กาต้มน้ำไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี เชื่อว่าเจ้าของร้านกาแฟ เจ้าของร้านชาไข่มุก หรือใครที่ต้องใช้น้ำร้อนในการชงเครื่องดื่มขายคงอยากรู้ เพราะน้ำร้อนคือส่วนผสมที่สำคัญอย่างมากในการชงกาแฟ ชงชาขาย ทั้งใช้กับผงละลายน้ำ อย่างผงโกโก้ ผงมัทฉะ ผงชาไข่มุกรสชาติต่าง ๆ ใช้แช่ชา กรองชาก็ได้ง่าย ๆ เลย การเลือกใช้กาต้มน้ำแบบไฟฟ้าจึงสำคัญ
กาต้มน้ำไฟฟ้า จึงนับว่าเป็นไอเทมที่จำเป็นอย่างมากสำหรับร้านขายชากาแฟ แถมช่วยอำนวยความสะดวกในการชงเครื่องดื่มได้ดีที่สุด และในปัจุบันนี้เองกาต้มน้ำนั้นมีหลายแบบ หลายขนาด หลากยี่ห้อ ให้ได้เลือกใช้กันเยอะมาก ดังนั้นควรเลือกซื้อเลือกใช้ให้เหมาะกับการใช้งาน และในราคาที่เหมาะสม แต่วันนี้ทาง bluemocha เราจะมานำเสนอ มาชี้เป้ากับ 7 กาต้มน้ำไฟฟ้า ในขนาดไม่เกิน 2 ลิตร เป็นกาต้มน้ำที่หาซื้อได้ทั่วไป และใช้งานได้สะดวกรวดเร็ว พร้อมแล้วเรามาดูกันเลย
7 กาต้มน้ำไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี
1. Philips รุ่น HD9306
ยี่ห้อที่คุ้นเคยกับเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างหลากหลาย โดยกาต้มน้ำยี่ห้อนี้ถือว่ามีดีไซน์เรียบหรู มีปุ่มสัญญาณไฟบ่งบอกชัดเจน ผลิตมาจากวัสดุสแตนเลสมาตรฐาน ที่มีหูจับถนัดมือ ยกถือสดวก สามารถมั่นใจได้ถึงความปลอดภัยในการใช้งาน แถมยังมีเส้นบอกระดับน้ำ สายไฟยาวปรับระดับได้ ทั้งยังมีฝาปิดแบบบานพับเติมน้ำได้สะดวกสบาย พร้อมฐานวงกลมหมุนได้ 360 องศา และมีกำลังไฟฟ้า 1,800 วัตต์ ความจุ 1.5 ลิตร ส่วนราคานั้นเริ่มต้นที่ 990-1390 บาทโดยประมาณ
2. OTTO รุ่น PT-104
กาต้มน้ำราคาไม่แพง ที่หลาย ๆ ร้านนิยมเลือกใช้กัน ผลิตมาจากวัสดุสแตนเลสคุณภาพดี พร้อมกับด้ามจับที่ป้องกันความร้อนได้ดี ยกสบาย และสามารถทำความร้อนไว ได้น้ำเดือดทันใจแน่นอน แถมมีขีดบอกระดับน้ำชัดเจน ขนาดเล็กกะทัดรัด ใช้งานง่าย และพิเศษมากมีระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อน้ำเดือด เพิ่มความปลอดภัยได้มากขึ้น และมีกำลังไฟฟ้า 1,500 วัตต์ ความจุ 1.8 ลิตร ส่วนราคานั้นเริ่มต้นที่ 200-350 บาท คุ้มค่าคุ้มราคาสุด ๆ
3. Imarflex รุ่น IF-283
ดีไซน์สวยหรู กาต้มน้ำราคาประหยัด แถมบรรจุน้ำได้เยอะ โดยผลิตขึ้นมาจากวัสดุสแตนเลสสตีล จึงทำให้ต้มน้ำเดือดได้รวดเร็ว มาพร้อมกับตัวตัดไฟอัตโนมัติเวลาน้ำเดือด แถมยังมีไฟโชว์สถานะการทำงานขณะต้มน้ำ สายไฟยาวกว่า 50 เซนติเมตร น้ำหนักเบามากไม่ถึง 1 กิโลกรัม และมีกำลังไฟฟ้า 1,500 วัตต์ ความจุ 2 ลิตร ส่วนราคานั้นเริ่มต้นที่ 200-350 บาท ราคาถูกคุ้มค่ามาก
4. Electrolux รุ่น EEK3505
กาต้มน้ำยอดนิยม เพราะมีดีไซน์สีดำสวยหรู มีช่องบอกปริมาณน้ำ พร้อมขีดบอกระดับน้ำทั้ง 2 ฝั่ง ตัวเลขใหญ่อ่านชัด สามารถดูได้อย่างชัดเจน มีระบบตัดการทำงานอัตโนมัติเมื่อน้ำเดือดหรือน้ำแห้ง แผนกรองตะกรันก็สามารถอดออกได้ มีปุ่มเปิดปิดพร้อมไฟเเสดงสถานะการทำงาน มีฐานหมุน 360 องศา หยิบจับสะดวกมาก ทั้งยังมีสายไฟยาว พร้อมช่องจัดเก็บ สะดวกต่อการหยิบใช้มาก ๆ มีกำลังไฟฟ้า 1,850-2,200 วัตต์ ความจุ 1.7 ลิตร ส่วนราคานั้นอยู่ที่ 1,000-1,300 บาท
5. Tefal Mini Kettle S/S รุ่น KO261810
กาต้มน้ำขนาดเล็ก ที่มาพร้อมกับวัสดุภายนอกอย่างสแตนเลสที่ทนทานแข็งแรง พร้อมกับแผงทำความร้อน จึงทำให้ร้อนไวใช้น้ำร้อนได้ทันใจ ทั้งยังมีฟิลเตอร์กรองน้ำในตัว มีระบบตัดไฟอัตโนมัติ มีฐานหมุน 360 องศาเช่นกัน สะดวก ปลอดภัยสุด ๆ ฝาเปิดปิดได้กว้าง ไม่ต้องกลัวหกเลอะเทอะขณะเติมน้ำ และมีกำลังไฟฟ้า 2,200 วัตต์ ความจุ 0.8 ลิตร ส่วนราคาเริ่มต้นที่ 900-1,400 บาท
6. SMARTHOME รุ่น CA-1009
ดีไซน์ทันสมัย ขนาดกะทัดรัด ตัวเครื่องผลิตจากพลาสติก PP และสแตนเลสสตีล มาพร้อมกับแผ่นทำความร้อน ทำให้สามารถร้อนไว และเมื่อน้ำเดือดก็จะมีรับบตัดไฟเองอัตโนมัติ ลดความเสี่ยงได้ดี แถมยังมีไฟแสดงสถานะการทำงาน หูจับเข็งแรงถนัดมือ ฐานรองหมุนได้รอบ 360 องศา ยกได้สะดวกมาก สายไฟยาว 65 เซนติเมตร และมีกำลังไฟฟ้า 1,500 วัตต์ ความจุ1.8 ลิตร ส่วนราคาเริ่มต้นที่ 200-400 บาท
7. Clarte’ รุ่น FKT281S
อีกหนึ่งยี่ห้อที่เชื่อว่าหลาย ๆ ร้านเลือกใช้เพราะสามารถต้มน้ำให้เดือดในเวลาแป๊บเดียว พร้อมกับวัสดุอย่างสแตนเลสตีล ทนทาน มีแผ่นกรองสิ่งตกค้าง มีระบบตัดไฟในการทำงานเองเมื่อน้ำเดือด ทั้งปลอดภัยและสะอาด มีฝาเปิดปิดที่กว้าง
เติมน้ำได้ง่าย ๆ ทั้งยังมีไฟแสดงสถานะการทำงาน มีช่องบอกระดับน้ำ ขนาดเล็กประหยัดพื้นที่ สายไฟยาวกว่า 75 เซนติเมตร และมีกำลังไฟฟ้า 1,500 วัตต์ ความจุ1.8 ลิตร ส่วนราคาเริ่มต้นที่ 200-400 บาท
เป็นยังไงกันบ้างกับ 7 กาต้มน้ำร้อนไฟฟ้า ที่เรานำมาแชร์ให้ในวันนี้ ทั้งราคาถูก หาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้า ตามร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าใกล้บ้าน ใช้งานก็ง่ายแค่เสียบปลั๊กแล้วรอน้ำเดือด แถมร้อนไวด้วย หากใครที่กำลังอยากจะเปิดร้าน หรือกำลังอยากจะเปลี่ยนกาไฟฟ้าใหม่ และนอกจากนี้ก็ยังจะมีรุ่นอื่น ๆ ขนาดที่บรรจุน้ำได้มากกว่า รวมถึงฟังก์ชั่นการทำงาน ราคาที่ต่างกัน ลองพิจารณาและสามารถที่จะเลือกซื้อเลือกใช้กันได้เลย
หรือใครที่กังวลในเรื่องของความปลอดภัย วิธีการดูแลรักษานั้นบอกเลยว่าไม่ต้องกังวล เพราะวันนี้เราก็มีข้อควรรู้ วิธีการบำรุงรักษามาฝากกัน เพราะกาต้มน้ำไฟฟ้านั้น ถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่เสี่ยงต่อการเกิดอันตรายได้ เพราะน้ำกับไฟฟ้าต้องมาทำงานร่วมกัน ดังนั้นต้องระมัดระวังอย่างมาก
- ไม่ใส่น้ำจนเกินขีดที่ระดับน้ำ เพราะอาจจะทำให้น้ำล้นเมื่อมีการเดือด และไม่ปล่อยให้น้ำแห้ง ต่ำกว่าระดับขีดด้านล่าง เพราะการปล่อยให้น้ำมีน้อยกว่าระดับดังกล่าว อาจทำให้กาต้มน้ำไหม้ได้
- ไม่เสียบปลั๊กทิ้งไว้หลังจากเลิกใช้งาน เพระอาจจะทำให้เกิดอันตรายและทำให้เปลืองไฟได้นั่นเอง
- ไม่วางกาต้มน้ำไฟฟ้าในบริเวณที่เปียกชื้น เสี่ยงต่อการเกิดไฟฟ้าช็อตได้
- ไม่ควรนำใบชา ผงกาแฟใส่ในกาต้ม เพื่อไม่ให้เกิดคราบในกาต้มน้ำ
- หลังจากใช้งานเสร็จ ให้ถอดปลั๊กก่อนทุกครั้ง และควรล้างด้านในหม้อต้ม เปิดฝาทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วเช็ดทำความสะอาดรอบนอกด้วย เพื่อไม่ให้มีรอยคราบน้ำ
ไม่เพียงเท่านี้ไอเทมที่สำคัญของร้านชา ร้านกาแฟ ยังมีอีกหลากหลายมากทั้งเพื่อความสะดวกในการชงเครื่องดื่มสำหรับเจ้าของร้าน บาริสต้า และเพื่อเอาใจลูกค้าที่น่ารักของคุณ
ไม่ว่าจะเป็น เครื่องตีฟองนมให้ขึ้นฟูเนียนนุ่ม เครื่องบดกาแฟแบบมือหมุน–เครื่องบดกาแฟไฟฟ้า เครื่องปั่นแบบมือถือ เครื่องปั่นสมูทตี้ เครื่องชั่งดิจิตอล หูหิ้วกาแฟ
ที่ครอบแก้วกาแฟ แพ็กเกจจิ้งเครื่องดื่ม ขวดใส่เครื่องดื่ม แก้วพลาสติกใส่ชากาแฟ แก้วยีราฟ หัวบีบวิปครีม และอุปกรณ์สำคัญอื่น ๆ อีกมากมาย
และนอกจากนี้การเปิดร้านชาไข่มุก แฟรนไชส์ชาไข่มุก ร้านกาแฟ อีกหนึ่งสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือจุดขายของร้าน ซึ่งการมีจุดขายของร้านนี้ ไม่ใช่แค่การทำเมนูแปลกใหม่ การมีร้านที่แปลกตา การตกแต่งร้านหลายสไตล์ สีสันของเครื่องดื่ม แต่รวมไปถึงการบริการของทางร้าน การมีเมนูเครื่องดื่มที่หลากหลายดึงดูดลูกค้า จัดโปรโมชั่นลดแลกแจกแถมแบบโดนใจ การจัดหน้าร้านค้าให้สวยงาม การตั้งราคาขายถูกใจลูกค้า หรือการเปิดร้านขายชาไข่มุกบุฟเฟต์ ขายชาไข่มุกแก้ว 19 บาททั้งร้าน ก็ล้วนเป็นจุดขายที่สามารถเอาใจลูกค้าได้ทั้งนั้น และจุดขายที่พิเศษอีกหนึ่งอย่างก็คือ การมีเมนูเครื่องดื่มที่อร่อยกลมกล่อม เพราะเครื่องดื่มอร่อยก็จะทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อนั่นเอง