การทำให้สถานที่ทำงานปลอดภัยนั้น ย่อมจะต้องมีการลงทุนลงแรงกันบ้าง วันนี้ขอแนะนำเคล็ดลับทำให้เกิดความปลอดภัยในที่ทำงาน 10 ข้อ ดังนี้
1.ดูแลรักษาให้พื้นที่ปฏิบัติงานมีความสะอาดอยู่เสมอ
ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่การนำอันตรายต่างๆ ออกจากพื้นที่ปฏิบัติงานเท่านั้น หากแต่ยังเป็นการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่น่าทำงานให้แก่พนักงานของคุณด้วย
- 2.ถ้าเป็นไปได้ ให้ใช้ระบบป้องกันและการควบคุมด้านวิศวกรรมแทนการอาศัยแต่เพียงอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล (PPE) เพียงอย่างเดียว
เนื่องจากอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคลนั้นเป็นสิ่งที่ทำการตรวจสอบ และกำกับให้มีการปฏิบัติจริงได้ยากและเมื่อสวมใส่แล้วทำให้รู้สึกไม่ค่อยสบายตัวเท่าใดนัก ก่อนอื่นคุณจะต้องค้นหาวิธีป้องกันการรับสัมผัสอันตรายของพนักงานให้ได้เสียก่อน จำไว้ว่าพนักงานของคุณจะสามารถปฏิบัติงานได้ผลผลิตมากขึ้นหลายเท่าตัวเลยทีเดียวถ้าหากว่าพวกเขารู้สึกสบายตัวในระหว่างการทำงาน
- 3.ให้สันนิษฐานไว้เสมอว่าพนักงานของคุณต้องการทำงานอย่างปลอดภัย และคุณก็จะต้องหยิบยื่นโอกาสดังกล่าวให้แก่พวกเขา
- 4.ระบุคำแนะนำในการปฏิบัติงานให้ชัดเจน
ทำให้แน่ใจว่าพนักงานของคุณทุกคนรู้ถึงวิธีการที่ถูกต้องในการทำในสิ่งที่คุณคาดหวังจากพวกเขา อย่าเพียงแต่บอกเฉพาะสิ่งต่างๆ ที่ห้ามพวกเขาทำเท่านั้น นอกจากนี้ คุณจะต้องระบุถึงคำแนะนำด้านความปลอดภัยไว้ในระเบียบขั้นตอนการปฏิบัติงานทุกฉบับที่คุณจัดทำขึ้นด้วย
- 5.อย่าหมกมุ่นเพียงเฉพาะสถานการณ์สมมติที่เป็นสถานการณ์เลวร้ายที่มีมากมายหลากหลายกรณี
แต่แนะนำให้คุณเน้นไปที่สิ่งหรือสถานการณ์ที่มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นมากกว่า มีความรุนแรงมากกว่า (ความเสี่ยงสูงกว่านั่นเอง) วิธีการคือ ตัวคุณเองสามารถทำการป้องกันมิให้มีอุบัติการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น เกิดซ้ำอีกได้ ซึ่งก็จะหมายความว่าคุณจะต้องจัดทำบันทึกอุบัติการณ์ต่างๆ ไว้อย่างถูกต้องแม่นยำแม้ว่าสถิติอุบัติการณ์นี้อาจจะทำให้ดูแย่ในสายตาผู้บริหารที่เป็นผู้บังคับบัญชาของคุณก็ตาม
- 6.คุณจะต้องรักพนักงานของตัวเองให้มาก
ความรักนี้หมายถึงการที่คุณจะต้องดูแลเอาใจใส่พนักงานของตัวเองและบอกให้พวกเขารู้ด้วยว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่ ถ้าเครื่องจักรเครื่องหนึ่ง อยู่ในสภาพไม่ปลอดภัย ก็ให้ปิดหรือห้ามใช้เครื่องนั้นเสียก่อนที่จะมีใครได้รับบาดเจ็บ
- 7.ใช้เวลาศึกษารายละเอียดงานต่างๆ ที่พนักงานของคุณทำ
แม้ว่าเมื่อก่อนคุณจะเคยทำงานดังกล่าวมาเช่นกันก็ตาม แต่มันก็มีความเป็นไปได้ที่วิธีการทำงานเดียวกันนี้จะมีความแตกต่างกันออกไปในแต่ละคน คุณจะต้องมองไปที่สิ่งที่พนักงานกำลังทำอยู่จริงและเปรียบเทียบกับวิธีการทำงานที่ระบุไว้เป็นลายลักษณ์อักษรในระเบียบขั้นตอนการปฏิบัติงาน ซึ่งถ้ามีความแตกต่างกัน ไม่เหมือนกันระหว่างการปฏิบัติจริงกับสิ่งที่ระบุไว้ในเอกสารนั้น ให้ค้นหาให้ได้ว่าเพราะเหตุใด และอะไรคือสิ่งที่ถูกต้อง ปลอดภัยกว่ากัน
- 8.ดูแลรักษาเครื่องจักรต่างๆ ให้อยู่ในสภาพการทำงานที่ดีเสมอ
หลายครั้งที่พนักงานมักตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายเนื่องจากเครื่องจักรชำรุดหรือสึกหรอ ในกรณีการสึกหรอนั้น เครื่องจักรอาจจะค่อยๆ เกิดการสึกหรอและตัวพนักงานเองก็คิดว่านั่นมันเป็นเรื่องปกติ ทั้งนี้ แผนการบำรุงรักษาเครื่องจักรเชิงป้องกันที่มีประสิทธิภาพนั้นจะนำมาซึ่งแผนการด้านความปลอดภัยในภาพรวมที่มีประสิทธิภาพเช่นกัน
- 9.หลีกเลี่ยงอันตรายต่างๆ ที่ไม่จำเป็น
คุณควรมองหาวัสดุสิ่งของหรืออุปกรณ์ใหม่ๆ ที่จะช่วยลดอันตรายต่างๆ ที่พนักงานของคุณอาจได้รับสัมผัส
- 10.ดูแลรักษาพื้นที่ปฏิบัติงานให้สะอาด (ดูเคล็ดลับข้อ 1 ข้างต้น)
การรับสัมผัสสารและสภาพอันตรายต่างๆ นั้นเป็นสิ่งที่สามารถทำให้ลดน้อยลงได้อย่างมากโดยวิธีการง่ายๆ นั่นคือ การทำให้พื้นที่ปฏิบัติงานมีความสะอาดอยู่เสมอ และผลพลอยได้ที่จะเกิดขึ้นก็คือ พนักงานมีประสิทธิภาพในการทำงานและมีขวัญกำลังใจในการทำงานที่ดีขึ้นอย่างมากแม้หากจะไม่ได้เน้นเรื่องให้เป็นแรงจูงใจเพื่อให้เกิดความปลอดภัยเพียงอย่างเดียวก็ตาม
ที่มาของข้อมูล : ชมรมอุตสาหกรรมบางปู
เราเห็นได้ชัดว่าอันตรายหรืออุบัติเหตุนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ในที่ทำงานที่เต็มไปด้วยเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งพนักงานมักจะต้องมีส่วนร่วมในการใช้งานเครื่องจักรหรืออุปกรณ์นั้นๆด้วย
โดยงานส่วนใหญ่ของออฟฟิศจะเป็นงานที่จะสามารถทำเสร็จโดยการนั่งอยู่บนเก้าอี้ ในอาคารสำนักงานหรือที่เราเรียกกันว่า ออฟฟิศ ซึ่งการทำงานในออฟฟิศนั้นดูไม่ค่อยอันตราย มีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุน้อย แต่อย่างไรก็ตามจำนวนของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในออฟฟิศก็ไม่น้อยเลย
และนี่คือ 20 ขั้นตอน คุณสามารถนำไปปรับใช้เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุซึ่งนำไปสู่การบาดเจ็บของพนักงานในออฟฟิศ
การล้ม
การล้มจากการลื่นหรือสะดุด เป็นสาเหตุอันดับต้นๆของการบาดเจ็บในออฟฟิศเลยก็ว่าได้ โดยเราสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดการล้มได้โดยการสร้างความตระหนักให้พนักงานในการทำงานในเรื่องต่างๆดังนี้
ไม่เกะกะ
กล่องเอกสารหรือสิ่งของต่างๆที่วางอยู่ในทางเดินสามารถทำให้เกิดการสะดุดได้ เราต้องเก็บสิ่งของเหล่านั้นให้ดี มิดชิด และอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมเพื่อป้องกันความเกะกะใน นอกจากนี้สิ่งที่เป็นตัวอันตรายมากๆอีกอย่างหนึ่งก็คือสายไฟที่พาดผ่านทางเดิน เราต้องแน่ใจว่าสายไฟทั้งหมดได้รับการป้องกันอย่างถูกต้องและเรียบร้อย
ไม่ยืนบนเก้าอี้
การยืนบนเก้าอี้นั้นเสี่ยงต่อการล้มเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเก้าอี้สำนักงานที่มีล้อ พนักงานที่ต้องการหยิบของในที่สูงควรใช้บันไดในการปีนขึ้นไปหยิบ และบันไดนั้นต้องกางอย่างเต็มที่และวางในตำแหน่งที่มั่นคงที่เพื่อหลีกเลี่ยงการล้มของบันได
รักษาทัศนวิสัย
พนักงานสามารถเดินชนกันเมื่อเลี้ยว หรือ เมื่อเดินตามมุมอับสายตา โดยเราแนะนำให้ติดกระจกนูนที่ทางแยกเพื่อช่วยลดอุบัติเหตุการเดินชนกัน พนักงานจะสามารถเห็นได้ว่าใครกำลังเดินมา
กันลื่น
พรมและพื้นผิวที่ต้านการลื่นอื่นๆสามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อการลื่นล้มได้ หินอ่อนหรือกระเบื้องจะลื่นมากๆ โดยเฉพาะตอนที่พื้นเปียก การปูพรมจะเป็นประโยฃน์อย่างมากที่ทางเข้า เพราะพนักงานเดินจากข้างนอกมา รองเท้าอาจจะเปียกหรือเลอะอะไรบางอย่างที่อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุลื่นล้มได้ง่ายๆ
การกระแทกกับสิ่งของแรงๆ
การกระแทกก็เป็นอุบัติเหตุที่ทำให้พนักงานบาดเจ็บอีกประเภทหนึ่งที่พบบ่อย ซึ่งจากสถิติการบาดเจ็บนั้นก็มีบันทึกว่ามีอุบัติเหตุประเภทนี้จำนวนไม่น้อยเกิดขึ้นในออฟฟิศ เราสามารถหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุประเภทนี้ได้ดังนี้
ปิดลิ้นชัก
ตู้เก็บเอกสารที่มีลิ้นชักเปิดกว้าง ไม่ยอมปิดหลังใช้งานเสร็จนั้น สามารถทำให้พนักงานบาดเจ็บได้หากพนักงานเดินอย่างไม่ระมัดระวัง อาจจะเตะหรือชนเข้ากับลิ้นชักที่เปิดค้างอยู่จนได้รับการบาดเจ็บได้ ดังนั้นเราควรจะปิดลิ้นชักให้สนิททุกครั้งหลังจากใช้งานเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ซ้อนสิ่งของอย่างปลอดภัย
การซ้อนสิ่งของอย่างถูกต้องสามารถช่วยลดจำนวนการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นในสำนักงานได้อย่างมาก การที่ซ้อนสิ่งของขนาดใหญ่หรือหนักไว้ด้วยกันอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุและทำให้เกิดการบาดเจ็บแก่พนักงานได้หากสิ่งของเหล่านั้นหล่นลงมากระแทกถูกพนักงาน โดยเราแนะนำให้วางสิ่งของที่มีน้ำหนักเยอะหรือขนาดใหญ่ไว้ใกล้กับพื้นที่สุด
การบาดเจ็บจากงาน
การบาดเจ็บที่แพร่หลายที่สุดในออฟฟิศอาจเกี่ยวข้องกับงาน เนื่องจากพนักงานออฟฟิศจะใช้เวลาส่วนใหญ่ในการนั่งอยู่ที่โต๊ะ และทำงานอยู่กับคอมพิวเตอร์ทั้งวัน พนักงานเหล่านี้จึงมีแนวโน้มที่จะเกิดการบาดเจ็บที่เกี่ยวข้องกับการนั่งอยู่ที่เดิมนานๆ หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ ออฟฟิศซินโดรม โดยอาการบาดเจ็บพวกนี้สามารถหลีกเลี่ยงได้ดังนี้
ใช้อุปกรณ์ที่ปรับได้
ความสามารถในการปรับอุปกรณ์ต่างๆเป็นกุญแจสำคัญในการลดการบาดเจ็บจาก ออฟฟิศซินโดรม อุปกรณ์ที่ใช้ทำงานอย่างเช่น เก้าอี้ โต้ะ หน้าจอคอมพิวเตอร์ และอื่นๆ ทั้งหมดควรปรับเพื่อให้รองรับกับความหลากหลายของพนักงานมากที่สุด อุปกรณ์ที่กล่าวมานี้อาจมีราคาสูงสักหน่อย แต่ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะมันไม่คุ้มหรอกถ้าหากคุณบาดเจ็บขึ้นมา และต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาล
อบรมพนักงานเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์
การจัดหาอุปกรณ์ที่ปรับได้นั้นเป็นเพียงขั้นตอนแรกในการสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะแก่การทำงาน แต่ปัญหาที่จะตามมาอีกนั่นก็คือ พนักงานไม่สามารถปรับอุปกรณ์ของตัวเองให้เหมาะสมกับตัวเองได้ เราจึงควรอบรมพนักงานเกี่ยวกับการปรับอุปกรณ์ให้เหมาะสมกับการทำงานของแต่ละคน
วางเท้าสัมผัสพื้นขณะทำงาน
บ่อยครั้งที่พนักงานวางคีย์บอร์ดไว้สูงเกินไปจนต้องปรับเก้าอี้ให้สูงตามถึงขนาดที่ว่าเท้าลอยขึ้นจากพื้น นั่นจะทำให้เกิดการบาดเจ็บจากการกดทับเพราะเท้าไม่ถึงพื้นมันทำให้ไม่สามารถลดแรงกดจากการนั่งนานๆได้ โดยเราแนะนำให้ลดระดับของคีย์บอร์ดลงมา หรือ ให้ใช้อะไรบางอย่างรองที่พื้นให้เท้านั้นสัมผัสกับพื้นผิว
ใช้แสตนด์วางเอกสาร
การพิมพ์งานจากข้อมูลบนกระดาษบ่อยๆอาจนำไปสู่อาการปวดคอ เนื่องจากขณะพิมพ์พนักงานต้องวางกระดาษที่เป็นต้นแบบไว้กับโต๊ะ และพนักงานต้องมองที่โต๊ะและมองกลับไปที่หน้าจอหรือคีย์บอร์ดซ้ำๆ โดยหากใช้แสตนด์วางเอกสารยังช่วยสามารถรักษาสายตาของพนักงานได้อีกด้วย เนื่องจากการเป็นการช่วยลดการเปลี่ยนโฟกัสของสายตาเมื่อเปลี่ยนจากมองกระดาษบนโต๊ะมาที่จอคอมพิวเตอร์
เปลี่ยนการวางเมาส์
พนักงานบางคนอาจจะวางเมาส์ไว้สูงเกินไป อย่างเช่น คีย์บอร์ดวางอยู่ที่ลิ้นชักสำหรับคีย์บอร์ด แต่เมาส์อยู่บนโต๊ะ นั่นจะทำให้ไหล่และคอบาดเจ็บหากทำงานไปนานๆ โดยเราแนะนำให้วางเมาส์ไว้ด้านข้างคีย์บอร์ดเสมอ
ปัญหาการมองเห็น
การทำงานกับคอมพิวเตอร์นานๆจะทำให้เกิดอาการปวดตา ดวงตาอาจแห้งและระคายเคือง และพนักงานอาจมีปัญหาในการโฟกัส โดยการปรับบางอย่างจะช่วยบรรเทาปัญหาเหล่านี้ได้
ลดแสงและใช้งานโคมไฟ
ไฟจากหลอดไฟในสำนักงานมักจะสว่างเกินไปสำหรับการมองเห็นที่ดีที่สุด โดยปกติคนเราจะต้องการแสงสว่างเพียงครึ่งหนึ่งของที่ออฟฟิศเปิดเท่านั้น โดยเราแนะนำให้ลดแสงจากพวกหลอดไฟบนเพดานลง โดยการปิดบางส่วนในขณะที่พนักงานทำงาน โดยตามทางเดินให้ใช้พวกโคมไฟต่างๆเพื่อให้แสงสว่างในออฟฟิศ โดยไม่เพิ่มแสงสว่างในจุดทำงาน
จัดวางจอคอมพิวเตอร์อย่างถูกต้อง
เราแนะนำให้วางจอคอมพิวเตอร์ให้ต่ำกว่าระดับสายตาเล็กน้อย และห่างจากดวงตาประมาณ 20-26 นิ้ว
ลดแสงจากหน้าจอคอมพิวเตอร์
สาเหตุหลักของการปวดตาจากการทำงานกับคอมพิวเตอร์ก็คือแสงจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ เพื่อหลีกเลี่ยงการปวดตา เราควรหลีกเลี่ยการวางตำแหน่งจอไว้ตรงข้ามกับหน้าต่างที่เปิดอยู่ หากไม่สามารถทำได้ก็ให้ปิดม่านหรือมู่ลี่เพื่อลดแสงจากด้านนอกก็ได้
สวมแว่นตาที่เหมาะสม
การทำงานควรวางจอไว้ในความไกลระดับปกติ และใส่แว่นตาที่เหมาะสม เพื่อที่จะทำให้มองเห็นภาพจากจอได้ชัดโดยที่ไม่ต้องยืดคอเข้าหาจอเพื่อทำงาน
เพิ่มขนาดตัวอักษร
ขนาดตัวอักษรที่เล็กสามารถทำให้คุณปวดตาและปวดคอได้ เนื่องจากพนักงานมักจะยื่นหัวไปข้างหน้าในเวลาที่พวกเขามองจอไม่ค่อยชัด หรือ ตัวอักษรเล็กเกินไป การปรับขนาดตัวอักษรบนคอมพิวแตอร์นั้นง่ายมาก และสามารถกำจัดความต้องการที่จะยื่นหัว และการปวดตาได้
หยุดพัก
พักสายตาและปล่อยให้พนักงานมองไปรอบๆดูสิ่งต่างๆที่อยู่ในระยะต่างกันสามารถช่วยลดความเครียดและความเหนื่อยล้าได้ โดยเราแนะนำให้หยุดพักประมาณ 10 นาทีทุกชั่วโมงที่ใช้คอมพิวเตอร์
ความปลอดภัยจากอัคคีภัย
อัคคีภัยนั้นก่อให้เกิดการเสียชีวิตและบาดเจ็บ การตรวจสอบรอบๆออฟฟิศสามารถช่วยลดโอกาศในการเกิดเพลิงไหม้ได้ในระดับหนึ่ง
รักษาสายไฟไว้ในสภาพที่ดี
สายไฟที่เสียหายนั้นเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดเพลิงไหม้อย่างรุนแรงได้ ควรมีการตรวจสอบสายไฟอย่างสม่ำเสมอเพื่อดูว่าสายไฟที่ใช้อยู่นั้นมีการสึกหรอหรือไม่ และถ้าขาที่ 3 บนหัวปลั้กชำรุด เราก็ไม่ควรที่จะใช้เช่นเดียวกัน และดูว่าการพ่วงปลั้กนั้น พ่วงเยอะเกินไปหรือไม่
ห้ามมีสิ่งกีดขวางหัวสปริงเกอร์
เฟอร์นิเจอร์และสิ่งของต่างๆในออฟฟิศสามารถกัดขวางสปริงเกอร์ได้และทำให้ประสิทธิภาพของสปริงเกอร์ลดลง โดยเราแนะนำว่า ไม่ควรวางสิ่งของใดๆสูงกว่า 18 นิ้ว ใต้หัวสปริงเกอร์ เพื่อให้สปริงเกอร์สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่
ห้ามมีสิ่งกีดขวางทางหนีไฟ
ไม่ควรเก็บของไว้ในเส้นทางหนีไฟ เส้นทางหนีไฟควรจะไม่มีอะไรวางเกะกะเลย และไม่ควรเปิดประตูทางหนีไฟทิ้งไว้ด้วย และนอกจากนี้ ที่ออฟฟิศควรมี ป้ายไฟทางออก ป้ายทางหนีไฟไว้ด้วย โดยทาง Protecthai มีจำหน่าย (:
ขอบคุณบทความดีๆจาก //www.safetyandhealthmagazine.com/