เชื่อว่าเมื่อถึงเวลาที่ใบขับขี่ของคุณหมดอายุและต้องการไปต่อใบขับขี่ใหม่ ทุกคนต้องลืมขั้นตอนวิธีการ และเอกสารต่าง ๆ ที่ใช้สำหรับต่อใบขับขี่ 5 ปี เป็น 5 ปีก็ว่าได้ ซึ่งบทความนี้จะมาทวนความจำของคุณว่า ต้องเตรียมอะไรไปบ้างถึงจะสามารถต่อใบขับขี่ 5 ปี เป็น 5 ปี 2564 ในยุคที่โควิดกำลังระบาดอย่างหนัก
เชื่อว่าเมื่อถึงเวลาที่ใบขับขี่ของคุณหมดอายุและต้องการไปต่อใบขับขี่ใหม่ ทุกคนต้องลืมขั้นตอนวิธีการ และเอกสารต่าง ๆ ที่ใช้สำหรับต่อใบขับขี่ 5 ปี เป็น 5 ปีก็ว่าได้ ซึ่งบทความนี้จะมาทวนความจำของคุณว่า ต้องเตรียมอะไรไปบ้างถึงจะสามารถต่อใบขับขี่ 5 ปี เป็น 5 ปี 2564 ในยุคที่โควิดกำลังระบาดอย่างหนัก
อ่านเพิ่มเติม
- ต่อใบขับขี่ 5 ปี ต้องทำอย่างไรบ้าง ?
ปัจจุบันทางสำนักงานขนส่งทางบก มีความเปลี่ยนแปลงรูปแบบขั้นตอนต่าง ๆ ไปพอสมควร อย่างแรกที่คุณควรจะต้องทำก็คือ ตรวจเช็กข้อมูลต่าง ๆ ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสำนักงานขนส่งทางบก ว่ามีขั้นตอนวิธีการที่เปลี่ยนแปลงจากปกติไปมากสักแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสอบใบขับขี่ ต่ออายุใบขับขี่ เป็นต้น
สำหรับบทความนี้จะมาแนะนำเรื่องต่อใบขับขี่ 5 ปี เป็น 5 ปี ซึ่งปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงวิธีการจากเดิมไปเล็กน้อยจากปกติเพียงเท่านั้น โดยจะเป็นในส่วนของขั้นตอนในการจองคิวที่เป็นรูปแบบออนไลน์ ส่วนที่เหลือต้องไปทำที่สำนักงานขนส่งเพียงเท่านั้น
การต่อใบขับขี่ 5 ปี เป็น 5 ปี ใช้อะไรบ้าง และมีวิธีการอย่างไร?
1. เข้าคิวผ่านแอป DLT Smart Queue
ขั้นตอนแรกหากคุณต้องการจะต่อใบขับขี่ 5 ปี เป็น 5 ปีคือ จองคิวผ่านแอปพลิเคชันของทางสำนักงานขนส่งทางบกทางบกเสียก่อน ซึ่งมีชื่อว่า DLT Smart Queue รองรับการใช้งานทั้งระบบแอนดรอยด์ และ ios
เมื่อเริ่มต้นใช้งาน DLT Smart Queue แล้ว จะพบว่าขั้นตอนแรกคือต้องเลือกสำนักงานที่คุณต้องการใช้บริการเสียก่อน ซึ่งครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย เลือกได้เลยตามที่คุณสะดวก ทั้งนี้ตัวของแอปพลิเคชันจะมีให้เลือกประเภทงานรับบริการดังต่อไปนี้
- งานทะเบียน
- งานใบอนุญาต
- งานตรวจสภาพ
*ปัจจุบันเปิดใช้งานเพียงแค่ “งานใบอนุญาต” เท่านั้น
เมื่อเลือกสำนักงานขนส่งที่คุณต้องการได้แล้ว และเลือกความต้องการในเรื่องต่อใบขับขี่ 5 ปี เป็น 5 ปี หลังจากนั้นทางทางแอปพลิเคชันจะให้เลือกวันเวลาที่ต้องการได้เลย ถือว่าเป็นอันจบสิ้นในการจองคิวต่อใบขับขี่ หลังจากนั้นต้องเดินทางไปที่สำนักงานขนส่งทางบกที่คุณได้เลือกตามวันเวลาที่ตกลงไว้
2. เอกสารที่ใช้ต่อใบขับขี่ 5 ปี เป็น 5 ปี ใช้อะไรบ้าง
ต่อใบขับขี่ใช้อะไรบ้าง เอกสารต่อใบขับขี่ 5 ปี เป็น 5 ปี 2565 ได้แก่
- ใบอนุญาตขับขี่ของเดิม
- บัตรประชาชนตัวจริง
- ใบรับรองแพทย์ (มีหลายคนสงสัยกันว่า ต่อ ใบขับขี่ 5 ปี เป็น 5 ปี ใช้ ใบรับรอง แพทย์ ไหม? ปัจจุบันมีการกำหนดให้ใช้บัตรรับรองแพทย์ในการต่อใบอนุญาตขับขี่ทุกประเภท โดยใบรับรองแพทย์จะต้องมีอายุไม่เกิน 1 เดือนเท่านั้น ซึ่งนับตั้งแต่วันที่ไปขอใบรับรองแพทย์)
* ทั้งนี้ราคาของการขอใบรับรองแพทย์ ใบขับขี่ ไม่มีราคาตายตัว ขึ้นอยู่กับคลินิกแต่ละที่ จนโรงพยาบาลแต่ละที่นั่นเอง แต่บอกได้ว่าราคาของการขอใบรับรองแพทย์ ใบขับขี่มีราคาเฉลี่ยเริ่มต้นอยู่ที่ 100 บาท ขึ้นไป
บัตรรับรองแพทย์
3. ไปตามเวลานัดหมายที่ได้ตกลงไว้ในแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue
เตรียมเอกสารที่ใช้สำหรับต่อใบขับขี่ 5 ปี เป็น 5 ปี เมื่อไปถึงให้ยื่นเรื่องกับเจ้าหน้าที่จุดประชาสัมพันธ์ ซึ่งไม่ว่าจะมาต่อใบขับขี่ยานยนต์อะไรก็แล้วแต่ จำเป็นต้องยื่นหลักฐานเหมือนกันหมด ซึ่งทางประชาสัมพันธ์จะแนะนำให้คุณไปหาเจ้าที่ในจุดต่อไปเอง
เมื่อเจอเจ้าหน้าที่ในจุดรับเรื่องแล้ว ให้นำเอกสารยื่นเรื่องได้เลย หลังจากนั้นจะมีการสอบถามว่าได้อบรมออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue มารึไม่ หากไม่ได้อบรมออนไลน์มาก่อนหน้า จำเป็นต้องไปนั่งอบรมเป็นระยะเวลา 1 ชั่วโมง ถึงจะไปขั้นตอนต่อไปได้
4. ทดสอบร่างกาย
หลังจากที่คุณได้อบรมการขับขี่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็ต้องไปทดสอบการอ่านค่าสี (ตาบอดสี) การเหยียบเบรก และการกะระยะ เมื่อทดสอบทุกอย่างเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว สามารถนำเอกสารไปยื่นเพื่อขอถ่ายบัตรใบขับขี่ใหม่ได้เลย
5. ต่อใบขับขี่ 5 ปี เป็น 5 ปี 2565 ราคาเท่าไหร่
เรียกว่าเป็นขั้นตอนสุดท้ายก็ว่าได้ก็คือ ค่าใช้จ่ายในการต่อใบขับขี่มอเตอร์ไซค์และรถยนต์
- ใบขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ 2 ปี ชำระ 100 บาท + ค่าคำขอ 5 บาท รวม 105 บาท
- ใบขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ 5 ปี ชำระ 250 บาท + ค่าคำขอ 5 บาท รวม 255 บาท
- ใบขับขี่รถยนต์ 5 ปี ชำระ 500 บาท + ค่าคำขอ 5 บาท รวม 505 บาท
เพียงเท่านี้ก็ถือเป็นอันเสร็จสิ้นการต่อใบขับขี่ 5 ปี เป็น 5 ปี เห็นได้ชัดว่ามีรูปแบบที่เปลี่ยนแปลงไปไม่เท่าไหร่ ว่ากันตามตรงคือการมีแอพพลิเคชั่น DLT Smart Queue ช่วยให้สบายกว่าเดิมในเรื่องการจองคิว วันเวลา อย่างปฏิเสธไม่ได้เลยทีเดียว
ติดตามข่าวล่าสุดได้ที่://khaotoyota.com/