โปรแกรม หา ค่า t-test dependent

ถ้าพูดถึงสถิติ T – test หลายคนๆ คงจะคุ้นๆ หู กับคำว่า T – test dependent และ T – test independent  กันมาบ้างแล้ว

ในบทความนี้จะมาบอกถึงความแตกต่างของสถิติ T – test ทั้ง 2 ตัวนี้ ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร และ สถิติ T – test dependent กับ สถิติ T – test independent ควรนะไปใช้ในสถานการณ์ใดบ้าง โดยสามารถแยกย่อยเป็น 2 ประเด็น ดังนี้…

1. สถิติ T – test dependent

สถิติ T – test dependent เป็นสถิติที่ใช้ในการทดสอบข้อมูลกลุ่มตัวอย่าง ในกลุ่มเดียวกัน ที่มีขนาดน้อยกว่า 30 คน (n<30) ส่วนใหญ่จะใช้ในงานวิจัยเชิงทดลอง 

และในบางครั้ง สถิติ T – test dependent สามารถเรียกอีกชื่อว่า “สถิติ Paired Samples T-test” สาเหตุนี้มากจาก Paired Samples T-test นั้นเป็นชื่อคำสั่งบนแถบเมนูในโปรแกรม SPSS เวลาที่ผู้วิจัยเริ่มทำการวิเคราะห์สถิติ T – test dependent ซึ่งเป็นภาษาที่นักวิจัยพูดกันเพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน นั่นเอง

รับทำวิจัย รับทำวิทยานิพนธ์ รับทำ is รับทำดุษฎีนิพนธ์

ดังนั้น สถิติ T – test dependent  ส่วนใหญ่จะใช้ในงานวิจัยของ สาขาวิชาครูทุกสาขาวิชา สาขาวิชาวิทยาศาสตร์บางสาขาวิชา ที่ต้องมีการเปรียบเทียบก่อนและหลังการทดลอง เพื่อทดสอบประสิทธิผลของการทำงาน

ในสาขาวิชาครูจะเห็นบ่อยมาก เช่น การเปรียบเทียบผลการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนของผู้เรียนกลุ่มเดียวกัน ว่าแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติหรือไม่ 

ส่วนสาขาวิทยาศาสตร์ เรามักจะเห็นในงานทดลอง เพื่อทดสอบในสิ่งที่ทีมวิจัยสาขาวิทยาศาสตร์กำลังทดลองสิ่งนั้นอยู่ เช่น การทดสอบประสิทธิผลไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ในการผลิตน้ำยาฆ่าเชื้อเพื่อฉีดพ่นเชื้อโควิด 19 (COVID-19) ว่าแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติหรือไม่

สูตรของสถิติ T – test dependent จึงสามารถแสดงได้ ดังนี้

รับทำวิจัย รับทำวิทยานิพนธ์ รับทำ is รับทำดุษฎีนิพนธ์

2.  สถิติ T – test independent

ส่วน สถิติ T – test independent เป็นสถิติที่ใช้ในการทดสอบกลุ่มตัวอย่างสองกลุ่มที่เป็นอิสระจากกัน โดยข้อตกลงเบื้องต้นของสถิตินี้ กลุ่มตัวอย่างทั้งสองกลุ่มจะต้องไม่สัมพันธ์กันหรือเป็นอิสระต่อกัน อีกทั้งค่าของตัวแปรตามในแต่ละหน่วยต้องเป็นอิสระต่อกัน 

และกลุ่มตัวอย่างได้มาต้องสุ่มมาจากประชากรที่มีการแจกแจงแบบปกติด้วย ผู้วิจัยจะเห็นการใช้สถิตินี้ใช้เปรียบเทียบ ความแตกต่างระหว่างกลุ่ม โดยอาจเปรียบเทียบได้ทั้งค่าเฉลี่ย ความแปรปรวน เช่น การเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างค่าเฉลี่ยสองกลุ่ม เมื่อมีกลุ่มตัวอย่างขนาดใหญ่ 

ส่วนใหญ่ผู้วิจัยจะเห็นการใช้ สถิติ T – test independent ได้ในทุกสาขาวิชา เช่น การเปรียบเทียบปัจจัยประชาศาสตร์ ด้านเพศ ที่แตกต่างกัน ส่งผลต่อการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคในเซเว่น สาขาบางนา แตกต่างกัน

สูตรของสถิติ T – test independent จึงสามารถแสดงได้ ดังนี้

รับทำวิจัย รับทำวิทยานิพนธ์ รับทำ is รับทำดุษฎีนิพนธ์

ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า สถิติ T – test dependent และ T – test independent แตกต่างกันที่ขนาดกลุ่มตัวอย่าง ความเป็นอิสระของตัวแปร และวัตถุประสงค์ในการใช้งาน

ช่องทางติดต่อ รับทำวิจัย
Tel: 0924766638
อีเมล: ichalermlarp@gmail.com
LINE: @impressedu
(หยุดทุกวันอาทิตย์)

สแกนคิวอาร์โค้ด
เพื่อติดต่อรับทำวิจัย

แอดเพิ่มเพื่อน

Related posts:

โปรแกรม LISREL อีกหนึ่งทางเลือกที่นิยมใช้ในดุษฎีนิพนธ์

ปรับเวลาทำงานยังไง ให้งานวิจัยเสร็จไวตามกำหนด

วิเคราะห์แบบสอบถามงานวิจัย ทำอย่างไร ที่นี่มีคำตอบ!

5 เทคนิคแปลงานวิจัย ให้สำร็จได้เร็วขึ้น

กำหนดกรอบแนวคิดวิทยานิพนธ์เริ่มต้นอย่างไรดี

บริการรับทำ PowerPoint นำเสนองานวิจัย เริ่มต้นที่หน้าละ 70 บาท

ตั้งหัวข้อวิจัยการตลาดง่ายๆ ไม่เครียดแน่นอน

รับทำวิจัย ราคายุติธรรม พร้อมแก้ไขฟรี 2 ครั้ง

Post Views: 4,092

  • Facebook iconfacebook
  • Twitter icontwitter
  • LINE iconline

T - test dependentT - test dependent กับ T - test independentT - test dependent กับ T - test independent แตกต่างกันอย่างไรT - test independentการทำงานวิจัยการทำงานวิทยานิพนธ์การทำดุษฎีนิพนธ์การทำวิทยานิพนธ์ปริญญาโทการวิเคราะห์ข้อมูลการเขียน Proposal งานวิจัยการเขียนวิจัยบทที่ 1การเขียนโครงร่างงานวิจัยการเลือกหัวข้องานวิจัยกำหนดปัญหางานวิจัยข้อผิดพลาดในการทำวิจัยข้อมูลงานวิจัยงานดุษฎีนิพนธ์งานวิจัยงานวิทยานิพนธ์จ้างทำวิจัย 5 บทจ้างทําวิจัยดุษฎีนิพนธ์ตั้งหัวข้อเรื่องงานวิจัยบริการจ้างทำวิทยานิพนธ์บริการรับทำวิจัยปัญหางานวิจัยรับจัดหน้าวิทยานิพนธ์รับทำวิจัยรับทำวิทยานิพนธ์รับทำวิทยานิพนธ์ ราคาวิเคราะห์ข้อมูลสถิติสถิติ T - test แตกต่างสถิติ T-testสถิติการวิเคราะห์หัวข้อวิจัย

การทดสอบทีโดยโปรแกรม Excel เป็นการประยุกต์ใช้โปรแกรมไมโครซอฟต์เอกซ์เซล (Microsoft Excel) ทดสอบทางสถิติในการทดสอบที (t-test)  แบบ dependent เป็นการทดสอบข้อมูลของกลุ่มตัวอย่างที่ไม่เป็นอิสระจากกัน หรือเรียกว่า เป็นการทดสอบที (t-test) แบบจับคู่ หรือ Paired t-test

โดยข้อมูลที่ได้มาจากกลุ่มตัวอย่างเดียวกัน เช่น เปรียบเทียบผลการทดสอบก่อนเรียนและผลการสอบหลังเรียนของผู้เรียนกลุ่มเดียวกัน ว่าแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติหรือไม่

 

การติดตั้งเครื่องมือ Add-in

การทดสอบทีโดย MS Excel ใช้ซอฟต์แวร์ไมโครซอฟต์เอกซ์เซล (Excel) ช่วยในการคำนวณค่าต่างๆ สามารถทำให้การคำนวณนั้นสามารถทำได้ง่ายขึ้นและใช้เวลาน้อยลง และยังสามารถลดการผิดพลาดจากการคำนวณได้ ฟังก์ชันสำหรับการคำนวณใน Excel มีจำนวนมากและเราสามารถเลือกให้ถูกต้องกับผลที่เราต้องการวิเคราะห์

การประเมินผลโดยการเปรียบเทียบผลการวิเคราะห์ของทั้ง 2 วิธี ในการทดสอบความแตกต่างแบบจับคู่ โดยแต่ละคู่มีความสัมพันธ์กันนั้น ซึ่งสามารถทำได้โดยการใช้โปรแกรม Excel ในที่นี้จะขอยกตัวอย่างการคำนวณด้วย Excel รุ่น 2016 ตามขั้นตอนดังนี้

1. เปิดโปรแกรม Excel (เลือกแถบ Data ดูว่ามีไอคอน Data Analysis ปรากฎหรือไม่

2. ถ้าไม่มี Tool สำหรับการคำนวณทางสถิติ ให้เพิ่มเครื่องมือเข้าไปดังนี้ เลือก File > Options > Add-Ins เลือกแถบ Analysis ToolPak-VBA แล้วเลือก Excel Add-Ins ในช่องด้านล่าง กด Go

3. ปรากฏหน้า Add-Ins ดังรูป ให้เลือก P หน้า Analysis ToolPak และ Analysis ToolPak-VBA แล้วกด OK

แถบ Data จะมีไอคอน Data Analysis ปรากฎ

 

การวิเคราะห์ค่า T-test ด้วย Excel ก่อนจะทำการทดสอบ ต้องมีการตั้งสมมุติฐานก่อน

  1. สมมติฐานว่าง (null hypothesis) เขียนแทนด้วยสัญลักษณ์ H0 เป็นสมมติฐานที่แสดงว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ไม่มีความแตกต่าง หรือความแตกต่างเป็นศูนย์ จึงมักแทนด้วยเครื่องหมาย =, ≤, ≥
    ดังนั้นในตัวอย่างนี้คือ ค่าเฉลี่ยของวิธีพัฒนาขึ้นและวิธีมาตรฐานแตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญ
  2. สมมติฐานทางเลือก (alternative hypothesis) เขียนแทนด้วยสัญลักษณ์ Ha เป็นสมมติฐานที่ตั้งขึ้นมาเพื่อขัดแย้ง H0 เป็นสมมติฐานที่แสดงการเปลี่ยนแปลงมีความแตกต่าง จึงแทนด้วยเครื่องหมาย ≠, <, >
    ดังนั้นในตัวอย่างนี้คือคือ ค่าเฉลี่ยของวิธีพัฒนาขึ้นและวิธีมาตรฐานแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ

หมายเหตุ: การกำหนดสมมุติฐานว่า จะเป็น One-tailed test หรือ Two-tail test ขึ้นอยู่กับการศึกษาข้อมูลพื้นฐานที่เกี่ยวกับเรื่องนั้น ๆ ตลอดจนเจตคติของผู้วิจัย ถ้าไม่แน่ใจว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร อาจจะเป็นไปได้ทั้งทางมากหรือทางน้อย เป็นต้น ในลักษณะนี้ ควรกำหนดไว้เป็น Two-tail test แต่ถ้าค่อนข้างแน่ใจ จากการศึกษามาแล้วว่าผลที่ได้อาจจะมากกว่าหรือน้อยกว่าอย่างแน่นอน ก็สามารถกำหนดเป็นลักษณะ One-tail test ได้

การทดสอบทีแบบจับคู่ (paired t-test)

ทำการป้อนข้อมูลที่ต้องการประมวลผลการทดสอบความแตกต่างแบบจับคู่ โดยแต่ละคู่มีความสัมพันธ์กัน (Paired t-test) ดังนี้

1. เลือกแถบ Data > Data Analysis ปรากฏหน้า Data Analysis เลือก t-Test : Paired Two-Sample for Means แล้วกด OK

2. ปรากฏหน้า t-Test : Paired Two Sample for Means ดังรูป

ในส่วนของ Input

Variable 1 Range: ให้เลือกช่วงของข้อมูลชุดที่ 1 สำหรับวิธีปรับปรุง (จากตัวอย่างนี้คือ B4-B10)

Variable 2 Range: ให้เลือกช่วงของข้อมูลชุดที่ 2 สำหรับวิธีมาตรฐาน (จากตัวอย่างนี้คือ C4-C10)

ช่อง ƒ Hypothesized Mean Difference ให้ใส่ 0

เลือก P หน้า Labels เพราะมีการรวมชื่อตัวแปรไว้ในช่วงของข้อมูล

Alpha: 0.05 หมายถึงระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ต้องการ (95%)

ในส่วนของ Output options

ช่อง O ให้เลือก New Worksheet Ply: เมื่อโปรแกรมคำนวณเสร็จจะนำผลที่ได้ไปไว้ใน Worksheet ใหม่ หรือเลือก Output Range และใส่ช่วงที่จะบันทึกผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

flow chart แสดงขั้นตอนการปฏิบัติงาน lmyour แปลภาษา กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน กาพย์เห่เรือ การเขียน flowchart โปรแกรม ตัวรับสัญญาณ wifi โน๊ตบุ๊คหาย ตัวอย่าง flowchart ขั้นตอนการทํางาน ผู้แต่งกาพย์เห่ชมไม้ ภูมิปัญญาหมายถึง มีสัญญาณ wifi แต่เชื่อมต่อไม่ได้ เชื่อมต่อแล้ว ไม่มีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ /roblox promo code redeem 3 พระจอม มีที่ไหนบ้าง AKI PLUS รีวิว APC UPS APC UPS คือ Adobe Audition Adobe Bridge Anapril 5 mg Aqua City Odaiba Arcade Stick BMW F10 jerk Bahasa Thailand Benz C63 ราคา Bootstrap 4 Bootstrap 4 คือ Bootstrap 5 Brackets Brother Scanner Brother iPrint&Scan Brother utilities Burnt HD C63s AMG CSS เว้น ช่องว่าง CUPPA COFFEE สุราษฎร์ธานี Cathy Doll หาซื้อได้ที่ไหน Clock Humidity HTC-1 ColdFusion Constitutional isomer Cuppa Cottage เจ้าของ Cuppa Cottage เมนู Cuppa Cottage เวียงสระ DMC DRx จ่ายปันผลยังไง Detroit Metal City Div class คือ Drastic Vita