ในสถานการณ์แบบนี้ เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนคงมองหาที่ออมเงินที่ปลอดภัย ได้ผลตอบแทนแน่นอน และไม่อยากเสี่ยงกับขาดทุนเหมือนกับการลงทุนอยู่ใช่มั้ยครับ บางคนอาจจะเลือกออมเงินกับบัญชีฝากประจำแบบปลอดภาษี บางคนอาจจะเลือกบัญชีออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูง ซึ่งที่กล่าวมา ก็เป็นทางเลือกที่ดีครับ
แต่ในวันนี้ บ.ก.aomMONEY อยากจะมาแนะนำอีกช่องทางการออมเงินอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ได้ผลตอบแทนแน่นอน ปราศจากความเสี่ยง มีระยะเวลากำหนดแน่ชัด และเป็นเงินก้อนไว้ให้คนข้างหลังในกรณีเสียชีวิต ที่สำคัญ คือ "ลดหย่อนภาษี" ได้ครับ และการออมเงินรูปแบบนั้นก็คือ “ประกันสะสมทรัพย์”
1.รู้ก่อนว่าประกันสะสมทรัพย์ คือ อะไร ?
ประกันสะสมทรัพย์ เป็นประกันชีวิตอีกรูปแบบหนึ่งที่เน้นการออมเงิน พร้อมรับความคุ้มครองไปพร้อมๆ กัน เมื่อเราส่งเบี้ยประกันครบตามระยะเวลาที่ระบุในกรมธรรม์ ประกันชีวิตก็จะจ่ายเงินคืนให้เรา โดยมีทั้งแบบจ่ายคืนเป็นเงินก้อนครั้งเดียว หรือแบบมีเงินคืนระหว่างทางตลอดสัญญาก็ได้ และถ้าเราเสียชีวิตระหว่างที่ส่งกรมธรรม์ คนข้างหลังเราก็จะได้รับเงินก้อนที่เรียกว่า “จำนวนเงินเอาประกัน” ตามจำนวนที่ระบุไว้ในสัญญากรมธรรม์ครับ
2.รู้ข้อดีของประกันสะสมทรัพย์
- เป็นการออมเงินที่มีผลตอบแทนแน่นอน มีการันตีว่าจะได้เงินจำนวนเท่าไหร่ ปราศจากความเสี่ยง
- คุ้มครองชีวิตและสร้างความมั่นคงให้กับคนข้างหลัง (กรณีเราเสียชีวิตระหว่างส่งกรมธรรม์)
- มีเงินก้อนไว้ใช้ในอนาคต เมื่อส่งเบี้ยครบตามอายุสัญญา
- ใช้ลดหย่อนภาษีได้ สูงสุดถึง 100,000 บาท
- ผลตอบแทนของประกันชีวิตไม่เสียภาษีเหมือนดอกเบี้ยบัญชีออมทรัพย์
3.รู้ว่า ตัวเลขด้านหน้า / ตัวเลขด้านหลัง คือ อะไร ?
บางคนไม่เคยซื้อประกันชีวิตมาก่อน อาจจะเคยเจอ ประกันออมทรัพย์ A 10/7 แล้วไม่เข้าใจ ว่าตัวเลขทั้งสองนั้นหมายถึงอะไร บ.ก.ขออธิบายง่ายๆ ตามนี้ครับ
- ตัวเลขด้านหน้า คือ จำนวนปีที่คุ้มครอง
- ตัวเลขด้านหลัง คือ จำนวนปีที่ชำระเบี้ยประกันภัย
ตัวอย่าง
ประกันชีวิตแบบออมทรัพย์ A 10/7 หมายความว่า ประกันตัวนี้ให้ความคุ้มครองชีวิต 10 ปี และมีระยะเวลาจ่ายชำระเบี้ย 7 ปี เมื่อครบกำหนดตามสัญญากรมธรรม์ ก็จะได้รับเงินออมและผลประโยชน์ตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ครับ
4.รู้ข้อด้อยของประกันสะสมทรัพย์
หลายคนอ่านแล้วรู้สึกว่าประกันสะสมทรัพย์มีแต่ข้อดีทั้งนั้นเลย งั้นเราเก็บเงินไว้กับประกันสะสมทรัพย์หมดเลยได้มั้ย คำตอบ คือ ไม่ควรครับ จะเพราะอะไร บ.ก.ขอเล่าให้ง่ายๆ แบบนี้ครับ
1.สภาพคล่องน้อยกว่าการฝากเงินบัญชีออมทรัพย์
ถ้าเราจำเป็นต้องใช้เงินขึ้นมา ประกันสะสมทรัพย์ไม่สามารถเบิก-ถอนเงินออกมาได้ทันใจเหมือนกับบัญชีออมทรัพย์นะครับ สมมติว่าเพื่อนๆ ส่งเบี้ยประกันอยู่แต่ยังไม่ครบตามสัญญา ถ้าจำเป็นจะต้องนำเงินออกมาใช้แบบฉุกเฉิน จะต้องทำเรื่อง “เวนคืนกรมธรรม์” นั่นก็คือ การที่เราขอยกเลิกกรมธรรม์ เพื่อรับเงินสดจากบริษัทประกันนั่นเองครับ ถือว่าสัญญาเป็นอันสิ้นสุด ไม่มีความคุ้มครองอีกต่อไป และแน่นอนว่าอาจจะได้เงินมากกว่าหรือน้อยกว่าเบี้ยที่จ่ายไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่จ่ายเบี้ยเทียบกับจำนวนปีที่ต้องจ่ายครับ
2.ทุนประกันไม่สูง
ในที่นี้หมายถึงถ้าเปรียบเทียบกับแบบประกันอื่นๆ ในจำนวนเงินที่จ่ายเบี้ยประกันที่เท่ากัน และถ้าเพื่อนๆ เน้นความคุ้มครองกรณีเสียชีวิตเพื่อมีเงินไว้ให้กับคนข้างหลัง ลองดูประกันชีวิตแบบตลอดชีพหรือชั่วระยะเวลาน่าจะเหมาะสมกว่าครับ
3.ผลตอบแทนไม่สูงมาก
ประกันสะสมทรัพย์ เหมาะกับคนที่ต้องการความมั่นคง เพราะเป็นการออมเงินพร้อมกับได้รับความคุ้มครองกรณีเสียชีวิตไปด้วย ผลตอบแทนจึงไม่สูงเมื่อเทียบกับการนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์อื่น อย่าง หุ้น กองทุน หรืออสังหาฯ
5.เราจะรู้ได้ไงว่าประกันสะสมทรัพย์ตัวไหนคุ้มสุด?
บ.ก.แนะนำง่ายๆ ครับลองคำนวณเบี้ยที่ส่งไปทั้งหมด ว่าส่งเบี้ยไปเท่าไหร่ แล้วเราได้เงินรับคืนมาทั้งหมดเท่าไหร่ ลองมาหักลบกันดู แล้วเทียบกันดูหลายๆ เจ้าครับ แต่ทั้งนี้ก็อย่าลืมดูทุนประกันด้วยนะครับ เพราะแต่ละที่เบี้ยเท่ากัน แต่ทุนประกันไม่เท่ากัน รวมไปถึงดูระยะเวลาการส่งเบี้ยด้วยนะครับ
สรุป
สำหรับคนที่ต้องการความมั่นคงในชีวิตและคนข้างหลัง โดยกำลังมองหาที่ที่ออมเงินและต้องการความคุ้มครองชีวิตไปพร้อมๆ กันด้วย ให้ลองมองมาที่ประกันสะสมทรัพย์ครับ แต่ถ้าเน้นอยากคุ้มครองชีวิตสูงๆ ก็ควรดูประกันชีวิตแบบอื่น หรือถ้าอยากได้ผลตอบแทนที่สูงกว่านี้ก็ควรลงทุนในสินทรัพย์อย่างอื่น
ที่สำคัญ ก่อนตัดสินใจซื้อ ควรศึกษาและเช็คความสามารถในจ่ายค่าเบี้ยประกันของตัวเองด้วยนะครับ โดยเกณฑ์เบื้องต้นสำหรับการคำนวณเบี้ยประกันชีวิตนั้นไม่ควรเกิน 10% ของรายได้ต่อปี และใน 1 คน ก็ไม่ควรมีกรมธรรม์ประกันชีวิตซ้ำซ้อนกันหลายฉบับ จนจ่ายเบี้ยไม่ไหวนะครับ
ในช่วงที่ผ่านมาหลายคนคงได้รับผลกระทบจากปัญหาโควิดมาไม่มากก็น้อย นี่คงเป็นตัวอย่าง หรือบทเรียนราคาแพงที่ทำให้ทุกคนหันมาสนใจ และเตรียมรับมือกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งในด้านเศษฐกิจ สังคม การเมือง ปัญหาระหว่างประเทศ ที่อาจจะส่งผลกระทบกับทุกคนในยุคหลังโควิด ดังนั้นเราควรลงทุนกับอะไรให้เงินงอกเงย และมีความเสี่ยงน้อยที่สุด จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงควรเลือกลงทุนกับประกันออมทรัพย์
1.ประกันออมทรัพย์ช่วยทำให้ชีวิตเรามั่นคง
ทำไมเราถึงต้องลงทุนกับประกันออมทรัพย์ ลงทุนอย่างอื่นไม่ดีกว่าเหรอ? คำตอบคือใช่แล้วการลงทุนอย่างอื่นอาจให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า แต่ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันการลงทุนทางเดียว เป็นเรื่องที่ไม่สมควร เนื่องจากคุณอาจต้องสูญเสียเงินทั้งชีวิตในคราวเดียว หากตัดสินใจผิดพลาด ดังนั้น การลงทุนหลายทาง จึงเป็นวิธีบริหารจัดการความเสี่ยงที่ดีที่สุด และการซื้อประกันชีวิตแบบออมทรัพย์ก็ถือเป็นทางเลือกของการสร้างหลักประกันให้ชีวิตมั่นคงอีกทาง นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างวินัยให้ตัวเองรู้จักออมเงินอีกด้วย
2.ประกันออมทรัพย์ช่วยทำให้คุณ ได้รับผลตอบแทนและใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้
ทุกวันนี้ข้าวของทุกอย่างล้วนทยอยกันปรับตัวขึ้นสูง แล้วเราจะทำอย่างไรได้ ในเมื่อตนเป็นที่พึ่งแห่งตน เราจึงควรเรียนรู้ และเข้าใจเรื่องสิทธิ์ต่าง ๆ ใน การลดหย่อนภาษี เพราะนอกจากจะช่วยลดรายจ่ายแล้วผลตอบแทนไม่ถูกนับเป็นรายได้ไม่ต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย ถือเป็นการเปลี่ยนภาษีให้เป็นเงินออมไว้ใช้ในอนาคตอีกด้วย
3.ประกันออมทรัพย์เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ และให้ผลตอบแทนคุ้มค่า
อย่างที่รู้กันหลายคนคงไม่ได้มีเงินเก็บเยอะโดยเฉพาะวัยรุ่นที่เพิ่งสร้างเนื้อสร้างตัว ไม่มีเวลาไปนั่งดูหุ้น หรือเทรดคริปโตที่ขึ้นลงรายวินาที ดังนั้นการทำประกันออมทรัพย์นอกจากจะไม่ต้องมานั่งเสียเวลาเฝ้าดูแล้ว ยังให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า ถือเป็นการเพิ่มมูลค่าให้ทรัพย์สินมากขึ้นนอกจากปล่อยเงินทิ้งไว้เฉย ๆ
4.ประกันออมทรัพย์เป็นหลักประกันให้คนข้างหลัง
ประกันออมทรัพย์มาพร้อมความคุ้มครองในกรณี ผู้เอาประกันภัย เสียชีวิต แน่นอนว่าคนทำประกันส่วนใหญ่คงไม่มีใครอยากใช้เงินประกันในส่วนนี้อย่างแน่นอน แต่เหตุการณ์เหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่ใครจะสามารถควบคุมมันได้ ดังนั้นหลักประกัน ที่ดีคือ “มรดก” ที่จะทิ้งไว้ให้คนข้างหลัง
5.ประกันออมทรัพย์สามารถเป็นเงินฉุกเฉิน
ในสถานการณ์คับขันเราอาจไม่สามารถพึ่งพิงใครได้ในยามลำบาก แต่กรมธรรม์สามารถเปลี่ยนเป็นเงินได้ในกรณีฉุกเฉิน ไม่ว่าจะเป็นการนำเงินไปชำระค่าบ้าน ค่างวด ค่ารถ ค่าเทอม หรือค่ารักษาพยาบาล ด้วยการขอ กู้เงินกรมธรรม์ หรือหากเราไม่อยากรับภาระดอกเบี้ย และสามารถยอมเสียผลประโยชน์บางส่วนได้ เราก็สามารถเลือก เวนคืนกรรมธรรม์ เพื่อนำเงินมาใช้ยามฉุกเฉิน แต่ขอย้ำว่าวิธีนี้ควรใช้เฉพาะยามจำเป็นจริง ๆ เท่านั้นนะ
อ่านจนมาถึงตรงนี้หลายคนคงเริ่มสนใจอยากหาข้อมูลเกี่ยวกับประกันออมทรัพย์กันไม่มากก็น้อยแล้ว หากสนใจข้อมูลเพิ่มเติมหรือต้องการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญสามารถกรอกข้อมูลเพื่อรับการติดต่อกลับได้เลยนะ และแน่นอนว่าทุกครั้งที่ตัดสินใจซื้อประกันควรศึกษาผลิตภัณท์ และเงื่อนไขต่าง ๆ ก่อนการตัดสินใจซื้อทุกครั้งนะ หรือ สนใจซื้อประกันออนไลน์ ง่ายๆ