ก่อนที่จะไปหาคำตอบว่าเริ่มลงทุนอะไรดีระหว่างหุ้นกับกองทุน นักลงทุนมือใหม่ควรที่จะทราบถึงเหตุผลของการลงทุน ว่าการลงทุนมีความความสำคัญอย่างไรเสียก่อน ดังต่อไปนี้
- การลงทุนเป็นการนำเงินที่มีอยู่แล้วไปต่อยอดให้งอกเงย สร้างรายได้อีกทาง
- เปิดโอกาสได้เงินในขณะที่ไม่ต้องทำงาน หรือที่เรียกว่า Passive Income
- เพิ่มความมั่นคงในชีวิต
เลือกลงทุนแบบไหนดี หุ้น vs กองทุน ?
มาถึงคำถามยอดฮิตที่มือใหม่หัดลงทุนหลายคนสงสัย ว่าควรจะไปสายหุ้นเลย หรือจะเริ่มด้วยสายกองทุนก่อนดี? เพราะทั้งหุ้นและกองทุนเป็นตัวเลือกยอดนิยมตลอดกาล ไม่ว่าจะยุคสมัยใด หรือสภาพตลาดจะเป็นอย่างไร นักลงทุนมือใหม่ มือเก๋า หรือรายใหญ่ ก็ยังชื่นชอบการลงทุนในรูปแบบ 2 สไตล์นี้ ซึ่งทั้งสองสินทรัพย์สามารถเปรียบเทียบให้เห็นภาพได้ดังนี้
หุ้น คือ การที่เราเข้าไปลงทุนในกิจการนั้นโดยตรง และร่วมเป็นเจ้าของของกิจการหรือบริษัทดังกล่าว ถ้าบริษัทเติบโตและมีกำไร เราก็จะมีโอกาสได้กำไรด้วย โดยกำไรอาจจะมาในรูปแบบของการปันผล หรือการขายหุ้นในราคาที่สูงกว่าราคาทุนของเรา
กองทุน คือ การที่ผู้จัดการกองทุนที่มีความเชี่ยวชาญการด้านบริหารเงิน นำเงินของนักลงทุนมารวมกันเป็นเงินก้อนใหญ่ เข้าไปลงทุนในกิจการ หรือสินทรัพย์ต่าง ๆ ตามนโยบายของแต่ละกองทุน เพื่อให้เกิดกำไรและผลตอบแทน
FAQ ลงทุนหุ้นหรือกองทุน?
เมื่อได้ทราบแล้วว่าการลงทุนหุ้นและกองทุนคืออะไร รวมถึงความแตกต่างระหว่างสินทรัพย์ทั้ง 2 ประเภท อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ายังมีอีกหลายคำถามที่นักลงทุนน่าจะสงสัย ซึ่งเราจะถามมา-ตอบไป กันแบบชัด ๆ ข้างล่างนี้เลย
Q: มีเงินน้อยลงทุนอะไรดี?
A: แนะนำให้เริ่มจากลงทุนในกองทุนเนื่องจากมีความเสี่ยงน้อยกว่า และบางกองทุนสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้
Q: ลงทุนอะไรดีมีความเสี่ยงน้อย?
A: ลงทุนในกองทุนมีความเสี่ยงน้อยกว่าหุ้น เนื่องจากมีระดับความเสี่ยงให้เลือกหลากหลายตั้งแต่ต่ำ กลาง สูง ตามแต่นโยบายการลงทุน
Q:มนุษย์เงินเดือนลงทุนอะไรดี?
A: มนุษย์เงินเดือนจะเลือกลงทุนอะไรก็ได้ตามความสะดวก แต่ถ้ามีประสบการณ์ในตลาดลงทุนระดับหนึ่ง การลงทุนในหุ้นก็อาจสร้างผลตอบแทนได้มากกว่า ตรงกันข้าม ถ้าประสบการณ์น้อย การลงทุนในกองทุนที่มีผู้เชี่ยวชาญจัดการบริหารให้ อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า อีกทั้งบางกองทุนยังสามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย
สามารถดูข้อแตกต่างระหว่างสายหุ้น กับสายกองทุนตามตารางเปรียบเทียบด้านล่างได้เลย
ไม่ว่าจะหุ้นหรือกองทุน เริ่มลงทุนที่ InnovestX
ถึงตรงนี้ เชื่อว่าหลายคนน่าจะได้คำตอบแล้วว่าลงทุนอะไรดีระหว่างหุ้นกับกองทุน แบบไหนเหมาะกับตัวเองมากกว่ากัน ขั้นต่อไปคือการเริ่มลงทุน โดยสามารถเริ่มที่ InnovestX ได้เลย เพราะนี่คือซูเปอร์แอปการลงทุนที่รวมทุกอย่างจบที่ปลายนิ้ว ลงทุนได้ทุกสินทรัพย์ทั้งหุ้น กองทุน ตราสารหนี้ สินทรัพย์ดิจิทัล ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยระดับโลก พร้อมฟีเจอร์ช่วยวางแผนลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพและครบครัน มือใหม่สามารถเริ่มลงทุนแบบมีผู้ช่วย พร้อมคลังความรู้มากมายที่จบครบทุกคำถาม ไม่ว่าใครจะสงสัยว่าหากต้องการเริ่มลงทุนต้องอ่านอะไรดีเพื่อสร้างผลลัพธ์ที่คุ้มค่าและเหมาะกับตัวเองที่สุด ที่นี่ก็มีคำตอบ
สามารถลงทุนกองทุนรวมได้ผ่านแอป InnovestX มีกองทุนรวมได้มากถึง 21 บลจ. จาก 1,800 กองทุนดาวน์โหลดแอปได้ที่ apple.co/3KRKTmX (สำหรับ iOS) bit.ly/37AANJ4 (สำหรับ Android)
คำเตือน
- การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้าเงื่อนไขผลตอบแทนความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน อาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
มาถึงคำที่ชาวโอดิเนียนเราต้องเคยได้ยินบ่อย ๆ แน่นอน เพราะในวงการนักลงทุนแล้ว เรียกได้ว่า ต้องเจอแน่นอน คำ ๆ นี้ก็คือคำว่า “ออมหุ้น” และ “ออมกองทุน” นั่นเองครับ
ครั้งนี้ odini จะพาทุกคนไปดูกันว่า จริง ๆ แล้ว คำว่า “ออมหุ้น” หรือ “ออมกองทุน” คืออะไร แตกต่างกันยังไง อันไหนดีกว่า และเราควรจะออมในอะไร
เอาล่ะครับ odini จะค่อย ๆ พาไปดูกันทีละประเด็นเลยนะครับ
“ออมหุ้น” กับ “ออมกองทุน” คืออะไร
ตรงนี้ odini ขอเน้นตรงคำว่า “ออม” ก่อนนะครับ
ตอนนี้พวกเราชาวโอดิเนียนทุกคนรู้กันอยู่แล้วว่า ยุคนี้การเก็บเงินหรือออมเงินไว้ในธนาคารนั้นไม่เพียงพออีกต่อไป เพราะสิ่งที่เรียกว่า “เงินเฟ้อ” ยุคนี้จึงเป็นยุคที่ต้องเก็บออมเงินไปพร้อมกับการลงทุน จึงเป็นที่มาของการ “ออมหุ้น” หรือ “ออมกองทุน” นั่นเองครับ
การออมหุ้นหรือออมกองทุน พูดให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือเป็นการค่อย ๆ ทยอยซื้อหุ้นหรือกองทุนทีละน้อย สะสมไปเรื่อย ๆ แต่ “สม่ำเสมอ”
การออมหุ้นหรือกองทุนนี้ ช่วยแก้ปัญหาเรื่องที่เราไม่อยากต้องจับจังหวะลงทุนเอง ด้วยอาจจะไม่แน่ใจว่าต้องซื้อจุดไหนถึงราคาถูก และต้องขายจุดไหนถึงได้ราคาแพง การออมหุ้นหรือกองทุนก็ทำให้เราไม่ต้องสนใจราคาหุ้น เพราะการลงทุนแบบนี้จะช่วยถัวเฉลี่ยต้นทุนให้เราแล้ว
** การออมหุ้นหรือกองทุนนั้น เหมาะสำหรับคนที่ต้องการลงทุนระยะยาว ไม่เน้นการเก็งกำไร
แล้ว “ออมหุ้น” กับ “ออมกองทุน” แตกต่างกันอย่างไร
ออมหุ้น ก็คือ การค่อย ๆ ทยอยลงทุนใน “หุ้น”
ออมกองทุน ก็คือ การค่อย ๆ ทยอยลงทุนใน “กองทุน”
ส่วนกองทุนและหุ้นแตกต่างกันอย่างไร สามารถดูได้ในคลิปนี้เลยครับ //bit.ly/odnCase3stockvsfund
แล้วอันไหนดีกว่า
ต้องบอกว่า ทั้งสองอันมีข้อดีกันคนละแบบ ซึ่งคำถามที่ถูกต้องคือ อันไหนเหมาะกับเรามากกว่ากันครับ
ออมในหุ้น -> เหมาะสำหรับคนที่มีความชำนาญในการเลือกหุ้น มีเวลาและมีความรู้ในการลงทุน และต้องใช้เงินลงทุนในจำนวนที่มากกว่ากองทุน ความเสี่ยงสูงกว่ากองทุน
ออมในกองทุน -> เหมาะสำหรับคนที่ยังไม่แน่ใจว่าควรจะเลือก “หุ้น” ตัวไหนดี ไม่แน่ใจว่าตัวไหนจะ “ปัง” ตัวไหนจะ “พัง” จึงฝากให้ผู้เชี่ยวชาญ (ผู้จัดการกองทุน) เป็นคนเลือกให้ มีการกระจายความเสี่ยงให้แล้ว และที่สำคัญคือ เริ่มต้นด้วยเงินท่ีน้อยกว่าหุ้นมาก อย่าง odini ก็เริ่มเพียงแค่ 1,000 บาทเท่านั้น
คนที่เหมาะกับ “การออมกองทุน” อีกอย่างก็คือคนไม่มีเวลามาดูความเป็นไปของตลาดหุ้นมากนัก อาจจะเป็นคนที่ต้องใช้เวลาไปกับสิ่งอื่น ๆ ในชีวิตที่ให้ความสำคัญมากว่า อย่างเช่น คนที่ทำงานประจำ คนที่ต้องให้เวลากับการทำธุรกิจส่วนตัว หรือคนที่อยากใช้เวลาไปกับครอบครัว การลงทุนในกองทุนก็จะเหมาะกว่า
แล้วเราควรลงทุนอันไหน
จริง ๆ แล้ว ไม่จำเป็นต้องเลือกครับ ถ้ามีทั้งเงินทุนและเวลา ก็สามารถทำไปพร้อม ๆ กันได้เลย ใครที่ลองลงทุนในหุ้นอยู่แล้ว ก็สามารถเปิดพอร์ตลงทุนในกองทุนเพิ่มไปด้วยได้เลย ซึ่งนักลงทุนส่วนมากก็ลงทุนทั้งหุ้นทั้งกองทุนไปด้วยเลยทั้งคู่ครับ
แล้วจะออมหุ้นหรือออมกองทุนได้ที่ไหน
วิธีการออมหุ้นสามารถหาข้อมูลเพิ่มได้เลยครับ ส่วน “การออมกองทุน” ที่เป็นเรื่องถนัดของ odini ก็ให้ odini app ดูแลให้ได้เลย
ถ้ากลัวจะเลือกกองทุนไม่ถูกก็ไม่ต้องกังวล เพราะ odini มีผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนเป็นผู้ช่วยเลือกกองทุนให้เลย และยังทำงานร่วมกับ Robo-advisor ที่ช่วยจัดพอร์ตและซื้อขายกองทุนให้เราอัตโนมัติ ตอบโจทย์คนงานยุ่งมาก ๆ
สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการออมกองทุนก็คือ “วินัย”
เพราะ “วินัยการลงทุน” นั้น สำคัญมากกว่าการเลือกกองทุนหรือจำนวนเงินทุนซะอีก
ดังนั้น odini app จึงตั้งใจและใช้เวลาไปกับการพัฒนาระบบ DCA ขึ้นมาเพื่อทำให้ชาวโอดิเนียนทุกคนสามารถออมกองทุนได้อย่างมีวินัยและเป็นเรื่องง่าย ๆ เพียงแค่ตั้งวันที่จะลงทุนเอาไว้ (แนะนำให้เป็นวันที่เงินเดือนออกเลยครับ ^^) ระบบ AI ของ odini app จะจัดการลงทุนให้อัตโนมัติ และยังใช้เงินลงทุนเริ่มต้นเพียงแค่ 1,000 บาทเท่านั้นก็สามารถเริ่มออมกองทุนได้แล้ว