- เครื่องซักผ้าฝาบนสองถัง (กึ่งอัตโนมัติ) เหมาะสำหรับการซักในครั้งน้อย ๆ ข้อดีคือ มีราคาถูก สามารถซักได้หลายครั้งโดยไม่เปลี่ยนน้ำ แต่ข้อเสียคือ ใช้งานไม่สะดวก คือเราต้องคอยย้ายผ้า จาก ถังซักไปยัง ถังปั่นหมาด
- เครื่องซักผ้าฝาบนหนึ่งถัง (อัตโนมัติ) เป็นที่นิยมในท้องตลาด มีราคาปานกลาง เหมาะสำหรับคนที่มีพื้นที่ในบ้านน้อย และตัวเครื่องมีโปรแกรมอัตโนมัติ ให้เลือกใช้งานเยอะพอสมควร ทำให้สะดวกในการใช้งาน แต่ข้อเสียคืออาจจะมีโปรแกรมอัตโนมัติ ในการใช้งานไม่มากเท่ากับเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า
- เครื่องซักผ้าฝาหน้า ราคาจะสูงขึ้นมาหน่อย แต่ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการให้ผ้าสะอาดหมดจด และถนอมเนื้อผ้าได้ด้วย รวมทั้งความจุผ้าในการซักแต่ละครั้งได้มากกว่า จึงเหมาะกับครอบครัวใหญ่ และที่สำคัญ คุณสมบัติพิเศษคือสามารถซักผ้าได้สะอาดใกล้เคียงกับการซักมือมากที่สุด อีกทั้งยังใช้พลังงานในการซักน้อยกว่าเครื่องซักผ้าฝาบนด้วย
- เครื่องซักผ้า และอบผ้าในตัว (ฝาหน้า) เหมาะสำหรับคนที่มีปริมาณไม่มาก และซักผ้าบ่อยแต่ไม่เยอะ และมีพื้นที่ในการตากผ้าไม่มากนัก เหมาะกับคอนโด หรือ ชีวิตของคนรุ่นใหม่ ที่ไม่มีเวลา ตากผ้า หรือเก็บผ้าตอนฝนตก คุณสมบัติในการซักแบบเดียวกับเครื่องซักผ้าฝาหน้าธรรมดา แต่สามารถอบผ้าได้ด้วย ทำให้ผ้าแห้งได้โดยไม่ต้องเอาไปตาก และลดสารก่อโรคภูมิแพ้ได้ด้วย ข้อเสียคือมีราคาสูง
เปรียบเทียบ
- - ราคาเครื่อง
- โดยส่วนมาก เครื่องซักผ้าแบบฝาบนจะมีราคาถูกกว่าแบบฝาหน้าอย่างมากครับ
- - ประหยัดน้ำ
- แบบฝาหน้าจะประหยัดน้ำกว่าแบบฝาบน
- -ประหยัดไฟ
- แบบฝาหน้าจะประหยัดไฟกว่าแบบฝาบน ในกรณีที่ไม่ได้เปิดระบบน้ำร้อน แต่ปกติฝาบนจะประหยัดไฟกว่าฝาหน้า
- -เวลาซัก
- แบบฝาหน้าจะใช้เวลาซักนานกว่าแบบฝาบน
- -ความสามารถในการซัก
- แบบฝาหน้าจะซักคราบสกปรกออกได้ดีกว่าแบบฝาบน
- -ความยับของผ้าหลังซัก
- แบบฝาหน้าจะทำให้ผ้ายับน้อยกว่าแบบฝาบน
- -ความจุ
- โดยทั่วไปแบบฝาหน้ามักจะมีความจุน้อยกว่าแบบฝาบน ควรเลือกฝาบนถ้าคุณต้องการซักปริมาณมากๆ หรือให้ซักผ้าห่ม ผ้านวม
- -การใช้พื้นที่
- แบบฝาหน้าจะกินพื้นที่มากว่าฝาบนเล็กน้อย เพราะจำเป็นต้องมีที่ด้านหน้าสำหรับเปิดบานประตู ฉะนั้นก่อนซื้อควรเช็คให้แน่ใจว่าคุณมีพื้นที่สำหรับเครื่องซักผ้ามากน้อยแค่ไหน ดังนี้
- * 48-60 เซนติเมตร: เหมาะสำหรับเครื่องซักผ้าฝาหน้า
- * 34-48 เซนติเมตร: เหมาะสำหรับเครื่องซักผ้าฝาหน้าขนาดย่อม
- * 40-45 เซนติเมตร: เหมาะสำหรับเครื่องซักผ้าฝาบน
พอจะได้คำตอบกันแล้วใช่ไหมครับ สำหรับท่านที่สงสัยในเรื่องพื้นที่ สามารถดูรายละเอียดขนาดเครื่องและกล่องหยอดเหรียญที่หน้าเว็บเราได้เลย ทางร้านได้ทำการวัดขนาดมาให้สำหรับท่านที่จะใช้คำนวณพื้นที่ในการติดตั้งไว้ให้แล้วเรียบร้อย
เครื่องซักผ้าฝาบน VS เครื่องซักผ้าฝาหน้า
จริงๆ แล้วมันก็มีปัญหาระดับชาติอยู่ปัญหาหนึ่งเกี่ยวกับเครื่องซักผ้า สำหรับพ่อบ้านแม่เรือนที่กำลังจะเลือกซื้อเครื่องซักผ้าสักตัว แล้วมักจะเกิดคำถามขึ้นในใจว่า เอ๋...เครื่องซักผ้าแบบฝาบน กับ เครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า แบบไหนมันดีกว่ากันนะ เราควรเลือกซื้อแบบไหนดี เอาล่ะครับ งั้นวันนี้ผมจะพาทุกท่านมาดูกันดีกว่าครับว่า เครื่องซักผ้าแบบไหนจะตรงใจและคุณพ่อบ้านแม่เรือนมากที่สุด
ประเภทของเครื่องซักผ้านั้นสามารถแบ่งแยกย่อยออกไปได้อีกมากมายเลยล่ะครับ ทั้ง เครื่องซักผ้าแบบฝาบนถังเดี่ยวหรือสองถัง มีทั้งแบบอัตโนมัติและแบบธรรมดา เครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าที่สามารถอบผ้าได้ด้วย และอีกมากมายเลยล่ะครับ ฉะนั้นเราจะพูดโดยรวมแล้วกันครับ เพราะท้ายที่สุดแล้วเครื่องซักผ้าก็แบ่งประเภทได้แค่ 2 ประเภทอยู่ดี นั้นก็คือ เครื่องซักผ้าแบบฝาบนและเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า
เครื่องซักผ้าแบบฝาบน
สำหรับเครื่องซักผ้าแบบฝาบน คือแบบแรกที่มีมาก่อนเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า มีลักษณะเหมือนถังซักผ้าทั่วไป ใส่ผ้าด้วยการเปิดฝาด้านบน การปั่นผ้าจะเป็นแบบใบพัดหมุนสลับไปมา ตัวถังจะเป็นแบบตั้งตรง
จะมีประสิทธิภาพในการซักที่ค่อนข้างต่ำ จะสามารถซักคราบสกปรกได้ไม่ 100% เนื่องจากมีลักษณะในการปั่นผ้าแค่การหมุนด้วยใบพัดข้างใต้ สลับกันไป ซ้ายขวา และมีกำลังหมุนที่ค่อนข้างน้อย ถ้าในกรณีที่บรรจุผ้าเยอะ จึงทำให้ผ้าเกิดการเสียดสีกันได้น้อย ทำให้คราบสกปรกหลุดออกได้ไม่ดีเท่าที่ควร แต่มีความสามารถในการซักที่รวดเร็ว และสามารถจุผ้าได้ที่ละมากๆ
ข้อเสียของเครื่องซักผ้าแบบฝาบนนั้น แน่นอนครับ ซักคราบสกปรกออกได้ยากกว่าแบบฝาหน้า แถมยังเปลืองน้ำมาก กินไฟ
ถือว่าเป็นจุดขายเลยก็ว่าได้ครับกับเรื่องราคา เพราะว่าเจ้าเครื่องซักผ้าแบบฝาบน จะมีราคาที่ค่อนข้างถูก เหมาะสำหรับพ่อบ้านแม่เรือนที่มีงบที่จำกัด
เครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า
ถือว่าเป็นที่นิยมมากๆในสมัยนี้ ซึ่งเราจะเห็นได้ตามร้านซักผ้า 24 ชม. ลักษณะจะเป็นเครื่องซักผ้าแบบถังซักผ้าทั่วไป แต่เปลี่ยนจากเปิดฝาด้านบนเป็นเปิดด้านหน้าแทน การหมุนของถังซักจะเป็นในลักษณะวงล้อซึ่งจะหมุนให้ผ้าตกลงมาไปเรื่อยๆ สามารถซักกับน้ำร้อนได้ ซึ่งจะสามารถฆ่าเชื้อแบคทรีเรียได้
ความสามารถในการซัก
เครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าชนิดนี้ซึ่งอย่างที่บอกไปข้างต้น ว่าเครื่องซักผ้าชนิดนี้สามารถซักผ้ากับน้ำร้อนได้ ซึ่งจะสามารถฆ่าเชื้อแบคทรีเรียได้ และให้ทำผ้าสะอาดมากกว่าเครื่องซักผ้าแบบฝาบน แถมยังสามารถปั่นผ้าได้รุนแรงกว่า ทำให้ผ้าสะอาดมากกว่า สามารประหยัดค่าไฟได้มากกว่า และประหยัดน้ำได้เยอะกว่าเครื่องซักผ้าแบบฝาบน
ข้อเสีย :
จะใช้เวลาการซักนานกว่าเครื่องซักผ้าแบบฝาบน โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 30 นาที – 1 ชั่วโมง และสามารถจุผ้าได้ในปริมาณที่น้อยกว่าเครื่องซักผ้าแบบฝาบน ด้วยเช่นกัน และยังใช้พื้นมากกว่า โดยที่เครื่องซักผ้าแบบฝาบนจะใช้พื้นที่ประมาน 40-45 เซนติเมตร. แต่เครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าจะใช้พื้นที่ราวๆ 48 – 60 เซนติเมตร
ราคา :
แน่นอนครับ ด้วยคุณภาพที่แน่นเอี๊ยดขนาดนี้ ก็ต้องมาพร้อมกับราคาที่ค่อนข้างสูงกว่าเครื่องซักผ้าแบบฝาบนพอสมควรเลยล่ะครับ
เป็นยังไงกันบ้างครับ พอจะตัดสินใจเลือกเครื่องซักผ้าที่ใช้และตรงใจกับตัวของคุณได้หรือยัง หวังว่าบทความ
นี้จะสามารถเป็นตัวช่วยให้กับคุณพ่อบ้านแม่เรือน ในการเลือกเครื่องซักผ้าดีๆ ซักเครื่องนะครับ สำหรับวันนี้ต้อง