เครื่องหมายเปรียบเทียบ ภาษาซี (c) ใช้ในการเปรียบเทียบค่า ว่ามีค่าเป็นจริงหรือเป็นเท็จ สามารถนำไปประยุกต์ ใช้ในการเป็นตัวตัดสินใจ หรือการเลือกกระทำ ก่อนอื่นจะต้องทราบเครื่องหมายต่าง ๆ ดังนี้
เครื่องหมาย == หมายถึงเท่ากับ
เครื่องหมาย != หมายถึงไม่เท่ากับ
เครื่องหมาย < หมายถึงน้อยกว่า
เครื่องหมาย <= หมายถึงน้อยกว่าหรือเท่ากับ
เครื่องหมาย > หมายถึงมากกว่า
เครื่องหมาย >= หมายถึงมากกว่าหรือเท่ากับ
เครื่องหมายตรรกศาสตร์นำมาใช้ในการพิจารณาผลลัพธ์ เครื่องหมายที่ใช้สำหรับการดำเนินการทางตรรกศาสตร์มีอยู่ 3 ชนิดคือ && , ||, !
&& เรียกว่า and ภาษาไทยใช้คำว่า และ มีค่าความจริง กรณีเดียวคือ จริงและจริง เป็นจริง นอกนั้นเป็นเท็จทุกกรณี
|| เรียกว่า or ภาษาไทยใช้คำว่า หรือ มีความเป็นเท็จ กรณีเดียวคือ เท็จและเท็จ เป๋นเท็จ นอกนั้นเป็นจริงทุกกรณี
ตัวดำเนินการ (Operators) คือกลุ่มของเครื่องหมายหรือสัญลักษณ์ที่ใช้ทำงานเหมือนกับฟังก์ชัน แต่แตกต่างกันตรงไวยากรณ์หรือความหมายในการใช้งาน ในภาษา Python นั้นสนับสนุนตัวดำเนินการประเภทต่างๆ สำหรับการเขียนโปรแกรม เช่น ตัวดำเนินการ + เป็นตัวดำเนินการทางคณิตศาสตร์ที่ใช้สำหรับการบวกตัวเลขเข้าด้วยกัน หรือตัวดำเนินการ > เป็นตัวดำเนินการเพื่อให้เปรียบเทียบค่าสองค่า
นี่เป็นรายการของตัวดำเนินการในภาษา Python ที่คุณจะได้เรียนในบทนี้
- Assignment operator
- Arithmetic operators
- Comparison operators
- Logical operators
Assignment operator
ตัวดำเนินการที่เป็นพื้นฐานที่สุดสำหรับการเขียนโปรแกรมในทุกๆ ภาษาก็คือ ตัวดำเนินการกำหนดค่า (Assignment operator) ตัวดำเนินการนี้แสดงโดยใช้เครื่องหมายเท่ากับ (=) มันใช้สำหรับกำหนดค่าให้กับตัวแปร มาดูตัวอย่างการใช้งานในภาษา Python
a = 3 b = 5.29 c = b name = 'Mateo' my_list = [2, 5, 8, 10, 24] x, y = 10, 20
ในตัวอย่าง เป็นการใช้งานตัวดำเนินการกำหนดค่าสำหรับกำหนดค่าให้กับตัวแปรประเภทต่างๆ โดยทั่วไปแล้ว ตัวดำเนินการกำหนดค่านั้นเกือบจะใช้ในทุกๆ ที่ในโปรแกรมและเป็นตัวดำเนินการที่ใช้บ่อยที่สุดของในบรรดาตัวดำเนินการทั้งหมด
Arithmetic operators
ตัวดำเนินการทางคณิตศาสตร์ (Arithmetic operators) คือตัวดำเนินการที่ใช้สำหรับการคำนวณทางคณิตศาสตร์ในพื้นฐาน เช่น การบวก การลบ การคูณ และการหาร มากไปกว่านั้น ในภาษา Python ยังมีตัวดำเนินการทางคณิตศาสตร์เพิ่มเติม เช่น การหารเอาเศษ (Modulo) การหารแบบเลขจำนวนเต็ม และการยกกำลัง เป็นต้น
นี่เป็นตารางของตัวดำเนินการทางคณิตศาสตร์ในภาษา Python
ตัวดำเนินการชื่อตัวอย่าง+บวก (Addition)10 + 3–ลบ (Subtraction)10 – 3*คูณ (Multiplication)10 * 3/หาร (Division)10 / 3//หารปัดเศษ (Division and floor)10 // 3%หารเอาผลลัพธ์เฉพาะเศษ (Modulus)10 % 3**ยกกำลัง (Power)10 ** 3ในตารางข้างบน เรามีตัวดำเนินการทางคณิตศาสตร์ประเภทต่างๆ สำหรับการคำนวณเกี่ยวกับคณิตศาสตร์เบื้องต้น คุณอาจจะคุ้นเคยกับตัวดำเนินการบวก ลบ คูณ หาร ในการเรียนระดับมัธยมศึกษามาบ้างแล้ว ในภาษา Python นั้นสนับสนุนตัวดำเนินการสำหรับการหารเอาเศษเช่นเดียวกับภาษาอื่นๆ และนอกจากนี้ ยังมีตัวดำเนินการแบบการหารที่ได้ผลลัพธ์เป็นจำนวนเต็ม และการหาเลขยกกำลังเพิ่มเข้ามา มาดูตัวอย่างการใช้ตัวดำเนินการประเภทต่างๆ ในภาษา Python
a = 5 b = 3 print("a + b = ", a + b) print("a - b = ", a - b) print("a * b = ", a * b) print("a / b = ", a / b) print("a // b = ", a // b) # floor number to integer print("a % b = ", a % b) # get division remainder print("a ** b = ", a ** b) # power
ในตัวอย่าง เราได้ประกาศตัวแปร a และ b และกำหนดค่าให้กับตัวแปรทั้งสองเป็น 5 และ 3 ตามลำดับ ในสี่ตัวดำเนินการแรกเป็นการดำเนินการทางคณิตศาสตร์พื้นฐาน สำหรับตัวดำเนินการ a = 5 b = 3 print("a + b = ", a + b) print("a - b = ", a - b) print("a * b = ", a * b) print("a / b = ", a / b) print("a // b = ", a // b) # floor number to integer print("a % b = ", a % b) # get division remainder print("a ** b = ", a ** b) # power0 เป็นการหารเช่นเดียวกัน แต่ผลลัพธ์ของการหารนั้นจะตัดส่วนที่เป็นทศนิยมทิ้งไป ส่วนตัวดำเนินการ a = 5 b = 3 print("a + b = ", a + b) print("a - b = ", a - b) print("a * b = ", a * b) print("a / b = ", a / b) print("a // b = ", a // b) # floor number to integer print("a % b = ", a % b) # get division remainder print("a ** b = ", a ** b) # power1 นั้นเป็นการหารโดยผลลัพธ์จะเป็นเศษของการหารแทน ส่วนสุดท้าย a = 5 b = 3 print("a + b = ", a + b) print("a - b = ", a - b) print("a * b = ", a * b) print("a / b = ", a / b) print("a // b = ", a // b) # floor number to integer print("a % b = ", a % b) # get division remainder print("a ** b = ", a ** b) # power2 นั้นแทนการยกกำลัง
a + b = 8 a - b = 2 a * b = 15 a / b = 1.6666666666666667 a // b = 1 a % b = 2 a ** b = 125
นี่เป็นผลลัพธ์การทำงานของโปรแกรมในการใช้งานตัวดำเนินการทางคณิตศาสตร์
Comparison operators
ตัวดำเนินการเปรียบเทียบ (Comparison operators) คือตัวดำเนินการที่ใช้สำหรับเปรียบเทียบค่าหรือค่าในตัวแปร ซึ่งผลลัพธ์ของการเปรียบเทียบนั้นจะเป็น True หากเงื่อนไขเป็นจริง และเป็น False หากเงื่อนไขไม่เป็นจริง ตัวดำเนินการเปรียบเทียบมักจะใช้กับคำสั่งตรวจสอบเงื่อนไข if และคำสั่งวนซ้ำ for while เพื่อควบคุมการทำงานของโปรแกรม
นี่เป็นตารางของตัวดำเนินการเปรียบเทียบในภาษา Python
ในตาราง แสดงให้เห็นถึงตัวดำเนินการเปรียบเทียบประเภทต่างๆ เช่น การเปรียบเทียบความเท่ากัน โดยคุณสามารถใช้ตัวดำเนินการเปรียบเทียบเพื่อเปรียบเทียบว่าค่าในตัวแปรนั้นเท่ากันหรือไม่ หรือการเปรียบเทียบค่ามากกว่าหรือน้อยกว่า ต่อไปมาดูตัวอย่างการใช้งานตัวดำเนินการเปรียบเทียบในภาษา Python
print('4 == 4 :', 4 == 4) print('1 < 2:', 1 < 2) print('3 > 10:', 3 > 10) print('2 <= 1.5', 2 <= 1.5) print() # Variable comparison a = 10 b = 8 print('a != b:', a != b) print('a - b == 2:', a - b == 2)
ในตัวอย่าง เป็นการเปรียบเทียบค่าประเภทต่างๆ ในคำสั่งกลุ่มแรกนั้นเป็นการใช้ตัวดำเนินการเปรียบเทียบกับค่าคงที่ ในกลุ่มที่สองเป็นการใช้งานกับตัวแปร ซึ่งถ้าหากเงื่อนไขเป็นจริงจะได้ผลลัพธ์เป็น True และถ้าหากไม่จริงจะได้ผลลัพธ์เป็น False
4 == 4 : True 1 < 2: True 3 > 10: False 2 <= 1.5 False a != b: True a - b == 2: True
นี่เป็นผลลัพธ์การทำงานของโปรแกรมในการใช้ตัวดำเนินการเปรียบเทียบ
Logical operators
ตัวดำเนินการตรรกศาสตร์ (Logical operators) คือตัวดำเนินการที่ใช้สำหรับประเมินค่าทางตรรกศาสตร์ ซึ่งเป็นค่าที่มีเพียงจริง (True) และเท็จ (False) เท่านั้น โดยทั่วไปแล้วเรามักใช้ตัวดำเนินการตรรกศาสตร์ในการเชื่อม Boolean expression ตั้งแต่หนึ่ง expression ขึ้นไปและผลลัพธ์สุดท้ายที่ได้นั้นจะเป็น Boolean
นี่เป็นตารางของตัวดำเนินการตรรกศาสตร์ในภาษา Python
ตัวดำเนินการชื่อตัวอย่างandผลจะเป็นจริง ก็ต่อเมื่อ ตัวถูกดำเนินการทั้งสองด้านของตัวดำเนินการ and มีค่าเป็นจริง5<7 and 7>3 จริง(True)orผลจะเป็นจริง ก็ต่อเมื่อ ตัวถูกดำเนินการตัวใดตัวหนึ่งจากทั้งสองด้านของตัวดำเนินการ or มีค่าเป็นจริง7<5 or 7>3 จริง(True)notผลจะเป็นจริง ก็ต่อเมื่อ ตัวถูกดำเนินการมีค่าเป็นเท็จ (เป็นการสลับระหว่างข้อมูลที่เป็นจริงและเป็นเท็จ)not(5<7) เท็จ(False)ในภาษา Python นั้นมีตัวดำเนินการทางตรรกศาสตร์ 3 ชนิด คือ ตัวดำเนินการ a = 5 b = 3 print("a + b = ", a + b) print("a - b = ", a - b) print("a * b = ", a * b) print("a / b = ", a / b) print("a // b = ", a // b) # floor number to integer print("a % b = ", a % b) # get division remainder print("a ** b = ", a ** b) # power3 เป็นตัวดำเนินการที่ใช้เชื่อมสอง Expression และได้ผลลัพธ์เป็น True หาก Expression ทั้งสองเป็น True ไม่เช่นนั้นจะได้ผลลัพธ์เป็น False ตัวดำเนินการ a = 5 b = 3 print("a + b = ", a + b) print("a - b = ", a - b) print("a * b = ", a * b) print("a / b = ", a / b) print("a // b = ", a // b) # floor number to integer print("a % b = ", a % b) # get division remainder print("a ** b = ", a ** b) # power4 เป็นตัวดำเนินการที่ใช้เชื่อมสอง Expression และได้ผลลัพธ์เป็น True หากมีอย่างน้อยหนึ่ง Expression ที่เป็น True ไม่เช่นนั้นได้ผลลัพธ์เป็น False และตัวดำเนินการ a = 5 b = 3 print("a + b = ", a + b) print("a - b = ", a - b) print("a * b = ", a * b) print("a / b = ", a / b) print("a // b = ", a // b) # floor number to integer print("a % b = ", a % b) # get division remainder print("a ** b = ", a ** b) # power5 ใช้ในการกลับค่าจาก True เป็น False และในทางกลับกัน มาดูตัวอย่างการใช้งาน