ข อสอบว ทยาศาสตร ม.ต น พร อมเฉลย
Recommended
More Related Content
What's hot
What's hot(20)
Viewers also liked
Viewers also liked(6)
Similar to ข้อสอบวิทยาศาสตร์ O-net ปี53
Similar to ข้อสอบวิทยาศาสตร์ O-net ปี53(20)
More from flimgold
More from flimgold(18)
ข้อสอบวิทยาศาสตร์ O-net ปี53
- 1. 21 กุมภาพันธ 2553 หนา 2 เวลา 11.30 - 13.30 น. ขอสอบมี 2 สวน จํานวน 86 ขอ : คะแนนเต็ม 80 คะแนน สวนที่ 1 จํานวน 68 ขอ ขอละ 1 คะแนน รวม 68 คะแนน สวนที่ 2 จํานวน 18 ขอ เปนชุดคําถาม 6 ชุด ชุดละ 3 ขอ ชุดละ 2 คะแนน รวม 12 คะแนน สวนที่ 1 : แบบระบายตัวเลือก แตละขอมีคําตอบที่ถูกตองที่สุดเพียงคําตอบเดียว ขอ 1 - 68 : ขอละ 1 คะแนน 1. เซลลที่มีสวนประกอบดังตอไปนี้ : ดีเอ็นเอ ไรโบโซม เยื่อหุมเซลล เอนไซม และ ไมโทคอนเดรีย เปนเซลลของสิ่งมีชวิตในขอใด ี 1. แบคทีเรีย 2. พืชเทานั้น 3. สัตวเทานั้น 4. อาจเปนไดทั้งพืชหรือสัตว 2. กระบวนการใดไมพบในกระบวนการดูดน้ํากลับที่ทอหนวยไต 1. การแพร 2. ออสโมซิส 3. เอนโดไซโทซิส 4. การลําเลียงแบบใชพลังงาน ฉบับ 1 สําหรับการสอบปกติ
- 2. 21 กุมภาพันธ 2553 หนา 3 เวลา 11.30 - 13.30 น. 3. เหตุใดผูดื่มเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอลจึงมักปสสาวะบอยกวาปกติ 1. ไตทํางานอยางมีประสิทธิภาพสูงขึ้น 2. การหลั่งฮอรโมนวาโซเปรสซินลดลง 3. แอลกอฮอลเปนพิษตอรางกาย จึงถูกกําจัดทิ้งอยางรวดเร็ว 4. รางกายควบคุมการทํางานของกลามเนื้อกระเพาะปสสาวะไมได 4. การดื่มน้ําสมเปนปริมาณมาก ทําใหเลือดมีสภาวะเปนกรดจริงหรือไม เพราะเหตุใด 1. เปนกรดจริง เพราะวิตามินซีละลายน้ําได 2. เปนกรดจริง เพราะน้ําสมมีรสเปรี้ยวและมีปริมาณกรดสูง 3. ไมเปนกรด เพราะเลือดมีสมบัติเปนสารละลายบัฟเฟอร 4. ไมเปนกรด เพราะรางกายจะไดรับอันตรายไดหากเลือดมีสภาวะเปนกรด 5. วิธีการในขอใดที่ใชควบคุมโรคไวรัสในพืชไดผลดีที่สุด 1. การเผาทําลายพืช 2. การฉีดวัคซีน 3. การใชยาปฏิชีวนะ 4. การเพิ่มไนโตรเจนในดิน ฉบับ 1 สําหรับการสอบปกติ
- 3. 21 กุมภาพันธ 2553 หนา 4 เวลา 11.30 - 13.30 น. 6. เมื่อเชื้อโรคเขาสูรางกายคน รางกายจะมีปฏิกิริยาตอบสนองโดยสรางสารใดมาตอสู 1. ซีรุม 2. แอนติเจน 3. ทอกซอยด 4. แอนติบอดี 7. เมื่อหยดน้ําเกลือลงบนสไลดที่มีใบสาหรายหางกระรอกอยู จะสังเกตเห็นการ เปลี่ยนแปลงของเซลลคลายกับที่เกิดขึ้นเมื่อหยดสารใดมากที่สุดและเกิดเร็วที่สุด 1. น้ํากลั่น 2. น้ําเชื่อม 3. น้ํานมสด 4. แอลกอฮอล 8. ขอใดไมถูกตองเกี่ยวกับดีเอ็นเอ 1. ดีเอ็นเอพบไดในคลอโรพลาสต 2. ดีเอ็นเอทําหนาที่กําหนดชนิดของโปรตีน 3. สิ่งมีชีวิตแตละชนิดมีปริมาณดีเอ็นเอไมเทากัน 4. ไนโตรเจนเบสชนิดกวานีนและไซโทซีนจะจับคูกันดวยพันธะคูเสมอ ฉบับ 1 สําหรับการสอบปกติ
- 4. 21 กุมภาพันธ 2553 9. หนา 5 เวลา 11.30 - 13.30 น. ถาพอมีหมูเลือด B แมมหมูเลือด A และมีลูกชายที่มีหมูเลือด O โอกาสที่จะไดลูกสาว ี ที่มีหมูเลือด O เปนเทาใด 1. 1/2 2. 1/4 3. 1/8 4. 1/16 10. ขอใดไมถูกตองเกี่ยวกับโรคธาลัสซีเมีย 1. เปนโรคโลหิตจางชนิดหนึ่ง 2. ผูปวยเปนโรคธาลัสซีเมียควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง 3. เปนโรคที่เกิดจากความผิดปกติของยีนที่ควบคุมการสรางโกลบิน 4. ผูที่ไดรับแอลลีลผิดปกติจากพอหรือแมเพียงฝายเดียวมีโอกาสเปนโรคได 11. ขอใดถูกตองเกี่ยวกับมิวเทชัน 1. มีอัตราการเกิดไดสูงตามธรรมชาติ 2. เกิดไดทั้งระดับโครโมโซมและดีเอ็นเอ 3. เกิดขึ้นไดเฉพาะในเซลลที่กาลังแบงตัว ํ 4. มิวเทชันในเซลลทุกชนิดสามารถถายทอดไปยังรุนลูกหลานได ฉบับ 1 สําหรับการสอบปกติ
- 5. 21 กุมภาพันธ 2553 หนา 6 เวลา 11.30 - 13.30 น. 12. ขอใดไมถูกตองเกี่ยวกับการโคลน 1. ไดสัตวตัวใหมที่มีเพศเดียวกับสัตวตนแบบ 2. เปนการสรางสัตวตัวใหมโดยไมตองอาศัยเซลลสืบพันธุ 3. แฝดเหมือนคือตัวอยางของการโคลนที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ 4. แกะดอลลีเกิดจากการโคลนโดยใชเซลลบริเวณเตานมเปนตนแบบ 13. ขอใดจัดเปนสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม 1. แตงโมไมมีเมล็ด 2. กลวยไมที่ไดจากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ 3. แบคทีเรียที่สามารถผลิตฮอรโมนอินซูลิน 4. กลวยไมพันธุใหมที่ไดจากการฉายรังสีแกมมา 14. หลักฐานในขอใดที่ไมสามารถใชตรวจหาฆาตกรโดยใชลายพิมพดีเอ็นเอ 1. เสนผม 2. ลายนิ้วมือ 3. คราบอสุจิ 4. คราบเลือด ฉบับ 1 สําหรับการสอบปกติ
- 6. 21 กุมภาพันธ 2553 หนา 7 เวลา 11.30 - 13.30 น. 15. ในระบบนิเวศซึ่งประกอบดวย เหยี่ยว งู กระรอก หญา และตั๊กแตน สิงมีชีวิต ่ ในขอใดมีมวลชีวภาพนอยที่สุด 1. งู 2. เหยี่ยว 3. หญา 4. กระรอกและตั๊กแตน 16. กระบวนการเปลี่ยนแปลงแทนที่แบบใดนําไปสูการเกิดระบบนิเวศหลังจากการ ระเบิดของภูเขาไฟบนเกาะหนึ่ง 1. แบบปฐมภูมิ 2. แบบทุติยภูมิ 3. แบบตติยภูมิ 4. แบบจตุรภูมิ 17. ขอใดไมนับวาเปนสวนหนึ่งของความหลากหลายทางชีวภาพ 1. ความหลากหลายของสปชีส 2. ความหลากหลายของพันธุกรรมในสิ่งมีชีวิต 3. ความหลากหลายของแหลงที่อยูของสิ่งมีชีวิต 4. ความหลากหลายของสารเคมีตางๆ รอบสิ่งมีชีวิต ฉบับ 1 สําหรับการสอบปกติ
- 7. 21 กุมภาพันธ 2553 หนา 8 เวลา 11.30 - 13.30 น. 18. ทรัพยากรที่เกิดขึ้นทดแทนใหมไดในขอใดที่มนุษยนํามาใชประโยชนมากที่สุดใน ปจจุบัน 1. พลังงานน้ํา 2. พลังงานลม 3. พลังงานจากคลื่น 4. พลังงานแสงอาทิตย 19. เมื่อมีสารประกอบไนเตรตและฟอสเฟตสะสมอยูในแหลงน้ําเปนปริมาณมาก ปรากฏการณใดจะเกิดขึ้นเปนอันดับแรก 1. ปริมาณแพลงตอนสัตวจะเพิ่มขึ้น 2. จํานวนของแพลงตอนพืช สาหราย และพืชน้ําจะเพิ่มขึ้น 3. สารพิษตกคาง เชน สารกําจัดแมลง จะมีปริมาณการสะสมสูงขึ้น 4. ปริมาณสัตวน้ํา เชน ปลา สัตวไมมีกระดูกสันหลังอื่นๆ จะเพิ่มขึ้น 20. สัตวปาในขอใดมีสถานภาพปจจุบันแตกตางไปจากขออื่นทั้งหมด 1. พะยูน ชาง 2. ควายปา กระทิง วัวแดง 3. นกเจาฟาหญิงสิรินธร กูปรี 4. นกแตวแลวทองดํา เลียงผา ฉบับ 1 สําหรับการสอบปกติ
- 8. 21 กุมภาพันธ 2553 หนา 9 เวลา 11.30 - 13.30 น. ตารางธาตุ H Li Na K Rb Cs Fr Be Mg Ca Sc Ti V Sr Y Zr Nb Ba * Hf Ta Ra ** Rf Db Cr Mo W Sg * Lanthanides La Ce Pr ** Actinides Ac Th Pa Mn Tc Re Bh Fe Co Ru Rh Os Ir Hs Mt Ni Pd Pt Ds Cu Ag Au Rg Nd Pm Sm Eu Gd U Np Pu Am Cm He B C N O F Ne Al Si P S Cl Ar Zn Ga Ge As Se Br Kr Cd In Sn Sb Te I Xe Hg Tl Pb Bi Po At Rn Uub Uut Uuq Uup Uuh Uus Uuo Tb Bk Dy Cf Ho Es Er Fm Tm Md Yb No Lu Lr 21. ขอความใดไมถูกตอง 1. กรดไรโบนิวคลีอิกทําหนาที่ในการสรางโปรตีน 2. คารโบไฮเดรตชวยใหการเผาไหมไขมันเปนไปอยางสมบูรณ 3. ปฏิกิริยาการเตรียมสบูจากน้ํามันเรียกวา “สะปอนนิฟเคชัน (saponification)” 4. โปรตีนเปนแหลงพลังงานขั้นแรกของรางกายโดยโปรตีน 1 กรัม ใหพลังงาน 4 กิโลแคลอรี ฉบับ 1 สําหรับการสอบปกติ
- 9. 21 กุมภาพันธ 2553 22. หนา 10 เวลา 11.30 - 13.30 น. การทดสอบสาร ก สาร ข สาร ค และ สาร ง ไดผลดังนี้ หมายถึง ละลายในน้ํา หรือ ใหสีน้ําเงินกับไอโอดีน หรือ เกิดตะกอนสีแดงอิฐกับสารละลายเบนิดิกต หมายถึง ไมเปลี่ยนแปลง สาร การทดสอบ ก ข ค การละลายน้ํา สารละลายไอโอดีน สารละลายเบนิดิกต HCl ตามดวยสารละลายเบนิดิกต สาร ก สาร ข สาร ค และ สาร ง ควรเปนสารใดตามลําดับ 1. แปงขาวโพด น้ําเชื่อม ใยไหม กลูโคส 2. แปงผัดหนา ฟรักโทส ใยสําลี น้ําตาลทราย 3. แปงขาวเจา น้ําตาลทราย ใยบวบ ฟรักโทส 4. แปงสาลี แอสพารแทม ใยแมงมุม กลูโคส ฉบับ 1 สําหรับการสอบปกติ ง
- 10. 21 กุมภาพันธ 2553 หนา 11 เวลา 11.30 - 13.30 น. 23. ปริมาณของไขมันอิ่มตัว ไขมันไมอมตัว และสารอื่น ๆ ในน้ํามันเปนดังตาราง ิ่ ชนิดน้ํามัน/ไขมัน น้ํามันถั่วเหลือง น้ํามันมะพราว น้ํามันไก ไขมันวัว ไขมันอิ่มตัว (%) ไขมันไมอมตัว (%) ิ่ 15 52 86 0 23 24 48 2 อื่น ๆ (%) 33 14 53 50 ขอใดสรุปไดถูกตอง 1. ไขมันวัวจะเหม็นหืนเร็วกวาน้ํามันไก 2. น้ํามันถั่วเหลืองเหม็นหืนชากวาน้ํามันมะพราว 3. น้ํามันถั่วเหลืองเหมาะสําหรับทอดอาหารมากกวาน้ํามันมะพราว 4. ถาใชน้ํามันที่มีจํานวนเทากัน น้ํามันถัวเหลืองจะทําปฏิกิริยากับไอโอดีนโดยใช ่ ปริมาณมากที่สุด ฉบับ 1 สําหรับการสอบปกติ
- 11. 21 กุมภาพันธ 2553 หนา 12 เวลา 11.30 - 13.30 น. 24. กําหนดโครงสรางของกรดอะมิโน A, B และ C โดย A และ B เปนกรดอะมิโนจําเปน CH(CH3)2 CH2 CH(CH3)2 H2N CH COOH H2N CH COOH A B CH2 OH H2N CH COOH C ขอความใดถูกตอง 1. เพปไทดที่ประกอบดวยกรดอะมิโนทั้ง 3 ชนิด ขางตนโดยไมมีกรดที่ซ้ํากันมี ทั้งหมด 3 ชนิด 2. เพปไทดที่เกิดจากกรด A และกรด B ทําปฏิกิริยากับ CuSO4 ในสภาวะเบสให สารสีมวง 3. เพปไทดที่เกิดจากกรด A กรด B และกรด C เปนไตรเพปไทดที่มีจํานวนพันธะ เพปไทด 3 พันธะ 4. ในรางกายมนุษยจะไมพบโปรตีนที่มีกรดอะมิโน A และ B เปนองคประกอบ ฉบับ 1 สําหรับการสอบปกติ
- 12. 21 กุมภาพันธ 2553 หนา 13 เวลา 11.30 - 13.30 น. 25. กําหนดสาย X ของกรดดีออกซีไรโบนิวคลีอิกชนิดหนึ่งมีลําดับของเบสดังนี้ (A = อะดีนีน, C = ไซโตซีน, G = กวานีน, T = ไทมีน) X X G A T G T C A สาย Y ที่เปนคูของสาย X จะมีลําดับเบสเปนไปตามขอใด T G A C A T C 1. Y Y C A T C A G T 2. Y Y C T A C T C A 3. Y Y T G A G T A C 4. Y ฉบับ 1 สําหรับการสอบปกติ Y
- 13. 21 กุมภาพันธ 2553 หนา 14 เวลา 11.30 - 13.30 น. 26. ขอใดถูกตองเกี่ยวกับสมบัติของตัวทําละลายในอุตสาหกรรมเคมีที่ไดจากการกลั่น ปโตรเลียม 1. มีจุดเดือดสูงกวาน้ํามันดีเซล 2. เปนสารไฮโดรคารบอนที่ละลายน้ําได 3. มีสถานะเปนของเหลวทีอุณหภูมิและความดันปกติ ่ 4. ประกอบดวยสารไฮโดรคารบอนที่มจํานวนคารบอนนอยกวา 5 อะตอม ี 27. เมื่อนํายางชนิดหนึ่งที่มีสมบัติยืดหยุนมาเผาไฟ พบวาเกิดแกสที่ละลายน้ําแลวได สารละลายที่มีฤทธิ์เปนกรด ชนิดของยางและแกสที่เกิดขึ้นเปนขอใด 1. 2. 3. 4. ชนิดของยาง ซิลิโคน ยางวัลคาไนซ พอลิไวนิลแอซีเตท ไนลอน 66 28. ขอใดไมมปฏิกิริยาเคมีเกิดขึ้น ี 1. การเคี้ยวขาวกอนกลืน 2. การฟอกสบูในน้ํากระดาง 3. การทาแล็กเกอรเคลือบผิวไม 4. การผสมกลีเซอรอลกับเอทานอล ฉบับ 1 สําหรับการสอบปกติ ควันที่เกิดจากการเผา SiO2 SO2 HCl NH3
- 14. 21 กุมภาพันธ 2553 หนา 15 เวลา 11.30 - 13.30 น. 29. ไฮโดรเจนเปนแกสที่เบาที่สุด ใชทําใหบอลลูนลอยตัวขึ้นในอากาศได แตในทาง ปฏิบัติจะใชแกสฮีเลียมซึงหนักกวา เพราะเหตุผลหลักตามขอใด ่ 1. แกสไฮโดรเจนติดไฟไดงาย 2. แกสไฮโดรเจนมีราคาแพงกวาแกสฮีเลียม 3. ตองใชแกสไฮโดรเจนปริมาณมากกวาการใชฮีเลียม 4. ฮีเลียมแยกไดจากธรรมชาติ แตแกสไฮโดรเจนตองผานกระบวนการผลิต 30. ขอใดระบุชนิดของแกสและกรดที่เกิดจากการนําแกสนั้นไปละลายในน้ําไดถูกตอง 1. อีเทน - กรดน้ําสม 2. คลอรีน - กรดเกลือ 3. ไนโตรเจน - กรดไนตริก 4. ซัลเฟอรไดออกไซด - กรดซัลฟวริก 31. เมื่อนําสาร A มาเผาในบรรยากาศออกซิเจน O2 (g) จะไดไอน้ํา H2O(g) และแกส คารบอนไดออกไซด CO2(g) สาร A ในปฏิกริยาขางตนไมใชสารใดในขอตอไปนี้ 1. แกสไฮโดรเจน 2. แกสโซฮอล 3. แกสบิวเทน 4. แกสธรรมชาติ ฉบับ 1 สําหรับการสอบปกติ
- 15. 21 กุมภาพันธ 2553 หนา 16 เวลา 11.30 - 13.30 น. 32. สารละลาย X, Y และ Z ตางก็เปนสารละลายใสที่ไมมีสี เมือนําแตละชนิดที่มีความ ่ เขมขนและปริมาณเทากัน มาผสมกันที่อุณหภูมิเปน 25°C ไดผลดังตาราง การผสมสารละลาย X กับ Y Y กับ Z อุณหภูมหลังผสม (°C) ิ 24 25 สิ่งที่สังเกตเห็น สารละลายสีฟา ใส ไมมีสี ขอสรุปใดไมถูกตอง 1. X กับ Y เกิดปฏิกิริยาคายความรอน 2. Y กับ Z เปนสารละลายชนิดเดียวกัน 3. Y กับ Z ทําปฏิกิริยากันโดยไมคายความรอน 4. Y กับ Z เปนสารละลายตางชนิดที่ไมทําปฏิกิริยากัน 33. ขอใดกลาวไดถูกตอง 1. สบู กําจัดไขมันไดเพราะละลายในน้ําแตไมละลายน้ํามัน 2. การผสมยาลดกรดในกระเพาะลงในน้ําแลวเกิดแกส แสดงวามีปฏิกิริยาเกิดขึ้น 3. การตมน้ํานมจะทําใหโปรตีนแปลงสภาพ ซึ่งจะกลับสูสภาพเดิมไดเมื่อเย็นลง 4. แบตเตอรีรถยนตที่ใชแผนตะกั่วและกรดซัลฟวริก เมื่อใชงานแผนตะกั่วจะทํา หนาที่เปนตัวเรงปฏิกิริยาเพราะเมื่อใชงานเสร็จแลวแผนตะกั่วไมเปลี่ยนแปลง ฉบับ 1 สําหรับการสอบปกติ
- 16. 21 กุมภาพันธ 2553 หนา 17 เวลา 11.30 - 13.30 น. 34. ขอใดที่แสดงวาผิวสัมผัสมีผลตออัตราการเกิดปฏิกิริยา 1. กระดาษฝอยติดไฟไดเร็วกวาแผนกระดาษ 2. แผนสังกะสีปกติทําปฏิกิริยากับกรดไฮโดรคลอริกไดชากวาแผนสังกะสีที่มี ลวดทองแดงพันอยู 3. เครื่องปฏิกรณนิวเคลียรใชเชื้อเพลิงยูเรเนียมที่เปนแทงยาวทําใหมีอายุการใช งานนานกวาที่ใชเปนกอนเล็กๆ 4. แบตเตอรีรถยนตที่มีจํานวนแผนตะกั่วมากกวาใหกําลังไฟฟาสูงกวาที่มีจานวน ํ แผนนอยกวา 35. ขอใดที่ไมไดแสดงวาธรรมชาติของสารมีผลตออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี 1. เกลือเม็ดดูดความชื้นเร็วกวาผลึกน้ําตาลทราย 2. กระดาษมีอายุการใชงานนอยกวาพลาสติก 3. แบตเตอรีปรอท กับแบตเตอรีอัลคาไลนมีอายุใชงานไมเทากัน 4. เหล็กที่อยูในอากาศและความชื้นจะผุกรอนไดเร็วกวาอะลูมิเนียม 36. ไอออนบวกของไฮโดรเจน (H+) ขาดอนุภาคมูลฐานขอใด 1. โปรตอน 2. อิเล็กตรอน 3. นิวตรอน และ อิเล็กตรอน 4. โปรตอน และ อิเล็กตรอน ฉบับ 1 สําหรับการสอบปกติ
- 17. 21 กุมภาพันธ 2553 หนา 18 เวลา 11.30 - 13.30 น. 37. ธาตุในขอใดที่เปนไอโซโทปกับธาตุที่มีสัญลักษณเปน 11 A 5 12 B 1. 12 B 2. 5 6 4. 11 B 3. 11 B 5 6 8 38. ธาตุ 3 ชนิดมีสัญลักษณดังนี้ 4 A 27 B 35 C 13 17 ขอใดเปนสูตรเคมีของสารประกอบฟลูออไรดของธาตุทั้งสามชนิดตามลําดับ 1. AF BF3 CF2 2. AF B2F3 CF2 B2F3 CF 3. AF2 4. AF2 BF3 CF 39. พิจารณาขอความตอไปนี้ ก. เกลือแกงและโซดาไฟเปนสารประกอบของโลหะหมู 1A ข. สารประกอบไอออนิกที่มสถานะเปนของแข็งสามารถนําไฟฟาได ี ค. โลหะแทรนซิชันมีสมบัติทางกายภาพเหมือนโลหะหมู 1A และ 2A ขอใดกลาวถูกตอง 1. ก และ ข 2. ข และ ค 3. ก และ ค 4. ก ข และ ค ฉบับ 1 สําหรับการสอบปกติ
- 18. 21 กุมภาพันธ 2553 หนา 19 เวลา 11.30 - 13.30 น. 40. ธาตุกัมมันตรังสีธรรมชาติ X มีครึ่งชีวิตเทากับ 5,000 ป นักธรณีวิทยาคนพบซาก ของสัตวโบราณที่มีปริมาณธาตุกัมมันตรังสี X เหลืออยูเพียง 6.25% ของปริมาณ เริ่มตน สัตวโบราณนี้มีชวิตโดยประมาณเมื่อกี่ปมาแลว ี 1. 10,000 ป 2. 15,000 ป 3. 20,000 ป 4. 25,000 ป 41. วัตถุอันหนึ่งเมื่ออยูบนโลกที่มีสนามโนมถวง g พบวามีน้ําหนักเทากับ W 1 ถานํา วัตถุนี้ไปไวบนดาวเคราะหอีกดวงพบวามีน้ําหนัก W 2 จงหามวลของวัตถุนี้ 1. 3. W1 g W1+ W g 2. 2 4. W 2 g W 2+ W 2g 1 42. วางเข็มทิศอันหนึ่งบนโตะ เข็มทิศชีขนในลักษณะดังรูป ถานําประจุบวกไปวางไว ้ ึ้ ทางดานซายของเข็มทิศ จะเกิดอะไรขึ้น 1. เข็มทิศชี้ไปทางขวา 3. เข็มทิศชี้ลง ฉบับ 1 สําหรับการสอบปกติ 2. เข็มทิศชี้ไปทางซาย 4. เข็มทิศชี้ทางเดิม
- 19. 21 กุมภาพันธ 2553 หนา 20 เวลา 11.30 - 13.30 น. 43. ในรูปซาย A และ B คือเสนทางการเคลื่อนที่ของอนุภาค 2 อนุภาคที่ถูกยิงมาจาก จุด P ไปทางขวาเขาไปในบริเวณที่มสนามแมเหล็ก (ดูรูปซาย) ถานําอนุภาคทั้งสอง ี ไปวางลงในบริเวณที่มีสนามไฟฟาดังรูปขวา จะเกิดอะไรขึ้น (ด แทนสนามแมเหล็กทีมทิศพุงเขาและตั้งฉากกับกระดาษ) ่ ี P 1. 2. 3. 4. ด ด ด ด ด ด ด ด ด ด ด ด ด ด ด ด ด ด ด ด ด ด ด ด A B ด ด ด ด สนามไฟฟา A เคลื่อนที่ไปทางขวา สวน B เคลื่อนที่ไปทางซาย A เคลื่อนที่ไปทางซาย สวน B เคลื่อนที่ไปทางขวา ทั้ง A และ B ตางก็เคลื่อนที่ไปทางขวา ทั้ง A และ B ตางก็อยูนิ่งกับที่ ฉบับ 1 สําหรับการสอบปกติ
- 20. 21 กุมภาพันธ 2553 หนา 21 เวลา 11.30 - 13.30 น. 44. ยิงอนุภาคอิเล็กตรอนเขาไปในแนวตั้งฉากกับสนามไฟฟาสม่ําเสมอที่มีทิศพุงออก จากกระดาษ เสนทางการเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอนจะเปนอยางไร ( g แทนทิศ สนามไฟฟาพุงออกและตั้งฉากกับกระดาษ) 1. เบนขึ้น g g g g g g g g g g g g g g g g g g g g 2. เบนลง g g g g g g g g g g อิเล็กตรอน g g g g g g g g g g 3. เบนพุงออกจากกระดาษ สนามไฟฟา 4. เบนพุงเขาหากระดาษ 45. โปรตอนและนิวตรอนสามารถอยูรวมกันเปนนิวเคลียสได ดวยแรงใด 1. แรงดึงดูดระหวางมวล 2. แรงไฟฟา 3. แรงแมเหล็ก 4. แรงนิวเคลียร 46. วัตถุเคลื่อนที่เปนเสนตรง โดยมีตําแหนงที่เวลาตางๆ ดังกราฟ ตําแหนง (เมตร) +4 6 0 -4 2 4 8 เวลา (วินาที) ขอใดคือการกระจัดของวัตถุ ในชวงเวลา t = 0 วินาที จนถึง t = 8 วินาที 1. -8 เมตร 2. -4 เมตร 3. 0 เมตร 4. +8 เมตร ฉบับ 1 สําหรับการสอบปกติ
- 21. 21 กุมภาพันธ 2553 หนา 22 เวลา 11.30 - 13.30 น. 47. ตอนเริ่มตนวัตถุอยูหางจากจุดอางอิงไปทางขวา 4.0 เมตร เมื่อเวลาผานไป 10 วินาที พบวาวัตถุอยูหางจากจุดอางอิงไปทางซาย 8.0 เมตร จงหาความเร็วเฉลี่ยของวัตถุนี้ 1. 0.4 เมตรตอวินาที 2. 0.4 เมตรตอวินาที ทางซาย 3. 1.2 เมตรตอวินาที 4. 1.2 เมตรตอวินาที ทางซาย 48. ขอใดตอไปนี้เปนการเคลื่อนที่ที่มีขนาดการกระจัดนอยที่สุด 1. เดินไปทางขวาดวยอัตราเร็วคงตัว 3 เมตรตอวินาที เปนเวลา 4 วินาที 2. เดินไปทางซายดวยอัตราเร็วคงตัว 4 เมตรตอวินาที เปนเวลา 3 วินาที 3. เดินไปทางขวา 10 เมตร แลวเดินยอนกลับมาทางซาย 2 เมตร 4. ทั้งสามขอ มีขนาดการกระจัดเทากันหมด 49. ขอใดที่วัตถุมีความเรงไปทางซาย 1. วัตถุเคลื่อนที่ไปทางขวาแลวเคลื่อนที่เร็วขึ้น 2. วัตถุเคลื่อนที่ไปทางขวาแลวเคลื่อนที่ชาลง 3. วัตถุเคลื่อนที่ไปทางซายแลวเคลื่อนที่ชาลง 4. วัตถุเคลื่อนที่ไปทางซายแลวหยุด ฉบับ 1 สําหรับการสอบปกติ
- 22. 21 กุมภาพันธ 2553 หนา 23 เวลา 11.30 - 13.30 น. 50. ลูกตุมนาฬิกาแกวงแบบฮารมอนิกอยางงาย พบวาผานจุดต่ําสุด ทุกๆ 2.1 วินาที ความถี่ของการแกวงของลูกตุมนี้เปนไปตามขอใด 1. 0.24 เฮิรตซ 3. 2.1 เฮิรตซ 2. 0.48 เฮิรตซ 4. 4.2 เฮิรตซ 51. ผูกเชือกเขากับจุกยาง แลวเหวี่ยงใหจกยางเคลื่อนที่เปนวงกลมในแนว ุ ระดับเหนือศีรษะดวยอัตราเร็วคงตัว ขอใดถูกตอง 1. จุกยางมีความเร็วคงตัว 2. จุกยางมีความเรงเปนศูนย 3. แรงที่กระทําตอจุกยางมีทิศเขาสูศูนยกลางวงกลม 4. แรงที่กระทําตอจุกยางมีทิศเดียวกับความเร็วของจุกยาง 52. ยิงลูกปนออกไปในแนวระดับ ทําใหลกปนเคลื่อนที่แบบโพรเจกไทล ตอนที่ลูกปน ู กําลังจะกระทบพื้น ขอใดถูกตองที่สุด (ไมตองคิดแรงตานอากาศ) 1. ความเร็วในแนวระดับเปนศูนย 2. ความเร็วในแนวระดับเทากับความเร็วตอนตนที่ลูกปนถูกยิงออกมา 3. ความเร็วในแนวระดับมีขนาดมากกวาตอนที่ถูกยิงออกมา 4. ความเร็วในแนวระดับมีขนาดนอยกวาตอนที่ถูกยิงออกมาแตไมเปนศูนย ฉบับ 1 สําหรับการสอบปกติ
- 23. 21 กุมภาพันธ 2553 หนา 24 เวลา 11.30 - 13.30 น. 53. ในการทดลองเพื่อสังเกตผลของสิ่งกีดขวางเมื่อคลื่นเคลื่อนที่ผาน เปนการศึกษา สมบัติตามขอใดของคลื่น 1. การหักเห 2. การเลี้ยวเบน 3. การสะทอน 4. การแทรกสอด 54. ทําใหเกิดคลื่นบนเสนเชือกที่ปลายทั้งสองดานถูกขึงตึง พบวามีความถี่และความยาว คลื่นคาหนึ่ง ถาทําใหความถี่ในการสันเพิ่มขึ้นเปน 2 เทาของความถี่เดิม ขอใดถูกตอง ่ 1. ความยาวคลื่นบนเสนเชือกลดลงเหลือครึ่งหนึ่งเนื่องจากคลื่นเคลื่อนที่ใน ตัวกลางเดิม 2. ความยาวคลื่นบนเสนเชือกเพิ่มขึ้นเปน 2 เทา เนืองจากปริมาณทั้งสองแปรผัน ่ ตามกัน 3. ความยาวคลื่นบนเสนเชือกเทาเดิม เนื่องจากคลื่นเกิดบนตัวกลางเดิม 4. ความยาวคลื่นบนเสนเชือกเทาเดิม แตอัตราเร็วของคลื่นเพิ่มเปนสองเทาตาม สมการ v = f l ฉบับ 1 สําหรับการสอบปกติ
- 24. 21 กุมภาพันธ 2553 หนา 25 เวลา 11.30 - 13.30 น. 55. วัสดุที่ใชในการบุผนังโรงภาพยนตรมีผลในการลดปรากฏการณใดของเสียง 1. การหักเห 2. การสะทอน 3. การสั่นพอง 4. ดอพเพลอร 56. ขอใดไมถูกตองเกี่ยวกับคลื่นแมเหล็กไฟฟา 1. คลื่นแมเหล็กไฟฟาทุกชนิดมีอัตราเร็วในสุญญากาศเทากัน 2. มีคลื่นแมเหล็กไฟฟาบางชนิดตองอาศัยตัวกลางในการเดินทาง 3. เมื่อคลื่นแมเหล็กไฟฟาเดินทางในตัวกลางที่เปลี่ยนไป อัตราเร็วของคลื่น จะเปลี่ยนไป 4. คลื่นแมเหล็กไฟฟาเปนคลื่นที่มีทั้งสนามไฟฟาและสนามแมเหล็ก 57. ปรากฏการณทางธรรมชาติในขอใดที่ไมมีผลตอการแผกระจายของคลื่นวิทยุ 1. การเปลี่ยนขนาดของจุดดับบนดวงอาทิตย 2. การเกิดแสงเหนือแสงใต 3. การเกิดน้ําขึ้นน้ําลง 4. การเกิดกลางวัน กลางคืน ฉบับ 1 สําหรับการสอบปกติ
- 25. 21 กุมภาพันธ 2553 หนา 26 เวลา 11.30 - 13.30 น. 58. ถารังสีแกมมาพุงเขาไปในบริเวณที่มีสนามแมเหล็กซึ่งมีทิศตั้งฉากกับการเคลื่อนที่ ของรังสีภายในสนามแมเหล็กดังกลาว รังสีแกมมามีแนวทางการเคลื่อนที่เปนไป ตามขอใด 1. เบนไปดานขาง 2. เคลื่อนที่เปนวงกลม 3. เคลื่อนที่ในแนวทางเดิม 4. ยอนกลับทางเดิม 59. ในทางการแพทย ไอโอดีน-131 นํามาใชเพื่อวัตถุประสงคตามขอใด 1. ตรวจการไหลเวียนของโลหิตในรางกาย 2. ตรวจการทํางานของตอมไทรอยด 3. รักษาโรคมะเร็ง 4. รักษาเนื้องอกในสมอง 60. แผนดินไหวที่รูสึกไดในประเทศไทย มักจะมีศูนยเกิดแผนดินไหวอยูในประเทศใด 1. ไทย 2. พมา 3. ลาว 4. อินโดนีเซีย ฉบับ 1 สําหรับการสอบปกติ
- 26. 21 กุมภาพันธ 2553 หนา 27 เวลา 11.30 - 13.30 น. 61. ขอบทวีปใดมีรูปรางตอกันไดพอดี 1. ตะวันตกของแอฟริกา กับ ตะวันออกของอเมริกาใต 2. ตะวันตกของเอเชีย กับ ตะวันออกของอเมริกาเหนือ 3. ตะวันตกของยุโรป กับ ตะวันออกของเอเชีย 4. เหนือของออสเตรเลีย กับ ใตของอเมริกาใต 62. ขอใดไมถูกตอง 1. ประเทศไทยมีแผนดินไหวขนาดที่รูสึกได โดยเฉลี่ยแลว 1 ครั้งทุกๆ 5 ป 2. แผนดินไหวในประเทศไทย มักเกิดในบริเวณแนวรอยเลื่อนมีพลัง 3. แนวรอยเลื่อนมีพลังในประเทศไทยมีจํานวนหลายสิบแนว 4. แนวรอยเลื่อนมีพลังในประเทศไทยสวนใหญจะอยูในภาคตะวันตกและ ภาคเหนือ 63. ปจจุบันมีภูเขาไฟที่มีพลัง อยูบนโลกเปนจํานวนประมาณเทาใด 1. 100 ลูก 2. 1,000 ลูก 3. 10,000 ลูก 4. 100,000 ลูก ฉบับ 1 สําหรับการสอบปกติ
- 27. 21 กุมภาพันธ 2553 หนา 28 เวลา 11.30 - 13.30 น. 64. ขอใดถูกตองเกี่ยวกับดาวฤกษที่อยูในกลุมเดียวกัน เชน กลุมดาวนายพราน 1. ดาวฤกษทุกดวงจะมีอายุใกลเคียงกัน 2. ดาวฤกษทุกดวงจะมีอันดับความสวางปรากฏใกลเคียงกัน 3. ดาวฤกษทุกดวงจะมีระยะหางจากโลกใกลเคียงกัน 4. ดาวฤกษทุกดวงจะมีตําแหนงที่ปรากฏใกลเคียงกัน 65. ขอใดไมถูกตองเกี่ยวกับดวงอาทิตย 1. มีอายุพอๆ กับโลก 2. มีมวลประมาณ 50% ของมวลของระบบสุริยะ 3. องคประกอบสวนใหญเปนไฮโดรเจน 4. จะมีวาระสุดทายเปนดาวแคระดํา 66. เมื่อเกิดสุริยุปราคาเต็มดวง วันนั้นควรจะเปนวันใด 1. แรม 1 ค่ํา 2. ขึ้น 15 ค่ํา 3. แรม 8 ค่ํา 4. แรม 15 ค่ํา ฉบับ 1 สําหรับการสอบปกติ
- 28. 21 กุมภาพันธ 2553 67. ขอใดไมถูกตองเกี่ยวกับสถานีอวกาศนานาชาติ 1. วิจัยเทคโนโลยีใหมๆ ที่ไมสามารถทําไดบนโลก 2. เจาหนาที่ในสถานีจะอยูในสภาวะไรน้ําหนัก 3. อยูในวงโคจรคางฟา 4. มีเจาหนาที่ประจําการอยูตลอดเวลา 68. ขอใดไมใชประโยชนของกระสวยอวกาศในปจจุบัน 1. เพื่อการทองเที่ยว 2. เพื่อสงดาวเทียมเขาสูวงโคจร 3. เพื่อใชเปนสถานีอวกาศ 4. เพื่อใชวิจัยทางวิทยาศาสตร ฉบับ 1 สําหรับการสอบปกติ หนา 29 เวลา 11.30 - 13.30 น.
- 29. 21 กุมภาพันธ 2553 หนา 30 เวลา 11.30 - 13.30 น. สวนที่ 2 : แบบระบายตัวเลือก จํานวน 18 ขอ (ขอ 69 - 86) คะแนนรวม 12 คะแนน ขอสอบตอไปนี้เปนชุดคําถาม 6 ชุด ชุดละ 3 ขอ ชุดละ 2 คะแนน ซึ่งในแตละชุด ตองทําถูกทั้ง 3 ขอ จึงจะไดคะแนน 2 คะแนน หากทําผิดขอใดขอหนึ่งที่อยูในชุดนั้นๆ จะไมไดคะแนน ชุดที่ 1 (ขอ 69-71) 69. ไอออนของธาตุ X มีจํานวนโปรตอน นิวตรอน และ อิเล็กตรอน เทากับ 9, 10, 10 ตามลําดับ ธาตุ X มีสัญลักษณเปนไปตามขอใด 2. 21 X 1. 19 X 9 9 4. 21 X 3. 20 X 11 11 70. สารบริสุทธของธาตุ X ในขอที่ 69 มีสูตรโมเลกุลตามขอใด 1. F2 2. Cl2 4. O2 3. N2 ิ 71. ขอใดกลาวไมถูกตองเกี่ยวกับสมบัตของธาตุ X ในขอที่ 69 1. สาร X มีสถานะเปนแกส 2. ไอออนที่เสถียรของธาตุ X มีประจุ -1 3. ธาตุ X พบไดในบางสวนของรางกายคน 4. ธาตุ X กับธาตุ Ca เกิดเปนสารประกอบที่มีสูตรเปน CaX ฉบับ 1 สําหรับการสอบปกติ
- 30. 21 กุมภาพันธ 2553 หนา 31 เวลา 11.30 - 13.30 น. ชุดที่ 2 (ขอ 72-74) 72. ยูเรียเตรียมจากแกสแอมโมเนียและแกสคารบอนไดออกไซดดวยปฏิกิริยาดังนี้ 2NH3(g) + CO2(g) → (NH2) 2CO(s) + H2O(g) การทดลองในภาชนะปดและชั่งน้ําหนักยูเรียที่เกิดขึ้นที่เวลาตางกันไดผลดังตาราง เวลาที่ใช (นาที) 1 2 3 4 5 น้ําหนักยูเรียที่เกิดขึ้น (กรัม) 1.6 2.6 4 4.2 4.2 ขอใดสรุปไมถูกตอง 1. ปฏิกิริยาสิ้นสุดหลังจากนาทีที่ 4 2. อัตราปฏิกิริยาลดลงเมื่อเวลาเพิ่มขึ้น 3. อัตราปฏิกิริยาที่นาทีที่ 4 และนาทีที่ 5 มีคาเทากัน 4. อัตราเฉลี่ยเมื่อปฏิกิริยาสิ้นสุดพอดีมีคาเปน 1.05 กรัมตอนาที ฉบับ 1 สําหรับการสอบปกติ
- 31. 21 กุมภาพันธ 2553 หนา 32 เวลา 11.30 - 13.30 น. 73. ตามปฏิกิริยาในขอ 72 ถาเริ่มตนใชแอมโมเนีย 3 โมล และคารบอนไดออกไซด 1 โมล เมื่อปฏิกิริยาเกิดไดสมบูรณ แกสทุกชนิดที่อยูในภาชนะ จะมีจานวนโมลโดยรวมตาม ํ ขอใด 1. 1 โมล 2. 2 โมล 3. 3 โมล 4. 4 โมล 74. ตามปฏิกิริยาในขอ 72 ถานําแกสที่เกิดขึ้นทั้งหมดพนลงในน้ํา สารละลายที่ได เปนสารในขอใด 1. กรดคารบอนิก 2. แอมโมเนียมไฮดรอกไซด 3. แอมโมเนียมคารบอเนต 4. แอมโมเนียมไฮดรอกไซด และกรดคารบอนิก ชุดที่ 3 (ขอ 75-77) 75. โยนวัตถุขึ้นในแนวดิ่ง ในขณะที่วัตถุกําลังเคลื่อนที่ขึ้น ขอใดสรุปไดถูกตอง 1. ความเรงมีทิศขึ้น 2. ความเรงมีทิศลง 3. ความเรงเปนศูนย 4. ขอมูลไมเพียงพอที่จะบอกทิศของความเรง ฉบับ 1 สําหรับการสอบปกติ
- 32. 21 กุมภาพันธ 2553 หนา 33 เวลา 11.30 - 13.30 น. 76. โยนวัตถุขึ้นในแนวดิ่ง ในขณะที่วัตถุอยูที่จุดสูงสุดพอดี ความเรงของวัตถุมีทิศใด 1. ความเรงเปนศูนย 2. ความเรงมีทิศขึ้น 3. ความเรงมีทิศลง 4. ความเรงกําลังเปลี่ยนทิศ 77. โยนวัตถุขึ้นในแนวดิ่ง ในขณะที่วัตถุกําลังเคลื่อนที่ลง ความเรงของวัตถุมีทิศใด 1. ความเรงมีทิศขึ้น 2. ความเรงมีทิศลง 3. ความเรงเปนศูนย 4. ขอมูลไมเพียงพอที่จะบอกทิศของความเรง ฉบับ 1 สําหรับการสอบปกติ
- 33. 21 กุมภาพันธ 2553 หนา 34 เวลา 11.30 - 13.30 น. ชุดที่ 4 (ขอ 78-80) 78. เมื่อเปดใหลําโพงทํางาน อนุภาคของฝุนที่อยูดานหนาของลําโพงดังรูป จะมีการเคลื่อนที่อยางไร ลําโพง 1. 2. 3. 4. ฝุน เคลื่อนที่ออกจากลําโพง สั่นขึ้นลงในแนวดิ่ง สั่นไปมาในแนวระดับ เคลื่อนที่ออกเปนรูปคลื่น 79. เหตุผลสําหรับคําตอบในขอที่ 78 คือขอใด 1. พลังงานเคลื่อนที่ออกจากลําโพง 2. เสียงเปนคลื่นรูปซายน 3. เสียงเปนคลื่นตามขวาง 4. เสียงเปนคลื่นตามยาว ฉบับ 1 สําหรับการสอบปกติ
- 34. 21 กุมภาพันธ 2553 หนา 35 เวลา 11.30 - 13.30 น. 80. คลื่นเสียงเปนคลื่นชนิดใด 1. คลื่นตามยาว 2. คลื่นตามขวาง 3. คลื่นผสมที่มทั้งตามยาวและตามขวาง ี 4. คลื่นแมเหล็กไฟฟา ชุดที่ 5 (ขอ 81-83) พิจารณาชั้นหินที่วางซอนกันดังรูป แลวตอบคําถามขอ 81 ถึง 83 ชั้น ก ชั้น ข ชั้น ค ชั้น ง ชั้น จ กระดูกชาง ซากตนพืช (บนสุดมีตนหญา) กระดูกชาง ซากตนพืช หอยแครง หอยแครง แมงดาทะเล แอมโมไนต แอมโมไนต 81. ชั้นหินในขอใดเกาแกที่สุด 1. ชั้น ก 3. ชั้น ค ฉบับ 1 สําหรับการสอบปกติ 2. ชั้น ข 4. ชั้น จ
- 35. 21 กุมภาพันธ 2553 หนา 36 เวลา 11.30 - 13.30 น. 82. ฟอสซิลในขอใดที่พบในตัวอยางนี้ที่สามารถใชเปนฟอสซิลดัชนีได 1. หอยแครง 2. แอมโมไนต 3. แมงดาทะเล 4. ชาง 83. ขอใดถูกตองเกี่ยวกับสภาพของสถานที่แหงนี้ 1. เคยเปนทะเลมากอน ปจจุบันเปนบก 2. เคยเปนบกมากอน แลวเปนทะเลในภายหลัง 3. ไมเคยเปนทะเลเลย 4. เปนทะเลทั้งอดีตและปจจุบัน ชุดที่ 6 (ขอ 84-86) 84. ขอใดเรียงลําดับความสวางที่ปรากฏของดาวจากสวางนอยไปมากไดถูกตอง 1. ดาวศุกรเมื่อสวางที่สุด ดวงจันทรเมื่อสวางที่สุด ดาวซีรีอัส 2. ดาวซีรีอัส ดาวศุกรเมื่อสวางที่สุด ดวงจันทรเมื่อสวางที่สุด 3. ดาวศุกรเมื่อสวางที่สุด ดาวซีรีอัส ดวงจันทรเมื่อสวางที่สุด 4. ดวงจันทรเมื่อสวางที่สุด ดาวศุกรเมื่อสวางที่สุด ดาวซีรีอัส ฉบับ 1 สําหรับการสอบปกติ
- 36. 21 กุมภาพันธ 2553 หนา 37 เวลา 11.30 - 13.30 น. 85. ขอใดถูกตองเกี่ยวกับอันดับความสวาง 1. มีคาเปนบวกเทานั้น 2. คามากแสดงวาสวางมาก 3. คาเปนศูนยแสดงวาไมมีแสงในตัวเอง 4. เปนปริมาณที่ไมมีหนวย 86. ขอใดถูกตองเกี่ยวกับอันดับความสวางของดาวศุกรเมื่อสวางที่สุดกับอันดับความ สวางของดวงอาทิตย 1. คาใกลเคียงกัน 2. คาของดาวศุกรมากกวา 3. คาของดาวศุกรนอยกวา 4. เปรียบเทียบกันไมได ฉบับ 1 สําหรับการสอบปกติ