25 กุมภาพันธ์ 2018
ที่มาของภาพ, AFP/Getty Images
โครงการความร่วมมือเพื่อจับตาการทำประมงทั่วโลก (Global Fishing Watch) เผยผลวิเคราะห์ข้อมูลล่าสุดจากดาวเทียมซึ่งชี้ว่า มีการทำประมงเพิ่มขึ้นอย่างหนักหน่วงในทะเลหลวงและน่านน้ำของหลายประเทศ ทำให้กว่า 55% ของพื้นที่มหาสมุทรกลายเป็นแหล่งอุตสาหกรรมประมง ซึ่งกว้างใหญ่กว่าพื้นที่การเกษตรบนบกของโลกถึง 4 เท่า
นักวิจัยของโครงการดังกล่าวซึ่งร่วมมือกับกูเกิลเอิร์ธ (Google Earth) ได้สร้างอัลกอริทึมวิเคราะห์ชุดข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ที่รวบรวมสัญญาณในระบบแจ้งระบุตัวตนของเรือโดยอัตโนมัติหรือเอไอเอส (Automatic Identification System -AIS ) ซึ่งเรือประมงทั่วโลกส่งสัญญาณนี้ออกมากว่า 2.2 หมื่นล้านครั้งในปี 2016 ทำให้ทราบถึงความเคลื่อนไหวในการทำประมงของพื้นที่ต่าง ๆ ในปีดังกล่าวได้
- พบเรือประมงหาปลาบริเวณที่น้ำมันรั่วในทะเลจีนตะวันออก
- เนื้อปลาแซลมอนสีชมพูตามธรรมชาติจริงหรือ?
- "เขตมรณะ" ไร้ออกซิเจนในทะเลขยายตัวเพิ่มขึ้น 4 เท่า
ผลการศึกษาดังกล่าวซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Science ระบุว่า สัญญาณในระบบเอไอเอสที่ส่งออกมาจากเรือประมงกว่า 70,000 ลำทั่วโลก จะแสดงข้อมูลของตำแหน่ง เส้นทาง และความเร็วของเรือทุก 2-3 วินาที ซึ่งข้อมูลเหล่านี้สามารถติดตามและบันทึกได้ผ่านดาวเทียม
คำบรรยายภาพ,
แผนที่แสดงจำนวนชั่วโมงทำประมงที่เกิดขึ้นต่อตารางกิโลเมตรทั่วโลก ยิ่งสีเข้มขึ้นยิ่งแสดงว่ามีกิจกรรมประมงในแถบนั้นหนักหน่วงขึ้น
ผลการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ดังกล่าวพบว่า มีกิจกรรมความเคลื่อนไหวด้านการทำประมงยาวนานหนักหน่วงขึ้นหลายล้านชั่วโมงในหลายพื้นที่ ซึ่งสิ้นเปลืองพลังงานและส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมหาศาล ทั้งที่อาหารทะเลคิดเป็นเพียง 1.2% ของพลังงานจากอาหารที่ผลิตได้สำหรับการบริโภคของมนุษย์เท่านั้น
นายเดวิด ครูดส์มา ผู้ทำการวิจัยดังกล่าวระบุว่า "ผลวิเคราะห์นี้ชี้ให้เห็นว่า การทำประมงมากขึ้นหรือน้อยลงนั้นไม่เกี่ยวข้องกับความเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติหรือภูมิอากาศเลย แต่ผูกโยงอยู่กับปัจจัยทางการเมืองและวัฒนธรรมของมนุษย์ ที่เลือกทำประมงตามความต้องการของตลาดในช่วงเวลาหรือเทศกาลต่าง ๆ รวมทั้งขึ้นกับว่ามีข้อกำหนดห้ามจับปลาในบางช่วงฤดูหรือไม่ด้วย"
แผนที่กิจกรรมความเคลื่อนไหวด้านการทำประมงชี้ว่า มีการจับปลาอย่างหนักหน่วงในมหาสมุทรแอตแลนติกตอนเหนือ และมหาสมุทรแปซิฟิกทางตะวันตกเฉียงเหนือ รวมทั้งบางส่วนนอกชายฝั่งอเมริกาใต้และแอฟริกาตะวันตก โดยในปี 2016 มีการทำประมงรวมทั้งสิ้น 37 ล้านชั่วโมงทั่วโลก ใช้พลังงานไปถึง 2 หมื่นล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมง เพื่อเดินทางหาปลาเป็นระยะทางรวมกว่า 460 ล้านกิโลเมตร ซึ่งเท่ากับเส้นทางที่ใช้ไปกลับระหว่างโลกและดวงจันทร์ได้ 600 รอบ
คำบรรยายภาพ,
แผนภูมิแสดงจำนวนชั่วโมงการจับสัตว์น้ำของชาติที่ทำประมงมากที่สุดในโลก 15 ชาติ ในปี 2016 (หน่วยเป็นล้านชั่วโมง)
เรือประมงจาก 5 สัญชาติ คือ จีน สเปน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไต้หวัน มีกิจกรรมการทำประมงในทะเลหลวงมากที่สุด โดยมีความเคลื่อนไหวรวมกันคิดเป็น 85% ของการทำประมงที่เกิดขึ้นนอกน่านน้ำเขตเศรษฐกิจจำเพาะหรือทะเลด้านในของประเทศ ส่วนการจับปลาเช่นทูนาหรือฉลามด้วยเบ็ดราวในทะเลเปิด เป็นกิจกรรมประมงที่มีการขยายตัวไปทั่วโลกมากที่สุด โดยพบในพื้นที่ถึง 45% ของมหาสมุทร
อย่างไรก็ตาม ทางโครงการไม่สามารถแสดงข้อมูลในบางพื้นที่ได้ หากเรือประมงส่วนใหญ่ในภูมิภาคนั้นไม่ได้ติดตั้งระบบส่งสัญญาณแสดงตัวตน หรือเจตนาปิดสัญญาณดังกล่าวเพื่อพรางตัวทำประมงอย่างผิดกฎหมาย
2.การทำประมง
ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อุดมสมบูรณ์ไปด้วยสัตว์น้ำ ทั้งน้ำจืด และ น้ำเค็ม ประเทศที่จับสัตว์น้ำได้มากที่สุดในภูมิภาค คือ
ประเทศไทย เนื่องจากการขยายเขตน่านน้ำเศรษฐกิจจำเพราะจาก 12 ไมล์ทะเล เป็น 200 ไมล์ทะเล และมีเทคโนโลยีที่เจริญก้าวหน้า
กว่าประเทศ อื่น ๆ ในภูมิภาคที่มีการจับสัตว์น้ำได้มาก ได้แก่ ประเทศอินโดนีเซีย และ ฟิลิปปินส์
ปลาชนาก (ปลาน้ำเค็ม) ปลากระโห้ (ปลาน้ำจืด)
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม>>