24 กันยายน 2564 "วันมหิดล"
Written by กลุ่มงานสุขศึกษา. Posted in โรคและภัยสุขภาพ
วันมหิดล
ทุกวันที่ 24 ชาวไทยได้น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ซึ่ง พระองค์ท่านด้วยการปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ โดยเฉพาะนักศึกษาแพทย์ที่จะเจริญรอยตามเบื้องยุคลบาท และ พระองค์ทรงกล่าวเสมอว่า "อาชีพแพทย์นั้นมีเกียรติ แพทย์ที่ดีจะไม่ร่ำรวย แต่ไม่อดตาย ถ้าใครอยากร่ำรวย ก็ควรประกอบอาชีพอื่น "
วันรำลึก "พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันของไทย"
วันคล้ายวันสวรรคต ของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก (สมเด็จฯ เจ้าฟ้ามหิดลอดุลเดช กรมหลวงสงขลานครินทร์) พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันและการสาธารณสุขของไทย ซึ่งตรงกับ วันที่ 24 กันยายน ซึ่งคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ประกาศให้วัน ที่ 24 กันยายน ของทุกปีเป็นวันมหิดล ตั้งแต่ปี พ.ศ.2494 เป็นต้นมา
พระราชกรณียกิจที่ได้ทรงบำเพ็ญแก่วงการแพทย์ และการสาธารณสุข ของประเทศไทยตลอดระยะเวลา 12 ปี ได้เสริมสร้างความเป็นปึกแผ่นให้แก่โรงเรียนแพทย์ และมีการพัฒนาการเรียนการสอนตลอดจนการผลิตแพทย์ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นการวางรากฐานแก่การแพทย์ และการสาธารณสุขให้เจริญพัฒนาก้าวหน้าทัดเทียมอารยะประเทศ เพื่อเป็นการถวายสักการะ และแสดงกตัญญูกตเวทีต่อพระองค์ท่าน วันที่ 24 กันยายน ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสวรรคตของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก พระผู้ได้รับการถวายพระสมัญญาภิไธยจากแพทย์และประชาชนทั่วไปว่า "พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันของไทย" คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลได้ขนานนาม วันอันเป็นที่ระลึกสำคัญนี้ว่า "วันมหิดล"
วันที่ใช้ในการจัดกิจกรรมวันมหิดล
วันที่ใช้ในการจัดกิจกรรมวันมหิดล คือวันที่ 24 กันยายน ของทุกปี
ปฏิทินวันมหิดล
วันมหิดล พ.ศ.2555 ตรงกับ วันจันทร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ.2555 / วันจันทร์ ขึ้น ๙ ค่ำ เดือนสิบ(๑๐) ปีมะโรง
วันมหิดล พ.ศ.2556 ตรงกับ วันอังคารที่ 24 กันยายน พ.ศ.2556 / วันอังคาร แรม ๕ ค่ำ เดือนสิบ(๑๐) ปีมะเส็ง
วันมหิดล พ.ศ.2557 ตรงกับ วันพุธที่ 24 กันยายน พ.ศ.2557 / วันพุธ ขึ้น ๑ ค่ำ เดือนสิบเอ็ด(๑๑) ปีมะเมีย
วันมหิดล พ.ศ.2558 ตรงกับ วันพฤหัสบดีที่ 24 กันยายน พ.ศ.2558 / วันพฤหัสบดี ขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือนสิบ(๑๐) ปีมะแม
วันมหิดล พ.ศ.2559 ตรงกับ วันเสาร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ.2559 / วันเสาร์ แรม ๘ ค่ำ เดือนสิบ(๑๐) ปีวอก
วันมหิดล พ.ศ.2560 ตรงกับ วันอาทิตย์ที่ 24 กันยายน พ.ศ.2560 / วันอาทิตย์ ขึ้น ๔ ค่ำ เดือนสิบเอ็ด(๑๑) ปีระกา
วันมหิดล พ.ศ.2561 ตรงกับ วันจันทร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ.2561 / วันจันทร์ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนสิบ(๑๐) ปีจอ
วันมหิดล พ.ศ.2562 ตรงกับ วันอังคารที่ 24 กันยายน พ.ศ.2562 / วันอังคาร แรม ๑๑ ค่ำ เดือนสิบ(๑๐) ปีกุน
วันมหิดล พ.ศ.2563 ตรงกับ วันพฤหัสบดีที่ 24 กันยายน พ.ศ.2563 / วันพฤหัสบดี ขึ้น ๗ ค่ำ เดือนสิบเอ็ด(๑๑) ปีชวด
วันมหิดล : 24 กันยายน 2564 รัฐบาลประกาศเป็นวันหยุดราชการพิเศษ เนื่องในวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ ของ “พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันและการสาธารณสุขของไทย”
วันมหิดล ตรงกับวันที่ 24 กันยายนของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก พระราชโอรสองค์ที่ 69 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และองค์ที่ 7 ใน สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ทรงเป็น พระบรมราชชนกในพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร และพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และทรงเป็นต้นราชสกุล “มหิดล”
สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ทรงสำเร็จการศึกษาได้ปริญญาแพทยศาสตร์ เกียรตินิยมระดับ Cum Laude เมื่อปี พ.ศ. 2471 ได้รับการถวายพระสมัญญาภิไธยจากแพทย์และประชาชนทั่วไปว่า “พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันของไทย” เมื่อเสด็จกลับมาเมืองไทยก็พระราชทานทุนทรัพย์ส่วนพระองค์ เพื่อทรงทำนุบำรุงโรงเรียนราชแพทยาลัย โรงพยาบาลศิริราชให้ทันสมัยทัดเทียมกับอารยประเทศ โดยส่งแพทย์ พยาบาล ไปศึกษาต่อต่างประเทศ ในสาขาที่เกี่ยวกับการแพทย์ พระองค์ได้ทรงพระราชทาน สร้างอาคารเรียนกับหอพักผู้ป่วยบริเวณโรงพยาบาลศริราช ทรงเป็นผู้แทนรัฐบาลไทยในการเจรจากับมูลนิธิร็อกกี้เฟลเลอร์ให้มาช่วยเหลือการแพทย์ของไทยเป็นการวางรากฐานให้การแพทย์ของไทยเจริญรุ่งเรืองทัดเทียมอารยประเทศในปัจจุบัน มาทรงเปลี่ยนพระราชหฤทัยจากจะทรงทำงานในโรงพยาบาลศิริราช มาเป็นเสด็จไปทรงงานที่โรงพยาบาลแมคคอร์มิค จังหวัดเชียงใหม่ พระองค์มีความเอาใจใส่ในการรักษาประชาชนอย่างมาก ชาวเมืองเชียงใหม่จึงขนานพระนามของพระองค์ว่า “หมอเจ้าฟ้า”
ตลอดระยะเวลา 10 ปี ที่ทรงเกี่ยวข้องกับการแพทย์ และการสาธารณสุข สมเด็จพระบรมราชชนก ได้ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจ อันเป็นประโยชน์ต่อการแพทย์ และการสาธารณสุขของไทยอย่างมากมาย จนเป็นที่ประจักษ์ และทรงได้รับการยกย่องเป็น “องค์บิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบัน และการสาธารณสุขของไทย”