มีตุ่มขึ้นที่อวัยเพศชาย มีอาการเจ็บ

โรคเริม

          จากบทความก่อนหน้าที่เรานำเสนอเรื่องของโรคจูบที่ติดต่อกันได้ทางน้ำลาย สารคัดหลั่ง และการมีเพศสัมพันธ์ อีกโรคหนึ่งที่มีความเสี่ยงและติดต่อกันได้คล้ายคลึงกับโรคจูบ คือ โรคเริม นั่นเอง


          โรคเริม

เกิดจากเชื้อไวรัสที่ชื่อว่า Herpes simplex virus หรือเราจะเรียกสั้นๆ ว่า HSV ซึ่งมีอยู่ 2 ประเภท คือ Herpes simplex virus 1 (HSV 1) ที่ทำให้โรคเริมที่ปาก และ Herpes simplex virus (HSV 2) ที่ทำให้เกิดโรคเริมที่อวัยวะเพศ แต่นั่นก็ไม่เสมอไป หากผู้ป่วยได้ใช้ปากกับอวัยวะเพศ ก็สามารถติดเชื้อไวรัส HSV 1 ที่อวัยวะเพศได้เช่นกัน


อาการของโรคเริม

          ถ้าเคยดูละครสมัยก่อนที่นำเสนอความร้ายแรงของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โรคเริมจะถูกจัดให้อยู่ในการนำเสนอนั้นด้วย เพราะอาการของโรคสังเกตได้ง่ายและทำให้เสียบุคลิกภาพ อาการของโรคมีดังนี้

โรคเริมที่ปาก

  1. เป็นแผลบวมแดง มีตุ่มพองมีน้ำใส ๆ และรู้สึกคัน ขึ้นบริเวณริมฝีปาก หรือในช่องปาก
  2. มีไข้ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามตัว
  3. มีอาการปวดหรืออักเสบ แต่จะไม่มากเท่าเกิดบริเวณอวัยวะเพศ
  4. แผลจะแห้งตกสะเก็ดและหายไปเอง 7 -10 วัน
  5. เมื่อร่างกายอ่อนแอ
  6. ภูมิคุ้มกันต่ำ
  7. เครียด
  8. การพักผ่อนไม่เพียงพอ
  9. มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
  10. ทานยาที่กดภูมิคุ้มกัน เช่น ยาที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์

การรักษา

          ในปัจจุบันยังไม่ยาหรือวัคซีนในการรักษ่โรคติดต่อนี้ให้หายขาดได้ เราทำได้เพียงบรรเทาและลดการแพร่เชื้อของแผลและอาการให้หายเร็วขึ้นเท่านั้น ซึ่งยาในการรักษาอาการนั้นต้องได้รับการสั่งยาจากแพทยืแล้วเท่านั้น เพราะยาบรรเทาปวดทั่วไปอาจไม่เหมาะสมกับเชื้อไวรัสและอาการที่เป็นอยู่

การรักษาอาการเบื้องต้นด้วยตนเอง

          นอกจากทานยาตามที่คุณหมอให้มาอย่างครบถ้วนแล้ว การดูแลแผลให้ถูกต้องจะช่วยให้หายเร็วขึ้นอีกด้วย ซึ่งเราสามารถทำเองดังนี้

  1. ทำให้แผลแห้งอยู่เสมอ หลังอาบน้ำ ควรเช็ดบริเวณแผลให้แห้ง ไม่ปล่อยให้ชื้น เพราะจะทำให้แผลหายช้า
  2. เสื้อผ้าที่มีความโปร่ง ไม่รัดบริเวณที่เกิดแผล
  3. ตัดเล็บให้สั้น รักษาความสะอาดของเล็บอยู่เสมอ พยายามไม่แกะ เกา บริเวณแผล
  4. น้ำเกลือหรือน้ำต้มสุกสามารถใช้ทำความสะอาดแผลได้

ขอบคุณบทความดี ๆ จาก

นพ.วีระยุทธ บุญเกียรติเจริญ
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านอาชีวเวชศาสตร์
ประจำโรงพยาบาลเปาโลรังสิต

ปรึกษาปัญหาสุขภาพ
โรงพยาบาลเปาโล รังสิต โทร 0-2577-8111
รับข่าวสารและกิจกรรมทางสุขภาพดีๆ ได้ที่
Facebook : โรงพยาบาลเปาโล รังสิต
Line ID : @paolorangsit

เผยแพร่ครั้งแรก 13 ก.พ. 2018 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 ตรวจสอบความถูกต้อง 3 พ.ค. 2019 เวลาอ่านประมาณ 3 นาที

หากวันหนึ่งคุณผู้ชายมี "ตุ่มขึ้นที่อวัยวะเพศชาย"เชื่อว่า คงเป็นปัญหาหนักใจแน่ๆ ว่า จะเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือไม่ อันตรายแค่ไหน หรือรักษาอย่างไรดี 

บทความนี้จะมาไขข้อข้องใจกันว่า ตุ่มเหล่านั้นเกิดจากอะไร และจะมีวิธีดูแลรักษาอย่างไรได้บ้าง 

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ

ตรวจ STD วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 409 บาท ลดสูงสุด 5%

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

กด

ตุ่มขึ้นอวัยวะเพศชายที่ไม่ได้เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์?

ตุ่มที่อวัยวะเพศชายที่ไม่ได้เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ เกิดได้จาก 2 สาเหตุหลักๆ ดังต่อไปนี้

1. เป็นตุ่มที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ

อวัยวะเพศชายจะมีตุ่มเล็กๆ ที่เกิดขึ้นรอบๆ บริเวณส่วนหัวของอวัยวะเพศ อาจจะเป็นตุ่มที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติที่เรียกว่า "Pearly Penile Papules" บางคนมีตุ่มขนาดเล็กมากจนไม่อาจสังเกตเห็นได้ ขณะที่บางคนก็มีตุ่มขนาดใหญ่และอาจจะมีตั้งแต่ 1 – 3 แถว คล้ายกับหูดหงอนไก่ได้ 

ตุ่มเหล่านี้จัดว่า เป็นเรื่องปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้ แต่ถ้ารู้สึกกังวลใจก็สามารถใช้การทำเลเซอร์ช่วยให้เล็กลง แต่ก็จะมีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำใหม่ได้อีก 

2. เป็นตุ่มไขมัน หรือตุ่มอื่นๆ

ตุ่มสีขาวที่เรามักมองเห็นนั้น อาจจะไม่ใช่โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เสมอไป แต่เป็นต่อมไขมันที่เรียกว่า "Fordyce spot" ซึ่งเกิดจากต่อมไขมัน (sebaceous glands) ที่ปกติมักจะอยู่ในรูขุมขน 

แต่กรณีนี้จะอยู่ที่ผิวหนัง หรือด้านนอกของรูขุมขน หรือเป็นต่อมที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เช่น Tyson gland โดยไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใดและยังสามารถจางลงได้เอง หรืออาจจะเป็นอยู่นานเป็นเดือนเป็นปี 

ทั้งนี้หากเป็นมากขึ้นก็สามารถใช้การทำเลเซอร์ให้จางลงได้ แต่ก็จะกลับมาเป็นซ้ำได้อีก

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ

ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

กด

ตุ่มขึ้นอวัยวะเพศชายที่เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์?

ตุ่มที่อวัยวะเพศที่เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ เกิดได้จาก 2 โรคหลักๆ ดังนี้

1. โรคหูดหงอนไก่

เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ที่เกิดจากเชื้อไวรัส HPV หรือ Human papilloma virus โดยติดจากการมีคู่นอนหลายคน หรือมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัยป้องกัน 

ลักษณะเป็นติ่งเนื้อสีชมพู คล้ายกับดอกกะหล่ำ หรือหงอนไก่ มีวิธีรักษาหลายวิธี ขึ้นอยู่กับขนาดและตำแหน่งของรอยโรค แต่เมื่อรักษาหายแล้วก็ยังมีโอกาสที่จะกลับมาเป็นซ้ำได้อีก

วิธีรักษาโรคหูดหงอนไก่

  • การรักษาด้วยวิธีจี้ไฟฟ้า หรือเลเซอร์ เป็นการตัดรอยโรคออกไป ข้อเสียตรงคือ ควันจากการจี้รักษาจะมีเชื้อไวรัส HPV อยู่ด้วย ถ้าสูดดมเข้าไปมากๆ อาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อ HPV ในระบบทางเดินหายใจได้ และยังมีโอกาสกลับมาเป็นหูดหงอนไก่ซ้ำได้ 5 – 50%
  • การรักษาด้วยวิธีจี้ด้วยความเย็น เป็นการใช้ไม้พันสำลีชุบกับไนโตรเจนเหลวแล้วป้ายที่รอยโรค หรือใช้วิธีพ่นสเปรย์ลงบริเวณที่รอยโรค ให้ความเย็นสัมผัสกับรอยโรคประมาณ 10 – 15 นาที วิธีนี้อาจทำให้รู้สึกเจ็บปวดบ้างและทิ้งรอยดำไว้ สามารถทำซ้ำได้ทุก 2 สัปดาห์ หรือจนกว่าจะหายดี (ขึ้นอยู่กับขนาดของรอยโรคด้วยเช่นกัน) และมีโอกาสกลับมาเป็นหูดหงอนไก่ซ้ำได้ 20 – 40%
  • การตัดออกด้วยวิธีผ่าตัด ยังเป็นวิธีที่สามารถช่วยลดโอกาส หรือความเสี่ยงในการกลับมาเป็นหูดหงอนไก่ซ้ำได้มากที่สุดคือ 20% เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยวิธีอื่นๆ
  • ใช้ยา Imiquimod 5% ทา หรือป้ายที่รอยโรค เป็นการกระตุ้นภูมิต้านทานโรคเพื่อให้ร่างกายกำจัดเชื้อ HPV เหมาะสำหรับหูดหงอนไก่ที่อยู่ในบริเวณที่ราบและไม่ได้อยู่บริเวณเยื่อเมือกต่างๆ ของร่างกาย และยังมีโอกาสกลับมาเป็นหูดหงอนไก่ซ้ำได้ 20%
  • ใช้ยา Podophyllin 5% ทา หรือป้ายที่รอยโรค แพทย์จะแต้มยาชนิดนี้ทิ้งไว้ประมาณ 4 ชั่วโมงแล้วล้างออก วิธีนี้ใช้เวลารักษา 3 – 4 สัปดาห์ หรือจนกว่าจะหาย (ขึ้นอยู่กับขนาดของรอยโรค) แต่อาจรู้สึกแสบ หรือระคายเคืองบริเวณที่แต้มยาไว้ และยังมีโอกาสกลับมาเป็นหูดหงอนไก่ซ้ำได้ 20 – 35%
  • ใช้ยา Trichloroacetic acid 50 – 70% ทา หรือป้ายที่รอยโรค โดยไม่ต้องล้างออก และใช้รักษาซ้ำทุก 2 สัปดาห์ หรือจนกว่ารอยโรคจะหาย แต่อาจจะรู้สึกแสบ หรือระคายเคืองบริเวณที่แต้มยาไว้ และยังมีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำ 35%

2.โรคหูดข้าวสุก

เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดจากเชื้อไวรัสที่มีชื่อว่า "Molluscum contagiosum" ลักษณะเป็นตุ่มที่มีรอยบุ๋มตรงกลาง เมื่อบีบแล้วจะมีน้ำสีขาวขุ่นคล้ายกับข้าวสุกออกมา 

วิธีรักษาโรคหูดข้าวสุก 

  • รอเวลาให้หายเอง วิธีนี้ใช้เวลาประมาณ 2 – 3 เดือน มักจะใช้กับเด็กที่มีรอยโรคไม่มากนัก เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงความรู้สึกเจ็บจากการรักษาด้วยวิธีอื่น
  • การขูดออก เป็นการขูดรอยโรคที่เรียกว่า Molluscum bodies ด้วยอุปกรณ์ที่เรียกว่า Curette โดยสามารถใช้ยาชาชนิดแปะ เพื่อลดอาการเจ็บปวด และแพทย์จะรักษาซ้ำๆ ทุก 2 – 3 สัปดาห์ จนกว่ารอยโรคจะหายไป
  • การจี้เย็น เป็นการใช้ไม้พันสำลีชุบกับไนโตรเจนเหลวแล้วป้ายที่รอยโรค เพื่อให้ความเย็นสัมผัสกับรอยโรคประมาณ 10 – 15 นาที อาจทำให้รู้สึกเจ็บปวดบ้างและทิ้งรอยดำไว้ วิธีนี้สามารถทำซ้ำได้ทุก 2 สัปดาห์ หรือจนกว่าจะหายดี ขึ้นอยู่กับขนาดของรอยโรค
  • การใช้ยา แพทย์จะใช้ยา Podophyllin เป็นยาชนิดเดียวกันกับที่รักษาโรคหูดหงอนไก่ เพื่อทำลายเซลล์ผิวหนังที่ติดเชื้อ เหมาะสำหรับรอยโรคที่อยู่บริเวณเนื้อเยื่อเมือกของอวัยวะเพศ แพทย์จะจี้ซ้ำทุกสัปดาห์ประมาณ 4 – 6 สัปดาห์จนกว่ารอยโรคจะหายไป

จากข้อมูลที่กล่าวข้างต้น พอจะทราบกันแล้วว่า การมีตุ่มขึ้นที่อวัยวะเพศชายไม่ได้มีสาเหตุจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เสมอไป แต่ก็ไม่ควรนิ่งนอนใจเช่นกัน หากไม่มั่นใจว่าเกิดจากสาเหตุอะไร ก็ควรปรึกษาแพทย์เพื่อยืนยันว่า "ไม่ได้เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์แน่ๆ" 

อย่างไรก็ตาม ทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์จะต้องใช้ถุงยางอนามัยเสมอ รวมถึงหมั่นรักษาสุขอนามัย ความสะอาด สังเกตความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับตนเองด้วยนั่นเอง


ดูแพ็กเกจตรวจสุขภาพเปรียบเทียบราคา โปรโมชั่นล่าสุดจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำได้ที่นี่ หรือไม่พลาดทุกการอัปเดตแพ็กเกจต่างๆ เมื่อกดเป็นเพื่อนทางไลน์ @hdcoth และกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ //honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

flow chart แสดงขั้นตอนการปฏิบัติงาน lmyour แปลภาษา กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน กาพย์เห่เรือ การเขียน flowchart โปรแกรม ตัวรับสัญญาณ wifi โน๊ตบุ๊คหาย ตัวอย่าง flowchart ขั้นตอนการทํางาน ผู้แต่งกาพย์เห่ชมไม้ ภูมิปัญญาหมายถึง มีสัญญาณ wifi แต่เชื่อมต่อไม่ได้ เชื่อมต่อแล้ว ไม่มีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ /roblox promo code redeem 3 พระจอม มีที่ไหนบ้าง AKI PLUS รีวิว APC UPS APC UPS คือ Adobe Audition Adobe Bridge Anapril 5 mg Aqua City Odaiba Arcade Stick BMW F10 jerk Bahasa Thailand Benz C63 ราคา Bootstrap 4 Bootstrap 4 คือ Bootstrap 5 Brackets Brother Scanner Brother iPrint&Scan Brother utilities Burnt HD C63s AMG CSS เว้น ช่องว่าง CUPPA COFFEE สุราษฎร์ธานี Cathy Doll หาซื้อได้ที่ไหน Clock Humidity HTC-1 ColdFusion Constitutional isomer Cuppa Cottage เจ้าของ Cuppa Cottage เมนู Cuppa Cottage เวียงสระ DMC DRx จ่ายปันผลยังไง Detroit Metal City Div class คือ Drastic Vita