ประเภทของเว็บไซต์ 9 ประเภท

ในปัจจุบันมีการใช้งานเว็บไซต์ที่หลากหลายขึ้น ในการออกแบบเว็บไซต์ในแต่ละครั้ง คุณจึงจำเป็นต้องรู้ก่อนว่า เว็บไซต์ทั้งหมดมีกี่ประเภท เพื่อให้ทราบว่าองค์ประกอบไหนในเว็บไซต์บ้างที่คุณต้องให้ความสำคัญ และเว็บไซต์แบบไหนที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ เพื่อให้คุณสามารถใช้ประโยชน์จากการทำ Online Marketing ได้ง่าย สะดวก และได้ผลลัพธ์ตรงตามที่คุณต้องการ

วันนี้ Thinkstudiobkk จะมาแนะนำประเภทของเว็บไซต์ชนิดต่างๆให้คุณได้รู้จัก ไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง !!!

1. Personal Website

ถ้าแปลตรงตัวก็คือ เว็บไซต์ส่วนตัวนั่นเอง ตัวเว็บไซต์นี้จะมีลักษณะเหมือนไดอารี่ ประกอบไปด้วยข้อมูลส่วนตัว เพื่อน ครอบครัว หรือแม้แต่กิจกรรมต่างๆ โดยปัจจุบันมักจะใช้เว็บไซต์ประเภทนี้ถ่ายทอดเรื่องราวของประสบการณ์ด้านต่างๆที่ผ่านมา โดยสามาถทำออกมาในรูปแบบเว็บไซต์หรือเว็บเพจแค่เพียงหน้าเดียว

2. Photo Sharing Websites

เป็นเว็บไซต์ที่ทำขึ้นเพื่อรวบรวมและแสดงผลงาน ไม่ว่าจะเป็นภาพวาด ภาพถ่าย งานศิลปะต่างๆ ทั้งของศิลปินมืออาชีพและศิลปินสมัครเล่น โดยจะมีการแสดงข้อมูลในรูปแบบของแกลลอรี่เพื่อง่ายต่อการค้นหา และในปัจจุบันยังใช้เว็บไซต์เหล่านี้เป็นตลาดในการซื้อขายงานศิลปะอีกด้วย

3. Community Building Websites

เป็นเว็บไซต์ที่ให้กลุ่มคนที่ชื่นชอบในแบบเดียวกัน ได้เข้ามาแลกเปลี่ยนพูดคุยกันผ่านเว็บไซต์ โดยจะแบ่งย่อยเรื่องราวตามความสนใจของคนแต่ละกลุ่ม เพื่อง่ายต่อการค้นหา และทำให้การพูดคุยกันผ่านสังคมออนไลน์สนุกสนานยิ่งขึ้น

4. Writers / Authors Websites

เว็บไซต์สำหรับนักเขียน ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้คนที่ชื่นชอบหรือรักในการเขียนและการอ่านได้มาติดตามผลงานตนเองผ่านเว็บไซต์ส่วนตัวของผู้เขียนที่สร้างขึ้นโดยไม่ได้ขึ้นตรงกับสื่อใดๆ เว็บไซต์นี้จะเน้นไปที่การนำเสนอผลงานในรูปแบบออนไลน์โดยที่ผู้ติดตามจะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ

5. Blogging Websites

เป็นเว็บไซต์สำหรับบอกเล่าเรื่องราวในชีวิตประจำวันเหมือนการเขียนไดอารี่ออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวหรืออาหารที่ชื่นชอบ จะมีลักษณะคล้ายๆ กับเว็บไซต์ประเภท Personal Website แต่จะต่างกันที่เนื้อหาหรือระยะเวลาในการอัพเดทข้อมูลที่จะมีการอัพเดตบ่อยกว่า

6. Informational Websites

เป็นเว็บไซต์ที่ให้ความรู้หรือให้ข้อมูลที่หลากหลาย ดีสำหรับการใช้ค้นหาข้อมูลที่เฉพาะเจาะจง เช่น Wikipedia เพื่อเป็นช่องทางให้กล่มคนที่สนใจเข้ามาศึกษาค้นคว้าข้อมูลที่เกี่ยวข้องของแต่ละเว็บไซต์

7. Online Business Websites

เป็นเว็บไซต์สำหรับทำธุรกิจออนไลน์ เพื่อนำเสนอธุรกิจ สินค้า โปรโมชั่น การส่งเสริมการดาวน์โหลด และอื่นๆ อีกมากมาย การทำธุรกิจในลักษณะนี้จะถูกเรียนกว่า E-Commerce โดยเนื้อหาส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมดมักจะเป็นการนำเสนอให้ตัวธุรกิจที่มีความน่าสนใจและตรงใจกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด ทั้งนี้เพื่อผลกำไรทางธุรกิจนั่นเอง

8.Directory Websites

เป็นเว็บไซต์ที่รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการให้บริการที่มากมายเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อผู้ใช้งานเว็บไซต์จะได้รับความสะดวกสบายในการเข้าถึงข้อมูลเหล่านั้นได้จากการค้นหา โดยเว็บไซต์มีลักษณะคล้ายกับสมุดหน้าเหลืองที่เป็นแหล่งข้อมูลของธุรกิจ เช่น Google ที่ถือว่าเป็นเว็บไซต์ตัวช่วยในการค้นหาที่ใครๆก็ต่างรู้จักเป็นอย่างดี

9. E–commerce Websites

เป็นเว็บไซต์สำหรับขายสินค้าและบริการโดยตรงผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยมีการแสดงสินค้าผ่านหน้าเว็บไซต์ และสามารถเลือกช่องทางการชำระเงินผ่านระบบออนไลน์ได้ แต่จะมีเว็บไซต์บางประเภทที่มีการใช้ระบบการโอนเงิน แต่จะแจ้งยอดการชำระเงินภายหลัง ซึ่งยังไม่ถือว่าเป็นเว็บไซต์แบบ E-commerce

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

flow chart แสดงขั้นตอนการปฏิบัติงาน lmyour แปลภาษา กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน กาพย์เห่เรือ การเขียน flowchart โปรแกรม ตัวรับสัญญาณ wifi โน๊ตบุ๊คหาย ตัวอย่าง flowchart ขั้นตอนการทํางาน ผู้แต่งกาพย์เห่ชมไม้ ภูมิปัญญาหมายถึง มีสัญญาณ wifi แต่เชื่อมต่อไม่ได้ เชื่อมต่อแล้ว ไม่มีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ /roblox promo code redeem 3 พระจอม มีที่ไหนบ้าง AKI PLUS รีวิว APC UPS APC UPS คือ Adobe Audition Adobe Bridge Anapril 5 mg Aqua City Odaiba Arcade Stick BMW F10 jerk Bahasa Thailand Benz C63 ราคา Bootstrap 4 Bootstrap 4 คือ Bootstrap 5 Brackets Brother Scanner Brother iPrint&Scan Brother utilities Burnt HD C63s AMG CSS เว้น ช่องว่าง CUPPA COFFEE สุราษฎร์ธานี Cathy Doll หาซื้อได้ที่ไหน Clock Humidity HTC-1 ColdFusion Constitutional isomer Cuppa Cottage เจ้าของ Cuppa Cottage เมนู Cuppa Cottage เวียงสระ DMC DRx จ่ายปันผลยังไง Detroit Metal City Div class คือ Drastic Vita