การทํางานเป็นทีม ข้อดี ข้อเสีย

การทำงานเป็นทีม

การทำงานเป็นทีมที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้องค์กรก้าวสู่ความสำเร็จได้มากกว่า อีกทั้งยังช่วยประหยัดทรัพยากร เวลา ค่าใช้จ่าย ในการทำงานให้บรรลุเป้าหมายตามที่ตั้งใจไว้ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ในบทความนี้ Moneywecan จะพาเพื่อน ๆ ไปดูกันค่ะ ว่าการทำงานเป็นทีม หมายถึงอะไร และมีข้อดีอย่างไรบ้าง

การทำงานเป็นทีม หมายถึงอะไร

การทำงานเป็นทีม หมายถึง การทำงานร่วมกันกับเพื่อนร่วมงาน หรือการทำงานของบุคคลมากกว่า 1 คนขึ้นไปนั่นเอง โดยจะมีเป้าหมายในการทำงานอย่างเดียวกัน มีการประสานงาน วางแผนการดำเนินงานร่วมกัน เมื่อมีการตัดสินใจอะไรสำคัญ ๆ ที่มีผลกระทบต่อเป้าหมายโดยร่วม ก็ต้องมีการลงมติ ตัดสินใจร่วมกัน 

ซึ่งก็มีหลาย ๆ โอกาสที่เราจะต้องทำงานเป็นทีมหรือเป็นกลุ่ม ยิ่งการทำงานในองค์กร หรือบริษัท การทำงานส่วนใหญ่ก็มักเป็นการทำงานกันเป็นทีม เพื่อที่จะได้ร่วมแรงร่วมใจกันก่อให้เกิดพลังที่จะก้าวไปสู่ความสำเร็จได้ดีกว่าการแบ่งแยกกันทำงาน 

ข้อดีของการทำงานเป็นทีม

1.การแจกแจงงานออกเป็นส่วนย่อย ๆ ให้สมาชิกในทีมตามหน้าที่และความรับผิดชอบ ทำให้งานบรรลุเป้าหมายตามที่กลุ่มและทีมงานต้องการ

2.สร้างการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม ช่วยให้เกิดรู้รักสามัคคี ระหว่างสมาชิกในทีมงาน ในการทำงานให้ประสานสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน

3.การทำงานเป็นทีมสามารถดำเนินงานได้รวดเร็ว ถูกต้อง แม่นยำ มีคุณภาพได้มากกว่าการทำงานคนเดียว เพราะมีหลายคนช่วยกันทำในสิ่งที่ตนเองถนัด

4.การทำงานเป็นทีมทำให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยเพิ่มผลผลิตจากการทำงานได้มากมาย สร้างรายได้เพิ่ม มีกำไรเพิ่ม ฐานะของกิจการในหน่วยงานมีความก้าวหน้า

5.สมาชิกในทีมได้เรียนรู้และพัฒนาตัวเองจากการแลกเปลี่ยนและช่วยเหลือกันภายในทีม

6.การทำงานเป็นทีมทำให้มีความคิดเห็นและไอเดียที่หลากหลาย ช่วยให้งานที่ทำเป็นไปอย่างสร้างสรรค์และมีประสิทธิภาพมากกว่า 

ขั้นตอนการทำงานเป็นทีมให้มีประสิทธิภาพ

การทำงานเป็นทีมให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรประกอบด้วยขั้นตอนต่าง ๆ ดังนี้

1.การมีเป้าหมายที่ชัดเจนร่วมกัน

ในการทำงานเป็นทีม ทุกคนควรมองเป้าหมายหรือสร้างวัตถุประสงค์ร่วมกันให้ชัดเจน เพื่อที่จะสามารถวางแผนการทำงานให้บรรลุเป้าหมายได้สำเร็จตามภารกิจ เมื่อมีเป้าหมายแล้ว ก็ควรมีการกำหนดขอบข่ายหน้าที่ความรับผิดชอบของแต่ละคนให้ชัดเจนในการทำงาน ให้สำเร็จ ซึ่งทั้งวัตถุประสงค์ เป้าหมาย และหน้าที่ความรับผิดชอบควรเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรให้ชัดเจน เพื่อให้สมาชิกทุกคนมีความเข้าใจที่ตรงกัน

2.วางแผนกระบวนการทำงาน

การวางแผนการทำงานของสมาชิกในทีม ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ อย่างหนึ่ง เพื่อระบบ ระเบียบของการทำงานร่วมกันของคนหลาย ๆ คน และยังช่วยในเรื่องการประหยัดเวลา และประหยัดค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกิดจากการทำงานที่ผิดพลาด หรือเสร็จล่าช้าได้ 

3.เข้าใจการทำงานของตนเอง และของสมาชิกคนอื่น ๆ 

แม้จะทำงานในทีมเดียวกัน สมาชิกแต่ละคนย่อมมีแนวทางการทำงานที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งการทำความเข้าใจวิธีการทำงานของสมาชิกแต่ละคนที่ต้องร่วมงานกันในทีม ช่วยให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่เกิดปัญหาขัดแย้งที่เกิดจากความไม่เข้าใจ

4.การให้ความช่วยเหลือและเคารพผู้อื่น

หนึ่งในทักษะของการทำงานเป็นทีมให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ คือ การให้ความช่วยเหลือกันภายในทีม ที่จะช่วยให้บรรยากาศของการทำงานเป็นไปได้อย่างราบรื่น ไม่ติดขัด นอกจากนี้การให้ความเคารพต่อผู้อื่น ช่วยให้สมาชิกในทีมมีความสัมพันธ์ที่ดี ลดปัญหาการทะเลาะเบาะแว้ง เพราะต่างคนต่างตระหนักในความสำคัญของกันและกัน และให้เกียรติกัน

5.การติดต่อสื่อสาร

ในการทำงานเป็นทีม เมื่อต่างคนต่างได้รับงานที่ต้องรับผิดชอบและได้รับมอบหมาย ก็อาจแยกกันออกทำงานของตัวเอง ซึ่งควรจะต้องมีการประชุมเพื่อติดตามสถานะการทำงานของคนในทีมกันอยู่เสมอ ๆ เพื่อให้ทราบว่าสมาชิกในทีมทำงานไปได้อย่างราบรื่นหรือไม่ หรือมีปัญหาติดขัดตรงจุดไหน เพื่อที่จะได้ช่วยกันแก้ปัญหา ทำให้งานบรรลุผลได้ตามกำหนดเวลาที่ตั้งเป้าหมายไว้

6.ส่งเสริมและสร้างกำลังใจให้กัน

การเสริมสร้างกำลังให้กันระหว่างทีม นอกจากจะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีให้กับสมาชิกภายในทีมแล้ว ยังเป็นการสร้างแรงกระตุ้น และผลักดันให้ทีมงานมีกำลังใจในการพัฒนาตนเองอยู่เสมอ

7.สร้างความเป็นหนึ่งเดียว

กิจกรรมสร้างความเป็นหนึ่งเดียวให้กับสมาชิกมีความรักใคร่กลมเกลียวกันเช่น การจัดกิจกรรมระดมสมอง , มีการจัดการประชุมเป็นประจำ , การทำกิจกรรมร่วมกันของทีมงาน เช่น การจัดการอบรม สัมมนา งานเลี้ยงสังสรรค์ประจำปี เพื่อให้ทีมงานเกิดความผูกพันกันในทีม เป็นต้น ช่วยให้การทำงานเป็นทีมเป็นไปอย่างราบรื่น กระชับความสัมพันธ์ให้กับสมาชิกในทีมซึ่งเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการทำงานร่วมกันอีกด้วย 

8.มีความเป็นธรรมและเท่าเทียม

การปฏิบัติต่อสมาชิกภายในทีมควรมีความเท่าเทียม และเป็นธรรม เช่น การประเมินผลงานของสมาชิกในทีมแต่ละคนควรเป็นไปตามมาตรฐานที่เท่าเทียม และไม่มีข้อยกเว้นเพื่อประโยชน์ของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น เพราะความไม่เท่าเทียมที่เกิดขึ้น อาจส่งผลต่อความรู้สึกของสมาชิกคนอื่น ๆ ในทีม ที่เห็นถึงความไม่ตรงไปตรงมา กลายเป็นวัฒนธรรมที่ไม่ดีภายในกลุ่ม สร้างความไม่พอใจ แบ่งฝักแบ่งฝ่ายกันได้ในที่สุด  

การทำงานเป็นทีมในปัจจุบัน เป็นสิ่งที่องค์กรให้ความสำคัญมาก เพราะพลังของ การทำงานเป็นทีม ช่วยให้องค์กรบรรลุเป้าหมายในงานต่าง ๆ ได้มากกว่า ซึ่งนอกจากจะต้องให้ความสำคัญในการทำงานร่วมกันแล้ว แต่ต้องทำงานร่วมกันให้ได้อย่างมีคุณภาพ และมีประสิทธิภาพด้วย