กระต่ายกับเต่านิทานประเภทใด

Sanook Campus เราขอนำเสนอ นิทานอีสป ที่อ่านแล้วสนุกแถมยังได้ข้อคิดดีๆ มาฝากเพื่อนๆ กัน โดยวันนี้เราขอนำเสนอ นิทานเรื่อง กระต่ายกับเต่า

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในป่าใหญ่ มีกระต่ายตัวหนึ่ง กระต่ายตัวนี้วิ่งเร็วมาก และด้วยที่มันวิ่งเร็ว มันจึงชอบดูถูกสัตว์อื่นๆ ที่สามารถวิ่งได้ช้ากว่ามัน จนมันกลายเป็นกระต่ายที่หลงตัวเอง เพราะความมั่นใจที่ผิดๆ ว่าคงไม่มีผู้ใดที่จะชนะมันแน่นอน

วันหนึ่งในขณะที่กระต่ายนอนเล่นอยู่ในป่า มันได้มองเห็นเต่าตัวหนึ่ง มันจึงพูดจาเยาะเย้ยเต่าตัวนั้นว่า

"เจ้าน่ะ คลานต้วมเตี้ยมแบบนี้ เมื่อไหร่จะไปถึงที่หมายล่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า"

เต่าน้อยเมื่อถูกกระต่ายถากถางจึงเกิดความไม่พอใจ และพูดตอบเจ้ากระต่ายไปว่า

"เจ้าน่ะ มัวแต่หลงตัวเอง เจ้าก็ได้แต่ถากถางคนอื่นไปวันๆ"

เมื่อเจ้ากระต่ายได้ยินเต่าตอบแบบนั้นก็เลยรู้สึกไม่พอใจ มันจึงท้าเจ้าเต่าวิ่งแข่งกัน

แน่นอนว่าเมื่อการแข่งขันเริ่มต้นขึ้น เจ้ากระต่ายก็วิ่งนำหน้าเจ้าเต่าไปแบบไม่เห็นฝุ่น เมื่อเจ้ากระต่ายวิ่งไปได้ถึงครึ่งทางมันก็เกิดชะล่าใจว่ายังไงก็ชนะเจ้าเต่าแน่นอน มันจึงเอนตัวลงนอนงีบหลับอยู่ข้างทาง

เจ้าเต่าก็ยังคงคลานต้วมเตี้ยมจากจุดเริ่มต้นไปเรื่อยๆ อย่างไม่ย่อท้อ จนมันเข้าใกล้เส้นชัย และในขณะเดียวกันเจ้ากระต่ายได้ตื่นขึ้นเห็นเจ้าเต่ากำลังจะวิ่งเข้าเส้นชัย มันจึงรีบวิ่งอย่างรวดเร็ว โดยหวังที่จะคว้าชัยชนะในครั้งนี้

แต่มันก็สายไปเสียแล้ว เพราะว่าเจ้าเต่าได้คลานเข้าเส้นชัยเสียก่อน ทำให้การแข่งขันในครั้งนี้ เต่าเป็นผู้ชนะ และทำให้เจ้ากระต่ายรู้สึกหน้าแตกยับเยิน และเปลี่ยนแปลงตัวเองจากเป็นกระต่ายที่หลงตัวเอง เป็นกระต่ายนิสัยดีต่อไป

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

  • ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น
  • ความประมาท ย่อมนำมาซึ่งล้มเหลว

ผู้แต่ง : อีสป

นิทานอมตะเรื่อง “กระต่ายกับเต่า” เป็นนิทานก่อนนอนยอดนิยมที่เด็ก ๆ ทั่วโลกรู้จัก นิทานเรื่องนี้มีข้อคิดสอนใจที่เหมาะกับเด็ก แถมไม่มีฉากรุนแรงใด ๆ นิทานเรื่องนี้จึงเป็นขวัญใจของคุณพ่อคุณแม่และคุณครูอีกด้วย การนำนิทานเรื่อง “กระต่ายกับเต่า” มาเล่าใหม่ในแบบนิทานนำบุญ ถือว่าเป็นเกียรติของเว็บไซต์นิทานนำบุญ ที่ได้มีโอกาสแสดงความเคารพต่อผู้แต่งดั้งเดิม คือ อีสป (Aesop) นักเล่านิทานชาวกรีกในสมัยโบราณ หวังว่านิทานอีสปเรื่องกระต่ายกับเต่าที่เล่าในแบบนิทานนำบุญ จะทำให้เด็ก ๆ มีความสุขกันนะครับ

นิทานเรื่อง กระต่ายกับเต่า

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีกระต่ายตัวหนึ่งเป็นกระต่ายที่มีนิสัยไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ คือว่า มันเป็นกระต่ายที่ขี้โอ่ ชอบโอ้อวด แล้วก็ชอบท้าคนนู้นคนนี้แข่งขันอะไรต่อมิอะไรไปเรื่อย และที่แย่ที่สุดก็คือว่า มันค่อนข้างจะเจ้าเล่ห์ คือว่า มันจะคอยไปท้าคนนู้นคนนี้แข่ง ในสิ่งที่แข่งอย่างไรมันก็ชนะอยู่แล้ว

ยกตัวอย่างเช่น มันเคยไปยั่วช้าง ท้าทายนู่น ท้าทายนี่ ให้ช้างแข่งขันด้วย พอช้างรับคำท้า มันก็ท้าช้างแข่งขันกันว่า ใครจะขนนุ่มกว่ากัน! หือ…แข่งขนนุ่มเนี่ยนะ! พอให้คนอื่นตัดสิน ยังไง้ ยังไง กระต่ายก็ชนะ เพราะกระต่ายมันขนนุ่มกว่าช้างอยู่แล้ว พอกระต่ายมันชนะ มันก็จะแลบลิ้นปลิ้นตาหลอกช้าง “บรู้ว ๆ ” พร้อมกับพูดว่า “ขี้แพ้ ขี้แพ้ ขี้แพ้ ขี้แพ้” และนี่ก็คือนิสัยของเจ้ากระต่าย

หรืออีกตัวอย่างหนึ่ง มีอยู่ครั้งหนึ่ง เจ้ากระต่ายมันแสบมาก มันไปท้าเด็ก ๆ ท้าแข่งขันกับเด็ก ๆ มันก็จะเริ่มจากการไปพูดจาดูถูกเด็ก ๆ เพื่อท้าทายให้เด็ก ๆ ยอมแข่งขันด้วย พอเด็ก ๆ หลงกลทนไม่ไหว เผลอไปรับคำท้าของมัน มันก็บอกเด็ก ๆ ว่า “งั้นเรามาแข่งกินแครอทกันดีกว่า”

โถ! ใคร ๆ ก็รู้ดีอยู่แล้วว่า เจ้ากระต่ายมันเชี่ยวชาญเรื่องการกินแครอทมากกว่าใคร ๆ ส่วนเด็ก ๆ ก็ไม่ค่อยเชี่ยวชาญการกินแครอทสักเท่าไร สุดท้าย เด็ก ๆ ก็แพ้กระต่าย พอแพ้แล้ว เจ้ากระต่ายก็แลบลิ้นปลิ้นตาหลอก “บรู้ว ๆ” จากนั้น มันก็พูดว่า “ขี้แพ้ ขี้แพ้ ขี้แพ้ ขี้แพ้” ดูสิ กระต่ายมันช่างร้ายจริง ๆ

อยู่มาวันหนึ่ง เจ้ากระต่ายจอมซ่า มันก็ไปเจอเต่าตัวหนึ่ง คลานต้วมเตี้ยม ต้วมเตี้ยม มันก็คิดแผนในใจว่า “เราจะต้องท้าแข่งกับเจ้าเต่า”

เมื่อคิดแบบนั้นแล้ว มันก็เลยไปล้อเลียนเต่าว่า “เต่าต้วมเตี้ยมติงต๊องตุ๊ต๊ะตุ้งติ้งตุ๊ดตู่ตึ่งตึงตึ๊ง มาแข่งอะไรกันหน่อยมั๊ยล่ะ”

เจ้าเต่ามองกระต่ายด้วยความงุนงง แล้วก็ถามกลับไปอย่างยานคางว่า “จะมาท้าแข่งอะไรเหรอ” เต่าคลานก็ช้า พูดก็ช้า

กระต่ายฟังจบก็หลอกเต่าให้หลงกลต่อไปว่า “กล้ามาแข่งมั๊ยล่ะ”

“ก็ได้ ก็ได้ แข่งก็ได้” เต่าตอบ

เมื่อเต่าหลงกลยอมแข่ง กระต่ายจึงบอกว่า “งั้นเรามาวิ่งแข่งกัน โอ่ย โอ๊ย โอย”

เต่าหลงกลตกปากรับคำไปแล้ว พอมันรู้ว่าต้องวิ่งแข่ง แล้วมันจะชนะได้อย่างไร แต่ในเมื่อรับปากแล้ว มันจึงต้องยอมแข่งด้วย

เมื่อเต่ายอมแข่ง กระต่ายจึงเรียกให้สัตว์ต่าง ๆ มาเป็นพยานในการแข่งขัน โดยเจ้าหมาจิ้งจอกมาทำหน้าที่ให้สัญญาณเริ่มแข่งขันที่จุดเริ่มต้น ส่วนสิงโตเจ้าป่าทำหน้าที่ดูว่าใครถึงเส้นชัยก่อน

เมื่อหมาจิ้งจอกให้สัญญาณเริ่มการแข่งขัน กระต่ายก็วิ่งปรู้ดนำหน้าออกไปจนเกือบจะถึงเส้นชัย ส่วนเต่าก็ยังคงคลานต้วมเตี้ยม ๆ อยู่บริเวณจุดเริ่มต้น

แต่กระต่ายมันประมาท ยังไม่ยอมเข้าเส้นชัย เพราะมันมีนิสัยชอบล้อเลียนเย้ยหยันคนอื่น มันจึงวิ่งปรู้ดกลับมาหาเต่า แล้วก็กระโดดดึ๋ง ๆ ๆ รอบตัวเต่า จากนั้น มันก็กระโดดข้ามกระดอง ดึ๋ง ดึ๋ง ดึ๋ง ข้ามกระดองไป ข้ามกระดองมา โชว์ลีลาท่ายากสารพัด แหม! ก็มันรู้อยู่แล้วว่า ยังไง้ ยังไง มันก็ต้องชนะ เพราะว่าเต่ามันคลานช้ามาก ๆ

กระต่ายกระโดดไปกระโดดมา กระโดดมากระโดดไป กระโดดไปกระโดดมา กระโดดมากระโดดไป กระโดดจนเบื่อ เพราะขนาดกระต่ายวิ่งไปวิ่งกลับ แล้วมากระโดดเล่นแบบนี้ เต่าก็ยังคลานไปไม่ถึงไหน กระต่ายกระโดดไปนาน ๆ เข้า ก็ชักเหนื่อย มันจึงบอกเต่าว่า “เธออยากคลานก็คลานไปก่อนนะเจ้าเต่าต้วมเตี้ยม เดี๋ยวฉันนอนพักเอาแรงสักชั่วโมงสองชั่วโมงนะ ยังไงเธอก็ยังไปไม่ถึงไหนหรอก”

พอคิดเช่นนั้น กระต่ายจึงไปหาที่เหมาะ ๆ ตรงโคนต้นไม้ แล้วก็ล้มตัวลงนอนเกาพุงแกรก ๆ ด้วยความสบายใจ ลมพัดมาเย็น ๆ เอื่อย ๆ กระต่ายก็เริ่มเคลิ้ม ประกอบเจ้ากระต่ายวิ่งไปจนเกือบถึงเส้นชัยแล้วก็วิ่งกลับมา แถมยังมีการกระโดดรอบตัวเต่า มันจึงเริ่มเหนื่อยเริ่มล้า พอมันเหนื่อยมันล้า มันจึงหลับ แต่ไม่ใช่การหลับแบบนอนกลางวัน มันหลับลึก หลับสนิทเหมือนนอนอยู่ที่บ้านเลย แถมมันยังฝันอีกว่า มันวิ่งชนะเต่า แล้วมันก็ล้อเลียนเต่าด้วยการแลบลิ้นปลิ้นตา “บรู้ว ๆ ” จากนั้น มันก็พูดว่า “ขี้แพ้ ขี้แพ้ ขี้แพ้ ขี้แพ้” ดูสิ ขนาดตอนหลับ กระต่ายก็ยังไม่ทื้งนิสัยชอบเยาะเย้ยผู้อื่น

ครั้นเวลาผ่านไป กระต่ายก็ตื่นขึ้นมา มันมองไปรอบ ๆ ตัว แสงก็ยังสว่างเหมือนช่วงก่อนที่มันจะนอนหลับ มันจึงคิดว่า มันคงหลับไปไม่เกินชั่วโมงแน่ ๆ แต่เมื่อมันหันไปมองที่เส้นชัย มันก็ตกใจจนหูตั้งโด่ เพราะว่า เต่าคู่แข่งของมัน คลานจนเกือบไปถึงเส้นชัยอยู่แล้ว

กระต่ายจึงรีบสอบถามหมาจิ้งจอกที่อยู่ใกล้ ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น ครั้นเมื่อหมาจิ้งจอกบอกกระต่ายว่า กระต่ายเผลอนอนหลับไปข้ามวันข้ามคืน ในขณะที่เจ้าเต่าคลานไปเรื่อย ๆ เอื่อย ๆ ข้ามวันข้ามคืนเช่นกัน กระต่ายจึงตระหนักว่ามันประมาทพลาดท่า มันจึงรีบวิ่งปรู๊ดตรงไปที่เส้นชัยทันที

แต่อนิจจา ในขณะที่เจ้ากระต่ายไล่หลังไปจนเกือบถึงเส้นชัย เจ้าเต่าก็ยืดหัวจากกระดองเข้าแตะเส้นชัย และชนะเจ้ากระต่ายไปอย่างหวุดหวิดแบบเส้นยาแดงผ่าแปด

เมื่อกระต่ายแพ้ สัตว์ต่าง ๆ ก็เดินมาหากระต่าย แล้วก็แลบลิ้นปลิ้นตาหลอก “บรู้ว ๆ” จากนั้น สัตว์ต่าง ๆ ก็พูดพร้อมกันว่า “ขี้แพ้ ขี้แพ้ ขี้แพ้ ขี้แพ้”

กระต่ายเจ็บใจที่ถูกเย้ยหยัน มันเพิ่งเข้าใจความรู้สึกของคนที่แพ้และถูกคนอื่นเยาะเย้ยเป็นครั้งแรก มันรู้สึกผิดที่ตลอดมา มันมักเยาะเย้ยผู้อื่นโดยไม่เคยเอาใจเขามาใส่ใจตัวเองเลย

ส่วนเจ้าเต่า ถึงมันจะชนะ แต่มันก็ไม่ได้แลบลิ้นปลิ้นตาใส่กระต่ายเลย มันกลับหันมาหากระต่าย แล้วบอกกระต่ายว่า “เราแข่งกันเสร็จแล้ว ฉันว่านะ อย่าคิดมากเลย ว่าใครแพ้ใครชนะ ฉันว่านะ แทนที่เราจะเป็นคู่แข่งกัน เรามาเป็นเพื่อนกันน่าจะดีกว่านะ”

กระต่ายยิ้มและขอบใจเต่าที่เต่าไม่ล้อเลียนมัน แม้ความประมาทของกระต่าย จะทำให้กระต่ายพ่ายแพ้ก็จริง แต่การพ่ายแพ้ครั้งนี้ ทำให้กระต่ายได้บทเรียนครั้งสำคัญ ดังนั้น กระต่ายจึงตกปากรับคำเป็นเพื่อนกับเต่า และหลังจากนั้นเป็นต้นมา กระต่ายก็พยายามปรับปรุงนิสัยของตัวเอง และไม่เคยท้าใคร ๆ แข่งขันอะไรอีกเลย

#นิทานนำบุญ

………………………………….

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

flow chart แสดงขั้นตอนการปฏิบัติงาน lmyour แปลภาษา กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน กาพย์เห่เรือ การเขียน flowchart โปรแกรม ตัวรับสัญญาณ wifi โน๊ตบุ๊คหาย ตัวอย่าง flowchart ขั้นตอนการทํางาน ผู้แต่งกาพย์เห่ชมไม้ ภูมิปัญญาหมายถึง มีสัญญาณ wifi แต่เชื่อมต่อไม่ได้ เชื่อมต่อแล้ว ไม่มีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ /roblox promo code redeem 3 พระจอม มีที่ไหนบ้าง AKI PLUS รีวิว APC UPS APC UPS คือ Adobe Audition Adobe Bridge Anapril 5 mg Aqua City Odaiba Arcade Stick BMW F10 jerk Bahasa Thailand Benz C63 ราคา Bootstrap 4 Bootstrap 4 คือ Bootstrap 5 Brackets Brother Scanner Brother iPrint&Scan Brother utilities Burnt HD C63s AMG CSS เว้น ช่องว่าง CUPPA COFFEE สุราษฎร์ธานี Cathy Doll หาซื้อได้ที่ไหน Clock Humidity HTC-1 ColdFusion Constitutional isomer Cuppa Cottage เจ้าของ Cuppa Cottage เมนู Cuppa Cottage เวียงสระ DMC DRx จ่ายปันผลยังไง Detroit Metal City Div class คือ Drastic Vita