาวของแกเร็ทกับดาร์ลีน ดูเฮิร์สต์ นั่งอยู่หลังพวงมาลัยรถกระบะ ของฟาร์มอย่างผิดกฎหมาย แล้วเขาอาจท�ำอะไรต่อบ้างล่ะ ซาราห์กระชับเสื้อโค้ตให้แนบตัวแล้วผูกสายคาด เสื้อโค้ตตัวนี้เป็น ของแม่ และเธอตัวโตเกินเสื้อแล้ว แต่ก็ไม่โตขนาดที่ต้องหาเงินมาซื้อเสื้อ ใหม่ แม้ตรงไหล่เสื้อจะตึง แต่อย่างน้อยสวมแล้วก็อุ่นพอ เกือบจะอุ่นพอ ขณะที่เอามือซุกกระเป๋าไว้ตามเดิม ซาราห์ก็ได้ยินเสียงตีปีกพั่บๆ อีกหนึ่งชั่วโมงจะเที่ยงคืน ปั๊มเชฟรอนปิดแล้ว มีแค่ไฟนิรภัยที่เปิด อยู่ ท้องฟ้าหนาวเหน็บและเปรอะไปด้วยดวงดาว รวมทั้งทางช้างเผือกที่ สาดเปื้อนอยู่ตรงกลาง ส่วนนี้ของประเทศขึ้นชื่อเรื่องฝน แต่จะพูดให้ตรง กว่าก็คือขึ้นชื่อเรื่องวันสีเทาหม่นอันไร้ที่สิ้นสุด แต่คืนนี้ วันที่ 20 มกราคม ค.ศ. 1957 ท้องฟ้าปลอดโปร่ง ดวงจันทร์ข้างขึ้นใกล้เต็มดวงลอยต�่ำอยู่ บนท้องฟ้า ทอแสงนวลสว่าง แต่ก็ยังแพ้แสงดาวดารดาษเป็นจุดเล็กๆ สีขาวบนฟ้า จุดเล็กๆ สีขาวที่ตอนนี้มีเงามืดสาดมาบัง “มันจะไม่สะกดจิตลูก” พ่อบอก “นั่นเป็นความเชื่องมงาย มันเป็น แค่สัตว์ตัวหนึ่ง ตัวใหญ่และอันตราย แต่ก็เป็นสัตว์”

14 Burnเผาผลาญ “สัตว์ที่พูดได้” เธอว่า “สัตว์ที่ไม่มีวิญญาณก็ยังเป็นสัตว์อยู่ดี ไม่ว่ามันจะเรียนรู้ถ้อยค�ำ ไว้โกหกมากมายแค่ไหน” มนุษย์ไม่ไว้ใจมังกร แม้ว่าจะมีสันติภาพระหว่างสองเผ่าพันธุ์มา หลายร้อยปีแล้วก็ตาม อคติของพ่อไม่ใช่เรื่องผิดแปลกในกลุ่มคนวัยเดียว กับเขา ถึงแม้ซาราห์จะสงสัยว่าอคติดังกล่าวมากแค่ไหนที่เกิดจากการที่ เดี๋ยวนี้สิ่งมีชีวิตลึกลับช่างจ�ำนรรจาเหล่านี้เมินเฉยกับมนุษย์ ยกเว้นไม่กี่ ตัวที่เต็มใจจะเป็นมังกรรับจ้างขายแรงงาน แต่ในรุ่นของซาราห์นั้น ยาก ที่จะหาวัยรุ่นสักคนที่ไม่อยากเป็นมังกรบ้าง มังกรตัวนี้บินมาจากทิศเหนือซึ่งซาราห์อยากจะคิดว่านั่นหมาย ความว่ามันมาจากแดนร้างไร้อันไพศาลของเหล่ามังกรทางตะวันตกของ แคนาดา ภูมิประเทศธรรมชาติหนึ่งในไม่กี่แห่งที่หลงเหลืออยู่ในโลกนี้ เป็นที่ซึ่งมังกรยังบินว่อนอย่างอิสระ ยังคงมีวงสังคม ยังคงเก็บความลับ ต่างๆ เอาไว้ เธอรู้ว่าเรื่องนี้เหลวไหล แคนาดาอยู่ห่างออกไปเกือบสอง ร้อยไมล์ แดนร้างไร้ยิ่งอยู่ไกลจากนั้นไปอีกสองร้อยไมล์ นอกจากนี้มังกร แคนาดายังเลิกสื่อสารอย่างเป็นทางการกับมนุษย์ตั้งแต่ก่อนที่พ่อของ ซาราห์จะเกิดตั้งหนึ่งทศวรรษ ใครจะไปรู้ว่าพวกมันท�ำอะไรกันบ้างใน แดนร้างไร้ตลอดห้าสิบปีที่ผ่านมา มังกรฉายเดี่ยวที่ยังรับจ้างใช้แรงงาน ก็ไม่ให้ค�ำตอบใดๆ ถ้าพวกมันรู้นะ ตัวนี้อาจแค่มาจากฟาร์มอีกแห่งซึ่ง เป็นสถานที่จ้างงานที่ซอมซ่อและค่าแรงต�่ำ มันบินอยู่เหนือสองพ่อลูกแล้ว เขา ซาราห์คิด เขาบินอยู่เหนือเรา เหตุผลเดียวที่เธอคิดว่าเขา ไม่ใช่เธอ เพราะพ่อหลุดปากบอกครั้งแรกที่เอ่ยถึงการจ้างมังกร “มันไม่

15 Burnเผาผลาญ ผิดกฎหมาย” เขาบอก ซึ่งซาราห์ก็รู้อยู่แล้ว “แต่ถึงยังไงก็จะมีปัญหาอยู่ดี เราจะเก็บเงียบไว้จนกว่าเขาเริ่มงานไปแล้ว ถึงตอนนั้นก็ไม่มีใครจะมา หยุดเขาได้” ซาราห์ไม่แน่ใจว่าในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นถึงท�ำให้ เปลี่ยนจากเขาเป็นมัน มังกรยังบินวนเห็นเป็นร่างด�ำๆ อยู่พ้นแสงไฟของปั๊มน�้ำมัน แต่ กระนั้นซาราห์ก็ยังไม่วายประหลาดใจกับขนาดตัว จากปลายปีกข้างหนึ่ง จรดปลายปีกอีกข้างยาวห้าสิบฟุต อาจจะถึงหกสิบฟุตด้วย มังกรนี้ตัวเล็ก “พ่อคะ” เธอเรียก “เงียบก่อน” ทั้งสองมองมันบินเหนือศีรษะอีกรอบก่อนจะทะยานกลับสู่ท้องฟ้า สถานที่นัดพบนี้ไม่ได้น่าแปลกใจนัก รวมทั้งเวลานัดด้วย ที่นี่มีแสงไฟ และความเจริญเพียงพอจะท�ำให้มนุษย์รู้สึกปลอดภัย มีความมืดและ ไร้มนุษย์อื่นใดอยู่มากพอที่จะท�ำให้มังกรรู้สึกแบบเดียวกัน เพราะก็ อย่างที่พ่อบอกตรงๆ ว่าอาจเกิดปัญหาได้ ถึงอย่างนั้นก็ยังเห็นได้ชัดว่า มังกรตัวนี้ระแวดระวังมากกว่ามังกรส่วนใหญ่ เมื่อมันร่อนลงพื้นในที่สุด เธอก็เข้าใจเหตุผลของมัน แล้วก็รู้ด้วยว่า ท�ำไมมันตัวเล็กนัก “เขาเป็นสีน�้ำเงิน” เธอเอ่ยขึ้น แหกกฎหลายข้อที่พ่อตั้งไว้ “พ่อจะไม่เตือนให้ลูกเงียบอีกแล้วนะ” เขากล่าวโดยไม่หันมามอง เพราะตอนนี้ดวงตาจับจ้องอยู่ที่มังกรเท่านั้น มังกรสีน�้ำเงิน หรือออกจะน�้ำเงิน เธอแก้ค�ำ และแน่ละ ไม่ใช่น�้ำเงิน

16 Burnเผาผลาญ แบบน�้ำเงินจริงๆ แต่เป็นน�้ำเงินแบบสีของม้ากับแมว สีเทาอมเงินแบบ เข้มๆ ที่ถ้าต้องแสงเหมาะๆ จะเห็นเป็นสีเหลือบน�้ำเงิน เขาไม่ได้มีสีแดง ออกด�ำไหม้ๆ แบบมังกรแคนาดาที่เธอเคยเห็นเป็นครั้งคราวเมื่อพวกมัน ท�ำงานในฟาร์มหรือบินเหนือภูเขาไกลๆ บินไปไหนไปท�ำอะไรก็สุดรู้ แต่สีน�้ำเงิน สีน�้ำเงินเป็นรัสเซีย อย่างน้อยก็ตามเชื้อสายดั้งเดิม เป็นพันธุ์ที่หายากมากๆ ซาราห์เคยเห็นแต่ในหนังสือและแปลกใจมาก ที่ไม่เคยได้ยินข่าวลือเรื่องตัวนี้จากชาวบ้านแถวนั้นเลย มังกรรัสเซียยัง เป็นปัญหาด้วยสาเหตุอื่นๆ อีกด้วย เพราะเดี๋ยวนี้ครุซชอฟ ประธานสภา รัฐมนตรีของสหภาพโซเวียตขู่ว่าจะกวาดล้างพวกมันให้สิ้นซากอยู่เกือบ ทุกสัปดาห์ มังกรไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองของมนุษย์ก็จริง แต่การมีมังกร ตัวนี้อยู่ในฟาร์มก็จะไม่ท�ำให้ครอบครัวดูเฮิร์สต์ได้เพื่อนใหม่เช่นกัน มังกรบินลงนอกวงแสงไฟจากป้ายปั๊มน�้ำมัน ซาราห์กับพ่อยืนลึก เข้ามาในวงแสงนั้น พื้นไม่ได้สะเทือนเมื่อมังกรหยุดร่อนแล้วค่อยๆ ยื่น ตีนลงเหยียบพื้นดิน แต่พื้นสะเทือนตอนมังกรก้าวเข้ามา หัวและคอ ยาวๆ ค้อมต�่ำ กรงเล็บปลายปีกครูดดินทุกย่างก้าว ปีกมหึมากางออก ทั้งสองข้าง ท�ำให้ตัวมันดูใหญ่ขึ้น น่าครั่นคร้ามมากขึ้น เมื่อมันก้าวเข้าสู่แสงไฟในที่สุด เธอก็เห็นว่ามันมีดวงตาข้างเดียว อีกข้างมีแผลเป็นพาดทับ อันที่จริงดูจะมีรอยเย็บที่เหมือนเชือกตรึงให้ ปิดสนิท ดวงตาที่เหลือรอดน�ำร่างกายตรงมาหาจนกระทั่งมังกรหยุด แล้ว สูดลมหายใจเฮือกใหญ่สองครั้ง ซาราห์รู้ว่ามันจะท�ำเช่นนี้ จมูกมังกรรับ รู้กลิ่นได้ดีกว่าจมูกของหมาล่าเนื้อ ลือกันว่าพวกมันรับรู้ได้มากกว่าแค่ กลิ่นตัว แต่ยังได้กลิ่นความกลัวของเรา หรือได้กลิ่นเวลาที่เราโกหกด้วย ทว่านี่ก็อาจเป็นแค่ความเชื่องมงายแบบเดียวกับเรื่องมังกรสะกดจิตเรา

17 Burnเผาผลาญ อาจจะนะ “นายเองใช่ไหม” มันถาม ถ้อยค�ำกระหึ่มก้องมาจากในอกส่วนลึก มากๆ จนซาราห์แทบรู้สึกได้มากกว่าจะได้ยิน “ก็ต้องเป็นฉันอยู่แล้ว” พ่อตอบ ซาราห์ประหลาดใจที่ฟังออกว่ามี ความหวาดกลัวแฝงอยู่ในนั้น ดวงตาของมังกรหรี่ลงอย่างคลางแคลง เห็นได้ชัดว่ามันไม่เข้าใจค�ำตอบ ซึ่งพ่อก็ดูออกเช่นกัน “ฉันเอง” เขาบอก มังกรมองพ่อขึ้นๆ ลงๆ แล้วเหลือบตามองซาราห์ “ห้ามพูดกับเธอ” พ่อบอก “ฉันแค่พามาเพื่อเป็นพยาน เพราะแก เรียกร้องยังงั้น” นี่เป็นเรื่องใหม่ส�ำหรับซาราห์ พยานอย่างนั้นหรือ ก่อนหน้านี้พ่อท�ำ เหมือนกับว่าการที่เธอมาด้วยเป็นความคิดที่น่าร�ำคาญของเธอเอง มังกรยังคงก้มหัวต�่ำ แต่โก่งคอขึ้น ดูเหมือนงูที่ตั้งท่าจะฉกเป็นที่สุด มันยื่นจมูกเข้ามาใกล้พ่อ ใกล้จนงับทีเดียวก็กินพ่อได้ ถึงแม้เรื่องแบบนี้แทบจะไม่เกิดขึ้นอีกแล้วก็เถอะ “ค่าจ้าง” มันกระหึ่มใส่ เป็นค�ำบอกเล่า ไม่ใช่ค�ำถาม “ทีหลัง” พ่อตอบ “เดี๋ยวนี้” มังกรบอกพลางกางปีก “ไม่งั้นจะท�ำไม จะพ่นไฟใส่ฉันเรอะ” เสียงกระหึ่มต�่ำดังจากอกของมังกรอีกรอบ ซาราห์ตื่นตระหนกไปชั่ว ขณะพลางนึกสงสัยว่าพ่อเล่นแรงไปหรือเปล่า มังกรตัวนี้ตาเสียข้างหนึ่ง มันอาจรู้สึกว่าไม่ต้องท�ำตาม... แล้วเธอก็ตระหนักว่ามันหัวเราะ “ท�ำไมเดี๋ยวนี้มังกรถึงไม่ฆ่ามนุษย์นะ” มังกรถาม ผุดยิ้มที่มุมปาก

18 Burnเผาผลาญ ถึงคราวพ่องงบ้าง “อะไรนะ” แต่มังกรตอบค�ำถามเสร็จสรรพ “สังคม” มันบอก และแม้จะด้วย ส�ำเนียงที่ไม่เป็นมนุษย์ (และจะว่าไปแล้วก็ไม่เป็นรัสเซีย) แม้จะไม่มี วิญญาณด้วย ซาราห์ก็ยังฟังออกถึงความขมขื่นแกมขบขันอยู่ในค�ำเดียว ที่มันพูด “ครึ่งหนึ่ง” มังกรกล่าว หันมาต่อรองแล้ว “ทีหลัง” พ่อตอบ “ครึ่งหนึ่งเดี๋ยวนี้” “หนึ่งส่วนสี่เดี๋ยวนี้ สามส่วนสี่ทีหลัง” มังกรครุ่นคิด ดวงตาจับจ้องซาราห์อีกครั้งอยู่ชั่วขณะ มันสะกดจิต เราไม่ได้ เธอเตือนตัวเอง เขาท�ำแบบนั้นไม่ได้ “ก็ได้” มังกรค�ำรามตอบ แล้วทิ้งก้นลงนั่ง รอค่าจ้างหนึ่งส่วนสี่ แกเร็ท ดูเฮิร์สต์หันมาหาลูกสาวแล้วพยักหน้าให้นิดๆ เรื่องนี้เป็นไปตาม คาด ซาราห์เดินไปที่รถกระบะ เปิดประตูฝั่งผู้โดยสาร แล้วล้วงช่องเก็บ ของหน้ารถ หยิบทองแวววาวก้อนเล็กเท่าปลายนิ้วออกมา พ่อเอาแหวน แต่งงานที่ท�ำอย่างถูกๆ ไปหลอม ทั้งหมดก็มีอยู่เท่านี้ ทั้งสองไม่มีอะไร เหลือมาจ่ายค่าจ้างเมื่อมังกรท�ำงานเสร็จ แต่พ่อก็ไม่ยอมให้ซาราห์หา ทางช่วยแก้ไขความกังวลนี้เลย “เดี๋ยวก็เรียบร้อยเอง” พ่อบอกแค่นี้ เธอ สันนิษฐานว่านี่หมายถึงการน�ำชุดเครื่องเงินที่เป็นมรดกตกทอดของแม่มา หลอม โดยหวังว่ามังกรจะยอมรับโลหะที่ด้อยกว่าและรู้ว่ามันอาจจะยอม แต่ถ้ามันไม่ยอมล่ะ จะเป็นอย่างไรถ้ามันโมโหโกรธาที่ถูกโกง แต่ คิดอีกที ถึงที่สุดแล้วมันจะมีทางเลือกอะไร แม้แต่ผู้ช่วยนายอ�ำเภอที่ไม่ใช่ เคลบี้ก็ไม่ยี่หระที่มังกรถูกกดค่าแรง ถึงอย่างนั้นซาราห์ก็ยังหวั่นใจอยู่ดี เธอหวั่นใจอยู่ตลอด ทุกวันนี้มีเรื่องมากมายให้กังวล

19 Burnเผาผลาญ เธอเอาเศษทองชิ้นเล็กๆ นั้นไปให้พ่อ พ่อพยักหน้าให้ขณะรับมัน ไป เธอคิดว่าเขาคงพยักหน้าให้กับความกล้าหาญของเธอ เขาชูขึ้นให้ มังกรดม ซึ่งมันก็ดมดังคาด ด้วยการสูดหายใจเข้าไปอย่างแรงราวกับ จะพยายามดูดทองไปจากมือที่ยื่นให้ “กระจอก” มังกรว่า “นี่ตามที่เราตกลงกันไว้” พ่อบอก “ที่เราตกลงกันมันกระจอก” แต่มังกรก็กางกรงเล็บยื่นมา แล้วพ่อ ก็หย่อนทองลงในนั้น “ข้อตกลงของเรามีพยาน” พ่อพูด “จ่ายค่าจ้างแล้วหนึ่งในสี่ เป็น อันว่าตกลงกันเรียบร้อย” หลังจากนั้นอึดใจหนึ่ง มังกรก็พยักหน้า “รู้หรือเปล่าว่าฟาร์มเราอยู่ตรงไหน” มังกรพยักหน้าอีก “แกจะนอนในทุ่งที่แกจะแผ้วถาง” พ่อบอก “แกจะเริ่มงานพรุ่งนี้เช้า” มังกรไม่พยักหน้ากับข้อนี้ แค่ยิ้มอีกรอบราวกับจะขบคิดว่ามันยอม ให้ตัวเองโดนสั่งขนาดนี้ได้อย่างไร “อะไร มีอะไร” พ่อถาม เสียงหัวเราะกระหึ่มในอกมังกรอีกรอบ แล้วมันก็พูดอีกครั้ง “สังคม” มังกรโผบินกะทันหันจนซาราห์กับพ่อเกือบโดนพัดปลิว แล้วมันก็ กลายเป็นเงามืดบนท้องฟ้าอีกครั้ง “มันรู้ด้วยหรือคะว่าฟาร์มอยู่ตรงไหน” เธอถาม “มันต้องไปประเมินงานมาก่อนแล้ว” พ่อตอบ ขณะเดินกลับไปยัง รถกระบะ

20 Burnเผาผลาญ “ตอนนั้นหนูอยู่ไหนคะ” เธอถามพลางเดินตามพ่อไป “พ่อบอกว่า ติดต่อมันผ่านนายหน้าของคุณอินางาวา...” “ลูกไม่จ�ำเป็นต้องรู้ทุกเรื่องหรอก” พ่อขึ้นไปนั่งหลังพวงมาลัย แล้ว กระแทกประตูปิด เธอเปิดประตูฝั่งผู้โดยสาร แต่ไม่ขึ้นไปนั่ง “พ่อบอกว่าจะให้หนูขับ นะ” เขาถอนหายใจยาวเหยียดอีกรอบ “ก็ใช่” ครู่ต่อมาทั้งสองก็ออกถนนกัน ซาราห์เปลี่ยนเกียร์อย่างคล่องแคล่ว ทั้งๆ ที่รถกระบะคันนี้มีคลัตช์ที่แข็งอย่างขึ้นชื่อ เธอขับอย่างง่ายดายไป ตามเนินเขาและทางโค้งต่างๆ ตามลักษณะของพื้นที่แถบนี้ของประเทศ เธอเลี่ยงหลุมบ่อ ให้สัญญาณไฟแม้จะขับไปหลายไมล์โดยไม่เจอรถอื่น สักคัน และเธอไม่ได้เหยียบคันเร่งแบบที่รู้ว่าจะท�ำให้พ่อร�ำคาญ พ่อไม่มี อะไรให้บ่นแม้แต่อย่างเดียว แต่ก็ยังบ่นอยู่ดี “อย่าเร็วเกินไป” เขาบอก ขณะรถแล่นช้าๆ บนถนนลาดยางช่วง สุดท้ายในเมืองโฟรม รัฐวอชิงตัน เมืองเล็กๆ ที่ฟาร์มของสองพ่อลูกอยู่ ชายเขตของเมืองห่างไปอีกไกล “ลูกไม่มีวันรู้หรอกว่าจะมีกวางสักตัว กระโจนตัดหน้าตอนไหน” “มีมังกรอยู่บนฟ้า” เธอบอกพลางเงยหน้ามองดวงดาวผ่านกระจก หน้ารถ “กวางต้องซ่อนตัวอยู่แน่” “ถ้าพวกมันรู้จักคิดนะ” พ่อบอก แต่อย่างน้อยพ่อก็หยุดพูดเรื่องการ ขับรถ ถนนมืด จะมีก็แต่แสงไฟหน้ารถ ไม่มีไฟถนน ไม่มีไฟจากบ้านเรือน ใกล้ๆ เพราะไม่มีบ้านเรือนอยู่ใกล้ๆ นี่เลย มีแต่ป่าหนาทึบที่ห้อมล้อมอยู่ เหมือนกับความมืดของค�่ำคืน ทั้งสองนั่งไปเงียบๆ อยู่ครู่หนึ่ง ซาราห์คิด

21 Burnเผาผลาญ เรื่องที่ต้องตื่นนอนในอีกเพียงหกชั่วโมงเพื่อไปดูแลไก่กับหมูก่อนจะไป โรงเรียน แล้วเธอก็นึกขึ้นได้ “เรื่องพยานนี่ยังไงกันคะ หนูเป็นพยานส�ำหรับ อะไร” “มังกรคิดว่ามนุษย์โกหก” พ่อตอบ ให้ค�ำอธิบาย ไม่ใช่ค�ำขอโทษ “และต้องการพยานอย่างน้อยหนึ่งคนมารับรองข้อตกลงที่ถูกต้องตาม กฎหมายทุกครั้ง” “พยานจะโกหกด้วยไม่ได้หรือคะ” “ได้สิ และแน่นอนว่ามันเกิดขึ้นด้วย แต่อย่างน้อยที่สุดก็จะได้ กระจายความผิด สองคนเสี่ยงเดือดร้อน ไม่ใช่แค่คนเดียว” เขายักไหล่ “หลักปรัชญาของมังกรน่ะ” “เราโกหก” พ่อเหลือบมองเธอ “เราโกหกจริงๆ” เธอว่า “เราไม่มีทองมาจ่ายตอนจบ” “พ่อบอกแล้วว่าอย่าไปกังวลเรื่องนั้น” “หนูจะไม่กังวลได้ยังไง มังกรอันตรายจะตาย แล้วเราก็โกหกมันด้วย ความผิดกระจายระหว่างเราสองคนนะคะ” “ลูกไม่มีความผิดอะไรหรอก ซาราห์” น�้ำเสียงของพ่อบ่งบอกว่า ไม่อนุญาตให้ถามอะไรอีกแล้ว โดยเฉพาะถามว่าเขาแบกความผิดไว้ มากแค่ไหน “อีกอย่าง มันเป็นเรื่องของการประนีประนอมกับพวกมัน มากกว่า พวกมันเข้าใจความหมายของค�ำ และยึดมั่นกับอะไรก็ตามที่ พวกมันเห็นว่าเป็นหลักการ” เธออดไม่ได้ “ฟังเหมือนเรื่องที่สิ่งมีชีวิตที่มีวิญญาณท�ำมากเลยค่ะ”

22 Burnเผาผลาญ “ซาราห์” พ่อเตือน รถกระบะลอยขึ้นจากถนน ตอนแรกซาราห์คิดว่าเธอหักรถตกลงไปในคูเพราะหน้ารถทิ่ม เธอ กระแทกเข้ากับพวงมาลัย ส่วนพ่อก็ไถลจากที่นั่งไปชนแผงหน้าปัด เขา ร้อง แต่เพราะประหลาดใจมากกว่าเจ็บ ขณะเอามือข้างหนึ่งยันไว้ ซาราห์ กระทืบเบรก แต่ไม่เกิดอะไรขึ้น ทั้งสองถูกเหวี่ยงไปข้างหน้าอีกราวกับจะ ตีลังกา... แล้วก็ถูกเหวี่ยงกลับ ตัวกระแทกที่นั่งอย่างยั้งไม่อยู่ ตอนนี้ท้ายรถ ทิ่มลงแทน “มันบ้าอะไรกันเนี่ย” พ่อร้องอย่างตกใจ รถกระบะเหวี่ยงไปข้างหน้าอีกครั้ง ซาราห์มองถนนซึ่งห่างออกไป เรื่อยๆ อยู่ใต้ตัว “เขาหิ้วเราขึ้นไป” พ่อบอกขณะเอี้ยวตัวไปมองกระจกหลัง ซาราห์เหลือบมองเช่นกัน แม้เธอกลัวเกินกว่าจะปล่อยมือจาก พวงมาลัยไปมองนานนัก กรงเล็บหลังของมังกรตะปบรถไว้ทั้งสองด้าน เหมือนนกอินทรีที่เพิ่งจับปลาแซลมอนได้ ซาราห์มองไปข้างหน้าอีกครั้ง มองถนนและหมู่ไม้ที่ตอนนี้ผ่านใต้ตัวไปเร็วจี๋ขณะปีกมหึมาของมังกร กระพือหิ้วรถไป เธอหวังว่าจะพาไปที่ฟาร์มนะ “เขาหิ้วเราขึ้นไป” พ่อบอกอีกครั้ง แทบจะสะกดความโกรธไว้ไม่อยู่ และดูจะไม่สังเกตว่าตนเปลี่ยนสรรพนามกลับไปเป็นเขา “เขาจะทิ้งเราหรือเปล่าคะ” ซาราห์ถาม เธอรู้ว่าพ่อไม่มีค�ำตอบให้ ทั้งสองอยู่ในกรงเล็บมังกร ไม่อาจบงการ เรื่องที่จะเกิดขึ้นต่อไปได้เลย