"ประกันสังคม" เริ่มทยอยโอนเงินเยียวยาผู้ประกันตน ม.33 จำนวน 2,500 บาท รอบ 2 ให้ผู้ที่ได้รับสิทธิ์แล้ว โดยจะโอนผ่านบัญชี "พร้อมเพย์" หมายเลขประจำตัวประชาชนเท่านั้น พร้อมแนะวิธีเช็กสิทธิ์
จากกรณี คณะรัฐมนตรี มีมติอนุมัติให้ สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตน ม.33 ใน 9 กิจการ ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐ โดยอนุมัติให้ช่วยเหลือผู้ประกันตนตาม ม.33 ด้วยการจ่ายเงินเพิ่มเติมให้ 2,500 บาท/คน/เดือน เป็นครั้งที่ 2 โดยจะเริ่มโอนเงินเยียวยาในวันที่ 27-28 ก.ย. 2564
สำหรับเฉพาะพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัด แบ่งเป็น 13 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, นครปฐม, นนทบุรี, นราธิวาส, ปทุมธานี, ปัตตานี, พระนครศรีอยุธยา, ยะลา, สงขลา, สมุทรปราการ และ สมุทรสาคร ซึ่งกิจการ 9 สาขาอาชีพที่ได้รับความช่วยเหลือ จากการเป็นผู้ประกันตน ม.33 ได้แก่
1. ก่อสร้าง
2. ที่พักแรมและบริการด้านอาหาร
3. ศิลปะ บันเทิงและนันทนาการ
4. กิจกรรมบริการด้านอื่นๆ ตามที่สำนักงานประกันสังคมกำหนด
5. ขายส่งและการขายปลีก ซ่อมยานยนต์
6. ขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า
7. กิจกรรมการบริหารและบริการสนับสนุน
8. กิจกรรมวิชาชีพ วิทยาศาสตร์และกิจกรรมทางวิชาการ
9. ข้อมูลข่าวสารและการสื่อสาร
วิธีตรวจสอบสิทธิ์ เงินเยียวยาผู้ประกันตนมาตรา 33
- เข้าเว็บไซต์ "สำนักงานประกันสังคม" หรือ (คลิกที่นี่)
- จากนั้นคลิกข้อความ "ตรวจสอบสิทธิ์โครงการเยียวยาฯ (ผู้ประกันตนมาตรา 33)" หรือ (คลิกที่นี่)
- เข้าสู่หน้า ตรวจสอบสถานะโครงการเยียวยาผู้ประกันตนมาตรา 33 โดยกรอกข้อมูล ดังนี้
- กรอกเลขบัตรประชาชน
- กรอกรหัสให้ตรงกับรูปภาพ
- แล้วคลิกคำว่า "ค้นหา"
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 27 ก.ย. 2564 มีผู้ประกันตนมาตรา 33 เริ่มได้รับเงินเยียวยาจำนวน 2,500 บาท ผ่านบัญชีพร้อมเพย์แล้ว ทั้งนี้
หากมีข้อสงสัยสามารถโทรศัพท์สอบถามข้อมูลจาก สายด่วนประกันสังคม 1506 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.
ครม.อนุมัติ เงินเยียวยามาตรา 33 รอบ 2 ให้ผู้ประกันตน ม.33 ที่อยู่ใน 13 จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม รับเงินเยียวยา 2,500 บาท รอบสอง อีก 1 เดือน โดยภายในเดือนกันยายน 2564
- โหลด แบบฟอร์มขอทบทวนสิทธิเยียวยา ผู้ประกันตน ม.39-40
- เช็คสิทธิประกันสังคมมาตรา 40 รับเงินเยียวยา รอบ 2
- ทบทวนสิทธิเงินเยียวยา ผู้ประกันตน ม.33, 39, 40 เริ่ม 1 ก.ย. 2564
7 กันยายน 2564 – นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้เพิ่มกรอบวงเงินอนุมัติ 16,103 ล้านบาท สำหรับช่วยเหลือนายจ้าง/ผู้ประกันตน ม.33 ในระบบประกันสังคมของสำนักงานประกันสังคม ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) 13 จังหวัด รอบ 2 อีก 2 เดือน เป็นเงินอีกคนละ 2,500 บาท ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอแล้ว
พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) 13 จังหวัด
- กรุงเทพมหานคร
- ฉะเชิงเทรา
- ชลบุรี
- นครปฐม
- นนทบุรี
- นราธิวาส
- ปทุมธานี
- ปัตตานี
- พระนครศรีอยุธยา
- ยะลา
- สงขลา
- สมุทรปราการ
- สมุทรสาคร
จำเป็นต้องจ่ายเงินเยียวยามาตรา 33 รอบ 2 เพราะผู้ประกันตนกระทบยาว 2 เดือน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยอีกว่าสาเหตุที่ผู้ประกันตนมาตรา 33 ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) 13 จังหวัดได้รับ เงินเยียวยามาตรา 33 รอบ 2 อีก ทำให้ได้รับการเยียวยา 2 รอบนั้น เป็นเพราะกลุ่มผู้ประกันตน ม.33 กลุ่มนี้เป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการที่ถูกรัฐสั่งปิดกิจการตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2564 เป็นเวลา 2 เดือน เช่นเดียวกับผู้ประกันตนมาตรา 39 และมาตรา 40 ในพื้นที่สีแดงเข้ม 13 จังหวัด ที่จะได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาท ในรอบที่ 2 ด้วยเช่นกัน
กลุ่มที่จะได้รับเงินเยียวยาเพิ่มเติม เดือนกันยายน 2564
กลุ่มที่จะได้รับเงินเยียวยาเพิ่มเติม ในเดือนกันยายน 2564 ได้แก่
- นายจ้างที่มีลูกจ้างเป็นผู้ประกันตน ม.33 สูงสุดไม่เกิน 200 คน จำนวน 194,660 ราย (ช่วยเหลือรายละ 3,000 บาท) รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 7,257 ล้านบาท
- ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 สัญชาติไทย จำนวน 3,538,530 คน (2,500 บาท/คน) รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 8,846 ล้านบาท
ผู้ประกันตนเตรียมรับเงินเยียวยามาตรา 33 รอบ 2 ภายในเดือนกันยายน 2564
รมว.แรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า สำนักงานประกันสังคมจะเริ่มโอนเงินเยียวยาเดือนที่สองภายในเดือนกันยายน 2564 นี้ โดยได้มอบหมายให้นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพื่อให้ทั้งนายจ้างและผู้ประกันตนที่ได้รับสิทธิได้รับความช่วยเหลือแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในช่วงวิกฤติครั้งนี้ ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาพบว่าภาพรวมเป็นที่น่าพอใจมาก โดยสำนักงานประกันสังคมได้จ่ายเงินช่วยเหลือไปแล้ว กว่า 41,160 ล้านบาท คิดเป็น 97%
หากนายจ้างหรือผู้ประกันตน ม.33 มีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน ประกันสังคม โทร. 1506 ให้บริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง