งานวิจัยล่าสุดพบว่า ผู้ที่มีการออกกำลังกายตั้งแต่ระดับหนักพอดีไปจนถึงระดับหนักอย่างสม่ำเสมอในช่วงวัยกลางคน (อายุ 35-50 ปี) มักจะไม่ค่อยพบอาการ
ของภาวะสมองเสื่อมในวัยสูงอายุ ผลจากงานวิจัยซึ่งถูกตีพิมพ์ในวารสารวิชาการเกี่ยวกับประสาทวิทยา (Neurology) แสดงให้เห็นว่า กิจกรรมทางกายหรือการเคลื่อนไหว
ร่างกายอาจมีผลต่อสุขภาพที่ดีของสมอง โดยหัวหน้าทีมวิจัย ดร. พริยา พัลตา (Dr PriyaPalta) ผู้ช่วยศาสตราจารย์สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย
ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ชี้แจงว่า กิจกรรมทางกายที่ระบุในงานวิจัยนั้นหมายถึง การออกกำลังกายของคนวัยกลางคนในระดับหนักพอดีไปจนถึงระดับหนัก อย่างเช่นการวิ่ง
เดินเร็ว หรือปั่นจักรยาน อย่างน้อย 1 ชั่วโมง 15 นาที (75 นาที) ต่อสัปดาห์ อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีปริมาณการออกกำลังกายในระดับดังกล่าวมากกว่า 2 ชั่วโมงครึ่งต่อสัปดาห์
หรือเฉลี่ยอาทิตย์ละ 5 ครั้ง ครั้งละ 30 นาทีขึ้นไป มักจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะสมองเสื่อมน้อยกว่ากลุ่มที่ไม่ได้ออกกำลังกาย
ทีมนักวิจัยได้สำรวจข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างช่วงวัยกลางคน จำนวน 1,604 ราย อย่างต่อเนื่องรวม 25 ปี โดยเก็บข้อมูลเกี่ยวกับปริมาณการออกกำลังกาย ร่วมกับการทดสอบสมรรถภาพ
ทางร่างกายของผู้เข้าร่วมงานวิจัยเป็นระยะๆ และสุดท้ายตรวจโดยใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า(MRI : Magnetic Resonance Imaging) เพื่อประเมินรอยโรค ส่วนที่ได้รับบาดเจ็บ หรือบริเวณที่มีความผิดปกติ
ในสมองของผู้เข้าร่วมทดสอบแต่ละราย ซึ่งผลจากการสำรวจสามารถจำแนกผู้เข้าร่วมเป็น 4 กลุ่มด้วยกัน คือกลุ่มคนที่ไม่ได้ออกกำลังกายเลย กลุ่มที่ออกกำลังกายปริมาณน้อย
ปริมาณปานกลางหรือพอดี และปริมาณสูง โดยกลุ่มที่ไม่ได้ออกกำลังกายในช่วงวัยกลางคนนั้น มีโอกาสที่จะพบส่วนของสมองที่ถูกทำลายหรือผิดปกติในวัยสูงอายุมากกว่ากลุ่มที่ออกกำลังกาย
ระดับหนักพอดีไปจนถึงระดับหนักเกือบ 50 เปอร์เซ็นต์ข้อสรุปนี้มีข้อจำกัดอยู่บ้าง เนื่องจากอาศัยข้อมูลจากการรายงานพฤติกรรมการออกกำลังกายของผู้เข้าร่วมวิจัยเป็นหลัก
ประกอบกับการที่ยังไม่ได้นำกิจกรรมทางกายอื่น ๆ นอกเหนือจากการออกกำลังกายในยามว่าง อย่างเช่น การทำงานที่ต้องมีการเคลื่อนไหวร่างกาย เข้ามาร่วมวิเคราะห์ด้วย
ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความคลาดเคลื่อนได้
อย่างไรก็ตาม ดร. ซารา อิมาริสิโอ (Dr Sara Imarisio) หัวหน้าสำนักวิจัยเกี่ยวกับโรคอัลไซเมอร์ ประเทศสหราชอาณาจักร ได้ให้ความเห็นว่า งานวิจัยดังกล่าวสอดคล้องกับข้อสนับสนุนอื่น ๆ
ที่บ่งชี้ว่า การออกกำลังกายเป็นวิธีการที่สำคัญอย่างหนึ่งในการดูแลสุขภาพสมอง ถึงแม้ยังไม่สามารถยืนยันถึงวิธีการป้องกันภาวะสมองเสื่อมได้อย่างชัดเจน แต่หลักฐานต่าง ๆ ที่เรามีในปัจจุบัน
ก็เพียงพอที่จะสรุปได้ว่า การออกกำลังกาย และการบริหารสมองหรือใช้ความคิดอย่างสม่ำเสมอ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป ตลอดจนการควบคุมน้ำหนัก
ระดับคอเลสเตอรอล และความดันโลหิตให้เหมาะสม นั้น ต่างเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการดูแลสุขภาพสมองในระยะยาว
2. ด้านจิตใจ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะผลทำให้เป็นคนที่มีบุคลิกที่มั่นคงสามารถปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้ดี มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีสามารถปรับตัวเมื่อได้รับความเครียดได้ดี มีความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) ที่ในระดับดีการที่เด็กเล็กได้ออกแรงหรือออกกำลังเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อพัฒนาการที่ดีและการเจริญเติบโตอย่างแข็งแรงสมบูรณ์ คุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องสนับสนุนให้เด็กวัยนี้ได้ออกแรงหรือออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็นการขยับอวัยวะส่วนต่างๆ ของร่างกายหรือการทำกิจกรรมต่างๆ ที่ได้ใช้แรง
จะช่วยให้เด็กเล็กๆ ได้ออกแรงบ้างได้อย่างไร?
ก่อนที่ลูกน้อยจะเริ่มคลาน คุณพ่อคุณแม่สามารถฝึกการใช้กล้ามเนื้อของเขาได้โดยการให้เขาได้พยายามคว้าหยิบของเล่นด้วยตนเอง เพื่อให้แขน ขา คอ และลำตัวได้ยืดเหยียด ในช่วงเวลาเล่นระหว่างวันหรือตอนที่ลูกน้อยกำลังคว่ำ และเมื่อลูกน้อยเริ่มคลานได้แล้ว คุณพ่อคุณแม่ควรกระตุ้นให้ลูกน้อยได้ออกแรงมากเท่าที่จะทำได้ในพื้นที่ที่เตรียมไว้ที่มีความปลอดภัยและอยู่ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิด
แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจลดน้ำหนัก ออกกำลังกายวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 758 บาท ลดสูงสุด 2400 บาท
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
กด
เมื่อลูกน้อยสามารถเดินได้ด้วยตัวเองแล้ว คุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องกระตุ้นให้ลูกน้อยได้ทำกิจกรรมที่ได้ออกกำลังกายอย่างน้อย 3 ชั่วโมงต่อวัน โดยคุณแม่สามารถแบ่งช่วงเวลาออกไปในระหว่างวันให้ลูกน้อยได้เล่นทั้งในและนอกบ้าน เช่น การทำกิจกรรมที่ให้ลูกน้อยได้ลุกนั่ง วิ่ง กระโดด เดินเล่นรอบๆ ทั้งนี้ภายใน 3 ชั่วโมงควรมีกิจกรรมต่อไปนี้ เช่น ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ ปีนป่ายเครื่องเล่น เล่นลูกบอล เป็นต้น ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้จะช่วยให้ลูกน้อยได้ฝึกใช้กล้ามเนื้อแต่ละส่วนของร่างกายและได้ออกแรง
เหตุใดการช่วยให้เด็กเล็กได้ออกกำลังกายจึงเป็นสิ่งสำคัญ?
เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี ไม่ควรนั่งหรือนอนนิ่งๆ เป็นเวลานาน ยกเว้นเวลาที่ลูกน้อยกำลังนอนหลับ เช่นเดียวกันกับการนั่งดูทีวี การเดินทางโดยรถยนต์ รถโดยสาร รถไฟ หรือนั่งในรถเข็นเป็นเวลานานย่อมไม่ส่งผลดีต่อพัฒนาการทางด้านร่างกายของลูกน้อย โดยผลจากการศึกษาวิจัยยืนยันแล้วว่าพฤติกรรมดังกล่าวส่งผลเสียต่อสุขภาพของลูกน้อย
สำหรับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี ที่มีน้ำหนักเกินกว่าเกณฑ์ คุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยให้สุขภาพของลูกน้อยดีขึ้นได้โดยกระตุ้นให้ลูกน้อยปฏิบัติตามคำแนะนำเกี่ยวกับการทำกิจกรรมที่เหมาะสมตามวัย หากคุณพ่อคุณแม่กำลังกังวลเรื่องน้ำหนักตัวของลูกน้อยที่มากกว่าเกณฑ์ แนะนำให้ขอคำปรึกษาจากกุมารแพทย์หรือนักโภชนาการเด็ก
เด็กที่มีอายุระหว่าง 5 – 18 ปี
เป็นเรื่องสำคัญที่เด็กและวัยรุ่นควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ร่างกายเจริญเติบโตขึ้นอย่างสมบูรณ์ และมีพัฒนาการที่ดีตามวัย พร้อมสำหรับการเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ เพราะการออกกำลังกายถือเป็นการยืดกระดูกและกล้ามเนื้อที่ดีที่สุด และเพื่อให้ร่างกายมีสุขภาพที่ดีอยู่เสมอเด็กและวัยรุ่นอายุระหว่าง 5 – 18 ปี ควรปฏิบัติดังนี้
- ออกกำลังกายเป็นประจำอย่างน้อยวันละ 60 นาที ไม่ว่าจะเป็นการปั่นจักรยาน การเดิน เล่นสเก็ตบอร์ด หรือว่ายน้ำ
- ใช้เวลาประมาณ 3 วันต่อสัปดาห์ในการทำกิจกรรมหรือเล่นกีฬาที่กระตุ้นการใช้กล้ามเนื้อ เช่น เตะบอล ฝึกยิมนาสติก ไต่ผาจำลอง และทำกิจกรรมหรือเล่นกีฬาที่กระตุ้นให้กระดูกแข็งแรง เช่น การเต้นรำ เต้นแอโรบิค หรือเล่นเทนนิส
เพื่อให้คุณสามารถออกกำลังกายได้ทุกวันๆ ละ 60 นาที แนะนำให้กำหนดตารางการออกกำลังกายไว้อย่างชัดเจนและปฏิบัติเพื่อให้เกิดความคุ้นเคยจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน แนะนำให้เดินหรือปั่นจักรยานไปโรงเรียน เล่นหรือทำกิจกรรมกลางแจ้งกับเพื่อนๆ เมื่อถึงเวลาพัก และเล่นกีฬาหรือทำกิจกรรมที่ใช้แรงช่วงสุดสัปดาห์
ลองสอบถามศูนย์กีฬาหรือศูนย์กิจกรรมในชุมชนเพื่อดูว่ามีกีฬาหรือกิจกรรมใดที่คุณสามารถเข้าร่วมได้หรือไม่ คงต้องมีกิจกรรมสักอย่างที่คุณทำได้ เพียงแค่ลองทำสิ่งใหม่ๆ คุณก็จะเจอสิ่งที่ชอบสักอย่าง!
แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจลดน้ำหนัก ออกกำลังกายวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 758 บาท ลดสูงสุด 2400 บาท
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
กด
โดยกีฬาหรือกิจกรรมที่กลุ่มวัยรุ่นชื่นชอบ เช่น การเต้น ฝึกคาราเต้ เล่นฟุตบอล ว่ายน้ำ ฝึกยิมนาสติก ฯลฯ นอกจากนี้ยังพบว่าเกือบทุกโรงเรียนจะสนับสนุนให้นักเรียนได้เล่นกีฬาหรือทำกิจกรรมหลังเลิกเรียนด้วย
วัยผู้ใหญ่ที่มีอายุระหว่าง 19 – 64 ปี
เพื่อรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ผู้ใหญ่วัย 19 – 64 ควรออกกำลังกายเป็นประจำทุกวันและควรตั้งเป้าหมายอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้
- ออกกำลังกายแบบเผาผลาญไขมันระดับกลางอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ และควรออกกำลังกายแบบเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อหลัก อย่างขา สะโพก หลัง หน้าท้อง หน้าอก ไหล่ และแขน ประมาณ 2 วันต่อสัปดาห์หรือมากกว่านั้น
- ออกกำลังกายประเภทเผาผลาญไขมันอย่างน้อย 75 นาทีต่อสัปดาห์ และออกกำลังกายแบบเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อหลัก อย่างขา สะโพก หลัง หน้าท้อง หน้าอก ไหล่ และแขน ประมาณ 2 วันต่อสัปดาห์หรือมากกว่านั้น
- ออกกำลังกาย 2 แบบผสมกัน คือ ทั้งแบบเผาผลาญไขมันและแบบเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อทุกสัปดาห์ เช่น วิ่ง 30 นาที จากนั้นเดินเร็วอีก 30 นาที จำนวน 2 ครั้งต่อสัปดาห์ จะเทียบเท่ากับการออกกำลังกายแบบเผาผลาญไขมันระดับกลาง 150 นาที นอกจากนี้ควรทำกิจกรรมหรือเล่นกีฬาที่เสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อหลัก อย่างขา สะโพก หลัง หน้าท้อง หน้าอก ไหล่ และแขน ประมาณ 2 วันต่อสัปดาห์หรือมากกว่านั้น
ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป
เพื่อรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไปควรออกกำลังกายใน 2 ลักษณะ คือ แบบเผาผลาญไขมันและแบบเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อ แนะนำให้พยายามออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน ดังนี้
- ออกกำลังกายแบบเผาผลาญไขมันระดับกลางอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ และควรออกกำลังกายแบบเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อหลัก อย่างขา สะโพก หลัง หน้าท้อง หน้าอก ไหล่ และแขน ประมาณ 2 วันต่อสัปดาห์หรือมากกว่านั้น
- ออกกำลังกายประเภทเผาผลาญไขมันอย่างน้อย 75 นาทีต่อสัปดาห์ และทำกิจกรรมหรือเล่นกีฬาที่เสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อหลัก อย่างขา สะโพก หลัง หน้าท้อง หน้าอก ไหล่ และแขน ประมาณ 2 วันต่อสัปดาห์หรือมากกว่านั้น
- ออกกำลังกาย 2 แบบผสมกัน คือ ทั้งแบบเผาผลาญไขมันระดับกลางและแบบเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อทุกสัปดาห์ เช่น วิ่ง 30 นาที จากนั้นเดินเร็วอีก 30 นาที จำนวน 2 ครั้งต่อสัปดาห์ จะเทียบเท่ากับการออกกำลังกายแบบเผาผลาญไขมันระดับกลาง 150 นาที นอกจากนี้ควรทำกิจกรรมหรือเล่นกีฬาที่เสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อหลัก อย่างขา สะโพก หลัง หน้าท้อง หน้าอก ไหล่ และแขน ประมาณ 2 วันต่อสัปดาห์หรือมากกว่านั้น
3 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
Physical Activity and Adults. World Health Organization (WHO). (//www.who.int/dietphysicalactivity/factsheet_adults/en/)
Exercise. NHS (National Health Service). (//www.nhs.uk/live-well/exercise/)
American Heart Association recommendations for physical activity in adults and kids. (2018). (//www.heart.org/en/healthy-living/fitness/fitness-basics/aha-recs-for-physical-activity-in-adults)
บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ //honestdocs.typeform.com/to/kkohc7
ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน
ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)
ขอบคุณสำหรับการให้คะแนนค่ะ
แชร์บทความนี้
ตั้งกระทู้ถามหมอ
เราจะไม่เปิดเผยชื่อและข้อมูลส่วนตัวของคุณ
แนบไฟล์ (รูปหรือวิดีโอ)
เช่น ประวัติการรักษา รอยโรค (ถ้ามี) *
เช่น ประวัติการรักษา รูปของอาการ (ถ้ามี) ไม่ต้องห่วง! เราเก็บไฟล์ของคุณเป็นความลับ มีแค่คุณกับคุณหมอเท่านั้นที่ดูไฟล์ได้
* ไม่ต้องห่วง! เราเก็บไฟล์ของคุณเป็นความลับ มีแค่คุณกับคุณหมอเท่านั้นที่เข้าถึงได้
คำตอบที่คุณจะได้เป็นเพียงความเห็นจากแพทย์ ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค โปรดพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อการรักษาที่ถูกต้อง เหตุฉุกเฉิน โทร. 1669
รับทราบและถามคำถาม
วันนี้คุณอยากจะถามคุณหมอแบบไหน
ถามปกติ ได้คำตอบภายใน 12 ชั่วโมง
ค่าบริการ 100 แต้ม
คุณหมอตอบภายใน 12 ชั่วโมง คุณจะได้รับการแจ้งเตือนผ่านแอปและ SMS เมื่อคุณหมอตอบ
หากคุณหมอไม่ตอบภายใน 12 ชั่วโมง เราคืนแต้มให้ทั้งหมด (ไม่คิดค่าบริการ)
ถามด่วน ได้คำตอบภายใน 1 ชั่วโมง
ค่าบริการ แต้ม
คุณหมอตอบภายใน 1 ชั่วโมง คุณจะได้รับการแจ้งเตือนผ่านแอปและ SMS เมื่อคุณหมอตอบ
หากคุณหมอไม่ตอบภายใน 1 ชั่วโมง เราคืนแต้มให้ 100 แต้ม และคำถามจะถูกปรับเป็นคำถามปกติ ซึ่งจะได้คำตอบภายใน 12 ชั่วโมง
หากคุณหมอไม่ตอบภายใน 12 ชั่วโมง เราคืนแต้มให้ทั้งหมด (ไม่คิดค่าบริการ)
คำถามของคุณจะถูกแสดงเป็นลำดับแรกๆ ในหน้าถามหมอเป็นเวลา 2 วัน เพื่อเพิ่มโอกาสให้ได้รับความคิดเห็นจากคุณหมอหลายๆ ท่าน
- ถามหมอ
- แพ็กเกจสุขภาพ
- บทความน่าอ่าน
- ทำแบบทดสอบ
- รีวิวจากผู้ใช้จริง
- ดาวน์โหลดแอป
- กลับขึ้น ด้านบน
การพยายามทำหลายอย่างเกินไปขณะขี่จักรยานอาจกลายเป็นผลเสียได้และนี่คือเหตุผล
อ่านเพิ่มทำความรู้จักค่าชีพจรที่เหมาะสมในแต่ละวัย และวิธีการวัดชีพจรแบบง่ายๆ ด้วยตัวเอง
อ่านเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจคืออะไร สำคัญอย่างไร ค่าอัตราการเต้นของหัวใจที่เหมาะสมในช่วงปกติและขณะออกกำลังกายของแต่ละช่วงวัยคือเท่าไร