ข้อมูลโดย รศ.พญ.สาทริยา ตระกูลศรีชัย อาจารย์ประจำภาควิชาเวชศาสตร์ฉุกเฉิน และศูนย์พิษวิทยา คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ม.มหิดล ระบุว่า
สารพิษเข้าสู่ร่างกายของคนเราได้อย่างไร
โดยหลัก ๆ แล้วสารพิษสามารถเข้าสู่ร่างกายคนเราผ่าน 3 ช่องทาง ได้แก่ 1. การกิน 2. การสูดดม และ 3. การสัมผัส
ซึ่งการสัมผัสนั้น อาจเป็นการสัมผัสทางผิวหนัง สัมผัสเข้าสู่ตาหรือเยื่อบุอื่น ๆ
สารพิษที่เรามีโอกาสจะสัมผัส ส่วนใหญ่อาจจะเป็นสารที่อยู่ในบ้านของเรา เช่น ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในบ้าน อย่างน้ำยาล้างห้องน้ำ น้ำยาล้างท่อ (โซดาไฟ) นอกจากนั้น อาจเป็นกลุ่มยาฆ่าแมลงที่ใช้ตามบ้าน เช่น ยาฆ่ามด ยาฆ่ายุง หรือยาฆ่าปลวก
หากเป็นการใช้ทางด้านเกษตรกรรม การใช้ยาฆ่าแมลงหรือยาฆ่าหญ้าก็จะมีเปอร์เซ็นต์ความเข้มข้นสูง นอกจากนั้น ถ้าประกอบอาชีพที่เกี่ยวกับโรงงานอุตสาหกรรม ก็มีโอกาสที่สัมผัสสารเคมีได้
อีกประเภทหนึ่งก็คือ กลุ่มคนไข้ที่ตั้งใจทำร้ายตัวเองโดยการกินยา หรือสารเคมีเกินขนาด ซึ่งถือเป็นช่องทางหนึ่งที่ผู้ป่วยจะได้รับสารพิษได้
1 เมื่อได้รับสารพิษผ่านการกิน
ถ้าเราได้รับสารพิษโดยวิธีการกินถ้ามีอาการผิดปกติแนะนำให้ไปพบแพทย์หรือไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด
หากมีอาการรุนแรง เช่น ซึม หมดสติ หรือแน่นหน้าอก หายใจติดขัด ให้โทรเบอร์ 1669 สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ เพื่อให้มีทีมรถพยาบาลมาดูแลที่จุดเกิดเหตุ
กรณีที่สารพิษอาจจะเปื้อนเสื้อผ้า หรือเปรอะเปื้อนตามผิวหนัง ระหว่างที่เรารอรถพยาบาลมา เราอาจถอดเสื้อผ้าผู้ป่วย เพื่อลดการสัมผัสกับตัวผู้ป่วย อาจจัดผู้ป่วยให้นอนตะแคง เพื่อช่วยเปิดทางเดินหายใจ เพื่อรอรถพยาบาลมารับผู้ป่วยไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด
#วิธีการที่ไม่แนะนำ
ไม่ควรล้วงคอ หรือทำให้อาเจียนด้วยวิธีการอื่น เช่น การกินไข่ขาว ให้น้ำ หรือนมในปริมาณมาก ๆ เพื่อหวังเจือจาง เพราะสารพิษบางชนิด หากยิ่งทำวิธีการเหล่านี้ จะยิ่งทำให้เกิดพิษต่อผู้ป่วยมากขึ้น
และอาจทำให้เกิดอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจได้เพราะฉะนั้นต้องระมัดระวังและหลีกเลี่ยงวิธีการต่างๆเหล่านี้
2 เมื่อได้รับสารพิษสัมผัสเข้าสู่ตาหรือทางผิวหนัง
วิธีการปฐมพยาบาลในกรณีนี้ ให้เปิดน้ำหรือล้างตาด้วยน้ำที่ไหลผ่านตลอด เช่น สายยางเพื่อล้างตาตลอดเวลา กรณีที่ล้างในภาชนะ อาจทำให้สารพิษลงไปในอ่าง เมื่อเราลืมตาก็อาจจะได้รับสารพิษต่อเนื่อง
เน้นว่า ล้างด้วยน้ำที่ไหลผ่าน เพื่อชำระล้างเอาสารพิษออก จนกว่ารู้สึกว่าอาการระคายเคืองลดลง
หรือถ้าโทร 1669 แล้วรถพยาบาลยังไม่มา ให้เราล้างจนกว่ารถพยาบาลจะมาถึง
3 เมื่อได้รับสารพิษผ่านการสูดดม
โดยส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มแก๊ส วิธีการปฐมพยาบาล คือ ต้องนำผู้ป่วยออกจากบริเวณที่มีสารพิษนั้น คำแนะนำก็คือ ผู้ที่เข้าไปช่วยผู้ป่วยจะต้องมีอุปกรณ์การป้องกันตัวที่พร้อมก่อน
บางกรณีที่เราจะเห็นข่าว คือ คนลงไปทำความสะอาดบ่อเกรอะ เมื่อคนแรกลงไป แล้วคนที่สองลงไปก็หมดสติตาม เพราะฉะนั้น ถ้าเกิดในบริเวณนั้นมีแก๊สพิษ แล้วเราเข้าไปช่วยคนไข้ก็อาจจะได้รับแก๊สพิษด้วย
เราอาจจะต้องประเมินสถานที่ที่เราจะเข้าไปเพื่อนำตัวผู้ป่วยออกมาว่าปลอดภัยหรือไม่
วิธีการที่ปลอดภัยสำหรับประชาชนทั่วไปคือ โทร 1669 อย่าเข้าไปในบริเวณที่มีสารพิษนั้น เพราะจะทำให้เราได้รับสารพิษด้วย ให้บุคลากรทางการแพทย์มาช่วยชีวิตผู้ป่วยจากบริเวณนั้นจะดีที่สุด
กรณีที่เรามีสารเคมีอยู่ในบ้าน
อาจจะเป็นกรดด่างหรือสารกัดกร่อนที่เรารู้ว่าน่าจะเป็นอันตรายต่อชีวิตหรือต่อร่างกายต้องแยกเก็บสารเคมีกลุ่มนี้อยู่ในภาชนะเฉพาะไม่แนะนำให้ใช้ภาชนะที่ใส่อาหารไปบรรจุสารเคมีเหล่านี้
และที่สำคัญคือ “เก็บให้พ้นมือเด็ก” เพราะมีโอกาสที่เด็กจะเข้าไปหยิบ สัมผัส หรือกินเข้าไปได้
#โรงงานกิ่งแก้วไฟไหม้
#สารพิษอันตราย
?>
อัพเดทวันที่ : 01 ต.ค. 2559
การได้รับสารพิษเข้าสู่ร่างกายไม่ว่าด้วยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ ย่อมทำให้ผู้ถูกสารพิษมีอันตรายตั้งแต่สุขภาพย้ำแย่ไปจนถึงขั้นสูญเสียชีวิต สารพิษที่เราจะได้รับสามารถเข้าสู่ร่างกายได้หลายทาง ไม่ว่าจะเป็นการกิน การสูดดมตรงๆ การซึมผ่านเข้าทางผิวหนัง และการฉีดเข้าสู่ร่างกาย ในวันนี้ทางพีดีเอสจะพาผู้อ่านไปเรียนรู้เกี่ยวกับพิษ วิธีปฐมพยาบาล รวมถึงการป้องกันอันตรายจากสารพิษเหล่านี้
ประเภทของสารพิษ
1.พิษจากยาฆ่าแมลง
2.พิษจากยาปราบวัชพืช
3.พิษจากยานอนหลับ ยากดประสาท
4.พิษจากการถูกงูกัด
การออกฤทธิ์ของสารพิษต่อร่างกาย
1.การออกฤทธิ์เฉพาะแห่ง ซึ่งมีผลต่อเนื้อเยื่อที่สัมผัสกับสารพิษโดยตรง ผลที่เกิดขึ้นคือการระคายเคือง พุพอง มีเลือดออก รวมไปถึงการอักเสบ เป็นต้น
2.เกิดการออกฤทธิ์ต่อระบบ สารพิษจะดูดซึมเข้าสู่ร่างกายไปปะปนในกระแสโลหิตไปยังเนื้อเยื่อต่างๆ เป็นอันตรายต่อระบบประสาท
การปฐมพยาบาลผู้ป่วยเมื่อได้รับสารพิษ
1.เมื่อผู้ได้รับสารพิษหมดสติ หรือหยุดหายใจ ต้องเปิดทางเดินหายให้ให้โล่ง ช่วยการหายใจ กดหน้าอกนวดหัวใจในรายที่หัวใจหยุดเต้น
2.การลดการดูดซึมของสารพิษ
และกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย
-โดยการล้างออก ในกรณีที่สารพิษโดยผิวหนังหรือเข้าดวงตา ให้ล้างด้วยน้ำสะอาดจำนวนมาก นนๆ
-การทำให้อาเจียนออกมา กรณีผู้ป่วยกินสารพิษเข้าไป ให้ล้วงคอกระตุ้นให้อาเจียน
*ข้อห้ามการทำให้อาเจียน ถ้ากินสารพิษจำพวกกรดหรือด่าง ห้ามทำเพราะจะทำให้ช่องปากเป็นแผลไหม้พอง กรณีผู้ป่วยดื่มสารพวกผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม อาจเพิ่มโอกาสเป็นปอดอักเสบ และกรณีไม่ทราบสารพิษ ห้ามทำให้อาเจียนเด็ดขาด
-การล้างท้อง เป็นต้น
หากต้องการสอบถามหรือแจ้งเหตุ โทรสายด่วนผู้ป่วยฉุกเฉิน 1669
ข้อมูลโดย บริษัท พีดีเอส อินเตอร์แนชชั่นแนล (ประเทศไทย) ผู้จัดจำหน่ายและให้คำปรึกษาด้านอุปกรณ์เซฟตี้ และอุปกรณ์ป้องกันอันตราย เบอร์โทรศัพท์ 02 361 8191
แหล่งรวบรวมข้อมูล คู่มือการปฐมพยาบาล เบื้องต้น