ข้อใดหมายถึงการวิเคราะห์ความต้องการ smaci

แผนการจัดการเรยี นรู้

การจัดการเรยี นรู้แบบมุ่งเน้นสมรรถนะอาชีพและบรู ณาการ
ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

รหสั วชิ า 30๒0๔-๒00๑ วิชา พ้นื ฐานธรุ กิจดจิ ิทัล
จานวนหน่วยกิต ( ท-ป-น ) ๒-๒-๓ จานวนชว่ั โมงสอน / สปั ดาห์ ๔ ช่วั โมง

หลักสตู รประกาศนยี บัตรวิชาชพี ชน้ั สูง (ปวส.) พทุ ธศกั ราช 25๖3
ประเภทวชิ า บริหารธรุ กิจ สาขาวชิ า เทคโนโลยธี ุรกจิ ดิจิทัล
สาขางาน เทคโนโลยธี รุ กจิ ดจิ ทิ ลั
ภาคเรยี นท่ี ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖4

โดย
นายมนตธ์ ร สาระบูรณ์
ตาแหน่ง ครูจา้ งสอนประจารายเดือน

วทิ ยาลัยการอาชีพขุนหาญ
สานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา

รายการตรวจสอบและอนุญาตให้ใช้

ควรอนุญาตให้ใช้ในการสอนได้ ควรอนญุ าตให้ใชใ้ นการสอนได้
ควรปรับปรุงเกย่ี วกบั ควรปรบั ปรุงเก่ยี วกบั

................................................................. .................................................................
................................................................. .................................................................
................................................................. .................................................................
................................................................. .................................................................
................................................................. .................................................................

ลงชอื่ .................................................... ลงชอ่ื ....................................................
( นายณฐั พล ทองจนั ทร์ ) ( นายธนวิน สายนาค )
หัวหนา้ งานหลกั สตู ร
หัวหนา้ แผนกวชิ าคอมพิวเตอร์ธรุ กิจ

ควรอนุญาตใหใ้ ชใ้ นการสอนได้ อนญุ าตให้ใช้ในการสอนได้
ควรปรับปรุงดังเสนอ อื่น ๆ
อน่ื ๆ

................................................................. .................................................................
................................................................. .................................................................
................................................................. .................................................................

ลงช่อื ......................................... ลงชอ่ื ....................................................
( นายชาตรี สารบี ตุ ร ) ( นายลาปาง พันธ์เพชร )

รองผู้อานวยการฝา่ ยวชิ าการ ผูอ้ านวยการวทิ ยาลัยการอาชีพขนุ หาญ

แผนผงั ความคิดบรู ณาการหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง
รายวิชา พื้นฐานธุรกจิ ดิจิทัล

เงอื นไขความรู้ เงือนไขคณุ ธรรม

มคี วามรใู้ นเรื่องการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ การใช้เครอื ข่าย มีความขยัน อดทน มนี าใจและเสยี สละ
ทางดา้ น internet การวางกรอบแนวคดิ จริยธรรมและความรบั ผดิ ชอบในการ

เศรษฐกิจ สังคม ส่งิ แวดลอ้ ม วฒั นธรรม

1,2,3,4,7 1,5,7 8 6

บันทกึ ขออนมุ ตั ิใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรู้
ภาคเรยี นท่ี ๑ / 2564

รหสั วชิ า 3๐๒04 – 2001 วิชา พืน้ ฐานธรุ กิจดิจิทัล
หลกั สูตรประกาศนยี บัตรวิชาชพี ช้ันสูง พุทธศกั ราช 25๖3
ประเภทวิชา บรหิ ารธรุ กิจ สาขาวิชา เทคโนโลยธี ุรกิจดจิ ทิ ลั

สาขางาน ธุรกิจดจิ ิทัล

ขออนุมัติการใช้แผนการจัดการเรียนรู้
ลงช่อื .................................................................ครผู ู้สอน
(นายมนต์ธร สาระบรู ณ์)

ความเหน็ หัวหน้าแผนกวชิ า
.............................................................................................................................................................................

ลงชื่อ.....................................................หวั หน้าแผนกวิชา
(นายณัฐพล ทองจันทร์)

ความเหน็ หวั หน้างานพฒั นาหลกั สูตรการเรยี นการสอน
.............................................................................................................................................................................

ลงชอื่ .....................................................หวั หนา้ งานฯ
(นายธนวิน สายนาค)

ความเห็นของรองผอู้ านวยการฝา่ ยวชิ าการ
 เห็นควรพิจารณาอนุมตั ิ ใหใ้ ชป้ ระกอบการเรียนการสอนได้

ลงชอื่ .....................................................รองฝ่ายวิชาการ
(นายชาตรี สารีบตุ ร)

ความเหน็ ของผอู้ านวยการ
 อนุมัติ
 ไมอ่ นุมัติ เพราะ............................................................................................................. ...........................

ลงชื่อ.....................................................
(นายลาปาง พนั ธเ์ พชร)

ผ้อู านวยการวิทยาลัยการอาชพี ขนุ หาญ

คำนำ

เอกสารประกอบการสอนวิชา “พ้ืนฐานธุรกิจดิจิทัล” รหัสวิชา 30204-2001 เรียบเรียงข้ึนตาม
หลักสตู รประกาศนียบัตรวิชาชพี ชน้ั สงู (ปวส.) พุทธศกั ราช 2563 ของสานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
เน้ือหาภายในแบ่งออกเป็น 9 บท ความรู้พื้นฐานทางธุรกิจดิจิทัล โครงสร้างพื้นฐานธุรกิจดิจิทัล นวัตกรรม
สาหรับธรุ กิจดจิ ิทัล ระบบการทาธุรกรรมในธุรกิจดิจิทัล ส่ือสังคมออนไลน์กับธรุ กิจดิจิทัล ธุรกิจดิจิทัลโมบาย
ความม่ันคงปลอดภัยในการทาธุรกรรมดิจิทัล กฎหมายและจริยธรรมทางธุรกิจดิจิทัล กรณีศึกษาธุรกิจดิจิทัล
เป็นต้น

สาหรับเอกสารประกอบการสอนรายวิชานี้ ผู้เรียบเรียงได้ทุ่มเทกาลังกาย กาลังใจและเวลาใน
การศึกษาค้นคว้า รวบราม ปรับปรุงเนื้อหาให้เป็นปัจจุบัน โดยมีความมุ่งหวังท่ีจะให้เกิดประสิทธิภาพต่อการ
เรียนการสอนและเป็นแนวทางสาหรับผ้ทู ีเ่ ริม่ จะศึกษาหรอื ผทู้ ีต่ ้องการข้อมูลเพิ่มเติม

ทา้ ยที่สุดนี้ ผู้เรียบเรียงขอขอบคุณผู้ทีส่ ร้างแหลง่ ความรู้และผูท้ ม่ี สี ่วนเก่ียวข้องตา่ งๆ ซึ่งเป็นส่วนสาคัญ
ทที่ าให้เอกสารรายวิชา พื้นฐานธรุ กิจดิจิทัล เล่มนี้เสรจ็ สมบรูณ์เป็นท่ีเรียบร้อยและหากผู้ที่ศึกษาพบขอ้ บกพร่อง
หรอื มีข้อเสนอแนะประการใด ขอได้โปรดแจง้ ผู้เรยี บเรียงทราบดว้ ย จกั ขอบคุณยิ่ง

นายมนตธ์ ร สาระบรู ณ์
ครูจา้ งสอนประจารายเดือน

สำรบญั ข

คานา หน้ำ
สารบัญ
หลักสูตรรายวชิ า ก
หน่วยการเรียนรู้ ข
ตารางวเิ คราะห์หลักสูตร ค
ตารางวิเคราะหห์ ลักสูตร (ตอ่ ) ง
ตารางวเิ คราะห์หลักสูตร (ตอ่ ) จ
หน่วยท่ี 1 ความรู้พ้ืนฐานทางธุรกิจดิจทิ ลั ฉ
หนว่ ยท่ี 2 โครงสรา้ งพ้นื ฐานธรุ กิจดจิ ทิ ัล ช
หนว่ ยท่ี 3 นวตั กรรมสาหรบั ธุรกิจดิจิทลั 1
หนว่ ยที่ 4 ระบบการทาธุรกรรมในธรุ กิจดจิ ิทัล 11
หนว่ ยท่ี 5 ส่อื สงั คมออนไลน์กบั ธุรกจิ ดจิ ิทัล 17
หนว่ ยที่ 6 ธรุ กจิ ดิจทิ ลั โมบาย 24
หนว่ ยท่ี 7 ความมัน่ คงปลอดภัยในการทาธรุ กรรมดิจทิ ลั 31
หน่วยท่ี 8 กฎหมายและจริยธรรมทางธรุ กิจดิจิทลั 38
หน่วยท่ี 9 กรณีศึกษาธรุ กิจดิจทิ ลั 44
50
59

หลักสูตรรายวิชา

ช่อื วชิ า พน้ื ฐานธรุ กจิ ดิจทิ ลั รหสั วชิ า 30204-2001
ทฤษฎี 2 ปฏิบตั ิ 2 หน่วยกติ 3

หลักสตู รประกาศนยี บตั รวิชาชีพชนั้ สงู พุทธศักราช 2563
สาขาวิชา เทคโนโลยีธุรกจิ ดจิ ทิ ัล สาขางาน เทคโนโลยีธรุ กจิ ดจิ ทิ ัล

จุดประสงค์รายวชิ า

1. เขา้ ใจเก่ยี วกับความรู้พนื้ ฐานทางธรุ กจิ ดิจทิ ลั โครงสร้างพ้ืนฐานธรุ กิจดจิ ิทลั นวัตกรรม สาหรับธรุ กจิ
ดจิ ทิ ลั ธรุ กรรมในธุรกิจดิจทิ ัล สอ่ื สงั คมออนไลน์ ความปลอดภยั ในการทาธุรกจิ ดจิ ิทัล

2. มีทกั ษะในการวิเคราะหก์ รณีศึกษาทางธรุ กจิ ดิจิทลั
3. มเี จตคติและกิจนสิ ัยที่ดีในการปฏบิ ตั งิ านดว้ ยความรบั ผิดชอบ ซ่ือสตั ย์ ละเอยี ดรอบคอบ

สมรรถนะรายวิชา

1. แสดงความรู้เกย่ี วกบั ธุรกจิ ดจิ ิทลั และเทคโนโลยที เ่ี กยี่ วข้องกบั ธุรกจิ ดิจิทลั
2. วิเคราะหก์ รณศี ึกษาธุรกจิ ดจิ ิทลั
3. ประยกุ ต์ใช้หลักการเพม่ิ ประสิทธิภาพและการบรหิ ารงานคุณภาพเพื่อพฒั นาองคก์ าร

คาอธิบายรายวชิ า

ศึกษาและปฏบิ ตั เิ กีย่ วกับธรุ กิจดิจิทลั และโครงสร้างพนื้ ฐานธุรกจิ ดิจทิ ัล นวัตกรรมสาหรบั ธรุ กิจดจิ ทิ ลั
ระบบการทาธรุ กรรมในธุรกจิ ดจิ ทิ ัล สื่อสังคมออนไลนก์ ับธุรกิจดิจิทัล ธุรกจิ ดจิ ทิ ัล โมบาย ความมน่ั คงปลอดภยั
ในการทาธรุ กรรมดจิ ทิ ลั กฎหมายและจรยิ ธรรมและการทาธุรกรรมดิจิทลั กรณีศึกษาธุรกจิ ดิจิทลั

หน่วยการเรียนรู้

หนว่ ยท่ี ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ จานวน สัปดาหท์ ่ี
ชั่วโมง
1 ความรู้พื้นฐานทางธรุ กจิ ดจิ ทิ ัล 1-2
2 โครงสรา้ งพืน้ ฐานธรุ กจิ ดิจทิ ลั 6 2-3
3 นวตั กรรมสาหรับธุรกิจดิจทิ ลั 6 4-5
4 ระบบการทาธุรกรรมในธุรกจิ ดิจทิ ลั . 8 6-7
5 ส่ือสังคมออนไลนก์ บั ธุรกิจดจิ ิทัล 8 8-9
6 ธรุ กจิ ดิจิทัลโมบาย 8 10-11
7 ความมัน่ คงปลอดภัยในการทาธุรกรรมดจิ ทิ ลั 8 12-13
8 กฎหมายและจรยิ ธรรมทางธรุ กจิ ดจิ ิทัล 8 14-15
9 กรณศี ึกษาธรุ กจิ ดิจิทลั 8 16-17
สอบปลายภาค 8 18
4

รวมท้ังหมด 72

5จ

ตารางวิเคราะห์หลักสตู ร

รหัส 30204-2001 วชิ า พนื้ ฐานธรุ กิจดจิ ิทลั ท-ป-น 2-2-3
ช้นั ปวส. 1 สาขาวชิ า เทคโนโลยธี ุรกจิ ดจิ ิทลั

พฤตกิ รรม พุทธพิ ิสยั

ช่ือหน่วย ความรู้
ความเ ้ขาใจ
1. ความรพู้ น้ื ฐานทางธรุ กิจดิจิทัล นาไปใช้
วิเคราะห์
1.1 ความหมายของธรุ กิจดจิ ทิ ลั สังเคราะห์
ทักษะพิสัย
1.2 เทคโนโลยที สี่ นบั สนนุ ธุรกจิ ดิจทิ ลั จิตพิสัย
รวม
1.3 การเปลยี่ นผ่านสูย่ คุ เศรษฐกจิ ดิจทิ ัล จานวนคาบ

1.4 ดจิ ทิ ัลทรานสฟ์ อร์เมชัน 2 0256
1
2. โครงสร้างพนื้ ฐานธรุ กจิ ดิจทิ ัล 1 2366
2.1 ความหมายของโครงสรา้ งพื้นฐานดจิ ทิ ลั 1 5378
5 3 12 8
2.2 แนวคิดในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล 1 5 4 12 8
12
2.3 โครงสร้างพ้นื ฐานในการทาธรุ กิจดจิ ทิ ัล 11
3. นวตั กรรมสาหรับธรุ กจิ ดจิ ทิ ลั
12
3.1 ความหมายของนวตั กรรม 2
2
3.2 องค์ประกอบของนวตั กรรม
3.3 ประเภทของนวตั กรรมธรุ กิจ 12
4. ระบบการทาธุรกรรมในธุรกจิ ดจิ ทิ ลั . 12
4.1 ความหมายของธุรกรรม 12
4.2 ธรุ กรรมทางอเิ ล็กทรอนิกส์ 12
4.3 ระบบธรุ กรรมดิจทิ ลั
4.4 รปู แบบการทาธุรกรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์ 12
5. ส่ือสงั คมออนไลนก์ ับธรุ กจิ ดิจทิ ัล 12
5.1 ความหมายของส่อื สงั คมออนไลน์ 12
5.2 ประเภทของส่ือสังคมออนไลน์ 12
5.3 อุปกรณ์เคร่อื งมือทางสือ่ สังคมออนไลน์
5.4 ประโยชนแ์ ละขอ้ จากัดของสงั คมออนไลน์

ฉ6

ตารางวิเคราะห์หลักสตู ร

รหสั 30204-2001 วิชา พื้นฐานธุรกิจดจิ ิทลั ท-ป-น 2-2-3
ช้นั ปวส. 1 สาขาวิชา เทคโนโลยธี รุ กจิ ดจิ ิทลั

พฤติกรรม พทุ ธิพสิ ัย

ชอ่ื หนว่ ย ความรู้
ความเ ้ขาใจ
6. ธุรกจิ ดจิ ทิ ลั โมบาย นาไปใช้
6.1 ความหมายของธุรกิจดิจิทลั โมบาย วิเคราะห์
6.2 ความสาคญั ของธุรกจิ ดิจทิ ัลโมบาย สังเคราะห์
6.3 แอพพลเิ คชันหลกั ของกลมุ่ ธุรกิจดิจทิ ลั โมบาย ทักษะพิสัย
6.4 โครงสร้างพ้ืนฐานระบบอปุ กรณ์อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ จิตพิสัย
เคลอ่ื นท่ี รวม
จานวนคาบ
ไรส้ าย
7. ความมัน่ คงปลอดภัยในการทาธรุ กรรมดจิ ิทัล 12 5 5 12 8
7.1 ภัยคุกคามความมัน่ คงในการทาธุรกจิ ดิจิทลั 12 3468
7.2 ความมนั่ คงปลอดภยั ทางเทคโนโลยดี จิ ิทลั 12 5 4 12 8
7.3 การทาธรุ กรรมดิจทิ ัลอยา่ งปลอดภัย
7.4 แนวคิดเก่ียวกบั ความมัน่ คงปลอดภัยสาหรบั ธุรกิจ 12
ดจิ ทิ ลั
8. กฎหมายและจรยิ ธรรมทางธุรกจิ ดจิ ิทัล 1
8.1 กฎหมายดิจิทัล 1
8.2 พระราชบญั ญตั วิ า่ ดว้ ยธรุ กรรมทางอเิ ล็กทรอนกิ ส์ พ.ศ. 12
1
2544 (ฉบับแกไ้ ขเพ่มิ เติม)
8.3 พระราชบญั ญตั วิ า่ ด้วยการกระทาความผดิ เกีย่ วกบั 12
12
คอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560
12
8.4 จรยิ ธรรมในการทาธรุ กจิ ดิจทิ ัล 12

ช7

ตารางวเิ คราะห์หลักสตู ร

รหัส 30204-2001 วิชา พนื้ ฐานธรุ กจิ ดิจิทัล ท-ป-น 2-2-3
ชั้น ปวส. 1 สาขาวิชา เทคโนโลยธี รุ กจิ ดจิ ทิ ัล

พฤติกรรม พุทธพิ ิสัย

ชอื่ หน่วย ความรู้
ความเ ้ขาใจ
9. กรณศี กึ ษาธรุ กิจดจิ ิทลั นาไปใช้
9.1 กรณศี กึ ษาท่ี 1 การปรับตวั ของยูนิโคล่ (UNIQLO) วิเคราะห์
ใน สังเคราะห์
ทักษะพิสัย
ยุคดจิ ทิ ลั จิตพิสัย
9.2 กรณศี กึ ษาที่ 2 Netflix (เน็ตฟลิกซ)์ รวม
จานวนคาบ
9.3 จากรา้ นอาหาร สบู่ ริการ Food Delivery, Cloud
Kitchen และ E-Marketplace 12 5 5 12 4
4
9.4 กรณีศึกษาท่ี 4 Red Bull ทใ่ี ช้ Instargram เขา้ ถงึ 12
ผู้บริโภคมากกวา่ 1.2 ลา้ นคน 12
12
สอบปลายภาค

1

แผนการจัดการเรยี นรู้มงุ่ เนน้ สมรรถนะ หน่วยท่ี 1
สอนครง้ั ที่ 1-3
ช่อื หน่วย ความรพู้ ื้นฐานทางธุรกจิ ดจิ ิทัล
ชวั่ โมงรวม 6
ช่อื เรือ่ ง ความรู้พ้ืนฐานทางธุรกจิ ดิจทิ ัล จานวนชว่ั โมง 6

1. สาระสาคญั

การสร้างธุรกิจให้เติบโต การปรับเปล่ียนธุรกิจให้ทันกระแสโลกเป็นส่ิงจาเป็น โดยเฉพาะ
ในขณะท่ที ุกคนเข้าถึงโลกออนไลน์และการขายสินค้าผ่านโลกดิจิทัล ในขณะเดียวกันหลายคนก็ยังไม่ทราบ
วา่ ดิจิทัลคืออะไร และสาคัญอย่างไรต่อผู้ประกอบการ ซึ่งความสาคญั ของโลกดจิ ิทัลคือโอกาสในการเตบิ โต
อีกขั้นหน่ึงของเจ้าของธุรกิจ ซึ่งถ้าสามารถจับจุดได้ และเปล่ียนธุรกิจของตนเองให้เข้าสู่ธุรกิจดิจิทัลได้
ความสาเรจ็ อีกขนั้ ก็อย่ไู ม่ไกล

2. สมรรถนะประจาหน่วย

2.1 แสดงความรเู้ ก่ียวกับความหมายของธุรกจิ ดิจิทัล

2.2 อธิบายเทคโนโลยีที่สนับสนนุ ธุรกจิ ดิจทิ ัล
2.3 อธบิ ายการเปล่ยี นผ่านสู่ยคุ เศรษฐกิจดจิ ิทลั
2.4 อธิบายดิจทิ ัลทรานสฟ์ อร์เมชนั
2.5 เตรียมวัสดอุ ุปกรณ์เหมาะสมกับการปฏบิ ตั ิงาน
2.6 แสดงพฤติกรรมท่ีมีเจตคตทิ ่ีดี ปฏิบัติงานดว้ ยความรบั ผดิ ชอบ ซื่อสตั ย์ ละเอียดรอบคอบ

3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

3.1ด้านความรู้

3.1.1 เพือ่ ใหม้ คี วามรู้และความเขา้ ใจเกย่ี วกับความหมายของธุรกิจดจิ ิทลั
3.1.2 เพอื่ ให้เข้าใจเทคโนโลยีที่สนับสนุนธุรกิจดจิ ิทัล
3.1.3 เพอ่ื ใหเ้ ขา้ ใจการเปล่ยี นผ่านสู่ยุคเศรษฐกิจดจิ ิทัล
3.1.4 เพ่ือใหเ้ ขา้ ใจดจิ ิทัลทรานสฟ์ อรเ์ มชนั
3.2 ดา้ นทักษะ

3.2.1อธิบายความหมายของธรุ กิจดิจิทลั ได้
3.2.2อธิบายเทคโนโลยีท่ีสนบั สนนุ ธุรกจิ ดิจทิ ัลได้
3.2.3อธิบายการเปลย่ี นผา่ นสู่ยุคเศรษฐกจิ ดิจทิ ลั ได้
3.2.4อธบิ ายเก่ยี วกบั ดจิ ิทัลทรานส์ฟอรเ์ มชันได้
3.2.5แยกแยะลักษณะของธุรกจิ ยคุ ดั้งเดิม และธุรกจิ ยุคดิจิทลั ได้

1

2

แผนการจดั การเรียนรู้มงุ่ เนน้ สมรรถนะ หน่วยท่ี 1
สอนครั้งที่ 1-3
ชื่อหน่วย ความรพู้ ้นื ฐานทางธรุ กจิ ดิจทิ ลั
ชว่ั โมงรวม 6
ชอ่ื เร่อื ง ความรู้พืน้ ฐานทางธุรกิจดิจิทัล จานวนชั่วโมง 6

3.3 คณุ ลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์
3.3.1 มีเจตคติท่ีดี
3.3.2ปฏบิ ตั ิงานด้วยความรบั ผดิ ชอบ
3.3.3ซือ่ สัตย์
3.3.4 ละเอียดรอบคอบ

4. เนือ้ หาสาระการเรยี นรู้

ความหมายของธุรกจิ ดิจิทัล (Digital Business)
ธุรกิจดิจิทัล (Digital Business) คือการนาเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาพัฒนาธุรกิจที่ทาอยู่

ก า ร ส ร้า ง ส ร ร ค์ข อ ง ธุร กิจ ใ ห ม่ที่อ อ ก แ บ บ โ ด ย ก า ร ทา ใ ห้ภ า พ ข อ ง โ ล ก ดิจิทัล แ ล ะ โ ล ก ท า ง ก า ย ภ า พ เข้า
ด้วยกัน เป็นการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีดิจิทัลและการทางานของคน ที่ทาให้เกิดสินค้า และ
บริการรูปแบบใหม่ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้ทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภคในการเลือกซื้อสินค้า
หรือบริการต่าง ๆ จุดประสงค์หลักคือการหาทางเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจนั่นเอง เช่น การนาแอพพลิเค
ชัน (Application) มาช่วยในการเข้าถึงผู้บริโภคยุคใหม่ที่ชอบใช้สมาร์ทโฟน (Smart Phone) การ
สร้างช่องทางขายผ่านสื่อสังคม (Social media) ต่าง ๆ และการทาโฆษณา รวมไปถึงการสั่งซื้อและ
จัดส่งสินค้าในแบบออนไลน์ เป็นต้น

เทคโนโลยีที่สนบั สนนุ ธรุ กจิ ดจิ ิทลั
แพลตฟอร์มดจิ ทิ ัล หมายถึง โครงสร้างพนื้ ฐาน หรอื แหลง่ รวบรวมสนิ ค้า บริการ เครือ่ งมอื และข้อมลู

ดิจิทัลเพ่ือใช้ในการสร้างสินค้าหรือบริการใหม่ในทางธุรกิจ เป็นส่ิงที่ช่วยสร้างผลกระทบเครือข่าย (Network
effects) คือย่ิงมีคนใช้งานแพลตฟอร์มดิจิทัลจานวนมาก จะส่งผลให้เกิดต้นทุนต่อผู้ใช้งานลดลง และ
ประโยชน์ต่อผ้ใู ช้งานเพมิ่ ขนึ้

เทคโนโลยีแพลตฟอร์ม (Technology Platform) ได้แก่
1. ส่ือสังคม (Social Media) หรือเทคโนโลยีส่ือสังคม (Social technology) คือสื่อ
อิเล็กทรอนิกส์ ซ่ึงเป็นสื่อกลางท่ีให้บุคคลทั่วไปมีส่วนร่วมสร้างและแลกเปลี่ยนความ
คิดเห็นต่าง ๆ ผา่ นอนิ เตอรเ์ นต็ ได้ เช่น เฟซบ๊คุ (Facebook) ไลน์ (Line) เป็นตน้

2

3

แผนการจัดการเรียนรมู้ ุ่งเน้นสมรรถนะ หนว่ ยท่ี 1
สอนครง้ั ท่ี 1-3
ชอ่ื หน่วย ความรู้พนื้ ฐานทางธุรกิจดจิ ทิ ัล
ชว่ั โมงรวม 6
ชอ่ื เรื่อง ความรู้พนื้ ฐานทางธุรกิจดจิ ิทลั จานวนช่ัวโมง 6

2. โมบาย (Mobile) คือ อุปกรณ์ส่ือสารไร้สายท่ีเคลื่อนท่ีได้ เช่น โทรศัพท์มือถือ หรือ
สมาร์ทโฟน (Smart Phone) เท็บแล็ต (Tablet) หรืออุปกรณ์ท่ีมีความสามารถในการติดต่อสื่อสารแบบ
เคลือ่ นทไี่ ด้ (Mobility) การใชโ้ มบายแอพพลิเคชัน (Mobile application)

3. การวิเคราะห์ขอ้ มูลขนาดใหญ่ (Big Data Analytics) คือ การใช้เครื่องมือวเิ คราะห์
ขอ้ มลู จานวนมหาศาลในเชิงลึก

4. การประมวลผลกลุ่มเมฆ (Cloud Computing) หรือ คลาวด์ (Cloud) คือบริการท่ี
ครอบคลุมถึงการใหใ้ ชก้ าลังประมวลผล หน่วยจัดเก็บข้อมลู และระบบออนไลน์ต่าง ๆ จากผู้ให้บรกิ าร เพ่อื ลด
ความยุ่งยากในการติดต้ัง ดูแลระบบ ช่วยประหยัดเวลา และลดต้นทุนในการสร้างระบบคอมพิวเตอร์และ
เครือขา่ ยเอง

5 . อิน เตอร์เน็ ตข องสรรพ ส่ิ ง (Internet of Things : IoT) คือสภาพแวดล้ อม
ประกอบด้วย สรรพสิง่ ท่ีสามารถสื่อสารและเชื่อมต่อกันได้ ผ่านโปรโตคอลการส่ือสารทั้งแบบใช้สายและไรส้ าย
โดยสรรพสิ่งต่าง ๆ มีวิธีการระบุตัวตนได้ รับรู้บริบทของสภาพแวดล้อมได้ และมีปฏิสัมพันธ์โต้ตอบและ
ทางานรว่ มกันได้

- เซน็ เซอรภ์ ายในบา้ น ตรวจจับการเคล่ือนไหวของผ้อู ยู่อาศยั อาศยั และสง่ สญั ญาณไปสง่ั
เปดิ /ปดิ สวิตซ์ไฟตามห้องต่าง ๆ ท่มี ีคนหรอื ไม่มีคนอยู่

- เทคโนโลยีทชี่ ่วยให้สรรพสิง่ รับรู้ขอ้ มลู ในบริบททเ่ี กี่ยวขอ้ ง เชน่ เซน็ เซอร์ ระบบสมองกล
ฝังตัว

การเปลยี่ นผ่านสูย่ คุ เศรษฐกจิ ดิจิทัล
สภาพยคุ เศรษฐกจิ ท่ีมีการใชเ้ ทคโนโลยีดิจิทลั เปน็ ตวั นา (Digital Economy) ในการสรา้ ง การ

เติบโตทางธุรกจิ มีลกั ษณะเด่นอยู่ 3 ประการ คือ
1. การใชท้ รัพยากรเมื่อต้องการ (Resource on Demand) ภายใต้เศรษฐกจิ แบง่ ปัน (Sharing

Economy) ซึง่ เปน็ การสรา้ งมลู ค่าทางเศรษฐกิจจากกาลงั การผลติ ทเ่ี หลอื ของทรัพยากรหรอื สนิ ทรพั ยท์ ่ี มีอยู่
2. การใช้ศกั ยภาพของบุคลากรเมอ่ื ต้องการ (Talent on Demand) ในรูปแบบของแรงงานอสิ ระ

(Freelance Workforce) คาว่า “Freelance” หรอื “Freelancer” คอื ผู้มีอาชีพอิสระไม่ข้นึ ตรงต่อหน่วยงาน
องค์กรใด ๆ Freelance จะตอ้ งจัดตารางเวลาการทางานของตนเองและรับเงนิ จากผวู้ า่ จ้าง ซง่ึ ตกลงตามความ
พงึ พอใจของทง้ั สองฝ่าย

3

4

แผนการจัดการเรยี นรู้มงุ่ เน้นสมรรถนะ หน่วยท่ี 1
สอนคร้งั ที่ 1-3
ชอื่ หน่วย ความรู้พนื้ ฐานทางธุรกจิ ดจิ ทิ ัล
ชั่วโมงรวม 6
ชือ่ เรอ่ื ง ความรู้พืน้ ฐานทางธุรกจิ ดจิ ิทัล จานวนช่ัวโมง 6

3. การแสวงหาความรู้และข้อมูลท่ีจาเป็นเมื่อต้องการ (Intelligence on Demand) ผ่านทาง
Crowds และ Cloud โดยการกระจายปัญหาไปยังชุมชนออนไลน์ หรือในโลกไซเบอร์ เพื่อค้นหาคาตอบและ
วิธีการในการแก้ปัญหาทางธุรกิจ เรียกว่า Crowdsourcing ส่วนระบบ Cloud คือ แอพพลิเคชันที่ช่วยเก็บ
ข้อมูล ตรวจสอบข้อมูลที่ต้องการด้วยรูปแบบ Saas (Software as a Service) ผู้ใช้บริการสามารถใช้งานได้
ทุกที่ โดยไมจ่ าเป็นต้องติดต้ังเซริ ฟ์ เวอร์เพ่อื เก็บข้อมลู ที่มากมาย ลดความยงุ่ ยาก ไม่ต้องดูแลระบบไอที ปลอ่ ย
ให้เป็นหน้าท่ีของผู้ให้บริการ ซึ่งจะคอยดูแลระบบตลอด 24 ชั่วโมง ทาให้ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง
ซอฟต์แวรต์ า่ ง ๆ สามารถเรียกข้อมลู ใชเ้ มอ่ื ต้องการ

เทคโนโลยีที่เปน็ หลักในยคุ เศรษฐกิจดิจทิ ลั (Digital Economy) ประกอบด้วย ระบบไซเบอร์ (Cyber
Physical System) ระบบประมวลผลแบบคลาวด์ (Cloud Computing) การวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big
Data Analytics) ระบบความปลอดภยั (System Security) ระบบการพมิ พ์ 3 มติ ิ (3D Printing) เทคโนโลยี
การผสมผสานโลกเสมอื น (Augmented Reality) และหุ่นยนต์ท่ีออกแบบขนึ้ มาโดยมีพน้ื ฐานเลยี นแบบ
ร่างกายมนุษย์ (Humanoid Robots) การเปลยี่ นผ่านไปสยู่ ุคเศรษฐกิจดจิ ิทัลจะอาศัยการพฒั นาเทคโนโลยี
เหลา่ นี้เปน็ ตวั นา ซงึ่ ทาใหส้ ภาพแวดล้อมในการทางาน รูปแบบกระบวนการทางานและ กลยุทธ์ ตลอดจน
โครงสรา้ งองค์กรแตกตา่ งออกไปจากเดิม โดยมลี ักษณะท่สี าคญั คือ

1. มีการเช่ือมต่ออุปกรณ์ ต่าง ๆ ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต (Internet) และ แอพพลิเคชัน
(Applications) ทอี่ อกแบบเพ่อื รองรับ ความต้องการของแตล่ ะบุคคล (The Internet of Me) เม่ือดิจทิ ลั และ
อินเตอร์เน็ตกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต หรือ Internet of Things (IoT) ผู้บริโภคต้องการให้มีการทางาน
ร่วมกนั ระหวา่ ง
อุปกรณ์ต่าง ๆ อย่างไร้รอยต่อ สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาก็คือ ผู้บริโภคเร่ิมคาดหวังว่าอุปกรณ์ต่าง ๆ ท่ีทางานน้ัน
จะต้องรู้จักตัวตนของผู้ใช้และเข้าใจว่าผู้ใช้ต้องการอะไร รวมทั้งสามารถสื่อสารกับอุปกรณ์อื่น ๆ รอบตัวเพ่ือ
ส่งผ่านข้อมลู น้ันไปได้

2. การเกิดขึ้นของแรงงานที่มีทักษะด้านดิจิทัล ซ่ึงเป็นคนรุ่นใหม่ มีความสามารถในการใช้และเข้าถึง
เทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างรวดเร็ว (Digital Natives) ในขณะที่คนรุ่นก่อนหน้าต้องใช้เวลาปรับตัวให้เข้ากับ
เทคโนโลยีดิจิทัลที่เกิดขึ้น (Digital Immigrants) ส่วนใหญ่ Digital Natives เป็นกลุ่มที่เกิดหลังปี 1994 ซ่ึง
ระบบอินเตอร์เน็ตมีการใช้อย่างแพร่หลาย ปัจจุบันมีอายุประมาณ 10-29 ปี คนกลุ่มน้ีจะคุ้นเคยกับการใช้
คอมพิวเตอร์ทางาน หรือเพ่ือเล่นเกม ทาการบ้าน ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและกิจกรรม ตลอดจน
ตดิ ตอ่ ส่ือสารกับผูอ้ น่ื ผา่ นทางโซเซียลมเี ดียตา่ ง ๆ

4

5

แผนการจดั การเรียนร้มู ่งุ เน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 1
สอนครงั้ ที่ 1-3
ชื่อหน่วย ความรู้พ้นื ฐานทางธรุ กิจดจิ ิทัล
ชั่วโมงรวม 6
ชื่อเรอ่ื ง ความรู้พื้นฐานทางธรุ กจิ ดจิ ิทัล จานวนชัว่ โมง 6

3. การทางานและการใช้ชีวิต (Work and Life) เปลี่ยนไป เน่ืองจากมีการเชื่อมต่อการทางานผ่าน
ระบบอนิ เตอร์เน็ตและโซเชยี ลมีเดยี (Social Media) ทาให้พนักงานจะอยู่ท่ใี ด ใชอ้ ปุ กรณ์แบบใด ในเวลาใดก็
สามารถทางานได้ (Any Place Any Time Any Devices) การทางานแบบ Telecommuting หรือ Work
Anywhere เป็นรูปแบบการทางานท่ีพนักงานสามารถใช้อินเตอร์เน็ตและโซเชียลมีเดียทางานได้จากท่ีบ้าน ที่
พักอาศัย หรือสถานท่ีอื่น ๆ ไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทางไปท่ีทางาน อย่างไรก็ตามองค์ประกอบที่สาคัญคือ
ต้องมีอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงในราคาท่ีเหมาะสม จึงจะส่งเสริมให้เกิดการทางานในลักษณ ะ
Telecommuting แพร่หลายมากขน้ึ

4. งานในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) เริ่มถูกแทนที่ด้วยการใช้ระบบเคร่ืองจักรอัตโนมัติ
(Automation) ทาให้รูปแบบแรงงานในอนาคต (Future Workforce) แบ่งออกเป็น 4 ประเภท คือ งานท่ีจะ
หายไปเน่ืองจากถูกแทนท่ีด้วยระบบเคร่ืองจักรอัตโนมัติ งานที่อาศัยทักษะและความรู้ควบคุมและใช้งาน
ระบบเคร่ืองจักรอัตโนมัติ งานท่ีเกิดข้ึนใหม่เน่ืองจากการใช้ระบบเครื่องจักรอัตโนมัติ และงานท่ียังไม่
เปลี่ยนแปลงเน่ืองจากไมส่ ามารถถูกแทนท่ดี ้วยระบบเคร่ืองจักรอัตโนมัติเพื่อไม่ให้ตกงานในยุคเศรษฐกิจดจิ ิทัล
แรงงานจาเป็นต้องพัฒนาทักษะใน 3 ด้าน คือ ทักษะในการใช้ประโยชน์จากสื่อ (Media Literacy Ability)
ทักษะในการจัดลาดับและแยกแยะข้อมูลข่าวสารต่างๆ ที่มีความสาคัญ (Cognitive Load Management
Ability) ทักษะในการแปลความหมายของข้อมูลที่มีอยู่อย่างมากมายมหาศาลไปสู่สิ่งท่ีเป็นประโยชน์
(Computational Thinking Ability) ไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธิภาพ (Virtual Collaboration)

5. รปู แบบการทาธุรกิจตอ้ งเผชญิ กับการกดดันจากเทคโนโลยที ี่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและทาลาย
ธุรกิจท่ีปรับตัวไม่ทันจนต้องล่มสลาย (Disruptive Technology) และถ้าตามพฤติกรรมของผู้บริโภคไม่ทันก็
จะลม่ สลายเร็ว เน่อื งจากสินทรพั ยส์ ว่ นใหญ่จบั ตอ้ งไม่ได้หรอื ไมม่ อี ยู่ในมือ

6. องค์กรในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) จะมีรูปแบบท่ีแบนราบและมีขั้นตอนการ
ตัดสินใจท่ีรวดเร็วขึ้น สายการบังคับบัญชาแบบบนลงล่าง (Top-down) ที่ใช้กันทั่วไปไม่สามารถตอบสนอง
การเปล่ียนแปลงของสภาพแวดล้อมได้ทัน สร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ได้ช้า ขณะเดียวกัน การจัดโครงสร้างแบบ
การแบ่งทีมตามโครงการ (Project based Organization) ก็ไม่ใช่คาตอบท่ีดีที่สุดสาหรับองค์กรยุคใหม่เสมอ
ไป เนื่องจากปัญหาความซับซ้อน เข้าใจยากและสร้างความสับสนให้พนักงาน แนวคิดใหม่ที่กาลังได้รับความ
สนใจคือ การบริหารองค์กรแบบไร้ลาดับช้ัน (Holacracy Organization) เพื่อรองรับวิวัฒนาการของธุรกิจใน
ปัจจุบันที่เข้าสู่ยุคการทางานร่วมกัน ( Collaborative) หรือ เศรษฐกิจแบบแบ่งปัน (Sharing Economy)
หลักการพน้ื ฐาน คอื การยกเลิกอานาจและโครงสรา้ งบริหาร ใหค้ วามสาคญั กบั การกาหนดบทบาท (Roles) ท่ี

5

6

แผนการจดั การเรียนรมู้ ุง่ เน้นสมรรถนะ หน่วยท่ี 1
สอนคร้ังที่ 1-3
ชือ่ หน่วย ความรพู้ ้นื ฐานทางธุรกจิ ดิจทิ ลั
ช่ัวโมงรวม 6
ชื่อเรือ่ ง ความรู้พื้นฐานทางธุรกจิ ดิจิทลั จานวนชัว่ โมง 6

ต้องทาหรือความรับผิดชอบให้ชัดเจน หลังจากน้ันผู้ท่ีรับผิดชอบก็ดาเนินงานไปโดยไม่ต้องมีหัวหน้ามาคอย
ควบคุม ความแตกต่างท่ีสาคัญจากการบริหารแบบเดิมคือ บทบาท (Roles) จะถูกกาหนดโดยงานเป็นหลัก
(ไม่ใช่ตัวคน) อีกท้ังยังมีการปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา และคนแต่ละคนก็สามารถทางานได้หลายบทบาท
นอกจากนี้

อานาจในการตัดสินใจจะถูกกระจายไปยังทีมและผู้ท่ีดารงบทบาทต่างๆ การตัดสินใจจึงเกิดข้ึนในระดับ
ปฏิบัติการ เป็นการบริหารงานด้วยตนเองไม่ใช่ตามสายการบังคับบัญชา ที่สาคัญคือจะมีกฎและแนวทางใน
การทางานท่ีเปิดเผย โปร่งใสและชัดเจน ซ่ึงทุกคนต้องปฏิบัติตาม มีการใช้แอพพลิเคชัน (Application) หรือ
เว็บไซต์(Website) ช่วยประสานร่วมมือการทางานในลักษณะระบบเวิร์กโฟล์ว (Social Workflow) ซึ่ง
สามารถเชอ่ื มตอ่ ใชง้ านไดก้ ับทกุ อุปกรณ์ (Any Device) ทาใหก้ ารทางานแบบไรล้ าดบั ชน้ั ง่ายขน้ึ

7. โครงสร้างการบริหารงานจะเปลยี่ นจากรูปแบบปิรามดิ ที่มีการทางานรว่ มกนั ระหวา่ งผู้นา
หน่วยงานหลัก และหนว่ ยงานสนับสนุน ไปเป็นโครงสร้างแบบยืดหยนุ่ มผี ้นู าและทมี พัฒนานวตั กรรมทมี่ ีอสิ ระ
ตัดสินใจได้เอง นาไปสู่ความคิดสรา้ งสรรค์ใหม่ ๆ ได้ง่ายขนึ้

ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชนั (Digital Transformation)
ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน (Digital Transformation) คือ การเปลี่ยนแปลงองค์กรเพื่อให้เข้ากับ

เศรษฐกิจดิจิทัลที่แข่งขันกันด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ท่ีเป็นการปรับเปล่ียนองค์กรให้ใช้ประโยชน์จากดิจิทัลให้ได้
มากที่สดุ ตงั้ แตก่ ารกาหนดเป้าหมายธุรกิจ วางแผน พัฒนาผลิตภัณฑ์ ตลอดจนช่องทางการส่งมอบสินคา้ และ
บริการให้กับผู้บริโภค เพ่ือเปลี่ยนองค์กรให้เป็นองค์กรดิจิทัลท่ีมีวัฒนธรรมดิจิทัล เป็นตัวต้ังต้น และพัฒนา
องค์กรให้เติบโตด้วยเทคโนโลยีต่อไป ซ่ึงดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน ในธุรกิจสามารถเปล่ียนแปลงได้ใน 3 ด้าน
คือ

1. เปลี่ยนแปลงด้านรปู แบบการดาเนินธรุ กิจ (Business Model)
รูปแบบของธุรกิจ (Business Model) คือ ภาพรวมการทางานของธุรกิจประเภทน้ัน ๆ ครอบคลุม
ต้ังแต่วธิ ีการดาเนินธุรกิจ กลุ่มลกู ค้า (Customer Segment) การได้รายรบั (Revenue) รายจ่าย(Cost) ซ่งึ แต่
ละธุรกิจจะแตกต่างกันออกไป เม่ือเกิดการดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันขึ้น บางธุรกิจโมเดลน้ีจะเกิดการ
เปล่ียนแปลงในบางส่วนหรืออาจเกิดการเปลี่ยนแปลงหมดท้ังโมเดลก็ได้ อย่างธุรกิจที่เห็นได้ชัดเช่นการใช้
บริการรถยนต์โดยสาร เดิมโมเดลธุรกิจประเภทนี้คือการเรียกแท็กซ่ี แต่ปัจจุบันเมื่อเกิดแอพพลิเคชั่นแบบ
แกร็บ (Grab) รปู แบบธรุ กิจประเภทน้ีก็เปล่ยี นไป หรอื จะเป็นการส่งอาหาร ทเ่ี ดิมมีแต่พิซซา่ และฟาสต์ฟู้ด

6

7

แผนการจัดการเรยี นรมู้ งุ่ เนน้ สมรรถนะ หนว่ ยที่ 1
สอนคร้งั ที่ 1-3
ชอ่ื หน่วย ความร้พู ้นื ฐานทางธรุ กิจดิจิทัล
ช่วั โมงรวม 6
ชื่อเรื่อง ความรู้พื้นฐานทางธรุ กจิ ดิจทิ ลั จานวนชัว่ โมง 6

บางรายเท่าน้ันท่ีให้บรกิ าร แต่ปัจจุบันร้านค้าข้างทางหรือในตลาดก็สามารถให้บรกิ ารในสว่ นนี้ได้ผ่านแอพลิเค
ชนั สาหรับส่งอาหารโดยเฉพาะ เช่น แกร็บฟ้ดู (Grabfood), ไลน์แมน (Lineman) เป็นต้น

การเปล่ียนรปู แบบการดาเนนิ ธุรกจิ สาหรบั เจ้าของธรุ กจิ สามารถเรมิ่ จากเล็ก ๆ คือหยบิ ยืมธรุ กจิ ที่
มีโมเดลชว่ ยแก้ปญั หาตา่ ง ๆ มาใช้ได้ เช่น เร่มิ ต้นด้วยการใชช้ ่องทางออนไลนใ์ นการขาย และใช้บริการขนส่ง
ตา่ ง ๆ จดั สง่ ใหก้ ับลกู ค้า ก็เป็นการเพ่ิมช่องทางและเปลีย่ นรปู แบบการดาเนินธรุ กจิ ไปได้หลายส่วนเช่นกนั

2. เปลี่ยนแปลงด้านการปฏิบตั ิการ (Business Operation)
ในการทางานแบบยุคก่อนดิจิทัลนั้นพ่ึงพากาลังมนุษย์เป็นหลัก อาจมีซอฟต์แวร์บางตัวท่ีช่วยให้

การทางานง่ายข้ึน มโี ปรแกรมบางอย่างท่ีชว่ ยในการเก็บสต็อกสินคา้ นัน่ คือการนาเทคโนโลยมี าใชใ้ นยคุ แรก ๆ
แต่เม่ือเกิดดิจิทลั ทรานส์ฟอรเ์ มชนั ก็ได้ช่วยเปล่ียนวิธีการทางานและระบบปฏบิ ัติการให้พึง่ พาเทคโนโลยีมาก
ขึ้น ลดทอนการใช้กาลังมนุษย์ และความซ้าซ้อนในวิธีการทางานให้น้อยลง เพราะธรรมชาติของดิจิทัลนั้นมี
ความแม่นยามากกว่า และช่วยลดข้อจากัดด้านเวลาและสถานที่ในการทางานลง เราจะทางานท่ีไหนก็ได้
เพราะดิจิทลั เข้ามาช่วยให้การสื่อสารง่ายข้ึนซง่ึ ทาให้แตล่ ะสว่ นในองค์กรทางานอยา่ งสอดประสานกันไดอ้ ย่างมี
ประสิทธิภาพมากข้ึน หากพูดถึงการนาดิจิทัลมาปรับใช้กับองค์กร หลายคนจะคิดถึงการนามาปรับใช้กับ
การตลาด แตใ่ นความเป็นจริงดจิ ิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน สามารถพัฒนาองค์กรในภาพรวมได้ ไม่จาเป็นต้องเป็น
เฉพาะฝ่ายการตลาดเท่านั้น ฝ่ายบริหาร ฝ่ายบุคคล หรือแม้แต่ฝ่ายผลิตก็สามารถใช้ ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน
เพอื่ ปรบั ปรุงองคก์ รใหด้ ขี ้ึนได้

การเปล่ยี นแปลงด้านการปฏิบัตกิ ารเพ่ือใหส้ อดรบั กับดจิ ิทัลทรานส์ฟอรเ์ มช่ันนน้ั เปน็ ประโยชนต์ ้งั แต่
ดา้ นการวางแผน พฒั นานวตั กรรม ปรบั ปรุงสินคา้ และบริการ การขาย การตลาด ไปจนถงึ การวัดผลการ
ทางานของทั้งองคก์ ร

3. เปลี่ยนแปลงประสบการณข์ องลกู คา้ (Customer Experience)
เม่ือองค์กรผู้ผลติ สินค้าและบริการเร่ิมต้นด้วยการดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชนั สิ่งท่ีลูกค้าจะได้รบั ย่อม

มีความต่างออกไป ส่ิงท่ีเทคโนโลยีดิจิทัลจะสามารถทาได้ในแง่ประสบการณ์เป็นได้ตั้งแต่ความรู้สึก เช่น ง่าย
กว่า เร็วกว่า มากกว่า ไปจนถึงส่ิงท่ีเป็นชิ้นเป็นอันจับต้องได้จริง เช่น การใช้บริการผ่านแอพพลิเคชันโมบาย
แบงค์ก้ิงในโทรศัพท์มอื ถือ ท่ีเปลี่ยนและลดทอนการใช้ทรัพยากรต่าง ๆ ลงไปไดม้ าก ถา้ จะเปรียบเทียบให้เห็น
ภาพชัดขึ้นก็คือ ถ้าเป็นเม่ือ 10 ปีที่แล้วใครสักคนต้องการโอนเงินจากบัญชีเงินฝาก สิ่งท่ีต้องทาคือเดินออก
จากบ้าน ตามหาสาขาธนาคารหรือตู้เอทีเอ็ม สอดบัตรลงไป แล้วกดเลขบัญชีปลายทาง กดโอน และอาจมี
ค่าธรรมเนียมเพ่ิมขึ้นมาหากเป็นการโอนต่างธนาคาร แต่ในปัจจุบันแต่ละธนาคารแข่งขันกันในด้านการพัฒนา
แอพพลิเคช่ันที่ช่วยให้การใช้จ่ายสาหรับสินค้าบริการต่าง ๆ ง่ายข้ึน รวมถึงการเสียภาษี ธุรกรรมกับราชการ
การลงทนุ ซ้ือประกนั ภัยประกนั ชวี ิต แมก้ ระทัง่ การบริจาคทาบุญ ก็ทาได้ผา่ นโมบายแบงก้ิง ผลทีต่ ามมาคือ

7

8

แผนการจดั การเรียนรมู้ ุง่ เนน้ สมรรถนะ หนว่ ยท่ี 1
สอนคร้ังที่ 1-3
ชื่อหน่วย ความรู้พน้ื ฐานทางธุรกิจดิจทิ ัล
ช่ัวโมงรวม 6
ชื่อเรอื่ ง ความรู้พืน้ ฐานทางธุรกจิ ดจิ ทิ ัล จานวนชั่วโมง 6

การเดินออกจากบ้าน บัตรเอทีเอ็ม ไม่มีความจาเป็นอีกต่อไป ค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่ายเม่ือไปธนาคารก็ถูกตัด
ทอนให้หายไปเช่นกัน ในเม่ือทุกสิ่งผู้ใช้ทาได้ด้วยตัวเอง ธนาคารก็ไม่มีเหตุผลอะไรในการเรียกเก็บ
คา่ ธรรมเนียมอีกตอ่ ไป

5. กิจกรรมการเรยี นรู้
5.1การนาเข้าสู่บทเรียน
5.1.1ผู้สอนเตรยี มการสอน
5.1.2ผู้สอนเตรยี มส่อื เพาเวอร์ พอยต์ (Power Point)
5.1.3ผู้สอนทาการสอนกลา่ วทักทายผ้เู รียน และแนะนาตัว เนื่องจากเป็นการสอนครัง้ แรก
5.1.4ผู้สอนตรวจสอบรายช่ือผู้เรยี น
5.1.5ผู้สอนบอกจุดประสงค์รายวิชา มาตรฐานรายวชิ า และคาอธบิ ายรายวชิ า
5.1.6ผสู้ อนให้ผู้เรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรยี น เพื่อทดสอบความรู้ของผเู้ รียน ผู้สอนเตรยี ม
แบบทดสอบก่อนเรียน
5.2การเรยี นรู้
5.2.1ผู้สอนอธิบายเกยี่ วกับความหมายของธุรกิจดจิ ิทลั โดยใช้ส่อื Power Point
5.2.2ผู้สอนตงั้ คาถามกับผูเ้ รียนเกีย่ วกบั ความหมายของธุรกิจดจิ ิทัล
5.2.3ผเู้ รยี นตอบคาถาม
5.2.4ผูส้ อนอธิบายเกย่ี วกับเทคโนโลยที ส่ี นบั สนนุ ธรุ กจิ ดจิ ิทลั โดยใชส้ ่อื Power Point
5.2.5ผู้สอนต้ังคาถามกับผเู้ รยี น
5.2.6ผู้สอนอธิบายเกยี่ วกับการเปลี่ยนผา่ นสู่ยคุ เศรษฐกิจดจิ ิทลั โดยใชส้ ือ่ Power Point
5.2.7ผู้สอนอธบิ ายดิจิทัลทรานส์ฟอรเ์ มชนั (Digital Transformation) โดยใช้ส่อื Power
Point
5.2.8ผ้สู อนต้งั คาถามกับผูเ้ รียน
5.2.9ผสู้ อนมอบหมายแบบฝึกหดั หนว่ ยท่ี 1 ในเอกสารประกอบการเรยี น

8

9

แผนการจัดการเรียนรู้ม่งุ เนน้ สมรรถนะ หนว่ ยที่ 1
สอนครั้งที่ 1-3
ช่ือหน่วย ความรพู้ ืน้ ฐานทางธรุ กจิ ดิจทิ ัล
ช่อื เรื่อง ความรู้พ้ืนฐานทางธุรกจิ ดจิ ิทัล ช่ัวโมงรวม 6
จานวนชว่ั โมง 6

5.3การสรปุ
5.3.1 ประเมนิ จากแบบฝึกหัดหน่วยท่ี 1

5.4 วดั ผลและประเมนิ ผล
5.4.1 ประเมินจากแบบทดสอบก่อนเรยี น
5.4.2 ประเมินจากแบบทดสอบหลังเรียน

6. สื่อการเรยี นร/ู้ แหล่งการเรยี นรู้
6.1 ส่ือสง่ิ พิมพ์
6.1.1 หนังสือพ้นื ฐานธรุ กิจดิจทิ ัล. ประภาวรรณ เกษวิริยะการณ.์ สานักพิมพ์เมืองไทย

6.2 สอ่ื โสตทศั น์
6.2.1 สอ่ื การเรยี นการสอน Power Point วิชา พ้ืนฐานธุรกิจดิจิทัล
6.2.2 เคร่อื งโปรเจ็คเตอร์
6.2.3 เคร่ืองคอมพิวเตอร์
6.2.4 ระบบอินเตอรเ์ น็ตในการเรียนออนไลน์

7. เอกสารประกอบการจัดการเรยี นรู้ (ใบความรู้ ใบงาน ใบมอบหมายงาน)
แบบฝกึ หัดหนว่ ยที่ 1 เรือ่ งความรู้พ้ืนฐานทางธรุ กิจดจิ ิทัล

8. การบูรณาการ/ความสัมพนั ธ์กบั วิชาอนื่
บรู ณาการรายวชิ ากบั หลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง และคุณลักษณะอันพึงประสงค์

9. การวัดและประเมินผล
9.1 ก่อนเรยี น
วดั ผลจากแบบทดสอบก่อนเรียนหนว่ ยท่ี 1 เรอ่ื งความร้พู ้ืนฐานทางธุรกจิ ดิจิทลั

9

แผนการจดั การเรยี นรู้มงุ่ เนน้ สมรรถนะ 10

ชอื่ หน่วย ความรู้พ้นื ฐานทางธรุ กจิ ดจิ ทิ ัล หนว่ ยท่ี 1
สอนครง้ั ท่ี 1-3
ชอื่ เรอื่ ง ความรู้พ้นื ฐานทางธุรกจิ ดจิ ิทลั ชั่วโมงรวม 6
จานวนชัว่ โมง 6
9.2 ขณะเรยี น
สังเกตขณะนงั่ เรยี นและทาแบบฝึกหัด
สังเกตจากการตอบคาถาม

9.3 หลงั เรยี น
ประเมนิ จากการสรุปบทเรยี นและการตอบคาถาม

10

11

แผนการจัดการเรยี นรู้มุ่งเนน้ สมรรถนะ หนว่ ยที่ 2
สอนครั้งท่ี 4-6
ชื่อหน่วย โครงสรา้ งพ้ืนฐานธุรกิจดิจิทลั
ชื่อเร่อื ง โครงสรา้ งพน้ื ฐานธรุ กจิ ดจิ ทิ ลั ช่วั โมงรวม 6
จานวนช่ัวโมง 12

1. สาระสาคัญ

การจะปรับเปลี่ยนธุรกิจแบบด้ังเดิมมาเป็นธุรกิจในแบบดิจิทัล ส่ิงสาคัญเริ่มต้นต้ังแต่
โครงสรา้ งพ้นื ฐานของเทคโนโลยีดจิ ิทัล เป็นการผสมสานเทคโนโลยจี นเป็นนวัตกรรมใหม่เพื่อให้กลายเป็น
นวัตกรรมในการพัฒนาธุรกิจดิจิทัล ซึ่งทางภาครัฐได้ให้การสนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและธุรกิจ
ดิจิทัลในหลาย ๆ ด้าน นอกจากนี้หน่วยงาน หรือองค์กรต้องเรียนรู้และพร้อมจะปรับเปล่ียนรูปแบบธุรกิจ
ท้ังผู้นาองค์กร พนักงาน กระบวนการทางาน สิ่งแวดล้อมในองค์กรและรูปแบบการสื่อสารท้ังภายในและ
ภายนอกองคก์ ร

2. สมรรถนะประจาหน่วย

2.1 แสดงความรู้เกีย่ วกับโครงสร้างพนื้ ฐานดิจิทลั
2.2 จาแนกความแตกต่างของโครงสร้างพน้ื ฐานในการทาธุรกจิ ดจิ ิทัล
2.3 จาแนกโครงสร้างธรุ กจิ แบบธุรกิจด้งั เดิมและธรุ กจิ ดจิ ิทัล
2.4 เตรยี มวัสดุอปุ กรณ์เหมาะสมกับการปฏิบัติงาน
2.5 แสดงพฤติกรรมทมี่ ีเจตคติที่ดี ปฏบิ ัติงานด้วยความรบั ผิดชอบ ซื่อสัตย์ ละเอียดรอบคอบ

3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

3.1ดา้ นความรู้

3.1.1 เพือ่ ให้มีความรู้และความเข้าใจเกยี่ วกับความหมายของโครงสร้างพ้ืนฐานดิจทิ ัล
3.1.2 เพือ่ ให้เข้าใจแนวคิดในการขับเคล่ือนเศรษฐกิจดจิ ิทลั
3.1.3 เพอื่ ให้เข้าใจโครงสรา้ งพ้นื ฐานในการทาธุรกิจดิจิทัล
3.1.4 เพ่ือให้เข้าใจโครงสร้างธรุ กิจแบบธุรกจิ ดัง้ เดมิ และธรุ กิจดิจิทัล
3.2 ดา้ นทักษะ

3.2.1อธบิ ายความหมายของโครงสร้างพน้ื ฐานดิจทิ ลั ได้
3.2.2อธิบายแนวคิดในการขบั เคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทลั ได้
3.2.3อธบิ ายโครงสร้างพนื้ ฐานในการทาธุรกจิ ดจิ ทิ ลั ได้
3.2.4จาแนกความแตกต่างของโครงสร้างพื้นฐานในการทาธุรกจิ ดจิ ิทลั ได้
3.2.5จาแนกโครงสร้างธรุ กจิ แบบธุรกจิ ด้งั เดิมและธุรกิจดิจทิ ลั ได้

11

12

แผนการจัดการเรยี นรู้มุ่งเนน้ สมรรถนะ หนว่ ยท่ี 2
สอนครัง้ ที่ 4-6
ชอ่ื หน่วย โครงสร้างพื้นฐานธรุ กิจดิจทิ ลั
ช่ือเร่ือง โครงสรา้ งพ้ืนฐานธรุ กิจดิจิทลั ชั่วโมงรวม 6
จานวนชว่ั โมง 12

3.3 คุณลักษณะทพ่ี ึงประสงค์

3.3.1 มเี จตคตทิ ่ีดี
3.3.2 ปฏบิ ัตงิ านด้วยความรบั ผดิ ชอบ
3.3.3 ซ่อื สัตย์
3.3.4 ละเอียดรอบคอบ

4. เนอื้ หาสาระการเรยี นรู้

ความหมายของโครงสร้างพื้นฐานดิจิทลั
โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล หมายถึง โครงสร้างพ้ืนฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) โทรคมนาคม

(Telecommunication) และการแพร่ภาพกระจายเสียง (Broadcast) รวมทั้งการหลอมรวมของเทคโนโลยี
(Convergence) ทั้งสามด้านทีเ่ ป็นนวัตกรรมใหมใ่ นการพฒั นาดจิ ทิ ลั เพื่อเศรษฐกจิ และสังคม

แนวคิดในการขับเคลอ่ื นเศรษฐกจิ ดจิ ิทัล
เศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล หมายถึง เศรษฐกิจและสังคมท่ีใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร

(หรือที่เรียกว่าเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อให้ทันยุคสมัย) เป็นกลไกสาคัญในการขับเคลื่อนการปฏิรูปกระบวนการ
ผลิต การดาเนินธุรกิจ การค้า การบริการ การศึกษา การสาธารณสุข การบริหารราชการแผ่นดิน รวมทั้ง
กจิ กรรมทางเศรษฐกิจและสังคมอืน่ ๆ ท่ีส่งผลต่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจ การพัฒนาคุณภาพชีวติ ของคน
ในสงั คม และการจา้ งงานทเ่ี พ่ิมข้นึ

ในการขับเคล่ือนนโยบายเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลจะมีการจัดตั้งคณะกรรมการดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจ
และสังคมแห่งชาติ ท่ีมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการ และมีคณะกรรมการเฉพาะด้านทาหน้าท่ี
ช่วยเหลือคณะกรรมการดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ท่ีชี้นาทิศทางของการพัฒนาให้แก่หน่วยงาน
ท้ังภาคเอกขนและภาครัฐ และกาหนดนโยบายสนับสนุนด้านการสร้างแรงจูงใจ (Incentive) นวัตกรรม
(Innovation) จัดหาตลาดให้แก่เอกชน เพ่ือร่วมกันสร้างเศรษฐกิจไทยให้เข้มแข็งและพัฒนาคนไทยท่ีมี
ความสามารถ โดยคณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลแห่งชาติ ประกอบด้วย คณะกรรมการเฉพาะด้าน
5 ดา้ นคือ

12

13

แผนการจดั การเรยี นรูม้ ุง่ เนน้ สมรรถนะ หน่วยที่ 2
สอนครัง้ ที่ 4-6
ชือ่ หน่วย โครงสร้างพื้นฐานธรุ กจิ ดจิ ิทลั
ชอ่ื เร่อื ง โครงสร้างพื้นฐานธรุ กิจดิจทิ ลั ช่ัวโมงรวม 6
จานวนชั่วโมง 12

1. การพัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐานดิจทิ ลั (Hard Infrastructure)
2. การสร้างความม่ันคงปลอดภัย และความเช่ือม่ันในการทาธุรกรรมด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล (Soft
Infrastructure)
3. โครงสร้างพ้ืนฐานเพ่อื ส่งเสริมการใหบ้ ริการ (Service Infrastructure)
4. การกระตุน้ เศรษฐกจิ ด้วยเทคโนโลยีดิจิทลั (Digital Economy Promotion)
5. การสร้างสังคมดิจิทัลที่มีคุณภาพและการพัฒนาคลังทรัพยากรสารสนเทศของประเทศ (Digital
Society)

โครงสร้างพ้ืนฐานในการทาธรุ กิจดจิ ทิ ัล
องค์กรและธุรกิจต่าง ๆ ต้องมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทาธุรกิจแบบเดิม เป็นรูปแบบธุรกิจดิจิทัล

ทาได้ดว้ ยการเปลีย่ นแปลงการดาเนนิ งานของธุรกิจดงั นี้
1. ผู้นาองค์กร ในฐานะผู้กาหนดทิศทางและนาทางขององค์กร ผู้นาจึงต้องทาหน้าท่ีในการส่งเสริม

การทางานอย่างเข้มแข็งและเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน ในช่วงการเปลี่ยนแปลงท่ีสาคัญขององค์กรพนักงานทุกคน
จะต้องเข้าใจเป้าหมายขององค์กรและมีการดาเนินงานไปในทิศทางเดียวกัน เพ่ือลงมือปฏิบัติงานได้ทันทีและ
รวดเร็วดังน้นั ผู้นาจะต้องแสดงใหเ้ หน็ ว่าตนใหก้ ารสนับสนุนกลยุทธ์ต่าง ๆ อย่างเต็มที่ ซึ่งรวมไปถึงการกาหนด
วสิ ัยทศั น์และกลยุทธ์ทม่ี ีเปา้ หมายและแนวทางที่ชดั เจน และเป็นต้นแบบที่ดี ในด้านบุคลกิ ภาพ ค่านยิ มและวิธี
ในการบรหิ ารนั้น ผู้นาในทุกระดับจะตอ้ งมีใจกว้าง มองโลกในแงด่ ี เปิดรับฟงั ความคิดต่างอย่างจรงิ ใจ และตอ้ ง
ตดั สนิ ใจไดร้ วดเร็ว

2. พนักงาน พนักงานนั้นจะต้องมีทัศนคติท่ีดีต่อการปรับเปล่ียน สิ่งท่ีมักพบได้บ่อย ๆ คือ พนักงาน
มกั เขา้ ใจว่าเมอื่ มอี งค์กรหรือ ธรุ กิจมกี ารปรับเปลี่ยนเป็นดจิ ิทัล กแ็ สดงว่าองค์กรจะปรับลดจานวนพนกั งานลง

ดังน้ัน ลาดับแรกองค์กรจะต้องทาให้พนักงานเข้าใจตรงกันก่อนว่าเทคโนโลยีคือเคร่ืองมือที่ช่วยให้
ทางานได้ดีข้ึน ทาให้พนักงานมีเวลาให้ความสาคัญกับงานที่ต้องการความคิดและความสามารถได้มากขึ้น
แทนท่ีจะคิดว่าเทคโนโลยีจะมาแทนและมาแย่งงานของตน เช่น การนาเคร่ืองมือการขาย (Sales Tool) มาใช้
กับการส่ังซื้อออนไลน์ และการติดตาม (online order และ tracking) น้ันจะช่วยให้ชีวิตการทางานสะดวก
และรวดเร็วขน้ึ

สร้างกระบวนการทางานแบบแพลตฟอร์ม (Platform) เม่ือพนักงานมีความพร้อมด้านทัศนคติ
แล้ว ต้องมีการปรับวธิ ีการทางานด้วยเชน่ เดียวกนั เทคโนโลยีช่วยใหก้ ารติดต่อประสานงานเป็นไปอย่างสะดวก
รวดเร็ว แต่ถา้ รปู แบบการทางานยงั เป็นแบบปดิ ก้ัน เรากจ็ ะไมส่ ามารถใชเ้ ทคโนโลยีไดอ้ ยา่ งเตม็ ประสิทธภิ าพ

13

14

แผนการจัดการเรยี นรู้มุ่งเนน้ สมรรถนะ หน่วยที่ 2
สอนคร้ังท่ี 4-6
ชือ่ หน่วย โครงสร้างพืน้ ฐานธรุ กจิ ดจิ ิทัล
ชือ่ เร่ือง โครงสร้างพื้นฐานธรุ กจิ ดิจทิ ลั ช่ัวโมงรวม 6
จานวนชว่ั โมง 12

โดยรูปแบบการทางานที่เหมาะสมนั้น จะต้องเป็นแบบ Open Platform และต้องไม่มีการทางานเป็น ต่างคน
ต่างทาอีกต่อไป ต้องสร้าง การทางานท่ีเช่ือมต่อกัน เพ่ือใช้ประโยชน์ของความชานาญท่ีแตกต่างกันของแต่ละ
แผนกให้สูงสดุ

1. สร้างส่ิงแวดล้อมเพื่อความคล่องตัว นอกจากตัวคนซ่ึงเป็นส่วนสาคัญและวิธีการทางานที่เป็น
ฟันเฟืองหลักแล้ว การสร้างสิ่งแวดล้อมในการทางานท่ีส่งเสริมธุรกิจดิจิทัลก็มีความสาคัญไม่แพ้ส่วนอื่น ๆ
ส่งิ แวดล้อมดงั กล่าวนน้ั รวมถึง การสรา้ งบรรยากาศ สง่ิ อานวยความสะดวก และวถิ ีชวี ิตในท่ที างาน

2. สร้างการสื่อสารท่ีมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม ส่ิงที่กล่าวมาท้ังหมดน้ัน จะไม่สามารถประสบ
ความสาเร็จได้หากขาดการสื่อสารภายในองค์กรอย่างทั่วถึงและต่อเนื่อง โดยต้องเร่ิมจากการสื่อสารถึง
ประโยชนข์ องธรุ กจิ ดิจทิ ลั ดว้ ยคอนเทนต์ทีน่ า่ สนใจ นา่ ตดิ ตาม กระชบั เข้าใจง่ายและตรงจุด

ท้ังนี้ ไม่จาเป็นว่าการส่ือสารเร่ืองดิจิทัลจะต้องทาผ่านส่ือดิจิทัลเท่าน้ัน ส่ือต่าง ๆ ท่ีพนักงานพบเห็น
บอ่ ย ๆ กเ็ ป็นสงิ่ ทไ่ี ม่ควรมองข้าม เชน่ สโลแกนที่ชว่ ยให้จดจา เสื้อยืดสกรีนโลโก้ เป็นต้น

5. กจิ กรรมการเรียนรู้
5.1การนาเข้าสู่บทเรียน
5.1.1ผสู้ อนเตรียมสอ่ื เพาเวอร์ พอยต์ (Power Point)
5.1.2ผู้สอนเตรยี มส่ือเพาเวอร์ พอยต์
5.1.3ผู้สอนทาการสอน และกลา่ วทกั ทายผเู้ รียน
5.1.4ผู้สอนตรวจสอบรายชอื่ ผู้เรียน
5.1.5ผู้สอนใหผ้ เู้ รยี นทาแบบทดสอบก่อนเรยี น เพื่อทดสอบความรขู้ องผูเ้ รียน ผสู้ อนเตรียม
แบบทดสอบกอ่ นเรียน

5.2การเรยี นรู้
5.2.1ผสู้ อนอธบิ ายเกยี่ วกับความหมายของโครงสรา้ งพน้ื ฐานดจิ ทิ ัล โดยใช้สอ่ื Power
Point
5.2.2ผู้สอนตัง้ คาถามกับผ้เู รียนเก่ียวกับความหมายของโครงสร้างพืน้ ฐานดิจทิ ลั
5.2.3ผ้เู รียนตอบคาถาม

14

15

แผนการจัดการเรยี นร้มู ุง่ เน้นสมรรถนะ หนว่ ยท่ี 2
สอนคร้ังที่ 4-6
ชือ่ หน่วย โครงสรา้ งพน้ื ฐานธรุ กิจดจิ ิทัล
ช่ือเรอื่ ง โครงสร้างพ้ืนฐานธรุ กิจดจิ ิทลั ชัว่ โมงรวม 6
จานวนช่วั โมง 12

5.2.4ผสู้ อนอธิบายเกีย่ วกบั แนวคดิ ในการขบั เคลอ่ื นเศรษฐกิจดิจิทัล โดยใช้สือ่ Power
Point

5.2.5ผู้สอนตงั้ คาถามกับผ้เู รียน
5.2.6ผู้สอนอธิบายเก่ยี วกบั โครงสรา้ งพนื้ ฐานในการทาธุรกจิ ดจิ ิทัลโดยใชส้ อ่ื Power Point
5.2.7ผู้สอนมอบหมายแบบฝกึ หัดหนว่ ยท่ี 2 ในเอกสารประกอบการเรยี น
5.2.8ผู้สอนเตรยี มแบบฝกึ หดั

5.3การสรปุ
5.3.1 ประเมนิ จากแบบฝึกหดั หนว่ ยท่ี 2

5.4 วดั ผลและประเมินผล
5.4.1 ประเมินจากแบบทดสอบก่อนเรียน
5.4.2 ประเมนิ จากแบบทดสอบหลังเรยี น

6. ส่ือการเรียนรู้/แหล่งการเรยี นรู้
6.1 สื่อสง่ิ พิมพ์
6.1.1 หนังสือพื้นฐานธุรกิจดจิ ิทลั . ประภาวรรณ เกษวริ ิยะการณ์. สานักพิมพเ์ มืองไทย

6.2 สื่อโสตทศั น์
6.2.1 สอ่ื การเรยี นการสอน Power Point วชิ า พ้ืนฐานธุรกิจดิจทิ ัล
6.2.2 เครื่องโปรเจ็คเตอร์
6.2.3 เคร่ืองคอมพวิ เตอร์
6.2.4 ระบบอินเตอร์เน็ตในการเรยี นออนไลน์

7. เอกสารประกอบการจดั การเรียนรู้ (ใบความรู้ ใบงาน ใบมอบหมายงาน)
แบบฝึกหดั หนว่ ยท่ี 2 เร่ือง โครงสร้างพ้นื ฐานธุรกจิ ดิจิทัล

8. การบรู ณาการ/ความสัมพนั ธก์ บั วชิ าอ่ืน
บูรณาการรายวชิ ากบั หลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์

15

แผนการจดั การเรียนรู้มงุ่ เน้นสมรรถนะ 16

ช่ือหน่วย โครงสรา้ งพ้ืนฐานธุรกจิ ดิจทิ ลั หน่วยท่ี 2
สอนครั้งท่ี 4-6
ชอื่ เรอ่ื ง โครงสร้างพ้นื ฐานธรุ กจิ ดิจิทลั ช่ัวโมงรวม 6
จานวนช่วั โมง 12
9. การวดั และประเมินผล
9.1 กอ่ นเรียน
วดั ผลจากแบบทดสอบกอ่ นเรียนหน่วยท่ี 2
9.2 ขณะเรียน
สงั เกตขณะนง่ั เรียนและทาแบบฝึกหัด
สังเกตจากการตอบคาถาม
9.3 หลังเรียน
ประเมนิ จากการสรุปบทเรยี นและการตอบคาถาม
ประเมินจากแบบทดสอบหลังเรยี น

16

17

แผนการจดั การเรยี นรมู้ ุ่งเนน้ สมรรถนะ หน่วยท่ี 3
สอนคร้ังท่ี 7-10
ชอ่ื หน่วย นวตั กรรมสาหรับธรุ กิจดิจทิ ลั
ช่อื เร่ือง นวตั กรรมสาหรบั ธุรกิจดจิ ิทัล ชว่ั โมงรวม 8
จานวนชว่ั โมง 20

1. สาระสาคญั

เทคโนโลยีดิจิทัล ทาให้รูปแบบธุรกิจที่มีอยู่เกิดความต่อเนื่องมากขึ้น หรือเกิดเป็นธุรกิจ
รูปแบบใหม่ ท่ีทาให้ธุรกิจท่ีแตกต่างกันสามารถเช่ือมถึงกันได้ทั้งหมด ทาให้เกิดผลิตภัณฑ์ใหม่ บริการใหม่
หรือประสบการณ์ใหม่ ๆ ด้านข้อมูลและเทคโนโลยีท่ีสามารถตอบสนองการส่ือสารสองทาง และเรียลไทม์
ให้แก่ลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ นวัตกรรมด้านดิจิทัลที่เกิดขึ้นก่อให้เกิดการเปล่ียนแปลงของระบบ
เศรษฐกิจและธุรกิจ ทาให้องค์กรต่าง ๆ เห็นถึงความจาเป็นที่ต้องพัฒนากลยุทธ์เพ่ือให้สามารถรักษาการ
ตลาดไวโ้ ดยอาศยั เทคโนโลยดี ิจทิ ลั

2. สมรรถนะประจาหน่วย

2.1 แสดงความรู้เก่ยี วกับความหมายของนวัตกรรมธรุ กิจดจิ ทิ ัล
2.2 จาแนกข้อดีและข้อควรคานึงถึงของนวตั กรรมธุรกจิ ดิจทิ ัล
2.3 อธิบายนวตั กรรมโมเดลธุรกิจดจิ ทิ ัล
2.4 เรยี งลาดับนวตั กรรมโมเดลธุรกิจดิจิทัล
2.5 เตรียมวสั ดุอุปกรณเ์ หมาะสมกบั การปฏบิ ตั งิ าน
2.6 แสดงพฤติกรรมท่ีมีเจตคติท่ดี ี ปฏิบัติงานดว้ ยความรบั ผดิ ชอบ ซอื่ สตั ย์ ละเอยี ดรอบคอบ

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้

3.1ด้านความรู้

3.1.1 เพอ่ื ใหม้ คี วามรู้และความเข้าใจเกี่ยวกบั ความหมายของนวัตกรรมธรุ กจิ ดจิ ทิ ัล
3.1.2 เพือ่ ใหเ้ ขา้ ใจขอ้ ดีและข้อควรคานงึ ถึงของนวัตกรรมธรุ กจิ ดิจิทลั
3.1.3 เพอื่ ให้เข้าใจนวตั กรรมโมเดลธุรกิจดิจิทลั
3.1.4 เพ่ือใหเ้ ข้าใจนวตั กรรมโมเดลธรุ กจิ ดจิ ทิ ลั
3.1.5 เพอื่ ใหเ้ ขา้ ใจลาดบั นวัตกรรมโมเดลธุรกจิ ดจิ ทิ ัล
3.2 ด้านทกั ษะ

3.2.1อธบิ ายความหมายของนวัตกรรมธรุ กจิ ดิจิทัลได้
3.2.2จาแนกข้อดแี ละข้อควรคานงึ ถงึ ของนวตั กรรมธุรกิจดิจิทัลได้
3.2.3อธบิ ายนวตั กรรมโมเดลธุรกจิ ดจิ ิทัลได้
3.2.4เรียงลาดบั นวตั กรรมโมเดลธรุ กจิ ดจิ ิทลั ได้

17

18

แผนการจดั การเรียนร้มู ุ่งเนน้ สมรรถนะ หนว่ ยที่ 3
สอนครั้งท่ี 7-10
ชื่อหน่วย นวัตกรรมสาหรับธรุ กิจดจิ ทิ ัล
ชอ่ื เร่ือง นวตั กรรมสาหรับธุรกจิ ดจิ ิทัล ชัว่ โมงรวม 8
จานวนชั่วโมง 20

3.3 คณุ ลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์

3.3.1 มเี จตคตทิ ีด่ ี
3.3.2 ปฏบิ ัติงานด้วยความรับผดิ ชอบ
3.3.3 ซื่อสตั ย์
3.3.4 ละเอียดรอบคอบ

4. เนื้อหาสาระการเรยี นรู้

นวัตกรรมธุรกิจดจิ ิทัล

นวัตกรรมธุรกิจดิจิทลั (Digital Business Innovation) หมายถึง ธุรกจิ ผลิตภณั ฑแ์ ละบริการใหม่ ๆ
ท่ีเกิดจากการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลท่ีตอบสนองความต้องการและพฤติกรรมของผู้บริโภค ที่ปรับ
เปล่ียนไปตามบริบทของเทคโนโลยีที่มีการเปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็ว ก่อให้เกิดการสร้างสรรค์ธุรกิจใหม่ท่ีไม่
เคยมมี ากอ่ นบนพ้นื ฐานของการหลอมรวมเทคโนโลยี ที่เรียกวา่ สแมคไอ (SMACI)

สแมคไอ (SMACI) หัวใจสาคัญของธุรกจิ ดจิ ทิ ัล เพื่อสนับสนนุ ธุรกจิ ดจิ ทิ ัลอยา่ งมีประสิทธิภาพ
องคป์ ระกอบสาคัญทง้ั 5 ประการน้ีเป็นส่งิ ท่ีองคก์ รควรนามาใชเ้ พ่ือก่อใหเ้ กิดประโยชน์สูงสดุ

1. Social (S) ฐานขอ้ มูลขนาดใหญ่ที่สดุ ในโลกทเ่ี กบ็ โปรไฟลข์ องลูกคา้
2. Mobile (M) ชอ่ งทางการติดต่อสือ่ สารและเชอื่ มต่อกับอนิ เทอรเ์ นต็ ที่ใหญท่ สี่ ดุ ในปัจจุบนั
3. Analytics (A) วิเคราะหค์ วามต้องการและค้นหาความสัมพนั ธต์ า่ ง ๆ จากฐานข้อมลู โปรไฟล์
ลูกคา้
4. Cloud (C) เทคโนโลยสี าคญั ทีช่ ่วยให้สามารถเปดิ ธรุ กจิ ใหม่และกระจายสภู่ ูมิภาคตา่ ง ๆ ได้อย่าง
รวดเรว็
Internet of Things (I) อุปกรณ์สาหรับจัดเก็บข้อมูลพฤติกรรมต่าง ๆ เช่น การขับรถ เพ่ือให้
สามารถคานวณเบ้ยี ประกันจากวธิ กี ารขบั รถได้ เปน็ ต้น

ข้อดแี ละข้อควรคานึงถงึ ของนวัตกรรมธรุ กจิ ดจิ ทิ ัล
1. ส่วนแบง่ ตลาดเพ่มิ มากขน้ึ
2. กาไรท่เี พิ่มขึน้
3. ประสบการณ์ของความสาเรจ็ จาการล้มเหลว
4. สร้างคณุ คา่ ตอ่ ชีวติ และสงั คม

18

19

แผนการจัดการเรยี นร้มู ่งุ เนน้ สมรรถนะ หนว่ ยท่ี 3
สอนคร้ังที่ 7-10
ชอื่ หน่วย นวัตกรรมสาหรับธุรกจิ ดจิ ิทลั
ช่อื เรื่อง นวตั กรรมสาหรับธุรกจิ ดิจิทลั ชัว่ โมงรวม 8
จานวนชว่ั โมง 20

ข้อควรคานึงถงึ ของนวัตกรรมธรุ กจิ ดจิ ทิ ัล
1. นวัตกรรมธรุ กจิ ดิจิทลั เป็นค่าใชจ้ า่ ย
2. ตลาดผบู้ รโิ ภคไม่พงึ ประสงค์
3. พนกั งานวิกฤติ

นวัตกรรมโมเดลธุรกจิ ดจิ ทิ ลั
นวตั กรรมโมเดลธรุ กิจดจิ ทิ ัล หมายถึง นวัตกรรมเกยี่ วกบั แนวทางในการพัฒนาประเทศหรือดาเนนิ

ธรุ กจิ ให้ประสบผลสาเร็จ ซง่ึ ในระดบั ประเทศหมายถึงแนวทางใหม่ ๆ ในการเปล่ียนหรือพัฒนาประเทศให้
เติบโตอยา่ งย่ังยนื และกา้ วไกลบนเวทีโลก

ระดับองค์กรนวัตกรรมโมเดลธุรกิจดิจิทัล คือ กลไกสาคัญที่จะเปลี่ยนและนาองค์กรให้ประสบ
ความสาเร็จอย่างมีคุณค่าต่อสังคมและเติบโตอย่างย่ังยืน โดยในปัจจุบันนวัตกรรมโมเดลธุรกิจดิจิทัลส่วนใหญ่
ในประเทศไทย มักเปน็ การพัฒนามาจากโมเดลธรุ กิจแบบด้ังเดิมแล้วนามาทางานอยู่บนแพลตฟอร์มออนไลน์

 การเรียนการสอนออนไลน์ที่เป็นการนาคลิปวิดีโอของผู้สอนหรือติวเตอร์มาอยู่บน แพลตฟอร์ม
ออนไลน์ โดยผ้เู รียนสามารถเลือกเรยี นวชิ าหรอื เน้ือหาใดก็ไดต้ ามความต้องการแลว้ ชาระเงินเปน็ รายคร้ัง

 สังคมยุคดิจิทัลในปัจจุบัน ได้เอ้ือให้เกิดข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) โดยหากผู้ประกอบการรายใด
สามารถนาข้อมูลดังกล่าวมาทาการสังเคราะห์และวิเคราะห์ได้ ก็จะสามารถสร้างความได้เปรียบทางการ
แขง่ ขันและยังสามารถสร้างโมเดลธรุ กิจใหม่ ๆ ทม่ี ีความเช่อื มโยงระหวา่ งอุตสาหกรรมได้ มากขนึ้

 การวเิ คราะห์ฐานข้อมลู ทางดา้ นการรักษาพยาบาลและการดูแลสขุ ภาพของผ้ปู ่วยตามโรงพยาบาล
ตา่ ง ๆ เพื่อนาเสนอแพ็คเกจประกันชีวิต หรอื ประกนั สุขภาพผ่านทางแพลตฟอร์มออนไลน์

ขอ้ เสนอแนะในการสรา้ งนวัตกรรมโมเดลธรุ กจิ ดิจิทลั
1. การออกแบบโมเดลธรุ กิจใหม่หมด โดยการพจิ ารณาองคป์ ระกอบตา่ ง ๆ ว่าในปัจจบุ นั จะ

สามารถเปล่ียนแนวคิดหรือนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้แทนได้อย่างไร หรือมีโอกาสทางธุรกิจใหม่และธุรกิจ
สามารถแสวงหาผลตอบแทนทีเ่ พ่มิ ขึน้ ไดจ้ ากการนาเสนอโมเดลธรุ กจิ ใหม่ทพ่ี ลิกโฉมหนา้ ไปอยา่ งสนิ้ เชงิ

2. การปรับเปลี่ยนรูปแบบโมเดลธุรกิจเดิมให้มีประสิทธิภาพและตอบโจทย์ทางธุรกิจได้ดีขึ้น ซึ่งเป็น
การเปลี่ยนแปลงในระดับน้อยกว่าวิธีแรก อาจทาได้โดยการทบทวน ปรับเปล่ียน เพ่ิมความคล่องตัวหรือสร้าง
ความยดื หยนุ่ เพิ่มขึ้น

19

20

แผนการจัดการเรยี นรู้มุ่งเนน้ สมรรถนะ หน่วยที่ 3
สอนครง้ั ที่ 7-10
ชอ่ื หน่วย นวตั กรรมสาหรับธุรกจิ ดจิ ทิ ัล
ชอ่ื เร่ือง นวตั กรรมสาหรับธุรกิจดิจทิ ลั ชัว่ โมงรวม 8
จานวนช่ัวโมง 20

กระบวนการสร้างนวัตกรรมสาหรบั ธุรกจิ ดจิ ทิ ัล
1. การจัดการประสบการณล์ ูกค้า เป็นกลยุทธ์ นโยบาย และกระบวนการทบี่ ริษัทใชใ้ นการ

ออกแบบ และสง่ มอบการโต้ตอบระหว่างลูกค้ากับองค์กร
ประสบการณ์ของลูกค้า คือการรับรู้ท่ีสะสมของลูกค้า ทั้งในอดีตและในอนาคตของบริษัท

ผลิตภัณฑ์หรือบริการจากการสังเกตการณ์ การเผชิญหน้า และการทาธุรกรรม การขายสินค้าและบริการใน
ตลาดท่ีมีการแข่งขันมากข้นึ ภาวะเศรษฐกิจท่ีซบเซาและความตอ้ งการท่ีชะลอตัว ความเป็นไปได้ในการเติบโต
ของธุรกิจ ผ่านคณุ สมบัติผลิตภัณฑ์และบริการท่ีเป็นนวัตกรรมมักจากัดอยู่ ในขณะเดียวกัน ธุรกจิ มีแนวโน้มที่
จะได้รบั ผลดจี ากคู่แข่งและแนวคิดท่ีมีต้นทนุ ต่ากว่า และในขณะที่ข้อเสนอท่ีน่าสนใจมากมาย ทาให้ความภักดี
ของลูกค้าโดยรวมลดลง นอกจากนี้บริษัทต่าง ๆ ยังมีการเปิดรับและเปิดเผยต่อสาธารณชนท่ัวไปมากข้ึน
รวมถึงความคิดเห็นที่ไม่เป็นท่ีพอใจของผลิตภัณฑ์และบริการ ท่ีตีพิมพ์บนอินเตอร์เน็ต หรือประสบการณ์ใน
การให้บรกิ ารลกู ค้าทไี่ มด่ ีทแี่ ชร์กันในสื่อสังคมออนไลน์ที่มีการแพร่ขยายอาจส่งผลตอ่ ยอดขายและผลกาไรของ
องค์กร บริษัทท่ีต้องการเพ่ิมความเป็นศูนย์กลางของลูกค้า และความพึงพอใจของลูกค้า รวมถึงการบริหาร
ประสบการณ์ลกู ค้าเป็นสว่ นสาคญั ของยุทธศาสตร์ทางธุรกจิ และแปลงกลยุทธ์ ใหเ้ ป็นธรุ กิจจริง แม้ว่าแนวทาง
การจดั การประสบการณล์ ูกค้า จะมงุ่ เน้นไปที่ลูกค้า และพนักงาน โดยคานงึ ถงึ เทคโนโลยีดว้ ย

2. นวัตกรรมทางสินค้าและบริการ นวัตกรรมทางสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ เป็นการนานวัตกรรมมา
พัฒนาและปรับปรุงสินค้าใหม่ เพื่อเพ่ิมมูลค่าให้กับสินค้า ไม่ว่าจะเป็นการเพ่ิมประสิทธิภาพและ คุณสมบัติใน
การใช้งาน วิธีใช้งาน หรือยืดอายุการใช้งาน/การเก็บรักษา เพ่ือสร้างความแตกต่างให้กับสินค้าเพื่อตอบสนอง
ความ ตอ้ งการของลกู ค้าไดม้ ากขึ้น และเพิ่มโอกาสในการกาหนดราคาขายได้สงู ขนึ้

นวัตกรรมการบริการ เป็นการนานวัตกรรมมาพัฒนาและปรับปรุงรูปแบบและข้ันตอนการ
ให้บริการ เพ่ือบริการที่ตรงกับความต้องการลูกค้า โดยเน้นการอานวยความสะดวก และความรวดเร็วในการ
เข้ารับบรกิ าร เพ่ือสร้างความแตกตา่ งในการบรกิ าร เพื่อความพงึ พอใจใหก้ บั ลูกคา้

3. เทคโนโลยีดิจิทัล บริษัทและองค์กรได้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อปรับปรุงส่วนงาน
ต่าง ๆ เช่น การตลาด รูปแบบการทางาน การดาเนินงาน และการบารุงรักษายิ่งไปกว่านั้น โครงการปรับปรุง
ดังกล่าวได้ก่อให้เกิดผลลัพธ์ทางด้านธุรกิจอย่างเป็นรูปธรรม เช่น รายได้เพ่ิมขึ้น สัมพันธภาพกับลูกค้าดีขึ้น
กว่าเดิม เป็นต้น การเสริมสร้างศักยภาพของบุคลากรโดยอาศัยเทคโนโลยีดิจิทัล เพ่ือสร้างคุณประโยชน์ท่ี
สาคัญสาหรับธุรกิจและสงั คม จะถอื เป็นกุญแจสาคัญในการขบั เคลือ่ นธรุ กิจ

20

21

แผนการจัดการเรยี นรู้มงุ่ เนน้ สมรรถนะ หนว่ ยท่ี 3
สอนครง้ั ที่ 7-10
ชอื่ หน่วย นวตั กรรมสาหรับธุรกจิ ดิจิทลั
ช่อื เรือ่ ง นวตั กรรมสาหรบั ธุรกจิ ดิจทิ ัล ชัว่ โมงรวม 8
จานวนชวั่ โมง 20

4. การปฏิบัติตามดิจิทัล ผู้ใช้งานส่ือดิจิทัลและสื่อสังคมออนไลน์ที่เข้าใจบรรทัดฐานของการปฏิบัติ
ตวั ใหเ้ หมาะสมและมคี วามรบั ผดิ ชอบในการใช้เทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยง่ิ การส่อื สารในยุคดิจทิ ัลเป็นการ

ส่ือสารที่ไร้พรมแดน พลเมืองดิจิทัลจึงต้องเป็นพลเมืองท่ีมีความรับผิดชอบ มีจริยธรรม เห็นอกเห็นใจและ
เคารพผู้อ่นื มสี ่วนรว่ ม และมุง่ เนน้ ความเปน็ ธรรมในสังคม

5. การจัดการความเสี่ยง เป็นกระบวนการในการระบุ (Risk Identification) การวิเคราะห์ (Risk
Analysis) การประเมิน (Risk Assessment) การดูแลตรวจสอบและควบคุมความเส่ียง (Risk Control) ท่ี
สัมพันธ์กับกิจกรรมและกระบวนการทางาน เพื่อให้องค์กรลดความเสียหาย จากความเส่ียงมากท่ีสุด อัน
เนื่องมาจากความเส่ียงที่องค์กรต้องเผชิญในช่วงเวลาใดเวลาหน่ึง ในการทาธุรกิจ องค์กรย่อมมีการกาหนด
วัตถุประสงค์ของภาพรวม (Objective Establishment) องค์กรและหน่วยงานต่าง ๆ ท่ีชัดเจน และสามารถ
วัดผลได้

6. การปรับปรุง การควบคุมดูแลกิจการ การกากับดูแลกิจการเป็นปัจจัยสาคัญอย่างหน่ึงในการ
ปรับปรุงประสิทธิภาพขององค์กร ซง่ึ เก่ียวกับความสัมพันธ์ระหว่างฝ่ายจัดการ คณะกรรมการ เจ้าของและผู้มี
ส่วนได้เสียอื่น การกากับ ดูแลกิจการยังช่วยให้เกิดโครงสร้างท่ีสาคัญ ซึ่งเป็นกลไกในการกาหนดวัตถุประสงค์
ของกิจการ และการกาหนดวิธีท่ีจะบรรลุวัตถุประสงค์เหล่าน้ัน รวมถึงการสอดส่องดูแลผลการปฏิบัติงานของ
กจิ การ

วัตถุประสงค์หลักในการกากับดูแลกิจการ คือ การกากับ การติดตาม การควบคุม และการดูแล ผู้ที่
ได้รับมอบหมายอานาจหน้าท่ีให้ไปทาหน้าที่ทางการบริหาร เพื่อให้ทรัพยากรขององค์กรได้นาไปใช้ อย่างมี
ประสทิ ธิภาพ ประสิทธผิ ล ตรงตามเป้าหมาย อย่างคมุ้ ค่า ท้ังนี้เพ่อื ใหเ้ กิดประโยชนส์ งู สดุ ตอบแทนกลบั ไปยงั ผู้
มีสว่ นไดเ้ สยี ทุกฝ่ายอย่างเป็นธรรม กล่าวโดยสรุป การกากบั ดแู ลกิจการช่วย สร้างมลู คา่ ของกจิ การ

5. กจิ กรรมการเรียนรู้
5.1การนาเข้าสูบ่ ทเรียน
5.1.1ผู้สอนเตรยี มสอ่ื เพาเวอร์ พอยต์ (Power Point) ตามลงิ ค์
5.1.2ผสู้ อนเตรียมสื่อเพาเวอร์ พอยต์ ตาม QR-CODE
5.1.3ผสู้ อนทาการสอนท้ังในห้องเรียน และ ทางออนไลน์ กล่าวทักทายผ้เู รยี น
5.1.4ผูส้ อนตรวจสอบรายช่ือผเู้ รียน

21

22

แผนการจัดการเรียนร้มู ่งุ เนน้ สมรรถนะ หนว่ ยที่ 3
สอนครั้งที่ 7-10
ชือ่ หน่วย นวตั กรรมสาหรับธรุ กจิ ดิจทิ ัล
ช่อื เรอ่ื ง นวตั กรรมสาหรับธุรกจิ ดจิ ทิ ัล ชว่ั โมงรวม 8
จานวนช่วั โมง 20

5.1.5ผสู้ อนให้ผ้เู รยี นทาแบบทดสอบก่อนเรยี น เพอื่ ทดสอบความร้ขู องผ้เู รยี น
5.1.6ผูส้ อนเตรียมแบบทดสอบก่อนเรยี น ตาม QR-CODE
5.2การเรยี นรู้
5.2.1ผู้สอนอธบิ ายนวัตกรรมธรุ กจิ ดจิ ทิ ลั โดยใช้สอื่ Power Point
5.2.2ผสู้ อนต้งั คาถามกับผเู้ รียนเก่ยี วกับนวัตกรรมธรุ กจิ ดจิ ทิ ัล

5.2.3ผเู้ รยี นตอบคาถาม
5.2.4ผู้สอนอธิบายข้อดีและข้อควรคานงึ ถงึ ของนวตั กรรมธุรกจิ ดิจทิ ัล โดยใชส้ ื่อ Power

Point
5.2.5ผสู้ อนตั้งคาถามกับผเู้ รียน
5.2.6ผสู้ อนอธิบายเกยี่ วกบั นวัตกรรมโมเดลธุรกิจดจิ ทิ ัลโดยใชส้ ือ่ Power Point
5.2.7ผู้สอนอธบิ ายเกี่ยวกับขอ้ เสนอแนะในการสรา้ งนวัตกรรมโมเดลธรุ กจิ ดจิ ทิ ัล โดยใช้สื่อ

Power Point
5.2.8ผูส้ อนอธบิ ายเก่ยี วกับกระบวนการสรา้ งนวัตกรรมสาหรับธุรกิจดจิ ทิ ัล โดยใช้ส่ือ

Power Point
5.2.9ผสู้ อนมอบหมายแบบฝึกหัดหน่วยที่ 3 ในเอกสารประกอบการเรยี น
5.2.10 ผูส้ อนเตรียมแบบฝกึ หัด

5.3การสรปุ

5.3.1 ประเมินจากแบบฝกึ หดั หนว่ ยท่ี 3

5.4 วดั ผลและประเมินผล
5.4.1 ประเมนิ จากแบบทดสอบก่อนเรยี น
5.4.2 ประเมินจากแบบทดสอบหลังเรียน

6. ส่ือการเรยี นร/ู้ แหล่งการเรยี นรู้
6.1 ส่ือส่ิงพิมพ์
6.1.1 หนังสอื พื้นฐานธุรกิจดจิ ิทัล. ประภาวรรณ เกษวริ ยิ ะการณ์. สานักพิมพเ์ มืองไทย

22

23

แผนการจัดการเรยี นร้มู ่งุ เนน้ สมรรถนะ หนว่ ยที่ 3
สอนคร้ังที่ 7-10
ชือ่ หน่วย นวตั กรรมสาหรับธรุ กจิ ดจิ ิทลั
ชอื่ เรอื่ ง นวตั กรรมสาหรับธุรกิจดิจิทลั ช่วั โมงรวม 8
จานวนชว่ั โมง 20

6.2 ส่อื โสตทศั น์
6.2.1 สอื่ การเรยี นการสอน Power Point วิชา พื้นฐานธรุ กจิ ดิจทิ ัล
6.2.2 เครอื่ งโปรเจค็ เตอร์
6.2.3 เครื่องคอมพวิ เตอร์
6.2.4 ระบบอนิ เตอรเ์ น็ตในการเรียนออนไลน์

7. เอกสารประกอบการจดั การเรยี นรู้ (ใบความรู้ ใบงาน ใบมอบหมายงาน)
แบบฝึกหัดหนว่ ยที่ 3 เรื่อง นวตั กรรมสาหรับธุรกจิ ดจิ ิทัล

8. การบูรณาการ/ความสมั พันธ์กบั วชิ าอน่ื
บูรณาการรายวิชากบั หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง และคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์

9. การวัดและประเมินผล
9.1 ก่อนเรียน
วัดผลจากแบบทดสอบก่อนเรียนหนว่ ยที่ 3

9.2 ขณะเรยี น
สังเกตขณะนง่ั เรียนและทาแบบฝกึ หดั
สังเกตจากการตอบคาถาม

9.3 หลังเรยี น
ประเมินจากการสรปุ บทเรียนและการตอบคาถาม
ประเมนิ จากแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยที่ 3

23

24

แผนการจดั การเรยี นรมู้ ุง่ เนน้ สมรรถนะ หน่วยที่ 4
สอนคร้งั ท่ี 11-14
ช่ือหน่วย ระบบการทาธรุ กรรมในธรุ กิจดจิ ิทลั
ช่ือเรอ่ื ง ระบบการทาธรุ กรรมในธุรกิจดจิ ทิ ัล ชัว่ โมงรวม 8
จานวนช่ัวโมง 28

1. สาระสาคัญ

โลกออนไลน์ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงด้านพฤติกรรมและทัศนคติของผู้บริโภคในการทา
ธรุ กรรมทางการเงิน และการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยใี นโลกการเงินได้สง่ ผลให้เกิดรปู แบบการใหบ้ รกิ ารทาง
การเงินต่าง ๆ ที่อานวยความสะดวก และตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ โดยเฉพาะการ
ทาธุรกรรมทางการเงินสมัยใหม่ท่ีสามารถทาธุรกรรมการเงินได้ทุกที่ ทุกเวลา รวดเร็ว และสะดวกสบาย
ผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต เป็นต้น โดยผู้บริโภคมีแนวโน้มท่ีจะใช้
บรกิ ารดิจิตอลแบงค์ก้ิง (Digital Banking) เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการใช้บริการอินเตอร์เน็ตแบงค์
ก้ิง (Internet Banking) และโมบายแบงค์กิ้ง (Mobile Banking) เพราะสะดวกสบายกว่า และสามารถทา
ธรุ กรรมได้อย่างรวดเรว็ ตลอดเวลาด้วยตนเองโดยไม่ต้องไปทีส่ าขาของธนาคาร

2. สมรรถนะประจาหนว่ ย

2.1 แสดงความรู้เก่ียวกับความหมายของของธรุ กรรมและธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
2.2 จาแนกความแตกต่างของรูปแบบการทาธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
2.3 เลือกใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีในการทาธรุ กรรมดิจิทัล
2.4 จาแนกข้อดแี ละข้อเสยี ของการใชน้ วัตกรรมและเทคโนโลยเี พื่อทาธุรกรรม
2.5 เตรียมวัสดุอุปกรณ์เหมาะสมกบั การปฏบิ ัติงาน
2.6 แสดงพฤติกรรมท่ีมีเจตคติทีด่ ี ปฏิบตั งิ านดว้ ยความรบั ผิดชอบ ซอ่ื สตั ย์ ละเอียดรอบคอบ

3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

3.1ด้านความรู้

3.1.1 เพื่อใหม้ คี วามรู้และความเขา้ ใจเก่ียวกับความหมายของของธรุ กรรมและธรุ กรรมทาง
อิเล็กทรอนิกส์

3.1.2 เพอ่ื ใหเ้ ข้าใจความแตกต่างของรปู แบบการทาธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
3.1.3 เพอื่ ใหเ้ ขา้ ใจนวัตกรรมและเทคโนโลยีในการทาธรุ กรรมดิจิทลั
3.1.4 เพอ่ื ใหเ้ ข้าใจข้อดีและขอ้ เสียของการใช้นวตั กรรมและเทคโนโลยเี พอ่ื ทาธรุ กรรม

24

25

แผนการจดั การเรยี นรมู้ งุ่ เน้นสมรรถนะ หน่วยท่ี 4
สอนครงั้ ท่ี 11-14
ชอื่ หน่วย ระบบการทาธุรกรรมในธุรกิจดิจิทลั
ชื่อเร่ือง ระบบการทาธุรกรรมในธุรกจิ ดิจทิ ลั ชวั่ โมงรวม 8
จานวนชัว่ โมง 28

3.2 ด้านทกั ษะ

3.2.1อธบิ ายความหมายของธุรกรรมและธุรกรรมทางอเิ ลก็ ทรอนิกส์ได้
3.2.2จาแนกความแตกต่างของรปู แบบการทาธรุ กรรมทางอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ได้
3.2.3เลือกใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยใี นการทาธุรกรรมดจิ ิทลั ได้
3.2.4จาแนกข้อดีและข้อเสียของการใชน้ วตั กรรมและเทคโนโลยเี พือ่ ทาธุรกรรมได้

3.3 คุณลักษณะที่พึงประสงค์

3.3.1 มเี จตคตทิ ดี่ ี
3.3.2 ปฏิบตั ิงานด้วยความรับผดิ ชอบ
3.3.3 ซื่อสัตย์
3.3.4 ละเอียดรอบคอบ

4. เนือ้ หาสาระการเรยี นรู้

ความหมายของธุรกรรม
ธุรกรรม (transaction) หมายถึง กจิ กรรมท่เี ก่ียวกับการทานิตกิ รรม สัญญา หรอื การดาเนินการใด ๆ

กบั ผ้อู ื่น การประกอบกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะดา้ นธรุ กิจและการเงิน เชน่ การฝากเงนิ ในธนาคาร
เป็นการทาธุรกรรมอย่างหน่ึง การจ่ายค่าบริการโดยหักบัญชีจากธนาคาร เป็นธุรกรรมที่นิยมกันมากใน
ปจั จบุ ัน อนิ เตอรเ์ นต็ ทาให้เราสามารถทาธรุ กรรมได้โดยไมต่ อ้ งใชก้ ระดาษ

ธุรกรรมทางอเิ ล็กทรอนิกส์
ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Transaction) หมายถึง กิจกรรมใด ๆ ท่ีกระทาขึ้นระหว่าง

หน่วยธุรกิจ บุคคล รัฐ ตลอดจนองค์กรเอกชนหรือองค์กรของรฐั ใด ๆ เพ่ือวัตถปุ ระสงค์ทางธุรกิจ การค้า และ
การติดต่องานราชการ โดยใช้วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ท้ังหมดหรือแต่บางส่วน ยกตัวอย่าง เช่น การซ้ือ-ขาย
สินค้าผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ การสมัครสมาชิกผ่านระบบออนไลน์ การตกลง
ทาสัญญาซ้ือ-ขาย หรือสัญญาตกลงตามข้อบังคับต่าง ๆ บนเครือข่าย การโอนเงินด้วยระบบอัตโนมัติผ่าน
ระบบเครือข่าย การส่ือสารรับ-ส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ด้วยเครือข่ายการสื่อสาร และการสอบถามข้อมูลผ่าน
ระบบออนไลน์ เป็นต้น

25

26

แผนการจัดการเรยี นรมู้ งุ่ เน้นสมรรถนะ หนว่ ยท่ี 4
สอนครั้งท่ี 11-14
ชื่อหน่วย ระบบการทาธรุ กรรมในธรุ กิจดจิ ทิ ลั
ชอื่ เรื่อง ระบบการทาธรุ กรรมในธรุ กจิ ดิจิทัล ชั่วโมงรวม 8
จานวนช่วั โมง 28

ระบบธรุ กรรมดิจิทลั
ในยุคดิจิทัลที่แทบจะกลายเป็นสังคมไร้เงินสดอย่างเบ็ดเสร็จ เพราะไม่ว่าจะทาธุรกรรมใด ๆ ก็

สามารถทาผ่านแค่ปลายน้ิว ผ่านสมาร์ทโฟน ได้แทบทุกที่และทาได้ทุกคนที่มีบัญชีธนาคารหรือมีพร้อมเพย์
ร้านค้าร้านอาหารต่างก็มีบริการระบบจ่ายเงิน ชาระเงินผ่านคิวอาร์โค้ด (QR code) ซึ่งสร้างความ
สะดวกสบาย อีกทั้งทุกการจ่ายและชาระเงินนั้นก็จะบันทึกลงไปอย่างอัตโนมัติ สามารถตรวจสอบการโอนได้
แบบ เรียลไทม์ (Real Time) ไม่ตอ้ งคอยเช็คสมุดเงินฝาก (Bank book) ให้เสียเวลา กล่าวได้ว่าระบบธุรกรรม
ดิจิทัลนัน้ ได้เขา้ มามีบทบาทกบั สงั คมไทย ทุกธนาคารนน้ั ตา่ งกม็ ีแอพพลเิ คช่ันที่ใช้ในการทาธุรกรรม

รูปแบบการทาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์
นวตั กรรมและเทคโนโลยีในการทาธุรกรรม มี ดงั นี้
1. คิวอาร์โค้ด (QR Code) ระบบชาระเงินรูปแบบใหม่ ไม่ต้องใช้เงินสด QR Code มาจากคา

ว่า "Quick Response Code" ซ่ึงเป็นรหัสที่พัฒนาต่อยอดมาจากบาร์โค้ด (Barcode) ให้สามารถใช้งานง่าย
ขนึ้ เก็บข้อมูลได้มากกว่า เพียงแค่มีสมาร์ทโฟน ก็สามารถสแกนข้อมูลผ่าน QR Code ได้แล้ว ทาให้จะเห็นว่า
ปัจจบุ ันนิยมนา QR Code มาเป็นช่องทางเขา้ ถึงข้อมูลในเว็บไซตห์ รอื แอพพลิเคชันตา่ ง ๆ เช่น การเพิ่มเพ่ือน
ในไลนก์ ็เปน็ หน่ึงในความสามารถของ QR Code เชน่ กนั

2. อินเทอร์เน็ตแบงค์ก้ิง (Internet Banking) การธนาคารอินเทอร์เน็ต โดยมีช่ือเรียกมากมาย
เช่น อีแบงค์กิ้ง (E-Bankin) การธนาคารเสมือนจริง (Virtual Banking) การธนาคารออนไลน์ (Online
Banking) การธนาคารอเิ ล็กทรอนิกส์ (Electronic Banking) เป็นระบบท่ีใช้ในการชาระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์
โดยมีลูกค้าของสถาบันการเงนิ ทาธุรกรรมทางด้านการเงิน เช่น ซ้ือสินค้า เส้ือผ้า กระเปา๋ ไดห้ ลายรูปแบบโดย
ผ่านเว็บไซน์ของสถาบันการเงินนั้น ๆ ที่ลูกค้าเป็นสมาชิกอยู่ โดยตัวระบบการธนาคารอิเล็กทรอนิกส์มัก
เชือ่ มตอ่ กบั ระบบธนาคารแกน โดยระบบธนาคารแกนจะมสี ถาบันการเงินเป็นผบู้ รหิ ารจัดการ โดยจะมคี วาม
แตกตา่ งจากการธนาคารสาขาซึง่ การธนาคารสาขาจะมวี ิธีการแบบด้ังเดิมคอื ตอ้ งให้ลูกค้าเข้าถงึ การบริการของ
การธนาคารเอง

3. โมบายแบงค์กิ้ง (Mobile Banking) โมบายแบงค์ก้ิง (Mobile Banking) คล้ายอินเตอร์เน็ตแบงค์
ก้ิง (Internet Banking) เพียงแต่เป็นการใช้บริการผ่านแอพพลิเคชันของธนาคาร ทาให้สามารถโอนเงิน
สอบถามยอดในบัญชี ซื้อสินค้าและบริการจ่ายบิลต่าง ๆ ผ่านแอพพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือหรือสมาร์ทโฟน
ไดเ้ ลย ซงึ่ แต่ละธนาคารมีการพฒั นาแอพพลิเคชนั โมบายแบงค์กิ้ง ให้อานวยความสะดวกในการซื้อขายของ

26

27

แผนการจัดการเรียนรู้ม่งุ เนน้ สมรรถนะ หนว่ ยที่ 4
สอนครั้งที่ 11-14
ชื่อหน่วย ระบบการทาธรุ กรรมในธรุ กิจดิจิทัล
ชอื่ เรื่อง ระบบการทาธุรกรรมในธรุ กจิ ดจิ ิทลั ชว่ั โมงรวม 8
จานวนช่วั โมง 28

ออนไลน์มากขึ้นเพ่ือเข้ากับพฤติกรรมการใช้งานของผู้บริโภคในปัจจุบัน เช่น K PLUS ของธนาคารกสิกรไทย
เป็นต้น

4. พรอมต์เพย์ (PromptPay) เดิมมีช่ือว่า AnyID คือ ระบบการทาธุรกรรมแบบ E-Payment ท่ีผูก
บญั ชีเงินฝากไวก้ ับหมายเลขโทรศัพทม์ ือถือ หรอื เลขบัตรประชาชน ทาให้ไม่ตอ้ งเสียเวลาจาเลขบัญชที ่ยี าวและ
จายาก โดยเกดิ จากความรว่ มมอื ระหว่างธนาคารแห่งประเทศไทยและสมาคมธนาคารไทย

5. บัตรเครดิต (Credit Card) คือ บัตรที่ธนาคารพาณิชย์ หรือผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิตออก
ให้กับลูกค้าทร่ี ายได้ต่อเดือนถงึ เกณฑ์ เพ่ือท่ีจะสามารถนาเงินมาใชจ้ ่ายล่วงหน้า ท้ังซ้อื สินค้าและบริการต่าง ๆ
ทั้งยังซื้อของออนไลน์ จองตั๋วเครื่องบิน และจ่ายค่าสาธารณูปโภคต่าง ๆ โดยต้องชาระหนี้ในภายหลังพร้อม
อัตราดอกเบ้ยี ทีก่ าหนดไว้ นอกจากนบ้ี ัตรเครดติ ยงั ช่วยลดการพกพาเงินสดจานวนมากท่ีเส่ยี งต่อการสูญหาย

6. บัตรกดเงินสด (Cash Card) คือ บัตรท่ีใช้กดเงินสดออกจากตู้เอทีเอ็มในวงเงินท่ีได้รับอนุมัติ
ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมการกดเงินสดเหมอื นกบั บัตรเครดติ แต่ไม่สามารถใช้ซอ้ื สินค้าหรือซื้อสินคา้ ออนไลนไ์ ด้
ยกเวน้ สาหรบั บางบตั รทใี่ ชผ้ อ่ นสินค้ากับรา้ นคา้ ทร่ี ว่ มรายการได้

7. อีวอลเล็ท (e - Wallet) มีชื่อเรียกอย่างอื่นว่า โมบายวอลเล็ท (Mobile Wallet) หรือ ดิจิทัล
วอลเล็ท (Digital Wallet) คือ กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ โดยเติมเงินจากบัญชีธนาคารเข้าแอพพลิเคช่ัน อี
วอลเล็ท ไม่มีกาหนดข้ันต่า สาหรับผู้ที่เคยสมัครพรอมต์เพย์ (PromptPay) โดยใช้เบอร์โทรศัพท์มือถือ
สามารถนามาสมัครได้เช่นกัน โดยจะเพิ่มรหัสบริษัทผู้ให้บริการอีก 5 หลัก รวมเป็น 15 หลัก เวลาจะเติมเงิน
เขา้ อีวอลเล็ทต้องระบหุ มายเลข 15 หลัก ไม่อยา่ งนัน้ จะเปน็ การโอนเงนิ เข้าบญั ชธี นาคารแทน

5. กจิ กรรมการเรียนรู้
5.1การนาเข้าสบู่ ทเรยี น
5.1.1ผสู้ อนเตรยี มสื่อเพาเวอร์ พอยต์ (Power Point)
5.1.2ผ้สู อนเตรียมส่อื เพาเวอร์ พอยต์
5.1.3ผ้สู อนทาการสอนทัง้ ในห้องเรียน และ ทางออนไลน์ กล่าวทกั ทายผเู้ รียน
5.1.4ผสู้ อนตรวจสอบรายช่อื ผู้เรียน
5.1.5ผู้สอนให้ผเู้ รียนทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น เพ่อื ทดสอบความรขู้ องผูเ้ รียน
5.1.6ผสู้ อนเตรียมแบบทดสอบกอ่ นเรยี น

27

28

แผนการจดั การเรยี นรู้มงุ่ เนน้ สมรรถนะ หนว่ ยท่ี 4
สอนครงั้ ท่ี 11-14
ช่อื หน่วย ระบบการทาธรุ กรรมในธุรกจิ ดจิ ทิ ลั
ชือ่ เรอ่ื ง ระบบการทาธุรกรรมในธุรกจิ ดิจิทัล ช่วั โมงรวม 8
จานวนชั่วโมง 28

5.2การเรียนรู้
5.2.1ผสู้ อนอธบิ ายความหมายของธุรกรรมโดยใชส้ ือ่ Power Point
5.2.2ผสู้ อนตงั้ คาถามกับผเู้ รียนเก่ียวกับความหมายของธุรกรรม
5.2.3ผเู้ รียนตอบคาถาม

5.2.4ผู้สอนอธบิ ายธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยใชส้ ือ่ Power
5.2.5ผู้สอนตงั้ คาถามกับผูเ้ รียน
5.2.6ผู้สอนอธบิ ายเก่ียวกับระบบธุรกรรมดจิ ิทลั โดยใชส้ ื่อ Power Point ผสู้ อนอธบิ าย

เก่ียวกับรูปแบบการทาธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส์ โดยใชส้ อื่ Power Point
5.2.7ผูส้ อนอธิบายยกตัวอยา่ งรปู แบบการทาธุรกรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์ โดยใชส้ ื่อ Power

Point
5.2.8ผสู้ อนมอบหมายแบบฝกึ หัดหนว่ ยท่ี 4 ในเอกสารประกอบการเรยี น
5.2.9ผสู้ อนเตรียมแบบฝกึ หัด

5.3การสรุป

5.3.1 ประเมินจากแบบฝึกหดั หนว่ ยที่ 4

5.4 วัดผลและประเมินผล
5.4.1 ประเมินจากแบบทดสอบก่อนเรยี น
5.4.2 ประเมนิ จากแบบทดสอบหลงั เรยี น

6. สอื่ การเรียนร/ู้ แหล่งการเรียนรู้
6.1 สื่อสิ่งพิมพ์
6.1.1 หนังสือพื้นฐานธุรกิจดจิ ิทัล. ประภาวรรณ เกษวิริยะการณ์. สานักพิมพเ์ มืองไทย

6.2 สอ่ื โสตทัศน์
6.2.1 ส่ือการเรยี นการสอน Power Point วชิ า พน้ื ฐานธรุ กจิ ดจิ ิทลั
6.2.2 เคร่ืองโปรเจ็คเตอร์
6.2.3 เคร่ืองคอมพิวเตอร์
6.2.4 ระบบอินเตอรเ์ น็ตในการเรียนออนไลน์

28

29

แผนการจดั การเรียนรู้มุ่งเนน้ สมรรถนะ หนว่ ยที่ 4
สอนครัง้ ที่ 11-14
ชื่อหน่วย ระบบการทาธุรกรรมในธุรกจิ ดิจิทลั
ชอ่ื เร่อื ง ระบบการทาธรุ กรรมในธรุ กิจดิจทิ ัล ชว่ั โมงรวม 8
จานวนช่ัวโมง 28

7. เอกสารประกอบการจัดการเรยี นรู้ (ใบความรู้ ใบงาน ใบมอบหมายงาน)
แบบฝึกหดั หนว่ ยที่ 4 เรอ่ื งระบบการทาธุรกรรมในธรุ กิจดจิ ิทลั

8. การบูรณาการ/ความสมั พนั ธ์กบั วิชาอ่ืน
บูรณาการรายวิชากบั หลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง และคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์

9. การวัดและประเมินผล
9.1 ก่อนเรยี น
วัดผลจากแบบทดสอบกอ่ นเรียนหน่วยที่ 4

9.2 ขณะเรียน
สงั เกตขณะนง่ั เรียนและทาแบบฝกึ หัด
สงั เกตจากการตอบคาถาม

9.3 หลงั เรยี น
ประเมนิ จากการสรปุ บทเรียนและการตอบคาถาม
ประเมินจากแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยที่ 4

29

30

แผนการจัดการเรยี นรมู้ ุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 5
สอนครงั้ ท่ี 15-18
ชื่อหน่วย สื่อสังคมออนไลน์กับธุรกิจดิจิทัล
ช่ือเร่อื ง ส่ือสังคมออนไลน์กับธุรกิจดจิ ิทัล ชว่ั โมงรวม 8
จานวนชว่ั โมง 36

1. สาระสาคญั

ปัจจุบันการสื่อสารของมนุษย์ได้รับการพัฒนาให้สื่อสารถึงกันอย่างรวดเร็ว อันเป็นผลมาจาก
ความก้าวหน้าดา้ นเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ท่ีได้เข้ามามบี ทบาทในชีวติ ประจาวันของมนุษย์มากข้ึน สื่อชนดิ หน่ึง
ท่ีผู้ใช้สามารถมีส่วนร่วมสร้าง และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่าง ๆ ผ่านระบบอินเตอร์เน็ตได้ คือ ส่ือสังคม
(social media) หรอื ท่ีนยิ มเรียกว่า สื่อออนไลน์ หรอื ส่ือสงั คมออนไลน์

สอื่ สังคมออนไลน์(Social Media) เป็นรูปแบบการสื่อสารข้อมูลที่เข้าถึงผู้คนทุกระดับในปัจจุบัน โดย
มีการใช้กันอย่างแพร่หลาย ภายใต้การพัฒนาตลอดเวลาของเทคโนโลยีทางด้านคอมพิวเตอร์ซึ่งมีแนวโน้มจะ
กลายเปน็ สอ่ื หลักสาหรับผคู้ นในโลกอนาคต

2. สมรรถนะประจาหนว่ ย

2.1 แสดงความรูเ้ ก่ียวกับความหมายของส่ือสงั คมออนไลน์
2.2 จาแนกประเภทของส่ือสังคมออนไลน์
2.3 เลือกใช้อุปกรณ์เคร่ืองมือทางสื่อสังคมออนไลน์
2.4 จาแนกประโยชน์และขอ้ จากดั ของสังคมออนไลน์
2.5 จาแนกขอ้ ดีและข้อเสยี ของสื่อสงั คมออนไลน์
2.6 เลือกใชส้ ่อื สังคมออนไลน์
2.7 เตรยี มวัสดุอปุ กรณเ์ หมาะสมกับการปฏบิ ัตงิ าน
2.8 แสดงพฤติกรรมท่ีมีเจตคตทิ ีด่ ี ปฏิบตั งิ านด้วยความรบั ผดิ ชอบ ซอื่ สตั ย์ ละเอยี ดรอบคอบ

3. จุดประสงค์การเรียนรู้

3.1ด้านความรู้

3.1.1 เพอ่ื ให้มีความรู้และความเข้าใจเกย่ี วกับความหมายของสอื่ สังคมออนไลน์
3.1.2 เพือ่ ให้เข้าประเภทของสื่อสังคมออนไลน์
3.1.3 เพื่อใหเ้ ขา้ ใจอุปกรณ์เคร่ืองมือทางส่ือสงั คมออนไลน์
3.1.4 เพื่อให้เขา้ ใจประโยชน์และข้อจากดั ของสงั คมออนไลน์
3.1.5 เพ่ือใหเ้ ขา้ ใจขอ้ ดีและขอ้ เสยี ของสือ่ สังคมออนไลน์
3.1.6 เพ่ือให้เข้าใจการใชส้ อื่ สังคมออนไลน์

30

31

แผนการจัดการเรยี นรู้ม่งุ เนน้ สมรรถนะ หน่วยท่ี 5
สอนครงั้ ท่ี 15-18
ช่ือหน่วย ส่ือสังคมออนไลน์กบั ธุรกจิ ดจิ ทิ ลั
ช่ือเรอ่ื ง สือ่ สงั คมออนไลน์กับธุรกจิ ดจิ ทิ ัล ช่ัวโมงรวม 8
จานวนช่วั โมง 36

3.2 ด้านทักษะ

3.2.1อธิบายความหมายของสอ่ื สังคมออนไลน์ได้
3.2.2จาแนกประเภทของส่อื สงั คมออนไลน์ได้
3.2.3เลอื กใช้อุปกรณ์เครือ่ งมือทางสอ่ื สังคมออนไลน์ได้
3.2.4จาแนกประโยชน์และข้อจากัดของสังคมออนไลน์ได้
3.2.5จาแนกข้อดีและข้อเสยี ของสื่อสังคมออนไลน์ได้
3.2.6เลอื กใชส้ ่ือสังคมออนไลน์ได้

3.3 คณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์

3.3.1 มเี จตคติทดี่ ี
3.3.2 ปฏิบตั ิงานดว้ ยความรบั ผิดชอบ
3.3.3 ซือ่ สัตย์
3.3.4 ละเอียดรอบคอบ

4. เนอื้ หาสาระการเรยี นรู้

ความหมายของส่ือสงั คมออนไลน์
ส่อื สังคมออนไลน์ (social media) หมายถึง สอื่ ดิจทิ ัลซ่ึงเปน็ ส่ือกลางที่ให้บุคคลท่ัวไปมีสว่ นรว่ มสร้าง

และแลกเปล่ียนความคิดเห็นต่าง ๆ ผ่านอินเตอร์เน็ตได้ เป็นเคร่ืองมือในการปฏิบัติการทางสังคม (Social
Tool) เพ่ือใช้ส่ือสารระหว่างกันในเครือข่ายทางสังคม (Social Network) ผ่านทางเว็บไซต์และโปรแกรม
ประยุกต์บนส่ือใด ๆ ที่มีการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต โดยเน้นให้ผู้ใช้ท้ังท่ีเป็นผู้ส่งสารและผู้รับสารมีส่วน
ร่วม (Collaborative) อยา่ งสร้างสรรค์ ในการผลิตเนือ้ หาข้ึนเอง (User-GenerateContent: UGC) ในรูปของ
ข้อมูล ภาพ และเสียง ส่ือเหล่านี้เป็นของบริษัทต่าง ๆ ท่ีให้บริการผ่านเว็บไซต์ของตน เช่น เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์
วิกพิ ีเดยี เป็นต้น

ประเภทของส่อื สังคมออนไลน์
1. เว็บบล็อก (Weblogs) หรือเรียกสั้น ๆ ว่า บล็อก (Blogs) คือ สื่อส่วนบุคคลบน
อินเทอร์เน็ตที่ใช้เผยแพร่ข้อมูล ข่าวสาร ความรู้ ข้อคิดเห็น บันทึกส่วนตัว โดยสามารถ
แบง่ ปันใหบ้ ุคคลอื่น ๆ โดยผู้รบั สาร

31

32

แผนการจัดการเรยี นร้มู งุ่ เน้นสมรรถนะ หนว่ ยที่ 5
สอนคร้ังท่ี 15-18
ชือ่ หน่วย สื่อสังคมออนไลน์กับธรุ กจิ ดิจทิ ัล
ชอ่ื เรอ่ื ง สื่อสังคมออนไลนก์ ับธรุ กิจดจิ ิทัล ชวั่ โมงรวม 8
จานวนชั่วโมง 36

สามารถเข้าไปอ่าน หรือแสดงความคิดเห็นเพ่ิมเติมได้ ซ่ึงการแสดงเน้ือหาของบล็อกน้ันจะเรียงลาดับจาก
เนือ้ หาใหม่ไปสเู่ นอื้ หาเกา่ ผู้เขยี นและผอู้ า่ นสามารถค้นหาเนือ้ หาย้อนหลงั เพอื่ อ่านและแก้ไขเพมิ่ เติมได้

ตลอดเวลา เช่น เอ็กซ์ทีน (Exteen) บล็อกแก๊งค์ (Bloggang) เวิร์ดเพรส (Wordpress) บล็อกเกอร์
(Blogger) เป็นตน้

2. เครือข่ายสังคมออนไลน์ (Social Networking) หรือเครือขา่ ยทางสังคมในอินเตอร์เน็ต ซึ่งเป็น
เครือข่ายทางสังคมท่ีใช้สาหรับเช่ือมต่อระหว่างบุคคล กลุ่มบุคคล เพื่อให้เกิดเป็นกลุ่มสังคม (Social
Community) เพื่อร่วมกันแลกเปลี่ยนและแบ่งปันข้อมูลระหว่างกันท้ังด้านธุรกิจ การเมือง การศึกษา
เช่น เฟสบุ๊ค (Facebook) ลิงค์อิน (Linkedin) มายสเปซ (MySpace) เป็นต้น

3. บล็อกจิ๋ว (Micro Blogging และ Micro Sharing) ซ่ึงเป็นเว็บเซอร์วิสหรือเว็บไซต์ท่ีให้บริการ
แก่บุคคลทั่วไป สาหรับให้ผู้ใช้บริการเขียนข้อความสั้น ๆ ประมาณ 140 ตัวอักษร ท่ีเรียกว่า “Status”
หรอื “Notice” เพ่ือแสดงสถานะของตัวเองว่ากาลังทาอะไรอยู่ หรือแจ้งข่าวสารต่าง ๆ แก่กลุ่มเพ่ือนในสังคม
ออนไลน์ (Online Social Network) ท้ังน้ีการกาหนดให้ใช้ข้อมูลในรูปข้อความส้ัน ๆ ก็เพ่ือให้ผู้ใช้ที่เป็นทั้ง
ผเู้ ขียนและผอู้ ่านเข้าใจง่าย ท่นี ิยมใช้กนั อยา่ งแพรห่ ลายคือ ทวติ เตอร์ (Twitter)

4. วิดีโอออนไลน์ (Online Video) เป็นเว็บไซต์ที่ให้บริการวิดีโอออนไลน์โดยไม่เสยี ค่าใช้จา่ ย ซึ่ง
ปัจจุบันได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายและขยายตัวอย่างรวดเร็ว เน่ืองจากเน้ือหาท่ีนาเสนอในวดิ ีโอออนไลน์
ไม่ถกู จากัดโดยผังรายการท่ีแนน่ อนและตายตวั ทาให้ผูใ้ ช้บริการสามารถตดิ ตามชมได้อย่างต่อเน่ือง เพราะไม่มี
โฆษณาคั่น รวมทัง้ ผู้ใช้สามารถเลอื กชมเน้อื หาได้ตามความต้องการและยงั สามารถเชื่อมโยงไปยังเว็บวิดีโออน่ื ๆ
ทีเ่ ก่ยี วข้องได้จานวนมากอีกดว้ ย เช่น ยูทูป(Youtube) เอม็ เอสเอน็ (MSN) ยาฮู (Yahoo) เป็นต้น

5. บริการแชร์ภาพ (Photo Sharing) เป็นเว็บไซต์ที่เน้นให้บริการฝากรูปภาพ หรือวิดีโอผ่าน ไอ
คลาวด์ (iCloud)โดยผู้ใช้บริการสามารถอัพโหลดและดาวน์โหลดรูปภาพเพ่ือนามาใช้งานได้ ที่สาคัญ
นอกเหนือจากผู้ใช้บริการจะมีโอกาสแบ่งปันรูปภาพแล้ว ยังสามารถใช้เป็นพื้นที่เพ่ือเสนอขายภาพที่ตนเอง
นาเขา้ ไปฝากได้อีกด้วย เชน่ ฟลคิ เกอร์ (Flickr) โฟโตบัคเก็ต ( Photo bucket) เปน็ ต้น

6. วิกิ (Wikis) เป็นเว็บไซต์ที่มีลักษณะเป็นแหล่งข้อมูลหรือความรู้ (Data/Knowledge) ซ่ึงผู้เขียน
สว่ นใหญอ่ าจจะเป็นนักวิชาการ นักวิชาชีพหรอื ผเู้ ชย่ี วชาญเฉพาะทางด้านต่าง ๆ ท้ังการเมือง เศรษฐกิจ สังคม
วัฒนธรรม ซึ่งผู้ใช้สามารถเขียนหรือแก้ไขข้อมูลได้อย่างอิสระ เช่น วิกิพีเดีย (Wikipedia) กูเก้ิลเอิร์ท
(Google Earth) เปน็ ตน้

32

33

แผนการจดั การเรียนรูม้ ุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยท่ี 5
สอนครง้ั ท่ี 15-18
ชือ่ หน่วย สื่อสังคมออนไลน์กบั ธรุ กจิ ดิจิทลั
ชอ่ื เรอื่ ง สือ่ สังคมออนไลนก์ ับธรุ กจิ ดิจทิ ลั ชว่ั โมงรวม 8
จานวนชัว่ โมง 36

7. โลกเสมือน (Virtual Worlds) คือ การสร้างโลกจินตนาการโดยจาลองส่วนหน่ึงของชีวิตลงไป
จัดเป็นสื่อสังคมออนไลน์ท่ีบรรดาผู้ท่องโลกไซเบอร์ใช้เพื่อส่ือสารระหว่างกันบนอินเตอร์เน็ตในลักษณะโลก
เสมือนจริง (Virtual Reality : VR) ซึ่งผู้ท่ีจะเข้าไปใช้บริการอาจจะบริษัทหรือองค์การด้านธุรกิจ ด้าน
การศกึ ษา รวมถงึ องค์การดา้ นส่อื เช่น สานกั ข่าวรอยเตอร์ สานกั ข่าวซีเอน็ เอน็ ตอ้ งเสียค่าใช้จา่ ยในการซื้อ

พื้นท่ีเพื่อให้บุคคลในบริษัทหรือองค์กรได้มีช่องทางในการนาเสนอเรื่องราวต่าง ๆ ไปยังกลุ่มเครือข่ายผู้ใช้สื่อ
ออนไลน์

8. ปัญญารวมหมู่ (Crowd Sourcing) มาจากการรวมของคาสองคา คือ Crowd และ Out
sourcing เป็นหลักการขอความร่วมมือจากบุคคลในเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยสามารถจัดทาในรูปของ
เวบ็ ไซต์ท่ีมวี ัตถุประสงค์หลักเพ่ือค้นหาคาตอบและวิธีการแก้ปัญหาตา่ ง ๆ ทง้ั ทางธุรกิจ การศึกษา รวมทั้งการ
สอื่ สาร

9. พอดแคสติ้ง (Podcasting หรือ Podcast) มาจากการรวมตัวของสอง คือ “Pod” กับ “Broad
casting คา” ซ่ึง “POD” หรือ PersonalOn - Demand คือ อุปสงค์หรือความต้องการส่วนบุคคล ส่วน
“Broadcasting” เป็นการนาส่ือต่าง ๆ มารวมกันในรูปของภาพและเสียง หรืออาจกล่าวง่าย ๆ พอดแคสท์ คือ
การบันทึกภาพและเสียงแล้วนามาไว้ในเวบ็ เพจ (Web Page) เพ่ือเผยแพร่ให้บุคคลภายนอก (The public in
general) ทส่ี นใจดาวน์โหลดเพื่อนาไปใชง้ าน เช่น วกิ กลพี อดคาสท์ (Wiggly Podcast) เปน็ ตน้

10. การแลกเปล่ียนความเห็น/การทบทวน/ ความคิดเห็น (Discuss / Review/ Opinion) เป็น
เว็บบอร์ดท่ีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตสามารถแสดงความคิดเห็น โดยอาจจะเก่ียวกับสินค้าหรือบริการ ประเด็น
สาธารณะทางการเมือง เศรษฐกจิ สังคม เช่น พันทปิ (Pantip) เย็ลพ (Yelp) เป็นตน้

ปัญหาการใช้สอ่ื สงั คมออนไลน์
ส่ือสังคมออนไลน์ อาจไม่เป็นกลาง สามารถท่ีจะก่อให้เกิดผลกระทบในวงกว้างทั้งด้านความคิด

อารมณ์ ความรู้สึกของสมาชิก หรือผู้รบั สื่อสังคมออนไลน์ ผลกระทบทีเ่ กิดข้ึนอาจมีทั้งข้อดีและข้อเสียและไม่
สามารถควบคุมได้ กรณีท่ีเผยแพร่ข้อมูลผ่านเว็บไซต์ผู้สร้างข้อมูลสามารถเปลี่ยนแปลง แก้ไข และสามารถ
กาหนดเง่ือนไข ความรับผิดชอบ การควบคุมเนื้อหาสาระได้ขณะที่การเผยแพร่ข้อมูลผ่าน ส่ือสังคมออนไลน์ผู้
เผยแพร่ไม่สามารถเป็นผู้กาหนดขอบเขตความรับผิดชอบได้เองแต่ผู้ให้บริการส่ือสังคมออนไลน์จะเป็นผู้
กาหนดขอบเขตความรบั ผิดชอบ ผูใ้ ช้ไมส่ ามารถเปล่ียนแปลงข้อมูลได้ซ่งึ มีท้งั ท่ี เปน็ ทางการและไมเ่ ป็นทางการ

33

34

แผนการจดั การเรยี นรมู้ ุ่งเนน้ สมรรถนะ หน่วยท่ี 5
สอนคร้งั ที่ 15-18
ชอื่ หน่วย ส่ือสังคมออนไลน์กับธุรกจิ ดจิ ทิ ัล
ชอื่ เรอื่ ง ส่อื สงั คมออนไลน์กับธรุ กิจดจิ ิทลั ช่ัวโมงรวม 8
จานวนชั่วโมง 36

ส่ือสังคมออนไลน์มีความเป็นทางการ และควบคุมการทางานได้น้อย ขาดความยืดหยุ่น แต่เปิด
กว้าง ทาใหข้ าดความนา่ เช่อื ถือ ขาดการเคารพกฎเกณฑ์ของสังคม การสื่อสารและการแลกเปลี่ยนข้อมูล มกี าร
เคลอื่ นไหวรวดเร็วกวา่ สอื่ ในรูปแบบเดิมทาให้สามารถสรา้ งกระแสต่อสังคมในด้านต่าง ๆ ทั้งกระแสที่ดีและไม่ดี
การละเมิดลิขสิทธ์ิและสิทธิส่วนบุคคล อาญากรรมคอมพิวเตอร์ รวมทั้ง อาจเป็นภัยคุกคาม ทางความม่ันคง
แต่เป็นความท้าทายของหน่วยงานของรัฐ หรือ หน่วยงานท่ีเป็นทางการ เช่น รัฐสภา รัฐบาล ท่ีจะนามา
ประยุกตใ์ ช้ เป็นตน้

ข้อดแี ละขอ้ เสยี ของสอ่ื สังคมออนไลน์
ข้อดีของส่ือสังคมออนไลน์

1. สามารถใช้สรา้ งเปน็ พน้ื ทใ่ี นการสนทนา/ สือ่ สารแกส่ าธารณะได้
2. หนว่ ยงานหรอื องคก์ รต่าง ๆ สามารถเข้าไปใกล้ชดิ กับสาธารณชนมากขนึ้
3. สามารถสรา้ งความนา่ เชอื่ ถอื และความไว้วางใจ
4. สนบั สนนุ ความโปร่งใส และธรรมาภบิ าล
5. สร้างโอกาสใหบ้ คุ คลหรือกลุม่ ท่ี 3 ในการเขา้ มามีส่วนรว่ ม และสนับสนนุ เผยแพร่
6. การส่งต่อข้อมูลในลักษณะทาซ้าตัวเองเปน็ ทอดๆ (Viral distribution) ทาใหม้ ีการ กระจาย

ขอ้ มูลอย่างรวดเร็ว
7. ลดต้นทนุ การดาเนนิ การ
8. ช่วยใหเ้ ข้าใจความคิดเหน็ ของประชาชนไดม้ ากขึน้
9. สามารถตดิ ตามความเคลือ่ นไหวได้ ตลอดเวลา
10. ลดเวลาที่จะได้รับข้อมูลข่าวสารลง
11. สามารถท่ีจะนามาเป็นสว่ นหน่ึงของกลยุทธ์ใน การส่ือสาร และเป็นส่ือกลางในการ

ขยายการเข้าถงึ ขอ้ มูลขา่ วสารและเผยแพรข่ ่าวสาร

ขอ้ เสียของสงั คมออนไลน์
1. มารยาทและรปู แบบการใชง้ านแตกต่างจากสอื่ รูปแบบอืน่
2. มคี วามเสย่ี งของความไมแ่ ทจ้ รงิ การหลอกลวง ความซ่อื สตั ยแ์ ละความไม่ โปร่งใสในการ
ใช้งาน

34

35

แผนการจดั การเรียนร้มู ุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 5
สอนครั้งท่ี 15-18
ชอ่ื หน่วย ส่ือสังคมออนไลน์กบั ธุรกิจดจิ ทิ ัล
ชอ่ื เร่ือง สอื่ สังคมออนไลนก์ ับธรุ กจิ ดจิ ิทัล ชวั่ โมงรวม 8
จานวนชัว่ โมง 36

3. มีศกั ยภาพในการเปลีย่ นแปลงอยา่ งรวดเรว็ และอยเู่ หนอื การควบคมุ ของเจ้าของ
4. การหาเครอื ขา่ ยใหม่ การสร้างเรอื่ งใหม่ ๆ เป็นเรอื่ งยากท่จี ะคาดเดาได้ว่าจะมีจานวน ผู้ใช้

เท่าใดและไมม่ ีการรบั รองผลว่าการ สือ่ สารจะเกิดขึ้นและส่งสารไปยังผู้รบั สาร
5. สอ่ื สังคมออนไลน์ไม่ใชท่ างลัด ท่ีมีประสิทธภิ าพเพียงอย่างเดียวแต่ยังต้องนาส่ือหลักและ

หลกั การส่ือสารที่ดมี าใช้ควบคกู่ ันไป

5. กจิ กรรมการเรยี นรู้
5.1การนาเข้าสู่บทเรยี น
5.1.1ผู้สอนเตรียมสื่อเพาเวอร์ พอยต์ (Power Point)
5.1.2ผูส้ อนตรวจสอบรายชอ่ื ผู้เรยี น
5.1.3ผู้สอนใหผ้ ู้เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรยี น เพอ่ื ทดสอบความรู้ของผเู้ รียน
5.1.4ผสู้ อนเตรียมแบบทดสอบก่อนเรยี น

5.2การเรยี นรู้
5.2.1ผสู้ อนอธิบายความหมายของสื่อสังคมออนไลน์ โดยใชส้ ือ่ Power Point
5.2.2ผู้สอนต้งั คาถามกับผเู้ รยี นเก่ียวกบั ความหมายความหมายของสือ่ สังคมออนไลน์
5.2.3ผู้เรยี นตอบคาถาม
5.2.4ผูส้ อนอธบิ ายประเภทของส่อื สงั คมออนไลน์ โดยใช้สอื่ Power
5.2.5ผสู้ อนตั้งคาถามกับผู้เรียน
5.2.6 ผสู้ อนอธิบายเกย่ี วกับอปุ กรณ์เครอ่ื งมือทางสอ่ื สังคมออนไลน์ โดยใช้ส่ือ Power
Point
5.2.7 ผู้สอนอธิบายเกย่ี วกับประโยชนแ์ ละข้อจากดั ของสงั คมออนไลน์ โดยใช้ส่ือ Power
Point
5.2.8ผสู้ อนอธบิ ายพฒั นาการของส่ือสงั คมออนไลน์ โดยใช้ส่อื Power Point
5.2.9ผู้สอนอธบิ ายปญั หาการใช้สื่อสังคมออนไลน์ โดยใชส้ ่ือ Power
5.2.10 ผู้สอนอธิบายข้อดแี ละข้อเสยี ของส่ือสงั คมออนไลน์ โดยใชส้ อื่ Power Point
5.2.11 ผู้สอนอธิบาย การใชส้ ื่อสังคมออนไลนใ์ นประเทศไทย โดยใชส้ อื่ Power Point

35

36

แผนการจัดการเรียนรู้มุ่งเนน้ สมรรถนะ หน่วยท่ี 5
สอนคร้ังที่ 15-18
ชอื่ หน่วย สื่อสังคมออนไลนก์ ับธุรกจิ ดิจิทัล
ชื่อเรอ่ื ง สื่อสงั คมออนไลนก์ ับธุรกิจดจิ ทิ ลั ชัว่ โมงรวม 8
จานวนช่วั โมง 36

5.2.12 ผู้สอนมอบหมายแบบฝกึ หดั หนว่ ยที่ 5 ในเอกสารประกอบการเรียน
5.2.13 ผสู้ อนเตรียมแบบฝึกหัด

5.3 การสรุป
5.3.1 ประเมินจากแบบฝกึ หัดหน่วยที่ 5

5.4 วัดผลและประเมินผล
5.4.1 ประเมินจากแบบทดสอบก่อนเรยี น
5.4.2 ประเมินจากแบบทดสอบหลงั เรียน

6. สอื่ การเรียนร้/ู แหล่งการเรียนรู้
6.1 ส่ือส่งิ พิมพ์
6.1.1 หนังสือพื้นฐานธรุ กจิ ดจิ ิทลั . ประภาวรรณ เกษวิรยิ ะการณ์. สานักพิมพ์เมืองไทย

6.2 สอ่ื โสตทัศน์
6.2.1 สื่อการเรียนการสอน Power Point วิชา พ้ืนฐานธุรกจิ ดิจทิ ัล
6.2.2 เคร่ืองโปรเจ็คเตอร์
6.2.3 เคร่ืองคอมพิวเตอร์
6.2.4 ระบบอินเตอร์เน็ตในการเรียนออนไลน์

7. เอกสารประกอบการจดั การเรยี นรู้ (ใบความรู้ ใบงาน ใบมอบหมายงาน)
แบบฝึกหัดหนว่ ยท่ี 5 เรอ่ื งส่ือสงั คมออนไลนก์ บั ธุรกจิ ดจิ ิทัล

8. การบรู ณาการ/ความสัมพันธก์ บั วิชาอน่ื
บรู ณาการรายวชิ ากับหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์

9. การวัดและประเมนิ ผล
9.1 ก่อนเรียน
วัดผลจากแบบทดสอบกอ่ นเรียนหน่วยที่ 5

36

แผนการจดั การเรยี นรู้มุ่งเน้นสมรรถนะ 37

ชอื่ หน่วย สื่อสังคมออนไลนก์ ับธุรกิจดิจิทัล หนว่ ยท่ี 5
สอนครงั้ ที่ 15-18
ชือ่ เรอ่ื ง สอื่ สงั คมออนไลน์กับธรุ กจิ ดิจทิ ลั
ชั่วโมงรวม 8
9.2 ขณะเรยี น จานวนช่ัวโมง 36
สังเกตขณะนัง่ เรียนและทาแบบฝกึ หัด
สงั เกตจากการตอบคาถาม

9.3 หลงั เรียน
ประเมินจากการสรปุ บทเรียนและการตอบคาถาม
ประเมนิ จากแบบทดสอบหลังเรยี น หนว่ ยที่ 5

37

38

แผนการจัดการเรียนร้มู งุ่ เนน้ สมรรถนะ หน่วยท่ี 6
สอนคร้งั ท่ี 19-22
ชอื่ หน่วย ธรุ กจิ ดจิ ทิ ัลโมบาย
ชอ่ื เรอื่ ง ธุรกิจดจิ ทิ ัลโมบาย ชัว่ โมงรวม 8
จานวนชว่ั โมง 44

1. สาระสาคัญ

ในยุคแห่งอนาคตที่จะถูกควบคุมด้วยระบบดิจิทัลผ่านสมาร์ทโฟน การผสมผสานเทคโนโลยีการ
ส่อื สารเข้ากับแพลตฟอร์ม การเช่ือมโยงส่วนต่าง ๆ ในองค์กร (Connecting Value) ใหส้ ามารถทางานร่วมกัน
ได้ เกดิ นวัตกรรมใหม่ ๆ ทีเ่ ปลี่ยนวิถีชีวติ และกระบวนการทางาน ต้งั แต่วิธีการสอ่ื สาร ติดตอ่ รบั ส่งขา่ วสารต่าง
ๆ ได้หลากหลาย และสะดวกมากขน้ึ ความห่างไกลไม่เปน็ อปุ สรรคอกี ตอ่ ไป เกดิ การเชอื่ มต่อท่ีมมี ูลคา่ ทีน่ าไปสู่
ขอ้ มูลขนาดใหญ่ (Big data) เพ่ือบนั ทึกและจัดเก็บ การค้นหา การแบ่งปัน และการวิเคราะห์ข้อมูลได้ภายใน
อนาคต

2. สมรรถนะประจาหนว่ ย

2.1 แสดงความรู้เกีย่ วกับความหมายของธรุ กจิ ดิจิทลั โมบาย
2.2 อธบิ ายความสาคัญของธุรกิจดิจิทัลโมบาย
2.3 เลอื กใช้แอพพลเิ คชันหลกั ของกลุ่มธรุ กจิ ดจิ ิทลั โมบาย
2.4 เลอื กใช้ระบบอุปกรณอ์ ิเลก็ ทรอนิกส์เคล่ือนที่ไร้สาย
2.5 เตรียมวัสดอุ ุปกรณ์เหมาะสมกบั การปฏบิ ตั ิงาน
2.6 แสดงพฤติกรรมทม่ี ีเจตคตทิ ดี่ ี ปฏบิ ัติงานดว้ ยความรับผิดชอบ ซอ่ื สตั ย์ ละเอียดรอบคอบ

3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

3.1ดา้ นความรู้

3.1.1 เพอ่ื ใหม้ ีความรู้และความเขา้ ใจเก่ียวกบั ความหมายของธุรกิจดจิ ิทลั โมบาย
3.1.2 เพอ่ื ใหเ้ ขา้ ใจความสาคัญของธรุ กิจดิจิทลั โมบาย
3.1.3 เพื่อให้เข้าใจแอพพลิเคชนั หลักของกล่มุ ธุรกิจดจิ ิทลั โมบาย
3.1.4 เพอ่ื ใหเ้ ข้าใจโครงสร้างพน้ื ฐานระบบอุปกรณ์อเิ ล็กทรอนกิ สเ์ คลอื่ นท่ีไรส้ าย
3.1.5 เพื่อให้เขา้ ใจเลือกใช้ระบบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เคล่ือนที่ไรส้ าย

38

39

แผนการจดั การเรียนรมู้ ุ่งเนน้ สมรรถนะ หนว่ ยที่ 6
สอนครัง้ ท่ี 19-22
ชอ่ื หน่วย ธรุ กจิ ดิจิทัลโมบาย
ชื่อเรอื่ ง ธรุ กิจดจิ ทิ ัลโมบาย ชัว่ โมงรวม 8
จานวนช่ัวโมง 44

3.2 ดา้ นทกั ษะ

3.2.1อธบิ ายความหมายของธรุ กิจดิจิทัลโมบายได้
3.2.2อธบิ ายความสาคัญของธุรกจิ ดิจิทัลโมบายได้
3.2.3เลือกใช้แอพพลิเคชันหลกั ของกล่มุ ธุรกิจดิจทิ ลั โมบายได้
3.2.4อธิบายโครงสรา้ งพื้นฐานระบบอปุ กรณ์อเิ ล็กทรอนิกส์เคล่ือนท่ไี ร้สายได้
3.2.5เลือกใช้ระบบอุปกรณ์อเิ ล็กทรอนิกส์เคล่ือนท่ีไร้สายได้

3.3 คุณลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์

3.3.1 มเี จตคตทิ ดี่ ี
3.3.2 ปฏบิ ัติงานดว้ ยความรบั ผิดชอบ
3.3.3 ซ่ือสัตย์
3.3.4 ละเอียดรอบคอบ

4. เนือ้ หาสาระการเรยี นรู้

ความหมายของธรุ กิจดิจทิ ัลโมบาย

ธุรกิจดิจิทัลโมบาย (Digital Mobile Business) เป็นกระบวนการทาธุรกิจออนไลน์ต่าง ๆ โดยใช้
เทคโนโลยีดิจิทัลและเทคโนโลยีเคล่ือนที่ไร้สาย เน้ือหาของธุรกรรมอยู่ในรูปของข้อมูลสารสนเทศที่เป็น
สญั ญาณดิจทิ ลั ในรูปของขอ้ ความ ภาพ และเสียง รวมถึงการใหบ้ รกิ ารต่าง ๆ ผ่านเทคโนโลยเี คลอ่ื นท่ีไร้สาย

ความสาคญั ของธรุ กจิ ดจิ ิทัลโมบาย

1. สามารถสนับสนนุ ใหผ้ ้ใู ชง้ านทาธรุ กรรมตา่ ง ๆ ได้งา่ ย ในเวลาใดและจากสถานท่ใี ด ๆ ก็ได้ เปน็
การเพ่ิมความสามารถในการแขง่ ขนั และการให้บริการของธุรกิจ รักษาลกู ค้าและผ้ใู ช้บริการให้คงอยู่ และสง่ ผล
ให้เกดิ การใชป้ ระโยชนจ์ ากข้อมลู ได้

2. สามารถปรับเปล่ียนระบบการให้บริการได้ตามความต้องการของผู้ใช้งาน เป็นการเพ่ิม
ความสามารถในการแข่งขันและการให้บริการของธุรกิจ รักษาลูกค้าและผู้ใช้บริการให้คงอยู่ และส่งเสริมการ
สรา้ งสรรคน์ วัตกรรม

39


Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

flow chart แสดงขั้นตอนการปฏิบัติงาน lmyour แปลภาษา กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน กาพย์เห่เรือ การเขียน flowchart โปรแกรม ตัวรับสัญญาณ wifi โน๊ตบุ๊คหาย ตัวอย่าง flowchart ขั้นตอนการทํางาน ผู้แต่งกาพย์เห่ชมไม้ ภูมิปัญญาหมายถึง มีสัญญาณ wifi แต่เชื่อมต่อไม่ได้ เชื่อมต่อแล้ว ไม่มีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ /roblox promo code redeem 3 พระจอม มีที่ไหนบ้าง AKI PLUS รีวิว APC UPS APC UPS คือ Adobe Audition Adobe Bridge Anapril 5 mg Aqua City Odaiba Arcade Stick BMW F10 jerk Bahasa Thailand Benz C63 ราคา Bootstrap 4 Bootstrap 4 คือ Bootstrap 5 Brackets Brother Scanner Brother iPrint&Scan Brother utilities Burnt HD C63s AMG CSS เว้น ช่องว่าง CUPPA COFFEE สุราษฎร์ธานี Cathy Doll หาซื้อได้ที่ไหน Clock Humidity HTC-1 ColdFusion Constitutional isomer Cuppa Cottage เจ้าของ Cuppa Cottage เมนู Cuppa Cottage เวียงสระ DMC DRx จ่ายปันผลยังไง Detroit Metal City Div class คือ Drastic Vita