เป็นที่ทราบกันดีว่า การซื้อรถมาใช้นั้น มันก็ "ลด" สมชื่อ เพราะรถยนต์บริโภคเงินเป็นอาหาร การมีรถยนต์สักหนึ่งคัน ก็ต้องพิจารณาจากรายได้ตัวคุณเองเป็นหลัก เพราะการมีรถยนต์ ย่อมมีรายจ่ายตามมาเสมอ ไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำมัน ค่าบำรุงรักษา ค่าต่อภาษีรถยนต์ประจำปี ค่าพรบ. ค่าประกันภัย และนี่ยังไม่รวมถึงค่าสังคม ต้องขับรถไปกิน ไปเที่ยว ในวันเสาร์-อาทิตย์หรือวันหยุดยาวตามเทศกาลอีกนะ หากพูดถึงรายได้ หรืองบประมาณที่เรามี บางทีการเลือกซื้อรถมือสองมาใช้ ก็น่าจะลงตัวกับชีวิต ช่วยประหยัดเงิน เซฟค่าใช้จ่าย ดีกว่าการต้องมาผ่อนรถใหม่ ด้วยจำนวนเงินที่มากกว่าพอสมควร
เงินเดือนเท่าไหร่ ? ซื้อรถ (มือสอง) แบบไหนถึงจะเหมาะ ?
โดยปกติแล้วไฟแนนซ์มักพิจารณาปล่อยสินเชื่อให้ลูกค้าผู้กู้ โดยรายได้ของบุคคลเหล่านี้ ต้องมีรายได้มากกว่า 1-2 เท่า ของค่างวดรถยนต์ ที่ต้องชำระในการผ่อนจ่ายแต่ละเดือน ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 75-85% ตามราคาและสภาพรถ ระยะเวลาในการผ่อนชำระ ก็นานพอๆ กับการผ่อนรถใหม่เลย นั่นคือ 12-72 เดือน
เงินเดือนต่ำกว่า 10,000 บาท
เงินเดือนระดับนี้ อาจจะเป็นเรื่องยากสำหรับการผ่อนรถ ถ้าหากไม่ได้เป็นข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ หรือสะสมเงินดาวน์ไว้มากพอ ...
สำหรับรถมือสองที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีรายได้น้อยกว่า 10,000 บาทที่มีให้เลือก ส่วนใหญ่จะเป็นรถมือสอง ซึ่งจะเป็นรถปีที่ต่ำกว่าปี 1998 ลงไป ควรเลือกรถที่เป็นที่นิยมในตลาด ใช้งานง่าย ซ่อมง่าย เทคโนโลยีเครื่องยนต์ ระบบไฟไม่จุกจิก (เพราะถ้าจุกจิก แบบรถยุโรปมือสองปีเก่าๆ บางยี่ห้อ ซ่อมทีค่าซ่อมบาน ขายต่อราคาร่วงหนัก) อย่างเช่น
- Toyota Soluna, Toyota Corolla, Honda Civic หรือ Nissan Sunny เป็นต้น ราคาคันละ 50,000-60,000 บาท
- หรือถ้าสนใจรถกระบะ ก็ควรเป็นพวก Isuzu TFR, Nissan Big M หรือ Mitsubishi L200 ราคาคันละ 50,000-60,000 บาท ก็น่าสนใจนะ