เรื่อง “เล็บ” ไม่ใช่เรื่องเล็กใช่ไหมคะสาว ๆ? เพราะเล็บนั้นเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายที่มักจะยาวเร็วกว่าส่วนอื่น ๆ ทำให้เราต้องตัดเล็บ ตะไบเล็บและใช้ครีมทามือเป็นประจำเพื่อให้เล็บและมือแข็งแรงอ่อนนุ่ม แต่แน่นอนค่ะนอกจากตกแต่งเล็บแล้วคนเรามันก็ต้องมีแฟชั่นกันบ้าง แฟชั่นที่เราพูดถึงคือการใช้ “น้ำยาทาเล็บ” ค่ะ
สีของเล็บมือบ่งบอกบุคลิกของคุณได้เป็นอย่างดี การทาสีเล็บให้สวยนอกจากจะใช้สกิลและความชำนาญของเราแล้ว การเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ยาทาเล็บที่ดีก็เป็นสิ่งที่เราต้องพิจารณาค่ะ หลายคนอาจจะชอบใช้น้ำยาทาเล็บแบบเจลมากกว่าเพราะติดทนนาน แต่ก็มีข้อเสียคือน้ำยาทาเล็บเจลต้องใช้เครื่องอบเล็บเจลเพื่อให้สีเล็บแห้ง ไม่สามารถใช้น้ำยาล้างเล็บธรรมดาล้างออกได้ จำเป็นต้องใช้น้ำยาล้างเล็บสูตรพิเศษเพื่อจัดการสีเดิมออกค่ะ ดังนั้นหากคุณไม่ชอบความยุ่งยากน้ำยาทาเล็บแบบธรรมดาอาจจะตอบโจทย์คุณได้ดีกว่า
จุดที่สำคัญที่สุดในการเลือกน้ำยาทาเล็บก็คือ สีของน้ำยาทาเล็บค่ะ การเรียนรู้วิธีเลือกสีเพื่อปรับโทนสีเล็บและโทนสีผิวของคุณเป็นสิ่งสำคัญ เพราะว่าสีของยาทาเล็บที่คุณใช้จะสามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์ในมือคุณไปโดยสิ้นเชิง สาว ๆ หลายคนอาจจะชอบทาเล็บสีหวาน ๆ เช่นสี ชมพู สีพาสเทล แต่ในทางกลับกันบางคนก็ชอบทาสีแรง ๆ อย่างสีแดงสด สีดำ ชมพูบานเย็นแซ่บ ๆ เรื่องนั้นไม่ผิดเพราะเป็นสไตล์ความชอบส่วนบุคคลค่ะ แต่สาว ๆ รู้มั้ยคะว่าถ้าทาเล็บไม่เข้ากับสีผิวเนี่ยจากปังจะกลายเป็นพังได้ง่าย ๆ เลย
สำหรับวันนี้เราก็มียาทาเล็บแบรนด์ต่าง ๆ มาแนะนำให้ทุกคนได้เลือกซื้อ และก็มีเกล็ดความรู้ เคล็ดลับปัง ๆ อย่างมาฝากทุกคนด้วยค่ะ รับรองว่าถูกใจอย่างแน่นอนค่ะ ไปเริ่มกันเลย !!!
น้ำยาทาเล็บแบบธรรมดา ยี่ห้อไหนดี?
- สีทาเล็บระดับพรีเมียม ติดทนนาน สีสวยไม่จกตา:
- สีทาเล็บราคาประหยัด โดดเด่นในเรื่องของสีนู้ด :
- ปราศจากสารอันตรายหลายชนิด มีทุกเฉดสีให้เลือกรวมถึงสีแบบกลิตเตอร์:
- สีทาเล็บจากตุรกี เฉดสีสวยให้ความเงางามกับเล็บ :
- สีทาเล็บจากเกาหลีคุณภาพสูง แห้งเร็วใน 30 วินาที:
- สีทาเล็บที่ได้รับความนิยมทั้งในและต่างประเทศ ติดทนนานมาก :
ความแตกต่างของ น้ำยาทาเล็บธรรมดา VS น้ำยาทาเล็บเจล
น้ำยาทาเล็บแบบธรรมดา เป็นยาทาเล็บแบบพื้นฐานที่หลายคนนิยมเลือกใช้ ซึ่งมีมาอย่างยาวนานแล้วค่ะ มาพร้อม ๆ กับนวัตกรรมการแต่งหน้าเลยทีเดียว น้ำยาทาเล็บแบบธรรมดานี้มีสีให้เลือกได้หลากหลายมาก ทั้งสีมันวาวและสีแมตต์ สีทาเล็บแบบนี้ทาเดี่ยว ๆ ไม่ได้ต้องใช้ท็อปโค้ท เบสโค้ทหรือการเคลือบโฮโลแกรมร่วมด้วยเพื่อให้สีเล็บติดทนนานยิ่งขึ้น แต่ยาทาเล็บประเภทนี้ไม่ได้ติดทนนานเพราะเมื่อเวลาผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ (หรือน้อยกว่านั้น) สีเล็บจะเริ่มลอกและบิ่นออกมาค่ะ
ส่วนยาทาเล็บเจล เป็นอีกหนึ่งยาทาเล็บที่กำลังได้รับความนิยมมากในขณะนี้ ยาทาเล็บเจลทำจากอะคริลิกซึ่งเป็นวัสดุที่ติดทนยาวนาน ยาทาเล็บประเภทนี้จะใช้เวลาโดยเฉลี่ย 3 สัปดาห์กว่าหลุดออก แม้ว่าระยะเวลาที่แน่นอนจะขึ้นอยู่กับวิถีชีวิตและการเติบโตตามธรรมชาติของเล็บของคุณ แต่หากคุณทำเล็บที่ร้านทำเล็บมักจะมีการขูดหน้าเล็บออกก่อนเพื่อให้สีเจลติดทนนานมากยิ่งขึ้น ยาทาเล็บเจลจะต้องใช้ร่วมกับแสงยูวีจากเครื่องอบเล็บเพราะหากไม่ใช้สีเจลจะไม่มีทางแห้งค่ะ
วิธีเลือกสีเล็บให้เข้ากับสีผิว
- ผิวขาวอมชมพู ผิวขาวชมพูเป็นผิวที่โชคดีมาก ๆ ค่ะ เพราะผิวสีนี้ทาสีอะไรก็ดูดีไปหมดเลย แต่สีที่ทำให้ผิวขาวโดดเด่นคือสีชมพูอมน้ำตาล ชมพูอมม่วงหรืออาจจะเป็นสีโทนเย็น เช่น น้ำเงินหรือเขียวน้ำทะเลจะทำให้มือขาวมากเลยทีเดียว อีกทั้งยังสามารถทาสีพาสเทลได้ด้วยนะคะ แต่อย่าเลือกสีอ่อนเกินไปเดี๋ยวจะดูกลืนไปกับมือค่ะ
- ผิวขาวเหลือง ส่วนใหญ่สีผิวขาวเหลืองมักจะเป็นผิวของสาวเอเชียค่ะ สาวผิวสีนี้ก็สามารถทาได้หลากสีเหมือนกันค่ะ แต่สาว ๆ ผิวสีนี้เหมาะกับสีโทนร้อน เช่น ยาทาเล็บสีชมพูนู้ดอมส้ม, ชมพูอมส้ม, สีน้ำตาลทองสว่าง, น้ำตาลทองประกายหรือสีสด ๆ เช่น สีแดงสดและชมพูสด ส่วนสีพาสเทลก็สามารถทาได้นะคะแต่ต้องเลือกสีดี ๆ ค่ะ
- ผิวสีน้ำผึ้ง สาว ๆ ผิวโทนนี้มักจะคิดว่าผิวของตนเองจะทาสีอะไรแล้วไม่ขึ้น แต่ไม่จริงเลยล่ะค่ะ สาว ๆ ผิวสีนี้เหมาะกับสีเล็บน้ำตาลอมทองเข้ม, น้ำตาลอมทอง, สีทอง, สีแดงสดลูกแอปเปิ้ล สีนู้ดหรือสีกลิตเตอร์ก็จะทำให้ดูดีสุด ๆ ไปเลย แต่สีที่ห้ามทาเลยคือสีอ่อน เช่น พาสเทล เพราะจะทำให้มือคล้ำและไม่ผ่องใสค่ะ
- ผิวดำแดง สาว ๆ ผิวสีนี้เป็นสีผิวที่มีความโดดเด่นอยู่แล้วค่ะ โดยสาวผิวสีนี้เหมาะกับสีโทนนู้ดน้ำตาลทุกเฉด สีแดงแบบเบอร์กันดีก็เหมาะมาก ๆ ค่ะ แต่ห้ามทาสีนู้ดอ่อนนะคะ เพราะพังแน่ ๆ ค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะสาว ๆ กับเคล็ดลับที่เราได้แนะนำไปในวันนี้ หวังว่าสาว ๆ จะสามารถเลือกโทนสีที่เข้ากับผิวได้นะคะ และสาว ๆ และถ้าหากสาว ๆ อยากโดดเด่นมากขึ้นก็อาจจะเพ้นท์เล็บหรือติดสติกเกอร์ติดเล็บลวดลายต่าง ๆ ลงไปบนเล็บด้วย เพื่อที่เล็บของคุณจะดูดีและไม่เหมือนใคร ถึงเวลาไปเลือกสีทาเล็บกันแล้วค่ะ ยี่ห้อไหนดี ยี่ห้อไหนเด็ดเรารวบรวมมาให้คุณแล้วค่ะ ไปกันโลด !!!
Glamezz สีทาเล็บ
ราคา 14 บาท*
Glamezz สีทาเล็บที่ราคาประหยัดที่สุดในรายการที่เราแนะนำค่ะ เห็นราคาขนาดนี้แต่คุณภาพสีใช้ได้เลยค่ะ เพราะให้เฉดสีที่สวยงามเหมือนกับการทาเล็บเจลแต่ไม่จำเป็นต้องอบเล็บด้วย UV เฉดสีของสีทาเล็บมีหลายสีให้เราได้เลือก โดยสีมีความแวววาวและให้ความสดใสให้กับเล็บของเราค่ะ ตัวแปรงเป็นแบบแบนทาง่ายและไม่จับตัวเป็นก้อน ตอบโจทย์คนที่อยากทาเล็บหลายสีแต่ไม่ต้องการจ่ายแพงมากเกินไปค่ะ ใครที่ไม่เคยลองต้องห้ามพลาดนะคะเพราะสีสันสวยสดใสและคุ้มค่ามาก
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์
- ขวดเล็กกะทัดรัด พกพาได้ง่ายและสามารถทาได้อย่างรวดเร็ว
- ราคาประหยัดสามารถซื้อได้หลายเฉดสีตามที่เราต้องการ
- เฉดสีมีความสดใสช่วยทำให้เล็บดูสวยมากยิ่งขึ้น
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee
Morning Kiss สีทาเล็บ
ราคา 39 บาท*
Morning Kiss สีทาเล็บยี่ห้อนี้โดดเด่นมากในเรื่องของสีนู้ด เพราะมีทั้งเนื้อเงาแวววาวและเนื้อแมตต์เลยล่ะค่ะ ตัวเม็ดสีแน่นมาก เมื่อทาแล้วสีเล็บจะติดทนนาน น้ำยาทาเล็บแห้งไว ล้างออกได้ง่ายมาก มีเฉดสีที่สวยน่าใช้มาก ๆ ค่ะ หากสาว ๆ คนไหนที่การให้มือและนิ้วมือดูกระจ่างใสน่ามองต้องแบรนด์นี้เท่านั้นค่ะ เพราะสียาทาเล็บสวยมากเหมือนกับทาเล็บด้วยสีทาเล็บเจลเลยทีเดียว อีกทั้งยังติดทนนานไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้อีกด้วยค่ะ สำหรับผู้เขียนแล้วชอบใช้สีทาเล็บจากแบรนด์นี้เพราะมีคอลเลกชันสีออกมาใหม่เสมอและเป็นสีที่ค่อนข้างถูกใจเลยค่ะ อีกทั้งยังมาในราคาที่จับต้องได้ซื้อหลายขวดหลายสีเพื่อนำมาใช้งานได้เลยค่ะ
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์
- ราคาประหยัดมากแต่ให้คุณภาพเกินราคา
- เม็ดสีแน่น แห้งเร็วและให้ผลลัพธ์คล้าย ๆ กับการทาสีเจล
- เฉดสีแต่ละสีมีความสวยงามและให้ความทันสมัยอยู่ตลอดเวลา
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee
Maxfine สีทาเล็บ
ราคา 43 บาท*
สีทาเล็บแบบแมตต์ของ Maxfine เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่ไม่ชอบสีทาเล็บธรรมดา ๆ สีทาเล็บเป็นสูตรน้ำ เม็ดสีแน่นมากและสามารถให้ลุคแมตต์กับเราได้ สีทาเล็บมีราคาประหยัดเพราะมีราคาไม่ถึง 100 บาท จึงเป็นยาทาเล็บที่ดีสำหรับนักศึกษาหรือนักแฟชั่นที่มีงบประมาณจำกัด นอกจากนี้สีทาเล็บยังสามารถใช้เป็นของขวัญที่ยอดเยี่ยมให้กับเด็ก ๆ ได้ เพราะเด็กสามารถทดลองสีสนุก ๆ ได้อย่างปลอดภัย เฉดสีแต่ละสีมีความสวยงามมาก สามารถทาได้ง่ายเหมาะสำหรับการทาเล็บแบบไล่สีค่ะ
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์
- มีเฉดสีให้เลือกเยอะมาก ๆ ให้ฟินิชลุคแบบแมตต์
- ราคาประหยัดสามารถเลือกซื้อได้หลายสีให้
- ปราศจากสารอันตราย ไม่ทำให้เล็บเหลืองเด็กสามารถใช้ได้
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee
Tenten สีทาเล็บ
ราคา 45 บาท*
สีทาเล็บ Tenten เป็นสีทาเล็บแบรนด์ยอดนิยมเหมือนกันค่ะ โดยทางแบรนด์เคลมมาว่าใช้วัตถุดิบที่นำเข้าจากยุโรปมีการผลิตเม็ดสีที่ทันสมัย ทำให้สีทาเล็บของทางแบรนด์มีเม็ดสีแน่น ทาได้ง่าย ไม่จับตัวเป็นก้อนและไม่ทำให้เล็บเหลือง อีกทั้งสีทาเล็บของทางแบรนด์ยังไม่มีสารที่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้ ทำให้ตัวสีปลอดภัยสำหรับทุกคนรวมถึงคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ค่ะ ขนแปรงที่ใช้มีแปรงแบนแต่ขนนุ่มและมีความหนาทำให้ทาได้ง่ายและให้สีเรียบเนียน สรรพคุณขนาดนี้ ราคาดีแบบนี้ ไม่ซื้อก็ถือว่าพลาดมาก ๆ เลยค่ะ ปกติแบรนด์สีทาเล็บแบรนด์นี้มักจะวางขายในห้าง ดังนั้นเรื่องคุณภาพคือยืนหนึ่งอยู่แล้วค่ะ
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์
- ปราศจากสารอันตรายทุกชนิดใช้แล้วเล็บไม่เหลืองและล้างออกง่าย
- เม็ดสีมีความโดดเด่นและมีหลายสีให้เราได้เลือกตอบโจทย์ทุกคน
- ราคาไม่แพงสามารถผสมสีและเพ้นท์เล็บได้อย่างง่ายดาย
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee
Golden Rose สีทาเล็บ
ราคา 49 บาท*
Golden Rose เป็นยาทาเล็บขวดจิ๋วที่หลายคนชอบซื้อค่ะ เพราะสามารถพกพาได้ง่ายมากจะพาไปทาต่างจังหวัดก็สามารถทำได้ค่ะ หัวแปรงทาง่ายเพราะมีความแบน ไม่ว่าจะเกลี่ยแบบไหนก็ให้เฉดสีที่เรียบเนียนและไม่จับตัวเป็นก้อน ขอบอกเลยนะคะว่าแบรนด์ Golden Rose เป็นแบรนด์ยอดนิยมจากตุรกี เนื้อสีทาเล็บนั้นแน่นมาก เม็ดสีเข้มคมชัด ติดทนนาน และทางแบรนด์เคลมมาว่าไม่ทำให้เล็บเหลืองด้วยค่ะ สำหรับสาว ๆ คนไหนสนใจก็ไปตำกันได้เลยค่ะขอบอกเลยว่าจะไม่ทำให้คุณต้องผิดหวังอย่างแน่นอน ผลิตภัณฑ์นี้ยอดเยี่ยมเพราะไม่เพียงแต่ให้การใช้งานที่สะดวกสบาย แต่ยังทำให้คุณมีเล็บที่เงางามมากด้วย
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์
- ทาได้ง่าย ไม่จับตัวเป็นก้อนและไม่เป็นเส้นริ้วเมื่อเกลี่ย
- พกพาได้ง่ายเพราะมีขนาดเล็กมาก ๆ ใช้งานได้สะดวก
- สีเล็บมีความเงางาม ทำให้เล็บดูสวยและดูมีสุขภาพดี
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee
The Face Shop Style Nail สีทาเล็บ
ราคา 99 บาท*
The Face Shop Style Nail สีทาเล็บที่คุณต้องลองใช้ค่ะ The Face Shop เป็นแบรนด์เครื่องสำอางชั้นนำของเกาหลี แต่นอกจากเครื่องสำอางและสกินแคร์แล้วก็ยังมีสีทาเล็บด้วยนะคะ โดยสีทาเล็บมาในรูปแบบของสีพาสเทล สามารถนำมาไล่สีแบบออมเบรได้อย่างกลมกลืน หรือจะทาแยกเดี่ยว ๆ ก็ดูดีค่ะ โดยสีเล็บที่ได้จะเป็นสีแนวธรรมชาติซึ่งให้ความสวยงามได้ดีมาก สีทาเล็บมีสารบำรุงเล็บอยู่ข้างในค่ะ ทาแล้วเล็บไม่เหลืองและปลอดภัยต่อหน้าเล็บ
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์
- เฉดสีเป็นโทนพาสเทลช่วยให้สีเล็บมีความสดใสมากยิ่งขึ้น
- แปรงทาเล็บทาได้ง่ายสามารถซอกซอนได้ทุกมุมของเล็บ
- ขวดเล็กกะทัดรัด ทาง่ายและไม่จับตัวเป็นก้อน
ดูได้ที่ Shopee
Innisfree Real Color Nail สีทาเล็บ
ราคา 110 บาท*
Innisfree Real Color Nail น้ำยาทาเล็บสัญชาติเกาหลีจากแบรนด์นี้ มีหลากหลายสีและหลายเนื้อสีให้เราได้เลือกค่ะ ไม่ว่าจะเป็นแบบมุกหรือแบบสีพื้น แต่ทุกสีก็สวยสะดุดตาหมดเลยค่ะ ตัวยาทาเล็บไม่มีกลิ่นฉุน ทาง่าย ตัวยาทาเล็บแห้งเร็ว สีติดทนนานไม่ลอกก่อนแน่นอนค่ะ ราคาก็ไม่แพงมากแต่โทนสีมีคุณภาพสุด ๆ ค่ะ ในเรื่องของความแห้งเร็วจากการใช้งานจริงพบว่าใช้เวลาแห้งเพียงแค่ 30 วินาที แต่ต้องทาบาง ๆ นะคะอย่าหนามาก ในเรื่องของการล้างออกก็สามารถล้างออกได้ง่ายมาก ๆ ใช้แค่สำลีแผ่นเดียวก็เอาอยู่ค่ะ
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์
- แห้งเร็วกว่าสีทาเล็บแบรนด์อื่น ๆ และล้างออกได้ง่าย
- เฉดสีแต่ละเฉดสีทำให้เล็บดูสุขภาพดีและดูสวยงาม
- แปรงทาเล็บแบนและกว้างทำให้ทาได้ง่าย เกลี่ยได้ทุกซอกทุกมุม
ดูได้ที่ Shopee
OPI สีทาเล็บ
ราคา 345 บาท*
OPI สีทาเล็บที่ฮิตมาก ๆ ค่ะ เพราะได้รับความนิยมทั้งในไทยและต่างประเทศ ซึ่งขอบอกเลยค่ะว่าหากเราไปที่ร้านทำเล็บหรู ๆ ทางร้านมักจะใช้เฉดสีทาเล็บจาก OPI กันทั้งนั้น โดยทางแบรนด์ได้เคลมมาสีทาเล็บจะช่วยให้สีเล็บดิดทนนานและเปล่งประกายเหมือนสีเจลเลยทีเดียวค่ะ อีกทั้งยังแห้งเร็วอีกด้วย ส่วนขนแปรงไม่พูดถึงไม่ได้ค่ะ เพราะขนแปรงของเขาเหมาะกับทุกขนาดเล็บเลยล่ะค่ะ ไม่ว่าจะเกลี่ยมุมไหนก็ไม่เป็นก้อนและไม่เป็นคราบ ใครที่อยากใช้สีทาเล็บแบบพรีเมียมต้องไม่พลาดนะคะ
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์
- เป็นแบรนด์สีทาเล็บระดับพรีเมียมให้เฉดสีที่สวยงาม
- เหมาะสำหรับทุกคนเพราะมีหลายเฉดสีให้เราได้เลือกใช้
- ให้ฟินิชลุคแวววาวแบบสีเจลทำให้สีดูสวยทุกครั้งที่เราได้ใช้งาน
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee
Zoya สีทาเล็บ
ราคา 390 บาท*
สีทาเล็บจาก Zoya เป็นสีทาเล็บที่เหมาะสำหรับทุกคน เพราะเป็นสีทาเล็บที่ปลอดภัยเนื่องจากไม่มีสารอันตราย เด็กใช้ได้คนที่ตั้งครรภ์ก็ใช้งานได้เช่นกัน เฉดสีมีหลายแบบให้เลือกค่ะทั้งสีโทนนู้ด สีสดหรือสีพาสเทล เฉดสีมีความสวยงามสามารถขับสีผิวของเราให้ดูกระจ่างใสขึ้นได้ ขอบอกเลยค่ะว่าสีทาเล็บจากแบรนด์นี้ได้รับความนิยมไปทั่วโลกค่ะ เพราะสีที่ใช่เป็นสีที่ไม่มีสารพิษ อีกทั้งยังแห้งเร็ว ทาได้ง่ายและไม่เป็นคราบ หัวแปรงเป็นแบบแบนเรียวสามารถซอกซอนได้ทุกซอกทุกมุมของเล็บค่ะ
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์
- มีให้เลือกทั้งแบบแวววาว กลิตเตอร์และแมตต์
- เฉดสีมีความสวยงาม ปลอดภัยกับผู้ใช้เพราะปราศจากสารอันตราย
- เนื้อแน่นเนียนละเอียด เกลี่ยง่ายใช้แค่รอบเดียวก็เอาอยู่
ดูได้ที่ Shopee
Chanel Le Vernis Longwear Nail Colour สีทาเล็บ
ราคา 1,050 บาท*
Chanel Le Vernis Longwear Nail Colour เป็นสีทาเล็บที่พรีเมียมที่สุดและเราอยากนำเสนอที่สุดค่ะ เพราะแบรนด์ชาแนลเป็นแบรนด์ที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพ นอกจากเครื่องสำอางและกระเป๋าแล้ว สีทาเล็บของทางแบรนด์ก็โดดเด่นไม่แพ้ใคร สีทาเล็บได้ผสมผสานนวัตกรรมเพื่อสีสันติดทนนาน มอบสีสันอันโดดเด่น เปล่งประกายพร้อมปกป้องเล็บ สีสันจึงสวยแบบไม่มีที่ติ เนื้อของสีทาเล็บมีความบางเบาและเปล่งประกาย การทาสีทาเล็บแต่ละชั้นจะช่วยให้สีเล็บดูเรียบเนียนเป็นประกาย โดยเนื้อจะเป็นแบบแมตต์สีพื้นค่ะ ราคาสูงก็จริงนะคะทุกคนแต่ไม่ทำร้ายเล็บอย่างแน่นอนแถมสีก็สวยมาก ๆ ค่ะ
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์
- ปราศจากสารอันตรายและมีเซราไมด์ช่วยบำรุงเล็บ
- สามารถใช้ทาและเพ้นท์สีเล็บได้ทุกประเภท
- ติดทนยาวนานมาก ๆ หากทาท็อปโค้ทด้วยจะยิ่งติดทนนานขึ้นไปอีก
ดูได้ที่ Shopee
ดูได้ที่ Central
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ รีวิว ยาทาเล็บ ยี่ห้อไหนดี สีสวยน่าใช้ ปี 2022
ยี่ห้อ/รุ่นสินค้าคุณสมบัติดูเพิ่มเติม- ปริมาณ: 9 มล.
- โทนสี : มีทุกโทนสีให้เลือก
- โทนสี: มีทุกโทนสีให้เลือก Finish Look : แวววาว
- แห้งเร็ว : ✔
- ปริมาณ: 6 มล.
- โทนสี : สีอุ่นโทนนู้ด
- Finish Look : แวววาว
- แห้งเร็ว: ✔
- ปริมาณ: 8 มล.
- โทนสี: มีทุกโทนสีให้เลือก
- Finish Look : แมตต์
- แห้งเร็ว: ✔
- ปริมาณ: 12 มล.
- โทนสี: มีทุกโทนสีให้เลือก
- Finish Look : แวววาว
- แห้งเร็ว : ✔
- ปริมาณ : 6 มล.
- โทนสี : มีทุกโทนสี
- Finish Look : แวววาว
- แห้งเร็ว: ✔
- ปริมาณ : 7 มล.
- โทนสี: มีทุกโทนสีให้เลือก
- Finish Look: แวววาว
- แห้งเร็ว: ✔
- ปริมาณ: 6 มล.
- โทนสี: มีทุกโทนสีให้เลือก
- Finish Look: แวววาว
- แห้งเร็ว: ✔
- ปริมาณ: 15 มล.
- โทนสี: มีทุกโทนสีให้เลือก
- Finish Look: แวววาว
- แห้งเร็ว : ✔
- ปริมาณ: 15 มล.
- โทนสี : มีทุกโทนสีให้เลือก
- Finish Look: วววาวและแมตต์
- แห้งเร็ว: ✔
- ปริมาณ: 13 มล.
- โทนสี : สีโทนอุ่นและร้อน
- Finish Look : แวววาว
- แห้งเร็ว: ✔
วิธีดูแลเล็บให้สวยปัง ดูสุขภาพดี
เป็นอย่างไรกันบ้างคะสาว ๆ ถูกใจสินค้ากันหรือเปล่า นอกจากเราจะมาแนะนำสินค้าแล้ว สำหรับวันนี้เราก็ยังมีวิธีดูแลเล็บมาฝากอีกด้วยค่ะ หลังจากที่สาว ๆ เบื่อสีทาเล็บบนมือแล้วก็ควรล้างออกด้วยน้ำยาล้างเล็บ โดยอาจจะใช้น้ำยาล้างเล็บแบบน้ำหรือแบบแผ่นก็ได้ค่ะ แนะนำเลือกสูตรที่อ่อนโยนต่อหน้าเล็บนะคะเพราะเดี๋ยวเล็บจะเป็นคราบได้ค่ะ ก่อนจากกันวันนี้เราก็มีวิธีดูแลเล็บแบบง่าย ๆ มาฝากทุกคนกันค่ะ
- ใช้น้ำมันมะกอก (สำหรับบำรุงผิวและเส้นผม) หากเล็บของคุณกำลังเปราะบาง แตกหรือหักง่ายจากการทาเล็บ ให้แช่เล็บลงในน้ำมันมะกอก วันละ 10-15 นาที ทำแบบนี้เป็นเวลา 1 เดือน จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นทุก ๆ 2 สัปดาห์ รับรองว่าสุขภาพเล็บดีขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ อีกทั้งน้ำมันมะกอกยังช่วยให้เล็บยาวเร็วและแข็งแรงขึ้นอีกด้วยค่ะ
- กินอาหารเสริมไบโอติน (บำรุงเล็บ) ควรจะเลือกกินอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของไบโอติน ซึ่งไบโอตินจะช่วยบำรุงผมและเล็บให้ยาว แข็งแรงและดูดีขึ้นค่ะ นอกจากนี้ควรทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ด้วยนะคะและหากใครไม่อยากทานอาหารเสริมเราขอแนะนำให้ทานน้ำเต้าหู้ป็นประจำค่ะ เพราะในน้ำเต้าหู้มีวิตามินอยู่มากจะสามารถช่วยบำรุงผมและเล็บได้ค่ะ
- พักเล็บ สิ่งที่ควรทำมาก ๆ นั่นก็คือการพักเล็บค่ะการ พักเล็บเป็นการใช้ระยะเวลาในการฟื้นฟูเล็บค่ะ วิธีนี้เป็นวิธีธรรมชาติ เมื่อเบื่อสีเล็บเดิมแล้วควรพักเล็บให้นานที่สุดแล้วค่อยกลับมาทาเล็บอีกครั้งค่ะ
เราหวังว่าข้อมูลที่กล่าวมาข้างต้นจะเป็นประโยชน์ต่อคุณนะคะ แล้วนอกจากบำรุงเล็บแล้วควรบำรุงมือด้วยการทาครีมทามือ (แฮนด์ครีม) และน้ำมันบำรุงเล็บทุกครั้งนะคะ เพื่อให้ผิวบริเวณนุ่ม ชุ่มชื้น ไม่แห้งกระด้างค่ะ สำหรับวันนี้เราก็ขอลาไปก่อนนะคะ ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ