มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า honda 2022

ไทยฮอนด้า แถลงยอดจดทะเบียนครึ่งปี 65 ทะลุ 7.05 แสนคัน เติบโต 3% พร้อมลุยประกอบมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าไตรมาส 4 ปีนี้ 

หลังจากเริ่มโครงการศึกษารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยในเชิง ecosystem ร่วมกับพันธมิตรทั้งสถาบันการศึกษา และทดลองใช้งานร่วมกับทางดีเคเอสเอช ประเทศไทย เพื่อนำรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าของฮอนด้ามาลองใช้ขนส่งสินค้า 2 รุ่น คือ PCX Electric กับ Benly-e รวมถึงการร่วมกับกลุ่มธุรกิจเดลิเวอรี่ในการใช้เพื่อขนส่งสินค้าในช่วงที่ผ่านมา

ล่าสุด นายชิเกโตะ คิมูระ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด กล่าวว่า สำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าเรายังคงเดินหน้าพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปัจจุบันฮอนด้ายังคงมุ่งเน้นการทำธุรกิจแบบ B2B และ B2C For B ออกมาในรูปแบบของโครงการปล่อยเช่ารถให้กับกลุ่มธุรกิจเดลิเวอรี่ ตอนนี้มีรถอยู่ประมาณ 116 คัน ที่กระจายให้บริการอยู่ตามจุดต่าง ๆ 

ส่วนความคืบหน้าเรื่องของการเซ็น MOU เข้าร่วมโครงการสนับสนุนรถไฟฟ้า100% นั้น ในอนาคตอันใกล้จะมีการเซ็นเพื่อเข้าร่วมโครงการอย่างแน่นอน แต่ยังคงรอศึกษารายละเอียดด้านต่าง ๆ อีกเล็กน้อย 

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการสนับสนุนจากภาครัฐออกมาด้านภาษีสรรพสามิตสำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ที่มีราคาขายไม่ถึง 150,000 บาท มีสิทธิ์ได้รับเงินอุดหนุน 18,000 บาท นั้น เป็นเรื่องที่ดี แต่รถไฟฟ้าส่วนใหญ่ที่จำหน่ายในเมืองไทยยังคงเป็นการนำเข้าจากต่างประเทศ จึงยังมีเรื่องของภาษีศุลกากรเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งต้องรอดูว่ามาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐในช่วงต้น จะยกเว้นหรือช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการอย่างไร 

ทั้งในเรื่องภาษีการนำรถเข้ามาจำหน่ายนำร่องให้เกิดการใช้งานในประเทศไทย รวมถึงการนำเข้าชิ้นส่วนเพื่อมาประกอบรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า เพราะปัจจุบันมีหลายเจ้าเริ่มศึกษาในการนำชิ้นส่วนเข้ามาเพื่อผลิตก่อนจะตัดสินใจลงทุนอย่างจริงจัง ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ภาครัฐวางไว้ว่าต้องการให้มีตัวเลขการจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าประมาณ 40,000 คัน แต่ในช่วงระยะเวลา 7 เดือนที่ผ่านมา มียอดจดทะเบียนอยู่เพียงแค่ 5,000 คันเท่านั้น 

สำหรับ ไทย ฮอนด้า ในช่วงก่อนหน้ามีการนำเข้ารถจักรยานยนต์ Honda Benly e ทั้งคัน เพื่อทำการศึกษาและริเริ่มให้เกิดการใช้งานในหลายโครงการ แต่นับจากช่วงไตรมาส 4 เป็นต้นไป บริษัทเตรียมที่จะเริ่มการประกอบรถจักรยานยนต์รุ่นนี้ในประเทศไทย โดย การจำหน่ายคาดว่าจะเป็นแบบองค์กรต่อองค์กร(B2B)ในช่วงแรก และตั้งเป้าว่ารถรุ่นที่ผลิตออกมาดังกล่าวจะถูกนำไปอยู่ในโครงการเช่ารถประมาณ 300 คัน ส่วนในปีหน้าคาดว่าจะเพิ่มเป็นหลักพันคัน ส่วนรถจักรยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ จะมีเข้ามาในประเทศไทยอย่างแน่นอน 

ด้านของทิศทางตลาดรถจักรยานยนต์ไทยครึ่งปีแรกมียอดจดทะเบียนอยู่ที่ 911,162 คัน เติบโตขึ้น 4% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวของปีก่อนหน้า ในขณะที่ฮอนด้ามีตัวเลขอยู่ที่ 705,487 คัน เติบโตขึ้น 3% ใกล้เคียงกับตลาดรวม เซกเมนท์ที่มีแนวโน้มเติบโตมากที่สุดคือกลุ่มรถ เอ.ที. ซึ่งมียอดรวมอยู่ที่ 397,733 คัน เติบโตขึ้น 6% สิ่งที่น่าสนใจก็คือฮอนด้ามีการเติบโตในกลุ่มนี้มากถึง 12% ด้วยตัวเลข 279,207 คัน เป็นอัตราการเติบโตที่สูงกว่าตลาดรวมค่อนข้างมาก


ขณะที่สัดส่วนยอดจดทะเบียนของ Scoopy มียอด 96,679 คัน สูงเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มแฟชั่น เอ.ที. Click Series มียอด 64,732 คัน สูงที่สุดในกลุ่มสปอร์ต เอ.ที. PCX160 มียอด 77,708 คันสูงสุดในกลุ่มพรีเมียม เอ.ที. และ Forza350 มียอดจดทะเบียนถึง 10,988 คัน

นายชิเกโตะ กล่าวว่า “ตลาดโดยรวมของปีนี้จะสูงขึ้นมาอยู่ที่ 1,740,000 คัน เติบโต 8% ส่วนฮอนด้าตั้งเป้าหมายที่ 1,359,000 คัน เติบโต 10% มากกว่าตลาดรวม เนื่องจากมีการเตรียมความพร้อมในการผลิตที่เพียงพอต่อความต้องการ สามารถจัดการกับปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนได้เรียบร้อยแล้ว ขณะที่สงครามรัสเซีย-ยูเครนและปัญหาระหว่างจีนกับไต้หวัน ยังไม่ส่งผลกระทบแต่อย่างใด”

บริษัทผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสัญชาติไทยแบบ 100% ภายใต้ชื่อแบรนด์ ETRAN สตาร์ทอัพไทย เปิดตัวครั้งแรกในปี 2560 และได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในประเทศไทยโดยเฉพาะกับการทำโปรโมชั่นให้เช่ารถขับขี่ให้แก่เหล่า Robinhood Rider ด้วยรถ Etran Myra ในราคาเพียง 120 บาท/วัน เท่านั้น 

โดยรถจาก Etran Myra จะมาพร้อมชุดขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีกำลังมากถึง 7,000 W ซึ่งสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 120 กม./ชม. พร้อมแรงบิด 150 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 7 วินาที

และตัวรถจะมาพร้อมแบตเตอรี่แบบ LMO (LMn2O4) กันน้ำ IPX67 ได้รับการ Certify จากสถาบัน PTEC ขนาด 72V40ah จำนวน 2 ลูกที่ทำให้ 2021 Etran Myra นั้นสามารถทำระยะทางไกลสุดที่ 180 กิโลเมตรต่อการเปลี่ยนแบต หรือการชาร์จ 1 ครั้ง (แบตเตอรี่ชาร์จเต็มภายใน 4 ชม. / 2 ชม.ต่อแบตเตอรี่ 1 ลูก) ซึ่งตัวรถมาพร้อมสายชาร์จแบบปลั๊กไฟบ้าน อยู่บ้านก็ชาร์จได้

Etran Myra

โดยในปัจจุบัน Etran ประเทศไทยได้มีรถวางจำหน่าย 3 รุ่นด้วยกันคือ

  • Myra Zero รุ่นเริ่มต้น ราคา 69,550 บาท ไม่มีแบตเตอรี่ในตัว ใช้งานคู่กับ แพ็กเกจเช่าแบตเตอรี่รายเดือน
  • Myra Plus 1 รุ่นกลาง ราคา 90,950 มาพร้อมแบตเตอรี่ 1 ก้อน ทำระยะทางสูงสุด 90 กม.
  • Myra Plus 2 รุ่นท็อป ราคา 107,000 มาพร้อมแบตเตอรี่ 2 ก้อน ทำระยะทางสูงสุด 180 กม.

Etran Myra

Myra Zero

69,550 บาท

Myra Plus 1

90,950 บาท

Myra Plus 2

107,000 บาท

2.NIU Electric Scooter 

แบรนด์สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า 100% ระดับโลกที่ถูกนำเข้ามาโดยบริษัท ชาริช โฮลดิ้ง จำกัด โดยแบรนด์อย่าง NIU มีการเปิดตัวครั้งแรกของโลกในปี 2014 โดยปัจจุบัน NIU มีหน้าร้านกว่า 500 ร้านทั่วโลก ทั้งยุโรป South Africa เอเชีย และเป็น Smart Electric Scooter อันดับหนึ่งของโลกที่มียอดขายสูงที่สุดในประเทศเยอรมนี โดย NIU ทุกคันที่จำหน่ายไปแล้วทั่วโลกกว่า 400,000 คัน วิ่งรวมกันเป็นระยะทางกว่า 800 ล้านกิโลเมตรทั่วโลก

โดยในตอนนี้ถือว่าแบรนด์ NIU Electric Scooter นั้นสามารถพบเจอได้บ่อยที่สุดแล้วในกรุงเทพฯ เนื่องมาจากทางแบรนด์ได้มีการจับมือกับ บางจาก ในการให้บริการ "Winnonie" หรือ "วินโนหนี้" บริการให้เช่าพร้อมดูแลรักษารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแบบครบวงจรสำหรับวินมอเตอร์ไซค์ในราคาเพียง 3,000 บาท/เดือน เท่านั้น

และนอกจากสกู๊ตเตอร์ให้เช่าแล้ว NIU Electric Scooter ยังได้มาพร้อมกับรถในหลากหลายรุ่นให้คุณได้เลือกกับสมรรถนะ และราคาในแต่ละรุ่นที่แตกต่างกันไม่ว่าจะเป็น

NIU Electric Scooter 

  • NIU Gova พร้อมความเร็วสูงสุด 65 กม./ชม. พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 60v. 40Ah. กับระยะทางที่สามารถขับขี่ได้ 60-70 กม. ต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง ซึ่งใช้ระยะเวลาในการชาร์จไฟเต็มที่ 6 ชม. 

NIU Gova 

  • NIU MQi Sport ที่มาพร้อมความเร็วสูงสุด 45 กม./ชม. พร้อมด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 3,000 วัตต์ ตัวรถสามารถขับขี่เดินทางได้ไกล 60-70 กม. ต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง 

NIU MQi Sport

  • NIU NQiGT Sport มาพร้อมความเร็วสูงสุดที่ 80 กม./ชม. พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 3,000 วัตต์ กับระยะทางที่สามารถขับขี่ได้ไกลกว่า 80-120 กม. ต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง 

NIU NQiGT Sport 

 

NIU Electric Scooter

NIU Gova

57,900 บาท

NIU MQi Sport

59,000 บาท

NIU NQiGT Sport

109,000 บาท

3.HSEM Motor

HSEM Motor คืออีกหนึ่งในแบรนด์รถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าสัญชาติไทยระดับคุณภาพที่แต่เดิมทำธุรกิจในทางฝั่งของรถกอล์ฟมาก่อน และหันมาเปิดธุรกิจทางฝั่งมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าตั้งแต่ปี 2563 ซึ่งจุดเด่นของทาง HSEM Motor นั้นคงจะเป็นในเรื่องของการมีรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าให้เลือกมากมายหลากหลายรุ่น หลากหลายราคา และในทุกรุ่นสามารถจดทะเบียนได้อย่างถูกกฎหมาย ซึ่งในปัจจุบัน HSEM Motor มีรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าให้เลือกดังนี้

HSEM Motor

  • H SEM Ciao มาพร้อมขนาดที่เล็กกะทัดรัดพร้อมน้ำหนักตัวที่เบาเน้นความคล่องตัว โดยตัวรถมาพร้อมมอเตอร์ขับแบบ DC 60V. ขนาด 2,000 วัตต์กับชุดแบตเตอรี่ลิเธียมขนาด 60V20Ah โดยตัวรถสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 60 กม./ชม. กับระยะทางสูงสุดที่ 48 กม. 

H SEM Ciao

  • H SEM Mobila S จะมาพร้อมกับมอเตอร์ขับจาก Bosch แบบ HUB Motor 72V. ขนาด 3,000 วัตต์ พร้อมชุดแบตเตอรี่ลิเธียมจาก Sumsung ขนาด 72V20Ah กับความเร็วสูงสุดที่ 60 กม./ชม. พร้อมระยะทางสูงสุด 60-70 กม. ต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง 

H SEM Mobila S

  • H SEM Mobila G จะมีความแตกต่างกับเจ้า H SEM Mobila S ตรงระบบขับเคลื่อนเท่านั้นซึ่งนอกนั้นจะมีความเหมือนกันทั้งหมด โดยในรุ่น G ระบบขับเคลื่อนจะถูกส่งผ่านชุดเกียร์อีกครั้งหนึ่งแทนที่จะส่งลงล้อโดยตรงแบบรุ่น S 

H SEM Mobila G

  • H SEM Wing คือรุ่นท็อปที่สุดตัวรถจะมาพร้อมมอเตอร์ขับเคลื่อน DC 72V. ขนาด 3,000 วัตต์ ที่สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 60 กม./ชม. ที่สามารถเลือกปรับความเร็วได้ 3 ระดับ พร้อมติดตั้งระบบถอยหลัง

H SEM Wing 

HSEM Motor

H SEM Ciao

49,700 บาท

H SEM Mobila S

89,900 บาท

H SEM Mobila G

92,200 บาท

H SEM Wing

95,700 บาท

4. AJ EV Bike

AJ แบรนด์ที่เราเชื่อว่าทุกคนในประเทศไทยจะต้องคุ้นหู และเคยได้ยินกันมาก่อนอย่างแน่นอนเพราะเมื่อก่อนนั้นแบรนด์อย่าง AJ เติบโตมาจากเครื่องเล่น DVD และเครื่องใช้ไฟฟ้าก่อนที่จะผันตัวเองเข้ามาสู้ธุรกิจของรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าโดยการวางจำหน่ายผ่านตัวแทนสาขาเดิมที่จำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าของ AJ ที่มีอยู่เดิมทั่วประเทศนั่นเอง ซึ่งสำหรับรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า AJ ในปัจจุบันมี 4 รุ่นด้วยกันคือ

AJ EV Bike

  • AJ EV Bike รุ่น Q5 ที่มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 1,200 วัตต์ สามารถวิ่งทำความเร็วสูงสุดได้ 50กม./ชม. พร้อมทั้งวิ่งได้ไกลสุด 85 กม./ชาร์จ 

AJ EV Bike รุ่น Q5

  • AJ EV Bike รุ่น C-LIKE ที่มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 2,000 วัตต์ สามารถวิ่งทำความเร็วได้ 60 กม./ชม. พร้อมทั้งวิ่งได้ไกล 120 กม./ชาร์จ 

AJ EV Bike รุ่น C-LIKE 

  • AJ EV Bike รุ่น C-LION ที่มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 2,000 วัตต์ สามารถวิ่งทำความเร็วได้ 60 กม./ชม. พร้อมทั้งวิ่งได้ไกล 120 กม./ชาร์จ 

AJ EV Bike รุ่น C-LION 

  • AJ EV Bike รุ่น Z3 ที่มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 2,000 วัตต์ สามารถวิ่งทำความเร็วได้ 70 กม./ชม. พร้อมทั้งวิ่งได้ไกล 120 กม./ชาร์จ ด้วยความเร็วไม่เกิน 35 กม./ชม.

AJ EV Bike รุ่น Z3

 

AJ EV Bike

AJ EV Bike รุ่น Q5

39,900 บาท

AJ EV Bike รุ่น C-LIKE

39,900 บาท

AJ EV Bike รุ่น C-LION

44,900 บาท

AJ EV Bike รุ่น Z3

49,900 บาท

เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าทั้ง 4 แบรนด์ที่มีวางจำหน่ายในประเทศไทยตอนนี้ ซึ่งเราเชื่อว่าในอนาคตจะต้องมีแบรนด์ต่าง ๆ เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยเยอะขึ้นกว่านี้อย่างแน่นอน รวมไปถึงแบรนด์ระดับโลกที่ยังไม่เข้ามาเล่นในตลาดนี้อีกมากไม่ว่าจะเป็น Honda , Yamaha หรือ BMW และเราเชื่อว่าต่อไปราคาของรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจะต้องจับต้องได้ง่ายขึ้นกว่านี้อย่างแน่นอน

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

flow chart แสดงขั้นตอนการปฏิบัติงาน lmyour แปลภาษา กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน กาพย์เห่เรือ การเขียน flowchart โปรแกรม ตัวรับสัญญาณ wifi โน๊ตบุ๊คหาย ตัวอย่าง flowchart ขั้นตอนการทํางาน ผู้แต่งกาพย์เห่ชมไม้ ภูมิปัญญาหมายถึง มีสัญญาณ wifi แต่เชื่อมต่อไม่ได้ เชื่อมต่อแล้ว ไม่มีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ /roblox promo code redeem 3 พระจอม มีที่ไหนบ้าง AKI PLUS รีวิว APC UPS APC UPS คือ Adobe Audition Adobe Bridge Anapril 5 mg Aqua City Odaiba Arcade Stick BMW F10 jerk Bahasa Thailand Benz C63 ราคา Bootstrap 4 Bootstrap 4 คือ Bootstrap 5 Brackets Brother Scanner Brother iPrint&Scan Brother utilities Burnt HD C63s AMG CSS เว้น ช่องว่าง CUPPA COFFEE สุราษฎร์ธานี Cathy Doll หาซื้อได้ที่ไหน Clock Humidity HTC-1 ColdFusion Constitutional isomer Cuppa Cottage เจ้าของ Cuppa Cottage เมนู Cuppa Cottage เวียงสระ DMC DRx จ่ายปันผลยังไง Detroit Metal City Div class คือ Drastic Vita