ผู้หญิงหลายคนมักจะคิดว่าการสร้างซิกแพคสวย ๆ สำหรับผู้หญิงนั้นมันเป็นเรื่องยาก เราอยากให้ลองเปลี่ยนความคิดใหม่ค่ะ จริง ๆ แล้วเราไม่ต้องไปเข้ายิม ยกเวทแบบฮาร์ดคอร์เหมือนพวกผู้ชายที่บ้าพลังเขาทำกันหรอก เพราะอยู่ที่บ้านเราก็สร้างซิกแพคได้ง่าย ๆ แค่ 2 ท่า กับเวลา 5 นาทีต่อวัน เชื่อไหมว่าแค่ 5 วัน เราก็เริ่มเห็นกล้ามท้องน้อย ๆ ลายสวย ๆ สำหรับผผู้หญิงอย่างเราแล้ว มา! เริ่ม!
เริ่มต้นด้วยท่า Full Plank 1 นาที พักประมาณ 15 วินาที แล้วทำท่า Elbow Plank ต่อเลยอีก 30 วินาที เมื่อทำครบแล้วทั้ง 2 ท่าให้นับเป็น 1 เซ็ต ให้ทำทั้งหมด 3 เซ็ตต่อวัน เชื่อไหมว่าแค่ 5 วัน ลองเช็คดูก็เริ่มเห็นผลแล้ว ลองคิดดูว่าถ้าเราทำติดต่อกัน 2 อาทิตย์ก็จะได้ซิกแพคสวย ๆ ไม่เยอะไป ไม่น้อยไป สำหรับคุณผู้หญิงอย่างเราได้ใส่เสื้อเอวลอย โชว์กล้ามท้องอย่างภาคภูมิใจแล้วละ
พอกันทีกับการผอมแต่มีพุงและไขมันที่เกาะหน้าท้องอยู่ เพราะตอนนี้เป็นช่วงของเทรนด์สุขภาพที่กำลังมาแรง สาว ๆ เริ่มหันมาใส่ใจสุขภาพและรูปร่างกันมากขึ้น และพยายามสรรหาวิธีสร้างซิกแพคแบบต่าง ๆ เพื่อให้มีกล้ามท้องที่สวยงาม ใส่เสื้อเอวลอยอย่างไรก็ไม่มีโป๊ะ
ซึ่งสำหรับใครที่กำลังสนใจอยากปั้นซิกแพคบ้าง วันนี้เราจะพาคุณไปเริ่มปฏิบัติการฝึก 7 ท่าสร้างซิกแพค สร้างกล้ามท้องฉบับง่าย ที่ใคร ๆ ก็ทำได้ ไปลองฝึกกันแบบแน่น ๆ เน้น ๆ 30 วัน ไปเลย รับรองว่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน
ซิกแพค (Sixpack)
หากจะแปลความหมายแบบตรงตัวแล้ว ซิกแพค (Sixpack) จะหมายถึงหน้าท้องที่แบนราบและมีกล้ามเนื้อที่เเข็งแรงจนเห็นมัดกล้ามเนื้อข้างซ้าย 3 มัด และข้างขวา 3 มัด ซึ่งกล้ามเนื้อหน้าท้องมีความสำคัญอย่างมากเพราะเป็นมัดกล้ามเนื้อที่อยู่แกนกลางลำตัวที่ทำหน้าที่ช่วยพยุงร่างกายของเราไว้
ดังนั้นแม้จะไม่ต้องการปั้นซิกแพคสวย ๆ แต่ยังควรบริหารกล้ามเนื้อส่วนนี้อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะผู้ที่มักมีอาการปวดหลังจากการนั่งนาน ยืนนาน หรือจากการยกของ เพราะนั่นอาจมาจากการที่กล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวไม่แข็งแรงพอ
นอกจากนี้ในความเป็นจริงแล้ว เราทุกคนจะมีซิกแพคกันอยู่แล้ว เพียงแต่ด้วยวิธีการใช้ชีวิตและอาหารการกิน ทำให้ร่างกายมีไขมันสะสมบริเวณหน้าท้องจนบดบังซิกแพคไปหมด ยิ่งตอนนี้ที่คนส่วนใหญ่อยู่ในช่วงที่ต้องนั่งทำงานจากที่บ้าน ก็อาจจะทำให้เพลิดเพลินกับการกินมากไปและแทบไม่ได้ออกกำลังกาย จนทำให้หลายคนเริ่มมีพุงจนต้องหาวิธีลดพุงแบบด่วน ๆ กันเลยทีเดียว
แต่สำหรับใครที่ไม่อยากแค่เพียงลดพุงแต่อยากได้วิธีสร้างซิกแพคแบบด่วน ๆ ด้วย เดี๋ยววันนี้เรามาลองฝึกท่าสร้างซิกแพคแบบง่าย ๆ กันค่ะ รับรองว่านอกจากพุงหายแล้ว ยังมีมัดกล้ามเนื้อสวย ๆ ไว้ชื่นใจอีกด้วย
แนะนำวิธีสร้างซิกแพค ฉบับง่าย สำหรับมือใหม่
การมีซิกแพคนั้น นอกจากจะสร้างความมั่นใจกับรูปร่างและบุคลิกภาพที่ดีแล้ว ยังช่วยลดอาการปวดหลังจากการนั่งนาน ยืนนานได้ ซึ่งวิธีสร้างซิกแพคจะให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ทั้งเรื่องเปอร์เซ็นต์ไขมัน ความแข็งแรงของร่างกาย อาหารการกิน และพันธุกรรม
แต่ไม่ว่าจะมีองค์ประกอบอะไรเข้ามาเกี่ยวข้องมากมาย เราก็สามารถมีซิกแพคที่สวยงามได้ หากรู้และปฏิบัติวิธีสร้างซิกแพคที่ถูกต้องเหมาะสม จะมีวิธีไหนบ้างไปดูกันเลยค่า
1. การควบคุมอาหารคือปัจจัยสำคัญ
สำหรับมือใหม่แล้วควรเริ่มต้นด้วยการควบคุมอาหารและลดปริมาณแคลอรีก่อน เพื่อจำกัดปริมาณพลังงานที่ร่างกายจะได้รับต่อวัน แต่แม้ว่าจะต้องลดปริมาณแคลอรีลง การได้รับสารอาหารที่จำเป็นครบถ้วนก็เป็นสิ่งสำคัญในระหว่างการสร้างซิกแพค
ดังนั้นในระหว่างที่เราปั้นซิกแพคจึงควรเลือกกินแต่อาหารที่มีประโยชน์ในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป ลองไปดูกันก่อนดีกว่าว่าควรทานอาหารแบบไหนบ้าง
- อาหารที่มีโปรตีนไขมันต่ำ ในช่วงระหว่างการสร้างซิกแพคนั้น โปรตีนถือเป็นสารอาหารหลักที่สำคัญในการสร้างกล้ามเนื้อ ซ่อมแซมกล้ามเนื้อและร่างกายหลังออกกำลังกาย เราจึงควรเน้นกินอาหารที่มีโปรตีนสูงไขมันต่ำ ซึ่งมักอยู่ในเนื้อหมู ไก่ ปลา นม และถั่วต่าง ๆ หรืออาจเสริมด้วยการกินเวย์โปรตีนที่นอกจากจะสะดวก กินง่าย สามารถกำหนดปริมาณโปรตีนได้ และยังให้โปรตีนไขมันต่ำในปริมาณที่สูง และยังช่วยให้อิ่มท้องนานอีกด้วย
- เลือกกินคาร์บที่มีประโยชน์ แม้โปรตีนจะเป็นสารอาหารหลักสำคัญ แต่ร่างกายยังคงต้องการสารอาหารอื่น ๆ เพื่อให้ได้สารอาหารที่ครบถ้วน ในการเลือกกินคาร์บควรเลือกแบบไม่ขัดสี เพราะจะให้กากใย วิตามิน และเกลือแร่ มากกว่าธัญพืชที่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ข้าวสาลี ข้าวโอ๊ต งา ข้าวโพด ลูกเดือย
- เพิ่มกากใยในมื้ออาหาร ในการกินอาหารแต่ละมื้อควรเพิ่มปริมาณผักและผลไม้เข้าไป เพราะอาหารที่มีกากใยสูงจะช่วยควบคุมปริมาณแบคทีเรียในลำไส้ ลดความอยากอาหาร และเร่งการเผาผลาญไขมัน โดยเฉพาะผักและผลไม้ที่มีกากใยสูงอย่างบร็อกโคลี่ ผักบุ้ง แอปเปิล ฝรั่ง
- ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อร่างกาย เพราะร่างกายมีองค์ประกอบของน้ำอยู่มากกว่า 70% น้ำจึงเป็นสิ่งสำคัญต่อการดำรงชีวิต ดังนั้นเราจึงควรดื่มน้ำอย่างน้อย 3 – 4 ลิตรต่อวัน เพื่อให้ร่างกายได้รับน้ำที่เพียงพอต่อความต้องการ
- เลือกกินขนมที่ดีต่อสุขภาพ การพกขนมเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่ใช่สิ่งที่ผิดนะคะ แม้ว่าเราจะอยู่ในช่วงคุมอาหาร แต่เรายังสามารถกินขนมได้ สำหรับคนที่ติดขนมขอแนะนำให้พกขนมติดตัวไว้เลยค่ะ แต่ให้เลือกขนมที่ดีต่อสุขภาพ เช่น ขนมคลีนต่าง ๆ และผลไม้ มีพกติดตัวไว้ดีกว่าหิวแล้วไปเผลอกินของมันของทอดน้า
2. เลือกออกกำลังกายอย่างถูกวิธี
การออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างซิกแพค โดยเฉพาะหากมีการออกกำลังกายที่ถูกต้องเหมาะสมจะช่วยให้เรามีซิกแพคได้เร็วขึ้น สำหรับการออกกำลังกายเพื่อสร้างซิกแพคนั้นควรออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอควบคู่ไปกับการเวทเทรนนิ่ง
โดยการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอจะทำให้ร่างกายเกิดการเผาผลาญไขมัน ทำให้ร่างกายมีเปอร์เซ็นต์ไขมันที่ต่ำลง และเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้เห็นซิกแพคชัดเจนขึ้น และหากใครต้องการลดไขมันแบบด่วน ๆ แต่มีเวลาที่จำกัด ก็สามารถใช้วิธีการ ออกกำลังกายแบบ HIIT ซึ่งเป็นการออกกำลังกายแบบหนัก สลับกับการออกกำลังกายแบบเบา ๆ เป็นเวลา 10 – 30 นาที แต่สามารถเผาผลาญไขมันได้ดีกว่าการวิ่งระยะไกลด้วยความเร็วคงที่
และในส่วนของการบอดี้เวทจะเน้นการฝึกท่าสร้างซิกแพคบริหารสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหน้าท้องเป็นหลัก ซึ่งการออกกำลังกายควบคู่กันไปแบบนี้จะช่วยให้ร่างกายมีเปอร์เซ็นต์ไขมันที่ลดลง กล้ามเนื้อหน้าท้องและกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวแข็งแรง และสามารถเห็นซิกแพคได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น
3. เพิ่มประสิทธิภาพการออกกำลังกายด้วยการกินเป็นเวลา
รู้หรือไม่คะว่าหากเรามีการกินอาหารบางประเภทในบางช่วงเวลา จะสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการออกกำลังกายได้ ไปดูกันเลยค่ะว่ามีการกินแบบไหนในช่วงเวลาใดบ้าง
- เลือกกินอาหารที่มีคาร์บสูงร่วมกับโปรตีนไขมันต่ำพอประมาณ ในช่วง 3 – 4 ชั่วโมง ก่อนออกกำลังกาย
- กินอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยวสูง ในช่วงเวลา 1 – 2 ชั่วโมง ก่อนการออกกำลังกาย อาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยวสูง เช่น ข้าวขาว ขนมปัง ซอสแอปเปิล
- กินโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตหลังการออกกำลังกาย โดยกินอาหารว่างภายใน 1 ชั่วโมง และอาหารมื้อหลักภายใน 2 ชั่วโมง
บทความอ่านเพิ่มเติม
- [ตาราง] เมนูอาหารลดน้ำหนัก ควบคุมอาหารลดพุง ใน 7 วัน 30 วัน
- แจก! 20 เมนูแคลน้อย เมนูอาหารช่วยลดน้ำหนัก กินได้ง่ายๆ ไม่กลัวอ้วน
- แจกสูตร! กินโลว์คาร์บ ลดน้ำหนัก ลดไขมัน อย่างไรให้เห็นผล
4. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอถือเป็นอีกสิ่งที่สำคัญอย่างมากในการสร้างซิกแพค เพราะการนอนดึก หรือนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอจะทำให้กล้ามเนื้อต่อต้านสารอินซูลินซึ่งทำให้เกิดไขมันสะสมเพิ่มขึ้น ระบบเผาผลาญไขมันถูกรบกวนและเผาผลาญไขมันได้น้อยลง ดังนั้นเมื่อกินอาหารที่ดีมีประโยชน์ ออกกำลังกายที่เหมาะสมแล้ว อย่าลืมพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ได้กล้ามท้องสวย ๆ นะคะ
ซิกแพคผู้หญิง กับ ซิกแพคผู้ชาย
สำหรับวิธีสร้างซิกแพคในผู้หญิงและผู้ชายนั้นจะมีความแตกต่างกัน ด้วยโครงสร้างร่างกายและฮอร์โมนของผู้หญิงทำให้มีไขมันสะสมได้ง่ายและมากกว่าผู้ชาย ซึ่งในการสร้างซิกแพคแม้จะมีการฝึกท่าสร้างซิกแพคที่ถูกต้อง แต่สำหรับผู้หญิงการมีซิกแพคที่เห็นได้ชัดเป็นเรื่องที่ทำได้ยากกว่าผู้ชาย
ดังนั้น ในการฝึกสำหรับผู้หญิงจึงไม่จำเป็นต้องเน้นการออกกำลังกายที่บริหารกล้ามเนื้อหน้าท้องหนัก ๆ ก่อน แต่ควรออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอหนัก ๆ เพื่อเร่งการเผาผลาญไขมัน ลดเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกายให้เหลือประมาณ 14 – 20% ควบคู่กับการเวทเทรนนิ่ง และการคุมอาหารลดปริมาณแคลอรี เพื่อให้ร่างกายดูลีนจนสามารถมองเห็นซิกแพคได้
ซึ่งจะแตกต่างจากผู้ชาย เพราะพื้นฐานร่างกายผู้ชายจะมีฮอร์โมนสร้างกล้ามเนื้อและมีมวลกล้ามเนื้อมากกว่า มีการเผาผลาญไขมันที่มากกว่าจึงมีไขมันสะสมน้อยกว่าผู้หญิง ซึ่งเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกายของผู้ชายที่ลีนพอจะเห็นซิกแพคจะอยู่ที่ 5 – 10 %
ดังนั้นสำหรับผู้ชายจึงไม่จำเป็นต้องเคร่งครัดกับการคุมอาหารมากนัก เพราะด้วยการเผาผลาญที่มากกว่าผู้หญิง จึงยังต้องการพลังงานสำหรับใช้ในการเผาผลาญระหว่างการออกกำลังกาย แต่ในแง่ของการออกกำลังกายนั้นก็ยังคงต้องออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอควบคู่กับการฝึกท่าสร้างซิกแพคเช่นกัน
7 ท่าสร้างซิกแพค ออกกำลังกายสร้างกล้ามท้อง
มาสู่ส่วนของวิธีสร้างซิกแพคด้วยการฝึกฝนท่าสร้างซิกแพคต่าง ๆ ที่วันนี้เรานำมาให้ทดลองฝึกกันถึง 7 ท่า เพื่อให้ทุกคนได้ฝึกฝนท่าออกกำลังกายลดหน้าท้องที่เน้นสร้างซิกแพคแบบปัง ๆ ไปดูกันเลยค่าว่าแต่ละท่ามีวิธีปฏิบัติและข้อดีอย่างไรบ้าง
1. ท่า Crunch
ข้อดี
- ช่วยบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้องส่วนบน
วิธีปฏิบัติ
- เตรียมพร้อมในท่านอนราบกับพื้น ประสานมือไว้ที่ท้ายทอยหรือแตะหลังหู
- ชันเข่าขึ้น 90 องศา หายใจเข้าและยกตัวขึ้น 30 องศา โดยไม่ใช้มือยกหัวขึ้น และพยายามเกร็งหน้าท้องไว้
- จากนั้นเอนตัวลงท่าเริ่มต้น ทำซ้ำ 15 ครั้ง จำนวน 2 เซต
2. ท่า Flutter Kicks
ข้อดี
- ช่วยบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้องส่วนล่าง
- ช่วยบริหารกล้ามเนื้อเพิ่มความแข็งแรงบริเวณต้นขา สะโพก และก้น
วิธีปฏิบัติ
- เตรียมพร้อมในท่านอนราบกับพื้น และสอดมือไว้ใต้สะโพกหรือก้นกบ
- เกร็งหน้าท้อง พร้อมยกขาขึ้นสลับซ้ายและขวา
- ทำสลับ 20 ครั้ง จำนวน 2 เซต
3. ท่า Lying Leg Raises
ข้อดี
- ช่วยบริหารกล้ามเนื้อหลังและหน้าท้อง
- ช่วยบริหารกล้ามเนื้อเพิ่มความแข็งแรงบริเวณต้นขา
วิธีปฏิบัติ
- เตรียมพร้อมในท่านอนราบกับพื้น และสอดมือไว้ใต้สะโพก หรือประสานมือไว้ที่ท้ายทอย
- เกร็งหน้าท้อง พร้อมยกขาขึ้นทำมุม 90 องศา พยายามยืดขาให้ตรงและห้ามหลังงอ
- ทำซ้ำ 20 ครั้ง จำนวน 2 เซต
4 ท่า V-Sit
ข้อดี
- ช่วยบริหารสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหน้าท้องส่วนกลาง
- ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการออกกำลังกาย
วิธีปฏิบัติ
- เตรียมพร้อมในท่านอนราบกับพื้น และประสานมือไว้ที่ท้ายทอย
- ชันเข่าขึ้น 90 องศา และยกปลายเท้าขึ้นลอยจากพื้น ยกตัวขึ้นพร้อมกับดันเข่าเข้าหาหน้าอก ให้ข้อศอกเลยหัวเข่า
- จากนั้นคลายสู่ท่าเริ่มต้น แต่ไม่ให้เท้าแตะพื้น และทำซ้ำ 20 ครั้ง จำนวน 2 เซต
5. ท่า Russian Twist
ข้อดี
- ช่วยบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้อง
- ช่วยให้หน้าท้องกระชับและเป็นท่าลดเอวได้อีกด้วย
- ช่วยปรับสมดุลให้หลังตรง มีบุคลิกที่ดี
วิธีปฏิบัติ
- เตรียมพร้อมในท่านั่ง และเอนตัวไปด้านหลังเล็กน้อย
- งอเข่าและยกขาขึ้นให้ปลายเท้าลอยจากพื้น และประสานมือไว้ด้านหน้า
- บิดตัวไปด้านซ้ายและขวาสลับกัน ทำซ้ำ 20 ครั้ง จำนวน 2 เซต
6. ท่า Plank
ข้อดี
- ท่าแพลงก์ที่ช่วยบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้องเป็นหลัก
- ช่วยบริหารกล้ามเนื้อต้นแขนและสะโพก
วิธีปฏิบัติ
- เริ่มต้นด้วยท่าคล้ายท่าวิดพื้น แต่วางข้อศอกไว้ระนาบกับพื้น
- เกร็งหน้าท้อง และพยายามให้หลังตรงตลอดเวลา
- ทำท่านี้ค้างไว้ 15 วินาที จำนวน 2 เซต
7. ท่า Mountain Climbers
ข้อดี
- ช่วยเร่งอัตราการเต้นของหัวใจ
- ช่วยเร่งการเผาผลาญไขมัน
- ช่วยเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหน้าท้องและแกนกลาง
วิธีปฏิบัติ
- เริ่มต้นด้วยท่าคล้ายท่าวิดพื้น และเกร็งหน้าท้องไว้
- งอเข่าเข้าหาตัวสลับไปมา คล้ายกับการวิ่งขึ้นเขา
- พยายามทำด้วยความเร็วเท่าที่ไหว 20 ครั้ง จำนวน 2 เซต
แจก! ตารางสร้างซิกแพค 30 วัน
มาถึงช่วงสุดท้ายกับวิธีสร้างซิกแพคด้วยการลองนำท่าฝึกต่าง ๆ มาจัดเป็นตารางท่าสร้างซิกแพคแน่น ๆ จุก ๆ 30 วันไปเลยค่า ซึ่งท่าต่าง ๆ ที่นำมาวันนี้นอกจากจะสามารถนำมาฝึกตามในตารางได้แล้ว ใครที่มีโปรแกรมออกกำลังกายที่วางแผนไว้ก่อนแล้ว ก็สามารถนำไปปรับใช้ได้เหมือนกันนะคะ
แต่เอ๊ะพอเห็นจำนวนวันฝึก 30 วันแล้วอย่าพึ่งท้อน้า ไม่ได้หนักและยากเกินความสามารถเราแน่นอน เพราะเราจะมาเริ่มกันแบบเบา ๆ ก่อน และค่อยไล่ระดับความหนักขึ้นไป รับรองว่าสู้ไหวอย่างแน่นอน ไปดูกันเลยค่า
ตารางสร้างซิกแพค สัปดาห์ที่ 1
สัปดาห์ที่ 1 เราจะเริ่มให้ฝึกแต่ละท่าแบบไม่หนักมาก เพื่อสร้างความคุ้นชินให้กับร่างกายแล้วจึงค่อย ๆ เพิ่มจำนวนในสัปดาห์ถัดไป โดยในสัปดาห์ที่ 1 จะเริ่มด้วยท่าจะฝึกท่า Crunch 15 ครั้ง Lying Leg Raises 15 ครั้ง Plank 15 วินาที และ Mountain Climbers 15 ครั้ง จำนวน 1 เซต และในวันถัดไปจะเพิ่มจำนวนและรอบฝึก
ตารางสร้างซิกแพค สัปดาห์ที่ 2
สัปดาห์ที่ 2 เราจะยังคงฝึกท่าเดิมอยู่ ในจำนวนครั้งและรอบเท่าเดิม และเพิ่มจำนวนครั้งในวันถัดไป และในวันที่ 11 – 14 จะเพิ่มรอบฝึกเป็น 3 เซต เพื่อเพิ่มความหนักในการออกกำลังกาย ทำให้ร่างกายทนทานและเผาผลาญไขมันมากขึ้น และในช่วงสัปดาห์นี้เราจะเริ่มรู้สึกฟิตขึ้น และไขมันเริ่มลดลง อย่าพึ่งท้อน้า สู้ ๆ ค่า มาถึงครึ่งทางแล้ว อีกอึดใจเดียว
ตารางสร้างซิกแพค สัปดาห์ที่ 3
สัปดาห์ที่ 3 จะมีการเพิ่มท่า Russian Twist และ ท่า Flutter Kicks เข้ามาเพื่อให้การฝึกครอบคลุมกล้ามท้องทั้งหมด จำนวน 3 เซต และเพิ่มรอบฝึกในวันถัดไปเป็น 4 เซต เพื่อเพิ่มความหนักในการฝึก และทำให้ร่างกายทนทานกับการออกกำลังกายที่ใช้ระยะเวลานานขึ้น งานนี้ท้อไม่ถอยนะคะ เพราะจะเข้าสู่โค้งสุดท้องแล้ว
ตารางสร้างซิกแพค สัปดาห์ที่ 4
สัปดาห์ที่ 4 เข้าสู่สัปดาห์สุดท้ายแล้ว เก่งมากค่ะสาว ๆ ในสัปดาห์นี้เราจะเพิ่มท่า V – Sit เข้ามา และเพิ่มรอบการฝึกเป็น 4 และ 5 เซต พร้อมจัดแต่ละท่าไปท่าละ 30 ครั้งเลย และ Plank อีก 40 – 50 วินาที พอเดินทางมาถึงตรงนี้ สาว ๆ จะรู้สึกถึงความฟิตของหน้าท้องที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น และในบางคนก็จะเริ่มเห็นเงาของซิกแพคกันบ้างแล้ว พอเห็นแบบนี้แล้วเริ่มมีกำลังใจในการฝึกต่อไปใช่ไหมล่ะคะ
ข้อสรุป
เป็นอย่างไรบ้างสาว ๆ ชาวฟิต กับการฝึกท่าสร้างซิกแพคแบบแน่น ๆ ที่เมื่อเห็นผลลัพธ์ที่ได้แล้วชื่นใจหายเหนื่อยเลยใช่ไหมคะ พอมาถึงตรงนี้แล้วจะรู้ซึ้งเลยว่ามันไม่ได้ยากอย่างที่คิดจริง ๆ นะ เพียงแค่เราทำตามขั้นตอนการออกกำลังกายฝึกฝนท่าต่าง ๆ ที่เหมาะสม มีการควบคุมอาหารที่สม่ำเสมอ เลือกทานแต่อาหารที่มีประโยชน์ และมีการพักผ่อนที่เพียงพอ เพียงเท่านี้ซิกแพคก็จะค่อย ๆ เผยให้เห็น โดยที่ไม่ต้องไปหาวิธีสร้างซิกแพคอื่น ๆ เลย
สำหรับใครที่ยังลังเล กล้า ๆ กลัว ๆ ว่าจะไปได้ไม่ถึงสุดทาง อย่ามัวคิดเลยค่ะ ลุยเลย อยากให้ลองก่อน จะท้อหรือถอยระหว่างทางไม่ว่ากันแต่ต้องฮึดสู้กลับมาเดินหน้าต่อน้า เมื่อมีกำลังใจดีแบบนี้แล้วรับรองซิกแพคปัง ๆ อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอนค่า
Share:
Share on facebook
Share on twitter
Related Posts
รวม 7 ท่าสควอท เสกหุ่นสวย สอนท่าสควอทอย่างถูกวิธี ต้องทำอย่างไร?
22/03/2022
ปัจจุบันผู้คนหันมาให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายเป็นจำนวนมาก ทั้งเป้าหมายด้านสุขภาพ รูปร่าง หรือการพัฒนาความสามารถด้านกีฬาเองก็ตาม และไม่ว่าเป้าหมายใด ท่าสควอทถือเป็นท่าออกกำลังกายพื้นฐานที่ควรฝึก
Read Moreรวม 10 ท่านอนออกกำลังกาย ลดพุง ลดขาง่ายๆ แม้อยู่บนเตียง
22/03/2022
ในบางสถานการณ์การออกกำลังกายอาจเป็นเรื่องยากโดยเฉพาะหลังตื่นนอนในยามเช้า และยิ่งถ้าไม่ใช่คนที่ตื่นเช้าเป็นประจำอยู่แล้ว การลุกออกจากเตียงในช่วงเช้าเพื่อไปออกกำลังกายยิ่งเป็นเรื่องที่แสนยากลำบาก ดังนั้น ในบทความนี้เราจะพามาดูท่านอนออกกำลังกายที่สามารถทำได้ง่ายๆ จะทำบนพื้นในห้องนอน
Read More7 ท่าสร้างซิกแพค วิธีสร้างกล้ามท้องฉบับง่าย ทำตามได้ เห็นผลจริง
11/03/2022
มาดูท่าสร้างซิกแพคง่ายๆ ที่ทุกคนก็ทำได้ 7 ท่าสร้างซิกแพคสำหรับผู้หญิงและผู้ชาย ตามสไตล์เบเบ้
Read more
Read Moreรวม 10 ท่าลดเอว วิธีทำให้เอวเล็กแบบเร่งด่วน ลดเอวข้าง สร้างหน้าท้องสวย!
03/03/2022
แนะนำ 10 ท่าลดเอว หุ่นฟิต บริหารหน้าท้องสวย ฉบับเบเบ้! อยากมีเอวบาง เอวเอส ต้องทำอย่างไรบ้าง หาคำตอบได้ในบทความนี้