พลังงานที่ใช้ในการขนส่ง ใน ประเทศไทย มาจากแหล่ง ใด บ้าง

• นโยบายความเป็นส่วนตัว
• Career

บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน)

555/2 ศูนย์เอนเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ อาคารบี ชั้นที่ 12 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900

© 2022 OR เบอร์โทร : 02 196 5959

การขนส่งที่ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

October 1st, 2012 admin

Eco-friendly and energy-saving transportations

การขนส่งที่ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม  

ดร.จุฬา สุขมานพ 

            ทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของไทยในช่วง 5-10 ปี ข้างหน้า ชี้ให้เห็นว่า ประเทศไทยจะร่วมมือทางเศรษฐกิจกับประเทศในภูมิภาคอาเซียนมากขึ้น และอาจมีการขนส่งทางถนนผ่านเข้าออกประเทศไทยมากขึ้น ดังนั้น ในแผนหลักการขนส่งและจราจรในช่วง 10 ปีข้างหน้า ได้กำหนดประเด็นเกี่ยวกับการขนส่งที่ประหยัดพลังงาน (Energy Saving) และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Environmental Friendly) ไว้ด้วย

ปัจจุบันปัญหาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมเป็นประเด็นที่มีการตระหนักถึงอย่างมากทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทยมีการใช้พลังงานในภาคการขนส่งมากถึงร้อยละ 35 ของการใช้พลังงานทั้งหมด หรือคิดเป็น 1 ใน 3 ซึ่งใกล้เคียงกับการใช้พลังงานในภาคอุตสาหกรรม และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต ผลจากการใช้พลังงานเป็นปริมาณมากดังกล่าวได้ก่อให้เกิดการปล่อยมลภาวะสู่สิ่งแวดล้อมตามมา โดยเฉพาะการขนส่งทางถนน มีการใช้พลังงานสูงสุดกว่าการขนส่งรูปแบบอื่น

ถึงแม้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา จะมีการจัดสรรงบประมาณและการลงทุนกับการขนส่งรูปแบบอื่นมากกว่าการขนส่งทางรางและน้ำก็ตาม แต่จากบทบาทความสำคัญและข้อดีของการขนส่งสินค้าทางรางและน้ำในด้านการขนส่งสินค้าได้ครั้งละมากๆ ระยะทางไกล และมีต้นทุนต่อหน่วยต่ำ ใช้พลังงานน้อย จึงมีความพยายามที่จะส่งเสริมให้มีการเปลี่ยนรูปแบบการขนส่งทางถนนมาสู่การขนส่งทางรางและน้ำ (Modal Shift) เพื่อเป็นการประหยัดพลังงาน และช่วยลดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการใช้รถยนต์ โดยเฉพาะมลภาวะทางอากาศที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เป็นสาเหตุให้เกิดภาวะโลกร้อน

ในการส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการปรับเปลี่ยนมาใช้รูปแบบการขนส่งทางรางและทางน้ำ ครอบคลุมถึงการส่งเสริมให้มี การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อให้มีการใช้พลังงานและยานพาหนะที่สะอาด ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้คาดว่าจะช่วยให้ปริมาณการใช้พลังงานในภาคการขนส่งและมลภาวะที่เกิดจากภาคการขนส่งลดลง โดยเฉพาะก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ส่งผลให้ผลกระทบที่มีต่อภาวะโลกร้อนลดลง อาทิเช่น

• การบริหารจัดการด้านการใช้พลังงานในภาคการขนส่งทางถนน โดยการปรับปรุงระบบขนส่งให้มีประสิทธิภาพด้านการใช้พลังงานมากขึ้น การบริหารจัดการอุปสงค์เพื่อลดการเดินทางที่ไม่จำเป็น และการสนับสนุนให้มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปใช้ระบบขนส่งสาธารณะ และรูปแบบการขนส่งสินค้าที่ประหยัดพลังงาน
• การจัดการสิ่งแวดล้อมด้านการขนส่งทางถนน โดยการส่งเสริมให้มีการพัฒนาและใช้พลังงานสะอาด การสนับสนุนการใช้จักรยาน การเดิน ยานพาหนะไฟฟ้า และการส่งเสริมการขับขี่ที่ประหยัดเชื้อเพลิง (Eco driving)
• การยกระดับท่าอากาศยานให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยการบริหารจัดการและการใช้เทคโนโลยีเพื่อการประหยัด พลังงานและลดมลพิษ
• การส่งเสริมการใช้เชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพ ประหยัดพลังงาน และลดปริมาณการปลดปล่อยมลพิษและก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากกิจกรรมการบิน

ยุทธศาสตร์ในการดำเนินงาน ได้แก่

1)      การส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการเปลี่ยนมาใช้รูปแบบการขนส่งทางรางและทางน้ำเพิ่มมากขึ้น (Shift mode)

            การจูงใจให้หันมาใช้การเดินทางและขนส่งสินค้าทางรางและน้ำจึงมีความสำคัญ โดยจะต้องมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการขนส่ง รวมถึงการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานเดิมที่มีอยู่ให้สามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ การปรับปรุงประสิทธิภาพการเชื่อมโยงการขนส่งทางรางและน้ำกับการขนส่งรูปแบบอื่น (ทางถนนและอากาศ) อย่างบูรณาการจนเกิดเป็นการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบที่มีความสะดวกและรวดเร็ว การปรับปรุงกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อเอื้อให้ผู้ประกอบการขนส่งสินค้าทางน้ำเพิ่มมากขึ้น

            การส่งเสริมและสนับสนุนการขนส่งทางน้ำ จะมีการพัฒนาและปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งทางลำน้ำและชายฝั่งเพิ่มมากขึ้นให้เพียงพอและรองรับการขยายตัวการขนส่งสินค้า เพื่อให้สามารถแข่งขันได้กับการขนส่งทางถนน การปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน เพื่อลดขั้นตอน กระบวนการที่ซับซ้อนยุ่งยาก ที่จะทำให้เกิดความล่าช้า และก่อให้เกิดต้นทุน พร้อมกันนี้จะต้องมีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาช่วยในการบริหารจัดการ และพัฒนาบุคลากรที่เกี่ยวข้องไปพร้อมๆ กัน และต้องมีการปรับปรุงกฎระเบียบ ข้อบังคับในการกำกับดูแล และส่งเสริมผู้ประกอบการให้หันมาดำเนินธุรกิจการขนส่งทางน้ำมากขึ้น การส่งเสริมกิจการพาณิชยนาวีที่เกี่ยวข้องต่างๆ

            การส่งเสริมและสนับสนุนการขนส่งทางราง จะต้องมีการพัฒนาและปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งทางราง เพื่อให้การขนส่งทางรางมีการให้บริการที่ดีขึ้น มีความตรงต่อเวลาและมีความน่าเชื่อถือ โดยการเพิ่มหัวรถจักร ล้อเลื่อน และแคร่ ให้เพียงพอและสามารถใช้งานได้อย่างเต็มที่ มีโรงซ่อมบำรุงที่ได้มาตรฐานรองรับการใช้งาน การเพิ่มประสิทธิภาพของระบบราง (ระบบรางคู่) เพื่อเพิ่มความเร็วในการขนส่ง และมีการเชื่อมโยงกับการขนส่งรูปแบบอื่น โดยพัฒนาศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้า ณ บริเวณจุดสำคัญที่สามารถขนส่งต่อเนื่องได้ สะดวกรวดเร็ว และลดต้นทุน และที่สำคัญต้องมีการปฏิรูปโครงสร้างองค์กรรถไฟ เพื่อสามารถดำเนินกิจการได้อย่างมีประสิทธิภาพ การควบคุมดูแล และการยกระดับการให้บริการ

2)      การส่งเสริมและพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อให้มีการใช้พลังงานและยานพาหนะที่สะอาดและเป็นมิตร
กับสิ่งแวดล้อม

การประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยการส่งเสริมการใช้เรือพลังงานทดแทนและพลังงานสะอาด เพื่อช่วยลดการพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงและลดการปล่อยมลพิษ นอกเหนือจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการเปลี่ยนรูปแบบการขนส่งโดยเน้นทางรางและน้ำคือ การพัฒนาการใช้พลังงานอย่างประหยัดด้วยการใช้มาตรการต่างๆ ซึ่งอาจใช้เงินลงทุนน้อย สามารถนำไปสู่การปฏิบัติการในระยะสั้นหรือเร่งด่วนได้ และเกิดผลลัพธ์ได้ในทันที เช่น การลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล การพัฒนาเทคโนโลยียานพาหนะที่ใช้พลังงานที่สะอาด เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Eco-Vehicle) เช่น การใช้พลังงานไฟฟ้า พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานชีวภาพ (Bio-Diesel) เป็นต้น นอกจากนี้ ต้องมีการส่งเสริมการใช้ระบบขนส่งที่ไม่ใช้เครื่องยนต์ (Non-Motorized Transport) มากขึ้น เช่น การเดิน และการใช้จักรยาน เป็นต้น โดยต้องมีการจัดพื้นที่ที่เหมาะสมและมีความปลอดภัย

You can leave a response, or trackback from your own site.