คุกกี้พื้นฐานที่จำเป็น เพื่อช่วยให้การทำงานหลักของเว็บไซต์ใช้งานได้ รวมถึงการเข้าถึงพื้นที่ที่ปลอดภัยต่าง ๆ ของเว็บไซต์ หากไม่มีคุกกี้นี้เว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้อย่างเหมาะสม และจะใช้งานได้โดยการตั้งค่าเริ่มต้น โดยไม่สามารถปิดการใช้งานได้
คุกกี้ในส่วนวิเคราะห์ จะช่วยให้เว็บไซต์เข้าใจรูปแบบการใช้งานของผู้เข้าชมและจะช่วยปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน โดยการเก็บรวบรวมข้อมูลและรายงานผลการใช้งานของผู้ใช้งาน
คุกกี้ในส่วนการตลาด ใช้เพื่อติดตามพฤติกรรมผู้เข้าชมเว็บไซต์เพื่อแสดงโฆษณาที่เหมาะสมสำหรับผู้ใช้งานแต่ละรายและเพื่อเพิ่มประสิทธิผลการโฆษณาสำหรับผู้เผยแพร่และผู้โฆษณาสำหรับบุคคลที่สาม
ประกันสังคมแจ้งโอนเงินเยียวยา “นายจ้าง” มาตรา 33 ในพื้นที่ 13 จังหวัดแล้ววันนี้ ย้ำนายจ้างที่ยังไม่ได้รับเงิน รีบยื่นความประสงค์ผ่าน e-service ด่วน
วันที่ 10 สิงหาคม 2564 สืบเนื่องจากมติ ครม. วันที่ 20 กรกฎาคม 2564 ที่เห็นชอบให้มีมาตรการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการประกาศยกระดับล็อกดาวน์ในพื้นที่สีแดงเข้มควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เพื่อลดการแพร่ระบาดของโควิด-19 เพิ่มเป็น 13 จังหวัด จากประกาศเดิม 10 จังหวัด ได้แก่ กทม. นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นราธิวาส ปัตตานี ยะลา สงขลา ที่เพิ่มอีก 3 จังหวัด คือ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และพระนครศรีอยุธยา โดยจะจ่ายเงินให้นายจ้างและลูกจ้างที่มีข้อมูลในระบบผู้ประกันตนมาตรา 33 และ 39 และมาตรา 40
- ประวัติ รัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานฯ ถูก ป.ป.ช.บุกรวบ
- แบงก์ลดคน-ลดสาขาไม่หยุด อีก 3 ปีหาย 50% สู่ยุค Virtual Bank
- สร้างอนาคตไทย พรรคแตก พับแผนเลือกตั้ง กทม.-อีสาน-ใต้
สำหรับวันนี้เป็นคิวเริ่มจากเงินโครงการเยียวยาให้กับนายจ้างมาตรา 33 ใน 9 ประเภทกิจการ คือ 1.ก่อสร้าง 2.ที่พักแรมและบริการด้านอาหาร 3.ศิลปะความบันเทิงและนันทนาการ 4.กิจกรรม บริการด้านอื่น ๆ 5.การขายส่ง ปลีก ซ่อมยานยนต์ 6.การขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า 7.กิจกรรมการบริหารและบริการสนับสนุน 8.กิจกรรมวิชาชีพ วิทยาศาสตร์ และกิจกรรมทางวิชาการ 9.ข้อมูลข่าวสารและการสื่อสาร
นางสาวลัดดา แซ่ลี้ โฆษกสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน กล่าวว่า กลุ่มผู้ประกอบการนายจ้างมาตรา 33 จะได้รับเงินจำนวน 3,000 บาทต่อลูกจ้างที่มี 1 คน สูงสุดไม่ลูกจ้างไม่เกิน 200 คน จำนวนเงินสูงสุดที่นายจ้างได้รับจะอยู่ที่ 600,000 บาทนั้น ทางสำนักงานประกันสังคมพร้อมเริ่มโอนเงินงวดแรกในวันที่ 10 สิงหาคม ให้นายจ้าง 13 จังหวัดสีแดงเข้ม เป็นเงิน 94,719,000 บาท
“การรับเงินนายจ้างบุคคลธรรมดาจะได้รับเงินเยียวยาผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชนเช่นกัน ส่วนนายจ้างสถานะนิติบุคคลจะได้รับเงินผ่านบัญชีเงินฝากตามที่นายจ้างได้แจ้งกับสำนักงานประกันสังคม”
กรณีนายจ้างที่ยังไม่ได้ยื่นขอรับเงินชดเชยเยียวยา นายจ้างสามารถยื่นแบบความประสงค์ขอรับเงินได้ โดยสามารถตรวจสอบสิทธิ ได้ที่เว็บไซต์ประกันสังคม www.sso.go.th/eform/covid-compensate/checkCompanyCompensation.jsp
แจกเงินเยียวยานายจ้าง ครม.อนุมัติแจกเงินเยียวยานายจ้าง 3,000 บาท/คน/เดือน หวังจ้างงานเอสเอ็มอี 5 ล้านคน ให้กับบริษัทที่มีลูกจ้างไม่เกิน 200 คน เป็นเวลา 3 เดือน พร้อมยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ให้กับผู้ประกอบการ
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ครม.มีมติเห็นชอบโครงการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจ SMEs เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการในการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงาน ตลอดจนสร้างความแข็งแรงให้แก่ธุรกิจ โดยมอบหมายให้ กระทรวงแรงงาน ประสานกระทรวงการคลัง เพื่อพิจารณาแนวทางการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ให้กับผู้ประกอบการ ในส่วนของรายได้จากเงินอุดหนุนดังกล่าว พร้อมให้กระทรวงแรงงาน จัดทำรายละเอียดข้อเสนอต่อคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ พิจารณา ก่อนเสนอ ครม. พิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป ตามรายละเอียดดังนี้
แจกเงินเยียวยานายจ้าง 3,000 บาท/คน/เดือน
1. คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการฯ จะต้องเป็นนายจ้างภาคเอกชนที่อยู่ในระบบประกันสังคม ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 มีการจ้างงานลูกจ้างสัญชาติไทยไม่เกิน 200 คน โดยลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการในเดือนตุลาคม 2564 และรับเงินอุดหนุนในเดือนที่ 1 – 3 (ตั้งแต่พ.ค. 2564 ถึง ม.ค. 2565)
2. เงื่อนไขการจ่ายเงินอุดหนุน
- รัฐจ่ายเงินอุดหนุนเพื่อส่งเสริมและรักษาการจ้างงานให้แก่นายจ้าง ให้กับลูกจ้างสัญชาติไทย จำนวนไม่เกิน 200 คน ในอัตรา 3,000 บาท/คน/เดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน
- เงินอุดหนุนคำนวณตามยอดการจ้างจริงทุกเดือน โดยพิจารณาจากจำนวนลูกจ้างที่นำส่งเงินสมทบประกันสังคม
- นายจ้างจะต้องรักษาการจ้างงานไม่ต่ำกว่า 95% ในระหว่างร่วมโครงการ โดย (หากต่ำกว่า 95% จะไม่ได้รับเงินอุดหนุนในเดือนนั้น) ในกรณีนายจ้างมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น จะได้รับเงินอุดหนุนเพิ่มตามจำนวนการจ้างงานจริง ไม่เกิน 5% ของจำนวนลูกจ้างสัญชาติไทย ณ วันเริ่มโครงการ
“มาตรการนี้คาดว่าจะรักษาระดับการจ้างงานลูกจ้างสัญชาติไทยในธุรกิจ SMEs ที่มีลูกจ้างไม่เกิน 200 ราย ที่มีสถานประกอบการจำนวน 480,122 แห่ง และจะสามารถรักษาการจ้างงานลูกจ้างได้จำนวน 5,040,176 คน” นายธนกร กล่าว
แจกเงินเยียวยานายจ้าง หวังจ้างงานเอสเอ็มอี
ก่อนหน้านี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เห็นชอบหลักการโครงการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจเอสเอ็มอี เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการในการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานสร้างความเข้มแข็งให้กลุ่มธุรกิจ
โดยรัฐบาลยืนยันว่า จะหาทางการรักษาการจ้างงานและมาตรการการจ้างงานใหม่ เพื่อแก้ปัญหาการว่างงาน ทดแทนปัญหาการขาดแคลนแรงงานในอุตสาหกรรม และยังไม่มีการอนุญาตให้แรงงานต่างด้าวเข้าประเทศ ขณะเดียวกัน ต้องการเห็นคนไทยมีงานทำ โดยเฉพาะในโรงงานอุตสาหกรรมที่ทันสมัย เพื่อรักษาระดับการจ้างงานให้ธุรกิจเอกชนด้วย
ทั้งนี้ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้ชี้แจงรายละเอียดโครงการนี้ โดยรัฐจ่ายเงินอุดหนุนเพื่อส่งเสริมและรักษาการจ้างงานผ่านนายจ้างเพื่อรักษาการจ้างงานในอัตรา 3,000 บาทต่อลูกจ้าง ที่เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 สัญชาติไทยต่อเดือน แต่ไม่เกิน 200 คน เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่พฤศจิกายน 2564 ถึงมกราคม 2565 โดยเงินอุดหนุนจะคำนวณตามยอดการจ้างงานจริงของทุกเดือน พิจารณาจากจำนวนลูกจ้าง ที่นำส่งเงินสมทบประกันสังคมจากระบบประกันสังคม โดยจะจ่ายเงินอุดหนุนทุก วันทำการสุดท้ายของเดือน