วิธีการบริหารคนให้

วันนี้ขอกลับมาที่วิกฤติที่เกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากเรื่องที่จะเขียนวันนี้จะมีส่วนที่เกี่ยวข้องกับวิกฤติที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ และก็เริ่มเกิดขึ้นกับหลายองค์กรแล้วในตอนนี้ เรื่องดังกล่าวก็คือ แนวทาง และแนวความคิดในการบริหารคนที่เปลี่ยนแปลงไปในช่วงวิกฤตินี้ และหลังวิกฤติ ว่าจะมีความเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง

แน่นอนว่าแนวความคิดในการบริหารจัดการแบบดั้งเดิม ผู้บริหารมักจะคิดว่า ผู้บริหาร ผู้จัดการ หรือผู้บังคับบัญชานั้นจะต้องเป็นผู้ที่คอยวางแผน ควบคุมดูแลงานอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะกับพนักงานระดับปฏิบัติการ หรือแม้กระทั่งพนักงานวิชาชีพต่างๆ เพราะนั่นคือการบริหารจัดการตามรูปแบบเดิมที่เคยเรียนรู้กันมา

แต่พอช่วงวิกฤติ Covid19 ก็เริ่มต้องมีการบริหารจัดการที่เปลี่ยนแปลงไป โดยที่บางองค์กรเองก็ไม่เต็มใจที่จะเปลี่ยนแปลงเลยด้วยซ้ำ แต่ด้วบเหตุจำเป็นจึงต้องมีการปรับเปลี่ยนวิธีการบริหารจัดการไป ยกตัวอย่างเช่น

การให้พนักงานทำงานที่บ้าน เดิมผู้บริหารบางองค์กรไม่เคยที่จะคิดเลยด้วยซ้ำว่าพนักงานจะทำงานจากที่บ้านได้อย่างไร แต่ก็ต้องเริ่มให้ทำเพราะเหตุจำเป็นจริงๆ บางองค์กร ก็เริ่มที่จะมีความยืดหยุ่นในการทำงานเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเวลาการทำงาน สถานที่ รวมถึงงานที่ทำ ก็อาจจะมีการจับคู่การทำงานด้วยกันกับพนักงานอีกคนเป็นต้น

หรือเรื่องของการประชุม ที่เคยคิดแค่เพียงว่า ต้องประชุมกันในห้องประชุมเท่านั้น ก็เริ่มต้องมีการประชุมกันผ่านหน้าคอมพิวเตอร์กัน ผู้บริหารหลายคนเริ่มเรียนรู้แนวทางใหม่ๆ นี้ก็ตอนช่วงวิกฤตินี้

ความใส่ใจทางด้านสุขภาพของพนักงานมากขึ้น จากเดิม ที่ไม่ค่อยสนใจมากนัก ป่วยก็ลาไป ไม่สบายก็ไปหาหมอ ฯลฯ แต่ช่วงนี้ ต้องคอยดูแลพนักงานอย่างดี เพราะถ้าเกิดพนักงานติดเชื้อไวรัสมา มันจะยุ่งไปทั้งการบริหารคน และบริหารงาน

ด้วยเหตุต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ ทำให้ผู้บริหารไม่ว่าจะระดับใดก็ตาม ต้องมีการเปลี่ยนแปลงแนวคิด และวิธีการทำงานกันใหม่ คือ

  • จากการควบคุม ต้องเปลี่ยนเป็น ให้ความเชื่อมั่นในตัวพนักงาน จากเดิม ผู้บริหารมักจะมองพนักงานว่า ไม่มีทางทำงานเองได้ ถ้าไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด ความเชื่อนี้ ต้องเปลี่ยน เพราะอนาคตเราอาจจะต้องมีการให้พนักงานทำงานที่บ้านกันมากขึ้นได้ ดังนั้นเราต้องเปลี่ยนจาก control เป็น Trust ก็คือ ต้องเชื่อมั่นในตัวพนักงานว่า สามารถที่จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ว่าจะไม่ได้รับการควบคุมอย่างใกล้ชิดก็ตาม ผู้บริหารบางคนอาจจะโต้แย้งว่า มันไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่ตอนนี้เราก็เริ่มเห็นแล้วว่ามันเป็นไปได้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี่เอง ผู้บริหารเองต้องปรับแนวทางว่า ถ้าเราจะ Trust พนักงานได้นั้น พนักงานคนนั้นต้องมีคุณสมบัติอย่างไรที่จะทำให้เราเชื่อมั่นได้ จากนั้นเราก็ต้องปรับคุณสมบัติของพนักงานกันใหม่ เพื่อที่จะได้รับพนักงานใหม่ได้ตรงกับความต้องการของผู้บริหารได้มากขึ้น จากนั้นเราก็ไม่จำเห็นต้องควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิดจนแทบจะไม่ได้ทำงานอะไรของตนเองเลย
  • จากต้องทำตามระบบงาน ต้องเปลี่ยนเป็น ยืดหยุ่นได้ ผู้บริหารบางคน เชื่อมั่นในระบบการทำงาน กระบวนการทำงาน และวิธีการทำงาน แบบดั้งเดิม โดยที่มักจะเชื่อว่า การทำงานปรับเปลี่ยนได้ยากเพราะจะกระทบกับผลผลิตที่ได้ แต่หลังจากวิกฤติ เราได้เห็นว่า วิธีการทำงานเกิดความยืดหยุ่นมากขึ้น ไม่จะเป็นต้องทำตามระบบเป๊ะๆ เวลาในการเข้าออกงาน ที่เดิมเคยต้องคอยควบคุม ก็ไม่ต้องไปสนใจมากนัก ไปดูจากผลลัพธ์ของงานก็พอ เป็นต้น
  • จากที่ต้องเดินทางไปประชุมตามสถานที่ต่างๆ ก็อยู่กับที่ ประชุม online ได้นี่เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ผู้บริหารหลายคนปรับตัวได้แล้วในตอนนี้ เดิมทีจะรู้สึกว่า มันแปลกๆ ว่า ประชุม แต่ไม่ต้องเดินทางไปร่วมประชุม หรือไม่ต้องเข้าห้องประชุม ก็ประชุมได้ แต่ตอนนี้ เราจะรู้สึกว่า เราสามารถประชุมได้ทุกที่ทุกเวลา โดยไม่ต้องเดินทางไปถึงสถานที่ดังกล่าวเลย อีกทั้งการประชุมเองก็ไม่ได้ถูกลดประสิทธิภาพลงแต่อย่างใด
  • จากการบริหารที่เน้นงาน จะต้องเปลี่ยนเป็น เน้นคน เนื่องจากการทำงานมีความยืดหยุ่นมากขึ้น พนักงานเอง ก็ทำงานจากที่ไหนก็ได้ แถมบางวันยังแทบไม่เจอหน้าพนักงานของตนเองเลย ดังนั้นการที่จะมัวแต่มามุ่งเน้นการบริหารจัดการที่กระบวนการทำงาน ควบคุมขั้นตอนการทำงานของพนักงาน ก็ต้องเปลี่ยนเป็นการบริหารจัดการพนักงานในมุมของ การสร้างพลังในการทำงาน สร้างความมุ่งมั่น สร้างแรงบันดาลใจให้พนักงานมากขึ้น การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ ที่ทำให้พนักงานทุกคนในทีมเห็นภาพเดียวกันให้ได้ ฯลฯ จะสังเกตว่า ประเด็น Soft Skills จะทวีความสำคัญมากขึ้นกว่า Hard Skills

นี่คือประเด็นที่คนที่เป็นผู้บริหาร ผู้จัดการ จะต้องปรับเปลี่ยนแนวความคิด เปลี่ยนทัศนคติ มุมมองที่มีต่อการทำงานของพนักงาน และเพิ่มเติม Soft Skills ที่ต้องใช้ในการบริหารพนักงาน เพื่อการทำงานในยุคใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นข้างหน้า

วิธีบริหารคนให้ได้ใจ ทำอย่างไรให้บริษัทประสบความสำเร็จ

Posted on 18 Feb 2019

872

วิธีบริหารคนให้ได้ใจ ทำอย่างไรให้บริษัทประสบความสำเร็จ

" เก่งอย่างเดียวไม่พอ...ต้องบริหารคนให้เป็นด้วย!! "

ในโลกของการทำงาน และในยุคสมัยที่เปลี่ยนไปกลายเป็นสังคมดิจิทัล ทำให้หลายๆ บริษัทเริ่มมองหาคนดีและคนเก่งมาร่วมงาน ซึ่งระบบการบังคับบัญชาจึงไม่ได้เป็นแค่การแบ่งช่วงวัย หรือการตัดสินจากอายุงานและความอาวุโสอีกต่อไป แต่เป็นการใช้ความสามารถในการบริหารคนบริหารงาน และใช้ความสามารถในเรื่องเทคโนโลยีจากคนรุ่นใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น เราลองมาดูวิธีการบริหารคนแบบง่ายๆ ที่จะได้ใจพนักงาน และส่งผลให้บริษัทประสบความสำเร็จกัน

1.ไม่วางท่าเป็นเจ้านายจนเกินไป

มันไม่มีความจำเป็นใดๆเลย ที่คุณจะวางท่าใหญ่โต เพื่อแสดงอำนาจต่อหน้าพนักงานหรือลูกน้องที่อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของคุณ เพราะนอกจากจะไม่ได้ใจพวกเขาแล้ว พวกเขายังจะตีตัวออกห่างคุณอีกด้วย

2.เชื่อมั่นในศักยภาพของพนักงาน

คุณต้องเชื่อว่าพวกเขาสามารถเรียนรู้และพัฒนาตัวเองได้ มันจะทำให้พนักงานมีแรงจูงใจ และเกิดกำลังใจในการทำงานให้ดีและประสบความสำเร็จด้วยตัวของพวกเขาเอง ส่วนคุณก็คอยแนะนำและให้การสนับสนุนอยู่ห่างๆ ก็พอ

3.มีความยุติธรรมกับพนักงานทุกคน

การที่คุณเป็นคนที่มีความยุติธรรมกับพนักงานทุกคน ไม่หูเบา หรือเชื่อคนง่าย ตัดสินความผิดด้วยเหตุและผล ไม่ด่วนตัดสินโดยใช้อารมณ์ มันจะทำให้คุณเป็นเจ้านายที่น่าเคารพในสายตาลูกน้อง

4.สนับสนุนความคิดต่างของพนักงาน

คุณต้องเปิดโอกาสให้พนักงานของคุณเสนอความคิดที่แตกต่าง ยกตัวอย่างเช่น การโต้แย้งกันในที่ประชุม จะทำให้คุณได้รับข้อมูลใหม่ๆ และได้รับทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้น และยังเป็นการกระตุ้นให้พนักงานของคุณเกิดความคิดสร้างสรรค์อีกด้วย

5.ลงมือทำเป็นแบบอย่าง

เจ้านายที่ดีไม่ใช่เจ้านายที่คอยแต่ออกคำสั่งเพียง แต่ไม่เคยลงมือทำเป็นตัวอย่างเลย การพิสูจน์ตัวเองโดยการลงมือทำและแก้ไขปัญหาให้พนักงานทุกคนเห็น จึงเป็นตัวอย่างของเจ้านายที่น่ายกย่อง และน่าเคารพนับถือเป็นอย่างมาก

6.สอนงานพนักงานบ้าง

ถ้าคุณอยากให้พนักงานมีผลงานที่ดี คุณเองก็ควรที่จะสอนงานพนักงานบ้าง เมื่อพนักงานทำงานแล้วมีปัญหา สิ่งที่เจ้านายที่ดีต้องทำก็คือ ให้คำแนะนำและสอนงานแก่พนักงาน เพื่อให้เขาสามารถทำงานได้ตามที่คุณต้องการและมีประสิทธิภาพ

7.ให้รางวัลเล็กๆ น้อยๆ

การให้รางวัลเล็กๆ น้อยๆ เป็นกำลังใจในการทำงาน ในช่วงเทศกาลต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น ทุกวันขึ้นปีใหม่ หรือช่วงเทศกาลตรุษจีน เป็นการแสดงถึงความปรารถนาดีต่อเขา และยังเป็นการอวยพรให้พวกเขามีความสุข ความเจริญก้าวหน้า

8.ใส่ใจเรื่องอนาคตของพนักงาน

เจ้านายที่ดีจะต้องใส่ใจในทุกๆ เรื่องของพนักงานทุกคน ยกตัวอย่างเช่น เรื่องของความรู้ ทักษะ และความสามารถในด้านต่างๆ ของพนักงาน และคุณต้องมีการวางแผนเพื่อการพัฒนา และให้พนักงานทุกคนของคุณเติบโตในสายอาชีพการทำงานด้วย

9.สังสรรค์กับพนักงาน

อาจจะฟังดูเป็นเรื่องไม่เหมาะสม แต่แนวคิดนี้เป็นเคล็ดลับที่จะทำให้คุณรู้จักพนักงานของคุณมากขึ้น ซึ่งในงานเลี้ยงสังสรรค์มันเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนสนุกและผ่อนคลาย คุณสามารถพูดคุยเรื่องทั่วไปกับพนักงานได้ ซึ่งในช่วงเวลานั้นคุณจะรู้ถึงความคิดของพนักงานที่ออกมาจากใจจริงๆ

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

flow chart แสดงขั้นตอนการปฏิบัติงาน lmyour แปลภาษา กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน กาพย์เห่เรือ การเขียน flowchart โปรแกรม ตัวรับสัญญาณ wifi โน๊ตบุ๊คหาย ตัวอย่าง flowchart ขั้นตอนการทํางาน ผู้แต่งกาพย์เห่ชมไม้ ภูมิปัญญาหมายถึง มีสัญญาณ wifi แต่เชื่อมต่อไม่ได้ เชื่อมต่อแล้ว ไม่มีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ /roblox promo code redeem 3 พระจอม มีที่ไหนบ้าง AKI PLUS รีวิว APC UPS APC UPS คือ Adobe Audition Adobe Bridge Anapril 5 mg Aqua City Odaiba Arcade Stick BMW F10 jerk Bahasa Thailand Benz C63 ราคา Bootstrap 4 Bootstrap 4 คือ Bootstrap 5 Brackets Brother Scanner Brother iPrint&Scan Brother utilities Burnt HD C63s AMG CSS เว้น ช่องว่าง CUPPA COFFEE สุราษฎร์ธานี Cathy Doll หาซื้อได้ที่ไหน Clock Humidity HTC-1 ColdFusion Constitutional isomer Cuppa Cottage เจ้าของ Cuppa Cottage เมนู Cuppa Cottage เวียงสระ DMC DRx จ่ายปันผลยังไง Detroit Metal City Div class คือ Drastic Vita