การตั้งคําถามมีความสําคัญอย่างไร

ท่านมีโอกาสสอนคนรอบข้าง ไม่ว่าจะในการสนทนาหนึ่งนาทีบนรถประจำทาง ในบทเรียนที่โบสถ์ ในความเห็นทางออนไลน์ หรือในการสนทนาตัวต่อตัวอย่างลึกซึ้งกับเพื่อน

ต่อไปนี้เป็นเกร็ดน่ารู้สำหรับการสอนที่มีประสิทธิภาพในสถานการณ์ต่างๆ: ถามคำถาม

คำถามที่ดีนำไปสู่การเรียนรู้ที่ดี และโชคดีตรงที่การถามคำถามที่ดีเป็นบางสิ่งบางอย่างที่ท่านสามารถศึกษา ปฏิบัติ และฝึกทำให้ดีได้ วิธีการมีดังนี้

ถามคำถามสำคัญ

คำถามสำคัญคือคำถามที่ทำให้ท่านคิดและรู้สึกอย่างลึกซึ้ง คำถามที่นำท่านไปสู่ความจริง ประจักษ์พยาน และการเปลี่ยนแปลง คำถามเช่นนั้นสามารถครอบคลุมหลายประเด็น แต่มักจะมีบางอย่างเหมือนกัน คือ (1) ไม่ใช่คำถามผิวเผินหรือเกี่ยวกับข้อเท็จจริงเพียงอย่างเดียว (แต่อาจเป็นคำถามสืบสาวข้อเท็จจริง) (2) คำถามมีความเชื่อมโยงบางอย่างกับชีวิตประจำวันของเรา และ (3) คำถามท้าทายเราให้มีคำตอบนอกเหนือไปจากคำตอบที่กำหนดไว้ล่วงหน้า

จดจำสาเหตุที่เราถามคำถาม

คำถามดึงเราให้มีส่วนร่วมโดยทำให้รู้ช่องว่างที่ความนึกคิดของเราต้องการเติมให้เต็มในขณะนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการถามคำถามที่กระตุ้นให้เราใคร่ครวญจะทำให้กระบวนการต่อไปนี้เกิดขึ้นได้

  1. ผู้คนสนใจสิ่งที่เรากำลังพูด

  2. พวกเขาใช้สิทธิ์เสรีตรึกตรองและบอกคำตอบ

  3. การใช้สิทธิ์เสรีเช่นนี้ช่วยให้พระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นพยานยืนยันความจริงต่อพวกเขา

เมื่อทราบกระบวนการดังกล่าว ท่านจะเกิดการรับรู้ว่าจะถามคำถามแบบใดและหลีกเลี่ยงคำถามใด

ตัวอย่าง: แทนที่จะถามว่า “ทำไมการอ่านพระคัมภีร์จึงสำคัญ” ท่านอาจจะถามว่า “การศึกษาพระคัมภีร์สร้างความแตกต่างในชีวิตท่านอย่างไร”

พึงระลึกว่าท่านกำลังสอนคน ไม่ใช่แค่สอนบทเรียน

ถ้าท่านรู้จักคนที่ท่านกำลังสอนและนึกถึงความต้องการของพวกเขา ท่านจะเลือกคำถามที่มุ่งหมายจะช่วยพวกเขา ไม่เพียงมุ่งหมายจะให้พวกเขาเข้าใจแนวคิดบางอย่าง

ตัวอย่าง: แทนที่จะถามว่า “กระบวนการกลับใจมีขั้นตอนอะไรบ้าง” ท่านอาจจะถามว่า “ท่านจะทำให้ถูกต้องได้อย่างไรเมื่อท่านรู้ตัวว่าท่านทำบางอย่างไม่ถูกต้อง”

ศึกษาและคิดอย่างลึกซึ้ง

เพื่อเตรียมสอนพระกิตติคุณ จงศึกษาพระคัมภีร์และคำสอนของศาสดาพยากรณ์ตลอดจนอัครสาวกยุคปัจจุบัน และสวดอ้อนวอนเพื่อให้พระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์อยู่กับท่านและคนที่ท่านสอน (ดู ; )

นอกจากนี้ ถ้าท่านต้องการถามคำถามที่ทำให้พวกเขาคิดจริงๆ ท่านต้องทำให้ตัวท่านคิดแบบนั้นก่อน ไตร่ตรองสิ่งที่ท่านศึกษา ท่านจะพบว่าสิ่งที่ทำให้คิดลึกซึ้งที่สุดคือคำถามที่ท่านถามตนเองมาเรื่อยๆ จงเอาใจใส่ประเภทของคำถามที่ทำให้ท่านคิดจริงๆ นี่เป็นคำถามที่ทำให้เกิดความเข้าใจและประจักษ์พยานมากขึ้น ท่านถามคำถามประเภทนี้ได้เมื่อท่านกำลังช่วยให้ผู้อื่นเรียนรู้พระกิตติคุณ

ตัวอย่าง: แทนที่จะถามว่า “เรามีจิตกุศลได้อย่างไร” ท่านอาจจะถามว่า “ท่านคิดว่าใน หมายความว่าอย่างไรเมื่อบอกให้สวดอ้อนวอนขอจิตกุศล ‘จนสุดพลังของใจ’”

ค่อยๆ ขยับขึ้นมาถามคำถามที่ลึกซึ้งกว่าเดิม

บางครั้งจะดีที่สุดถ้าค่อยๆ ขยับขึ้นมาถามคำถามที่เรียกร้องให้คิดใคร่ครวญและย้อนดูตนเอง ด้วยเหตุนี้ท่านจึงอาจถามคำถามนำที่ตอบง่ายแล้วตามด้วยคำถามหนึ่งข้อหรือมากกว่านั้นที่ทำให้คิดมากขึ้นก่อนตอบ ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างคำถามที่เรียบง่ายบางข้อ

คำถามนำ

คำถามตาม

โจเซฟ สมิธอายุเท่าใดเมื่อเข้าไปในป่าศักดิ์สิทธิ์

คุณเคยสวดอ้อนวอนพระบิดาบนสวรรค์ด้วยความปรารถนาที่จริงใจแบบโจเซฟเมื่อใด

คุณเชื่อในพระผู้เป็นเจ้าหรือไม่

พระผู้เป็นเจ้าทรงมีบทบาทอะไรในชีวิตคุณ

เมื่อเร็วๆ นี้คุณทำอะไรเพื่อรับใช้ผู้อื่น

การรู้ว่าเราทุกคนเป็นบุตรธิดาของพระผู้เป็นเจ้าเปลี่ยนแนวคิดเกี่ยวกับการรับใช้อย่างไร

ถ้าท่านแสวงหาการนำทางจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ขณะถามคำถาม ท่านจะถามคำถามถูกต้องถูกเวลามากขึ้น ท่านไม่มีวันรู้ว่าสิ่งที่ท่านถามอาจเปลี่ยนชีวิตคนบางคนได้

อ้างอิง

  1. “ท่านต้องใช้สิทธิ์เสรียินยอมให้พระวิญญาณสอนท่าน” (ริชาร์ดจี. สก็อตต์, “เพื่อให้ได้รับการชี้นำทางวิญญาณ,” เลียโฮนา, พ.ย. 2009, 8)

บทเรียนวันอาทิตย์

หัวข้อประจำเดือนนี้: การเป็นเหมือนพระคริสต์มากขึ้น

เกร็ดน่ารู้สำหรับการถามคำถาม

  • รอคำตอบ

  • ใช้คำถามติดตามผลเพื่อจุดประกายความคิดให้ลึกซึ้งกว่าเดิม

  • หลีกเลี่ยงคำถามที่สร้างความขัดแย้งหรือก่อให้เกิดการโต้เถียง

  • ถามคำถามเป็นครั้งคราวที่กระตุ้นให้ใคร่ครวญในใจ

ดูเกร็ดน่ารู้เพิ่มเติมใน ไม่มีการเรียกใดยิ่งใหญ่กว่าการสอน: คู่มือประกอบการสอนพระกิตติคุณ (1999), 69–70.

บทความงาน > การทำงาน > เทคนิคการทำงาน > 6 วิธีตั้งคำถามสุดปัง! ฟังดูฉลาดเวลาคุยงาน

6 วิธีตั้งคำถามสุดปัง! ฟังดูฉลาดเวลาคุยงาน

  • 12 September 2020

           คำถามที่ดีเป็นใบเบิกทางไปสู่ความสำเร็จและต่อยอดความรู้ แต่กว่าจะได้คำถามที่มีกึ๋น ฟังดูฉลาด ก็ต้องฝึกฝนทุกๆ วัน หัดตั้งคำถามกับสิ่งรอบตัว และมีความกล้าที่จะถามด้วย

          การสื่อสาร (communication) เป็นสิ่งที่อยู่คู่กับมนุษย์มาตั้งแต่เด็กจนโต เราสื่อสารเพื่อแลกเปลี่ยนความคิด ถ่ายทอดความรู้ และข้อมูลข่าวสารกับผู้อื่น การสื่อสารจะสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อมี 4 องค์ประกอบ คือ ผู้ส่งสาร (Sender) สาร (Message) ช่องทาง (Chanel) และผู้รับสาร (Receiver) ในแง่ของการทำงานนั้นเราต้องสื่อสารกับเพื่อนร่วมงานอยู่ทุกวัน ตั้งแต่พนักงานระดับเจ้าหน้าที่ไปจนถึงผู้บริหารระดับสูง บทสนทนาของการสื่อสารย่อมปรับเปลี่ยนไปตามกาลเทศะ เช่น การคุยงานในระดับแผนก การประชุมบริษัท หรือการนำเสนองาน ซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องแสดงความคิดเห็น การฝึกตั้งคำถามคือการฝึกกระบวนการคิดที่สำคัญ ที่จะช่วยพัตนาศักยภาพในการทำงานของตัวเอง การตั้งคำถามที่ฉลาด จะนำไปสู่ไอเดียสร้างสรรค์ใหม่ๆ ไม่มีที่สิ้นสุด

           แต่ถ้าไม่เคยฝึกฝนการตั้งคำถามเลย ก็จะได้คำถามที่น่าเบื่อ ไม่สามารถต่อยอดทางความคิดได้ มากกว่านั้นคือเป็นคำถามที่ไม่สร้างสรรค์ ถามแล้วไม่เกิดประโยชน์ เรียกง่ายๆ ว่าคำถามวงแตก! ที่อาจชวนทะเลาะได้ในที่สุด เพราะฉะนั้นมาฝึกตั้งคำถาม ลับคมความคิดกันเถอะ แล้วจะรู้ว่าแค่ถามเป็น ชีวิตก็เปลี่ยนได้!

1. ช่างสงสัย

           บทสนทนามักจะเริ่มต้นจากความสงสัยหรือเกิดจากความไม่รู้ เพราะความสงสัยคือสัญชาตญาณของมนุษย์ ลองนึกย้อนกลับไปเมื่อตอนเรายังเป็นเด็ก มีความอยากรู้อยากเห็น ทำให้วัยเด็กเป็นวัยที่เรียนรู้ได้เร็ว แต่เมื่อโตขึ้นกลับมีกรอบทางความคิด หรือวัฒนธรรมบางอย่างที่ทำให้ไม่กล้าสงสัยหรือคิดแตกต่าง นี่เป็นสาเหตุสำคัญทำให้ไม่กล้าตั้งคำถาม กลัวถามผิด กลัวเพื่อนร่วมงานจะมองว่าไม่ฉลาดบ้าง รวมไปถึงอีโก้ หรือคนที่คิดว่าตัวเองรู้มากยู่แล้ว เลยไม่ยอมเปลี่ยนแปลงและไม่กล้าเปิดรับสิ่งใหม่ๆ เพราะฉะนั้นลองเริ่มต้นจากการปรับทัศนคติของตัวเองก่อน ปล่อยให้สัญชาติญาณความสงสัยทำงานไปตามธรรมชาติ ลองสังเกตสิ่งรอบๆตัว แล้วตั้งคำถาม และพยายามค้นหาคำตอบตลอดเวลา

2. หาข้อมูลเรื่องที่ถาม

           ก่อนจะตั้งคำถามควรมีข้อมูลที่เกี่ยวกับคำถามบ้าง เพื่อให้ได้คำตอบตรงประเด็นที่สุด และยังแสดงให้เห็นว่าเราศึกษาข้อมูลมาอย่างดี ยิ่งมีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนั้นมากเท่าไหร่ จะทำให้คำถามฟังดูฉลาดมากขึ้นเท่านั้น เช่น ในการนำเสนองานกับลูกค้า ไม่ควรถามคำถามง่ายๆ ที่สามารถหาคำตอบได้ในอินเทอร์เน็ต เช่น บริษัทขายสินค้าประเภทไหนบ้าง อะไรขายดีที่สุด หรือทำธุรกิจมานานแค่ไหนแล้ว คำถามเหล่านี้แสดงถึงความไม่พยายามค้นคว้าเลย และยังเป็นคำถามที่ไม่จำเป็นต้องถามก็ได้ ถ้าลองเปลี่ยนเป็นคำถาม “บริษัทคุณได้ก่อตั้งมาหลายสิบปี อยากทราบว่ามีนโยบายบริหารงานแบบไหนถึงทำให้ประสบความสำเร็จมาจนถึงปัจจุบัน” ผู้ถูกถามจะรู้สึกว่าเราใส่ใจ รู้จักหาข้อมูล และให้เกียรติผู้ถูกถามด้วย

3. ถามให้ตรงประเด็น

           อยากจะตั้งคำถามให้ดี ตัวผู้ถามเองก็ต้องเข้าใจประเด็นคำถามของตัวเองก่อนว่าอยากรู้เรื่องอะไร อย่างในกรณีที่ต้องตั้งคำถามเพื่อระดมความคิด (brainstorm) หรือถามเพื่อแสดงความคิดเห็น อย่าตั้งคำถามแบบปลายปิด ที่ได้คำตอบแล้วก็จบ ผู้ถูกถามไม่ได้แสดงความคิดเห็นอะไรเลย หรือถามคำถามที่กว้างจนเกินไป จะทำให้ใช้เวลาในการตอบคำถามมาก จนอาจกระทบกับผู้อื่น อย่างการประชุมงานที่ต้องใช้เวลาอย่างคุ้มค่า ควรตั้งคำถามให้ชัดเจน จะได้ไม่เสียเวลาโดยใช่เหตุ แนะนำให้จดบันทึกข้อความสำคัญสั้นๆ ที่เกี่ยวกับเรื่องที่ถาม แล้วค่อยเรียบเรียงโดยใช้คำที่กระชับ เข้าใจง่าย ไม่เยิ่นเย้อ และควรเป็นคำถามที่เฉพาะเจาะจงในเรื่องนั้นๆ ไปเลย ก็จะทำให้ได้คำตอบที่ตรงประเด็นมากกว่า

4. ถามทีละคำถาม

           เมื่อมีข้อสังสัยหลายอย่าง ให้ค่อยๆ ตั้งคำถามทีละประเด็น อย่าถามทีเดียวพร้อมกัน จะทำให้ผู้ถูกถามสับสนจนไม่แน่ใจว่าเราอยากรู้เรื่องอะไรบ้าง และไม่ควรถามคำถามติดต่อกันเยอะๆ เพราะจะเป็นการเอาเปรียบเพื่อนร่วมงาน ที่อาจจะรอถามคำถามอยู่ ในกรณีที่ไม่ต้องการคำตอบเร่งด่วน อาจจะเก็บคำถามเอาไว้ แล้วไปค้นคว้าเองด้วยตัวเองก่อน จากนั้นค่อยมาสอบถามเพิ่มเติมก็ยังได้

5. ตั้งคำถามจากคำตอบ

           อีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้คำถามดูฉลาด ก็คือตั้งคำถามจากคำตอบของผู้ถูกถาม เพื่อต่อยอดเป็นประเด็นอื่นๆ ที่น่าสนใจ เพราะฉะนั้นควรฟังคำตอบอย่างตั้งใจ และคิดตามไปด้วย อาจจินตนาการเอาตัวเองไปอยู่ในสถานการณ์นั้นๆ วิธีนี้ช่วยให้เราได้ไอเดียคำถามที่ไม่ซ้ำกับคนอื่นๆ เป็นคำถามที่หลุดจากกรอบเดิมๆ การตั้งคำถามจากคำตอบมักใช้บ่อยในสถานการณ์ที่ต้องระดมสมองหาไอเดียใหม่ๆ หรือการคิดโปรเจคงาน

6. ไม่ใช้อารมณ์

           การถามคำถามควรใช้ภาษาที่สุภาพ ไม่ตั้งคำถามด้วยอารมณ์ถึงแม้คุณจะโกรธหรือเบื่อหน่ายแค่ไหน ก็ต้องให้ความเคารพผู้สนทนาด้วย ใช้คำถามที่เป็นแนวขอร้องมากกว่าการออกคำสั่ง หรือกดดันว่าต้องตอบคำถามของตัวเองให้ได้เดี๋ยวนั้นเลย นอกจากนี้ควรลงท้ายคำถามด้วยคะ/ค่ะ เสมอ เป็นการให้เกียรติคนอื่นๆ ฟังแล้วก็อยากตอบ แต่ถ้าถามแบบใส่อารมณ์ คงไม่มีใครอยากให้คำปรึกษาเท่าไหร่ แล้วอาจจะได้คำตอบที่ไม่ครบถ้วนอีกด้วย เพราะผู้ถูกถามก็อยากจะจบบทสนทนาให้เร็วที่สุดเพื่อลดความขัดแย้ง

           จุดประสงค์ของการตั้งคำถามไม่ได้อยู่ที่การหาคำตอบเพียงเท่านั้น แต่ยังช่วยขัดเกลาความคิด เปิดรับสิ่งใหม่ๆ เพื่อหาความรู้ไม่มีที่สิ้นสุด รู้อย่างนี้แล้วอย่าลืมฝึกตั้งคำถามในทุกๆ วันของการทำงานและในชีวิตประจำวันด้วยนะคะ อย่ากลัวว่าจะถามผิด ไม่เช่นนั้นก็จะติดอยู่ใน comfort zone เดิมๆ ต่อไป แต่ถ้าหมั่นฝึกฝน กล้าตั้งคำถามกับสิ่งรอบตัว คำถามของเราก็จะสร้างสรรค์ และพัฒนาไปเป็นคำถามที่ฉลาดในที่สุด นอกจากนี้ยังสามารถนำแนวทางการตั้งคำถามทั้งหมดนี้ไปปร้บใช้กับการสัมภาษณ์งานได้ด้วย สำหรับใครที่กำลังมองหางานที่น่าสนใจและเงินเดือนที่คุ้มค่า สามารถค้นหางานผ่านแอปพลิเคชั่น jobsDB ได้เลย

ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ทั้ง iOS และ Android

คว้างานที่ใช่ ด้วยการค้นหางานที่ง่ายและรวดเร็ว พร้อมทั้งจัดการเรซูเม่อย่างมีประสิทธิภาพ ให้คุณอัปโหลด ดู และลบได้ทุกเมื่อที่ต้องการ เพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การใช้งานแสนง่าย ด้วยระบบ AI ใหม่ ช่วยค้นหางานที่ตรงใจมากขึ้นถึง 6 เท่า​

           และหากคุณต้องการพัฒนาประสิทธิภาพการทำงาน หรือต้องการเพิ่มพูนความรู้และทักษะใหม่ ๆ ไม่ต้องกังวลใจไป เพราะสามารถเสริมความรู้เพิ่มเติมได้จากการเรียนออนไลน์กับ FutureLearn x JobsDB จาก JobsDB มีคอร์สที่สอนความรู้ด้านนี้ให้คุณเพิ่มทักษะการทำงานโดยเฉพาะ

FutureLearn x JobsDB

           คอร์สเรียนออนไลน์ ที่เกิดจากการจับมือกันระหว่าง JobsDB และ FutureLearn ภายใต้ชื่อแคมเปญ “ยกระดับความรู้ ก้าวสู่งานที่ใช่” ให้คุณปลดล็อกศักยภาพ กับคอร์ส ฟรี! ที่จะอัพตัวคุณให้ก้าวล้ำนำใครในทุกเกมการแข่งขันกับเรา พันธมิตรด้านการหางานที่ดีที่สุดของคุณ และ FutureLearn ผู้ให้บริการคอร์สออนไลน์จากประเทศอังกฤษที่ให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ไร้พรมแดนที่ดำเนินการมานานกว่า 9 ปี ด้วยการเรียนรู้และพัฒนาทักษะใหม่ ๆ ทั้งด้าน Emerging Skills และ Transferrable Skills ที่สามารถนำไป reskill หรือ upskill ใช้ในชีวิตการทำงานปัจจุบันได้

         เราพร้อมเคียงข้างคุณเสมอ เพื่อส่งเสริมศักยภาพด้านต่าง ๆ และสนับสนุนให้คุณประสบความสำเร็จในสายอาชีพหากคุณพร้อมออกจากกรอบ ติดปีกความรู้ และยกระดับการทำงานขึ้นไปอีกขั้นกับเราแล้ว ลงทะเบียนฟรี ที่นี่

การตั้งคำถาม  การทำงาน  ถามยังไงให้ดูฉลาด  พัฒนาตัวเอง  พัฒนาตัวเองในการทำงาน  เทคนิคการถาม  เทคนิคการทำงาน  เทคนิคการบริหารงาน

บทความยอดนิยม

9 เทรนด์การทำงานในอนาคตสำหรับปี 20236 วิธีตั้งคำถามสุดปัง! ฟังดูฉลาดเวลาคุยงาน

Test case คืออะไรทำไม Tester จำเป็นต้องทำ?

ในสายงานการพัฒนาแอปพลิเคชั่น ซอฟท์แวร์ หรือโปรแกรมต่าง ๆ นอกจากอาชีพชูโรงอย่าง Developer แล้ว ยังมีตำแหน่งยิบย่อยอื่น ๆ...

ChatGPT คืออะไรทำไมเราถึงควรต้องทำความรู้จัก

  เราอาจคุ้นเคยกับเทคโนโลยี AI (Artificial Intelligence) หรือระบบปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งก็คือความฉลาดของคอมพิวเตอร์กันมา...

Work From Home vs. Hybrid Work องค์กรใหญ่ควรเลือกระบบไหนในปี 2023

ใครจะไปคิดว่าวันหนึ่งโลกของเราจะเกิดโรคระบาดอย่างโควิด-19 ขึ้นมา แล้วส่งผลกระทบแบบเป็นวงกว้างไปทั่วโลก สร้างปัญหาให้กับท...

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

flow chart แสดงขั้นตอนการปฏิบัติงาน lmyour แปลภาษา กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน กาพย์เห่เรือ การเขียน flowchart โปรแกรม ตัวรับสัญญาณ wifi โน๊ตบุ๊คหาย ตัวอย่าง flowchart ขั้นตอนการทํางาน ผู้แต่งกาพย์เห่ชมไม้ ภูมิปัญญาหมายถึง มีสัญญาณ wifi แต่เชื่อมต่อไม่ได้ เชื่อมต่อแล้ว ไม่มีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ /roblox promo code redeem 3 พระจอม มีที่ไหนบ้าง AKI PLUS รีวิว APC UPS APC UPS คือ Adobe Audition Adobe Bridge Anapril 5 mg Aqua City Odaiba Arcade Stick BMW F10 jerk Bahasa Thailand Benz C63 ราคา Bootstrap 4 Bootstrap 4 คือ Bootstrap 5 Brackets Brother Scanner Brother iPrint&Scan Brother utilities Burnt HD C63s AMG CSS เว้น ช่องว่าง CUPPA COFFEE สุราษฎร์ธานี Cathy Doll หาซื้อได้ที่ไหน Clock Humidity HTC-1 ColdFusion Constitutional isomer Cuppa Cottage เจ้าของ Cuppa Cottage เมนู Cuppa Cottage เวียงสระ DMC DRx จ่ายปันผลยังไง Detroit Metal City Div class คือ Drastic Vita