ประโยชน์ของการออกกําลังกาย ด้านสมาธิ

รู้หรือไม่  การออกกำลังกายช่วยบำรุงสมอง

หลายๆคนที่มาออกกำลังกายก็มุ่งหวังให้ร่างกาย และสุขภาพแข็งแรง แต่การออกกำลังกายนั้นมีประโยชน์ดีๆที่ส่งผลไปถึงสมองของเราอีกด้วย

ช่วยให้ความจำดี

การออกกำลังกายเป็นประจำ จะส่งผลดีต่อฮอร์โมนที่จำเป็นต่อการทำงานสำหรับสมองของคนเราหลาย ๆ อย่าง เช่น ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์ประสาทและเซลล์สมองได้ อีกทั้งยังช่วยพัฒนาระบบไหลเวียนของออกซิเจนที่ช่วยในการหล่อเลี้ยงสมอง และพัฒนาเลือดให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับการศึกษาของแผนกจิตวิทยา ของมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาพบว่า ผู้ชายช่วงอายุระหว่าง 18-24 ปี เมื่อได้ออกกำลังกายยืดเส้นยืดสายเป็นเวลา 30 นาที จะมีการตอบสนองในด้านความจำได้มากกว่าคนปกติที่ไม่ออกกำลังกายเลยอีกด้วย

พัฒนาความคิดสร้างสรรค์

ผลศึกษาจากต่างประเทศระบุว่า การออกกำลังกายนอกจากจะทำให้มีสุขภาพดีและสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรงแล้ว ยังมีส่วนช่วยให้คุณมีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น และสามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีขึ้นกว่าปกติด้วย เพราะการออกกำลังกายจะช่วยพัฒนาสมองซีกขวาที่เป็นจุดสำคัญในด้านของความคิด และจินตนาการของคนเรา เรียกได้ว่าการออกกำลังกายเปรียบเหมือนอาหารเสริมช่วยให้สมองบรรเจิดไอเดีย ทั้งหลายแหล่ขึ้นมาได้เลย

ขจัดความเครียด

ความเครียด เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้กับคนทุกคนและหลีกเลี่ยงได้ยาก แต่หากว่าคุณออกกำลังกายเป็นประจำก็สามารถช่วยบรรเทาความเครียดให้ลดน้อยลง ได้บ้าง เพราะการออกกำลังกายจะช่วยปรับปรุงเรื่องของการผลิตฮอร์โมนที่ช่วยในเรื่อง ของการผ่อนคลายความเครียดได้มากยิ่งขึ้น ไม่เชื่อก็ลองออกไปวิ่งดูสิ รับรองเลยว่าแก้เครียดได้เป็นอย่างดีเลยแหละ

ช่วยปรับอารมณ์ให้คงที่

การออกกำลังกาย เปรียบเสมือนยาวิเศษที่ช่วยปรับอารมณ์ของคุณให้ดีขึ้นอย่างน่าทึ่ง ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยให้ระบบการไหลเวียนของเลือดดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยให้คุณอารมณ์ดีขึ้น โดยปราศจากอาการเศร้าหมองได้อีกด้วย เนื่องจากการออกกำลังกายจะช่วยให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนอย่าง เซโรโทนินและคาเทชิน ออกมาช่วยปรับสมดุลในเรื่องของอารมณ์ให้ดีขึ้น อีกทั้งช่วยขจัดฮอร์โมนที่ไม่ดีต่อร่างกายให้หมดไป รวมทั้งทำให้ร่างกายหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินซึ่งเป็นสารแห่งความสุขออกมาด้วย เช่นกัน

เห็นได้ชัด เลยว่า การออกกำลังกายนั้นไม่เพียงแต่ช่วยในเรื่องของสุขภาพร่างกายเท่านั้น แต่ยังช่วยในเรื่องของการพัฒนาสมองและพัฒนาความคิดของคุณให้ดีขึ้น เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว คุณก็ควรหันมาออกกำลังกายบ้างนะ อย่างน้อยสัก 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ เพียงเท่านี้รับรองได้เลยว่าคุณจะกลายเป็นคนที่มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตดี ขึ้นอย่างแน่นอน

Credit: kapook.com

สุขภาพ

Share:

ไทเก็กคือศิลปะการป้องกันตัวของจีนที่มีมาแต่โบราณ ซึ่งได้รับการขนานนามว่า “Meditation in Motion” หมายถึง การทำสมาธิในขณะเคลื่อนไหว โดยในปัจจุบันนี้นับเป็นการออกกำลังกายชนิดหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับลมหายใจคล้ายการทำสมาธิร่วมกับการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างช้า ๆ และสง่างาม จากท่าหนึ่งสู่อีกท่าหนึ่งโดยไม่หยุดเคลื่อนไหว ซึ่งแต่ละท่าได้แรงบันดาลใจมาจากท่าของสัตว์ เช่น ท่ากะเรียนขาวสยายปีก เป็นต้น

ไทเก็กเป็นกิจกรรมที่เคลื่อนไหวร่างกายในลักษณะคล้ายวงกลม ด้วยท่าทางที่นุ่มนวลและต่อเนื่อง ไม่ต้องออกแรงมาก มีแรงกระแทกต่ำ กล้ามเนื้อไม่ตึงหรือเกร็ง ข้อต่อตามจุดต่าง ๆ และเนื้อเยื่อไม่ยืดขยายมากเกินไปจนทำให้เกิดอันตราย โดยที่หลายคนเชื่อว่าการฝึกไทเก็กเป็นประจำอาจช่วยเพิ่มพลัง ทำให้ร่างกายแข็งแรง หรือป้องกันปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ได้ เหมาะสำหรับทุกเพศและทุกวัย ไทเก็กจึงเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่ต้องการผ่อนคลายความเครียด หรือชื่นชอบการออกกำลังกายที่เคลื่อนไหวร่างกายช้าและนุ่มนวล

ประโยชน์ของไทเก็ก

ลักษณะเด่นของไทเก็กคือการเคลื่อนไหวอย่างช้า ๆ นุ่มนวล ต่อเนื่อง และไม่ทำให้เหนื่อยหอบเหมือนกิจกรรมหรือการออกกำลังกายรูปแบบอื่น ซึ่งการฝึกไทเก็กอย่างถูกต้องและเป็นประจำ อาจส่งผลดีต่อสุขภาพจิตและสุขภาพร่างกายในหลาย ๆ ด้าน เช่น

  • เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ทั้งกล้ามเนื้อส่วนบน กล้ามเนื้อส่วนล่าง กล้ามเนื้อแกนกลางของหน้าท้องและแผ่นหลัง รวมถึงเพิ่มความยืดหยุ่นและความคล่องตัวให้แก่ผู้ที่ฝึกไทเก็กเป็นประจำ
  • พัฒนาการทรงตัว การฝึกไทเก็กอาจช่วยพัฒนาการรับรู้ตำแหน่งและการเคลื่อนไหวของร่างกาย (Proprioception) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการทำงานของเซลล์ประสาทของหูชั้นในและความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น และช่วยลดความเสี่ยงที่ผู้สูงอายุอาจหกล้มได้ นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาบางชิ้นได้แนะนำว่าการฝึกไทเก็กอาจช่วยลดความกลัวที่จะหกล้มได้อีกด้วย
  • ส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกาย เช่น เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน บรรเทาอาการปวดข้อ อาการปวดหลัง ลดความดันโลหิต ส่งผลดีต่อสุขภาพของหัวใจ เป็นต้น
  • ส่งผลดีต่อสุขภาพจิตใจ เช่น ช่วยเพิ่มสมาธิ ผ่อนคลายความเครียด พัฒนาอารมณ์ ช่วยให้หลับสบายหรือนอนหลับได้ง่ายขึ้น เป็นต้น

การเริ่มต้นฝึกไทเก็ก

ไทเก็กเป็นกิจกรรมที่ปลอดภัย ใช้อุปกรณ์ประกอบการทำกิจกรรมน้อย หรืออาจไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ และสามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลา เริ่มต้นได้ง่าย ๆ ด้วยขั้นตอนต่อไปนี้

  • ศึกษาข้อมูลหรือฝึกฝนท่าของไทเก็กเบื้องต้น ว่ามีการเคลื่อนไหวร่างกายในรูปแบบไหน และอย่างไรบ้าง อาจมีทั้งการเคลื่อนไหวช้า ๆ เพียงเล็กน้อยซึ่งเหมาะสำหรับมือใหม่ หรืออาจมีการเคลื่อนไหวที่ใช้ทุกส่วนของร่างกาย และในปัจจุบันอาจยังไม่มีมาตรฐานหรือการรับรองสำหรับครูฝึกไทเก็ก จึงจำเป็นต้องศึกษาหาข้อมูลและตัดสินใจด้วยตนเอง อาจพิจารณาจากประสบการณ์ของครูฝึก สังเกตการณ์จากสถานที่จริง หรือคำแนะนำของคนรอบข้างประกอบการตัดสินใจ
  • ปรึกษาแพทย์ หากสงสัยว่ามีปัญหาเกี่ยวกับระบบกล้ามเนื้อและกระดูกหรือเงื่อนไขอื่น ๆ ทางสุขภาพ รวมถึงการรับประทานยาที่ส่งผลให้มีอาการวิงเวียน ซึ่งอาจไม่เหมาะสำหรับการออกกำลังกายรูปแบบนี้
  • แต่งกายให้เหมาะสม เลือกชุดที่ไม่รัดแน่นจนเกินไป จนไม่สามารถทำท่าทางต่าง ๆ ได้ สวมรองเท้าที่ใส่เบาสบาย ไม่ลื่น หรืออาจจะไม่สวมรองเท้าก็ได้
  • อุ่นเครื่องอบอุ่นร่างกาย อาจเริ่มด้วยการจดจ่อที่ลมหายใจไปพร้อมกับเคลื่อนไหวร่างกายอย่างช้า ๆ เช่น หมุนหัวไหล่ เอียงศีรษะจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่ง หรือโยกตัวไปมา เพื่อเป็นการผ่อนคลายกล้ามเนื้อและข้อต่อก่อนการออกกำลังกาย
  • ประเมินความก้าวหน้าของตัวเอง อาจใช้เวลากับไทเก็กสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง และประเมินความพึงพอใจของตัวเอง ความชอบในการออกกำลังกายรูปแบบนี้  หรือสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงทางร่างกายหรือทางจิตใจบ้างหรือไม่

ไทเก็กเหมาะกับใครบ้าง

ไทเก็กเป็นกิจกรรมที่ทำให้เกิดแรงกระแทกที่กล้ามเนื้อและข้อต่อต่าง ๆ น้อย มีความนุ่มนวลและปลอดภัย เหมาะสำหรับคนทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะผู้สูงอายุหรือผู้ที่ไม่ชอบการออกกำลังกาย นอกจากนี้ ไทเก็กยังเป็นกิจกรรมที่ใช้อุปกรณ์ประกอบน้อย ค่าใช้จ่ายในการทำกิจกรรมอาจไม่สูง อีกทั้งยังสามารถฝึกไทเก็กได้ทุกที่ทุกเวลา ทั้งในสวนสาธารณะ หรือในห้องพัก จะฝึกคนเดียว หรือฝึกเป็นกลุ่มก็ได้เช่นกัน

ไทเก็กและข้อควรระวัง

ถึงแม้ไทเก็กจะนุ่มนวลและปลอดภัยแต่อาจจะไม่เหมาะสมหรือไม่ปลอดภัยสำหรับคนบางกลุ่ม เช่น ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับข้อต่อ ผู้ที่มีอาการปวดหลัง ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจนกระดูกหัก ผู้ป่วยโรคกระดูกพรุนอย่างรุนแรง รวมถึงผู้ป่วยโรคไส้เลื่อน หากมีความสนใจการออกกำลังกายในรูปแบบไทเก็ก ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเพราะอาจต้องเพิ่มความระมัดระวังหรือปรับเปลี่ยนบางท่าทางเพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ และทำกิจกรรมด้วยความปลอดภัย อีกทั้งการฝึกไทเก็กกับครูฝึกอาจทำให้มั่นใจได้ถึงการทำท่าทางที่ถูกต้องและปลอดภัยมากกว่าการฝึกท่าทางจากหนังสือหรือจากคลิปวิดีโอ

Share:

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

flow chart แสดงขั้นตอนการปฏิบัติงาน lmyour แปลภาษา กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน กาพย์เห่เรือ การเขียน flowchart โปรแกรม ตัวรับสัญญาณ wifi โน๊ตบุ๊คหาย ตัวอย่าง flowchart ขั้นตอนการทํางาน ผู้แต่งกาพย์เห่ชมไม้ ภูมิปัญญาหมายถึง มีสัญญาณ wifi แต่เชื่อมต่อไม่ได้ เชื่อมต่อแล้ว ไม่มีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ /roblox promo code redeem 3 พระจอม มีที่ไหนบ้าง AKI PLUS รีวิว APC UPS APC UPS คือ Adobe Audition Adobe Bridge Anapril 5 mg Aqua City Odaiba Arcade Stick BMW F10 jerk Bahasa Thailand Benz C63 ราคา Bootstrap 4 Bootstrap 4 คือ Bootstrap 5 Brackets Brother Scanner Brother iPrint&Scan Brother utilities Burnt HD C63s AMG CSS เว้น ช่องว่าง CUPPA COFFEE สุราษฎร์ธานี Cathy Doll หาซื้อได้ที่ไหน Clock Humidity HTC-1 ColdFusion Constitutional isomer Cuppa Cottage เจ้าของ Cuppa Cottage เมนู Cuppa Cottage เวียงสระ DMC DRx จ่ายปันผลยังไง Detroit Metal City Div class คือ Drastic Vita