ก่อนที่จะเข้าใจว่า Big data ถูกนำมาใช้ในชีวิตประจำวันของเราอย่างไรบ้าง เราก็ต้องมีความเข้าใจเบื้องต้นก่อนว่า Big data คืออะไร และ มาจากไหน โดยจากงานวิจัยที่บอกว่าข้อมูลกว่า 2.5 ล้านล้านล้านล้านล้านไบท์ ได้ถูกสร้างขึ้นในทุกๆวันจาก… 1. Track : การติดตามอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่เราใช้ และตัวเลข 2.5 ล้านล้านล้านล้านล้าน ที่คาดว่าน่าจะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการขยายการเข้าถึงและพัฒนาของระบบอินเทอร์เน็ต และที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือไม่เคยมีวิธีการเก็บข้อมูลแบบไหนที่สามารถเก็บในปริมาณที่เยอะขนาดนี้โดยใช้เวลาที่สั้นขนาดนี้มาก่อน หรือจะพูดง่ายๆคือ Data นั้นมีอยู่ทุกที่รอบตัวเรา ข้อมูลจำนวนมากได้ถูกย่อยและวิเคราะห์จากข้อมูลเชิงลึก (big data analytics) ให้กลายเป็น พฤติกรรมของมนุษย์ (Human Behavior) ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
และข้อมูลเหล่านี้ก็สามารถนำไปปรับใช้กับการทำงานของระบบต่างๆในแต่ละธุรกิจได้ด้วย และ big data กำลังจะเปลี่ยนวิธีการดำเนินชีวิตของเราจากการที่จะถูกนำมาใช้ในหลายๆธุรกิจ การเก็บข้อมูลให้มาเป็น Big data นั้นมีให้เห็นอยู่ทั่วไป
บางทีเราอาจจะคาดไม่ถึงด้วยซ้ำว่ากำลังถูกเก็บข้อมูลอยู่ บริษัทและองค์กรต่างๆกำลังเก็บข้อมูลเพื่อหากลุ่มเป้าหมาย พวกเค้ารู้ว่าคุณกำลังอ่านอะไรอยู่ ดูอะไรอยู่ หรือกำลังจะซื้ออะไร การเข้าถึงข้อมูลพวกนี้เป็นกุญแจสำคัญที่จะมีผลกับประสบการณ์การใช้อินเทอร์เน็ตของคุณ หรือพูดง่ายๆ คือ จะทำให้คุณเห็นข้อมูลที่คุณต้องการจริงๆมากกว่าจะไปเสียเวลาอยู่กับการเข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ที่ไม่ตอบสนองต่อความต้องการ ประเด็นสำคัญคือ
ไม่ว่าคุณจะกำลังคิดเริ่มทำธุรกิจ หรือกำลังทำธุรกิจอยู่แล้ว การมีข้อมูลของลูกค้านั้นเป็นสิ่งสำคัญในการเพิ่มและสร้างโอกาสทางธุรกิจ เพื่อให้สินค้าหรือบริการของคุณตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด แต่จะเก็บข้อมูลอย่างไร หรือจะนำข้อมูลนั้นออกมาใช้อย่างไรให้เกิดประสิทธิภาพสูงที่สุดได้นั้น ก็ขึ้นอยู่กับศักยภาพของคุณเอง
2. Produce :
การสร้างข้อมูลต่างๆจากอุปกรณ์ของเรา ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพหรือวิดิโอจากมือถือ การอัดเสียง หรือการพิมพ์ข้อความต่างๆ
3. Store : การเก็บข้อมูลจากอุปกรณ์ที่เราใช้งานอยู่ อาจจะเป็น cookies ที่ขึ้นมาตอนที่เราเข้าไปดูข้อมูลจากเว็บไซต์ตัวอย่าง ธุรกิจที่นำ Big Data มาใช้
Big data จะเปลี่ยนชีวิตประจำวันเราอย่างไรบ้าง
สรุป
หากคอนเทนต์นี้ถูกใจและมีประโยชน์ ฝากเพื่อนๆกดไลค์ กดแชร์ กดติดตามเพจเพื่อจะไม่พลาดข่าวสารดีๆและเป็นกำลังใจให้ทีมงานทำคอนเทนต์ดีๆแบบนี้ออกมาเรื่อยๆด้วยน้าา
REFERENCES
Big Data คือ ปัจจุบัน เราทุกคนใช้งานโซเชียลมีเดีย เช่น You tube, Facebook, Twitter, Google, Netflix, Walmart, Starbucks สิ่งหนึ่งที่ทำให้โซเชียลมีเดียเหล่านี้ประสบความสำเร็จ คือ Big Data เป็นการนำข้อมูลจำนวนมหาศาลที่ได้จากการให้บริการมาใช้วิเคราะห์ เพื่อหาโอกาสทางธุรกิจ ใช้ประกอบการตัดสินใจในเรื่องสำคัญๆ
ทั้งการพัฒนาด้านการขายและการตลาด การปรับปรุงสินค้าบริการให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมถึงภาคการผลิตที่นำข้อมูล Big-Data ไปใช้ในการวิเคราะห์เพื่อเพิ่ม Productivity ในกระบวนการผลิตและการดำเนินงาน Big-Data คือ ข้อมูลขนาดใหญ่/ปริมาณมาก หรือ ข้อมูลจำนวนมากมหาศาล ทุกเรื่อง ทุกแง่มุม ทุกรูปแบบ ซึ่งอาจเป็นข้อมูลที่มีโครงสร้างชัดเจน (Structured Data) เช่น ข้อมูลที่เก็บอยู่ในตารางข้อมูลต่างๆ
หรืออาจเป็นข้อมูลกึ่งมีโครงสร้าง (Semi-Structured Data) เช่น ล็อกไฟล์ (Log files) หรือแม้กระทั่งข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้าง (Unstructured Data) เช่น ข้อมูลการโต้ตอบปฏิสัมพันธ์ผ่านสังคมเครือข่าย (Social Network) เช่น Facebook, twitter หรือ ไฟล์จำพวกมีเดีย เป็นต้น ซึ่งอาจจะเป็นข้อมูลภายในองค์กรและภายนอกที่มาจากการติดต่อระหว่างองค์กร หรือจากทุกช่องทางการติดต่อกับลูกค้า แต่ทั้งหมดนี้ก็ยังคงเป็นเพียงข้อมูลดิบที่รอการนำมาประมวลและวิเคราะห์เพื่อนำผลที่ได้มาสร้างมูลค่าทางธุรกิจ
ข้อมูลเหล่านี้อาจจะไม่ได้อยู่ในรูปแบบที่องค์กรสามารถนำไปใช้ได้ทันที แต่อาจมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อองค์กรบางอย่างแฝงอยู่ Big Data มีคุณลักษณะสำคัญอยู่ 4 อย่าง คือBig Data คืออะไร
- ปริมาตร (Volume) หมายถึง ข้อมูลนั้นมันต้องมีขนาดใหญ่มาก ซึ่งไม่สามารถประมวลผลปริมาณของข้อมูลด้วยระบบฐานข้อมูลได้ จำเป็นต้องใช้คลังข้อมูล (Data Warehouse) และซอฟต์แวร์ฮาดูป (Hadoop) ทำงานประสานกันในการบริหารจัดการข้อมูล
- ความเร็ว (Velocity) หมายถึง ข้อมูลดังกล่าวต้องมีอัตราการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่น ข้อมูลจากภาพถ่ายโทรศัพท์ที่ถูกอับโหลดขึ้น ข้อมูลการพิมพ์สนทนา ข้อมูลวิดีโอ รวมไปถึงข้อมูลการสั่งซื้อสิ้นค้า พูดง่าย ๆ คือ ข้อมูลที่มีการเพิ่มขึ้นตลอดเวลาแบบไม่มีหยุดยั้งนั่นแหละ
- ความหลากหลาย (Variety) หมายถึง รูปแบบข้อมูลต้องมีความหลากหลาย อาจจะเป็นข้อมูลที่มีโครงสร้าง ไม่มีโครงสร้าง และกึ่งมีโครงสร้าง ซึ่งผมไม่ขอลงลึกนะเพราะมันซับซ้อนมาก แต่เอาเป็นว่ารูปแบบข้อมูลของ Big-Data มันมีทุกอย่าง ไม่ได้จำกัดแค่พวกข้อความ อีเมล์ รูปภาพ ฯลฯ เท่านั้น
- Veracity ไม่สามารถนำมาใช้เป็นข้อมูลที่สมบูรณ์ เพื่อการประกอบการพิจารณาได้
Big Data มีประโยชน์อย่างไร
ในปัจจุบันนี้ การนำ Big-Data มาใช้ในภาครัฐ เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนและลดความเหลื่อมล้ำ โดยนำข้อมูลในระบบราชการจากหลายหน่วยงาน เช่น ข้อมูลสาธารณสุข ทะเบียนราษฎร์ ที่ตั้งของธุรกิจ โรงพยาบาล สถานบำบัด สถานการณ์จ้างงานฯ มาวิเคราะห์และการเชื่อมโยงกัน เกิดเป็นข้อมูลขนาดใหญ่ Big-Data ของภาครัฐ ผ่านกระบวนการวิเคราะห์เชื่อมโยงเพื่อตอบการให้บริการของภาครัฐ ตัวอย่างเช่น รัฐบาลต้องการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย แต่แทนที่จะช่วยเหลือโดยให้เงินอุดหนุนที่เท่าๆ กันแบบปูพรมทั้งประเทศ ก็นำ Big-Data ซึ่งเป็นข้อมูลจากแหล่งต่างๆมาใช้ชี้จำเพาะว่าบุคคลใดที่ถือว่ามีรายได้น้อย พร้อมทั้งกำหนดระดับและลักษณะความช่วยเหลือที่แตกต่างกัน เช่น ผู้มีรายได้น้อยที่สูงอายุ เป็นผู้พิการ อยู่กับบ้าน ให้ลูกหลานดูแล รัฐอาจช่วยโดยสนับสนุนขาเทียม ให้คูปองเข้ารับการทำกายภาพบำบัด พร้อมทั้งเลือกอาชีพที่เหมาะสมกับกายภาพของผู้สูงอายุ
การฝึกอาชีพเพื่อเพิ่มรายได้ ให้กับผู้มีรายได้น้อย พร้อมทั้งจับคู่กับแหล่งงานที่อยู่ใกล้เคียงกับที่พักอาศัย อีกทั้งยังติดตามและเสนอโอกาสฝึกอาชีพใหม่ๆ เพิ่มเติม เพื่อให้มีรายได้ที่สูงขึ้นและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น ซึ่งถ้าวิเคราะห์ดูจะเห็นว่า ข้อมูลจำนวนมากเกิดการบูรณาการและวิเคราะห์ เพื่อใช้สำหรับการตัดสินใจในการให้บริการของภาครัฐได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย โดยในปัจจุบันนี้ จะเห็นได้จากการใช้บัตรประชาชนเพียงบัตรเดียวก็สามารถเข้าถึงบริการภาครัฐได้มากขึ้น
Big-Data สำหรับภาคเอกชนที่นำมาใช้ประโยชน์ เช่น เว็บไซต์อี-คอมเมิร์ช ที่จัดเก็บข้อมูลพฤติกรรมการซื้อสินค้าของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง และมีระบบที่ทำหน้าที่คัดเลือกสินค้าอื่นๆ ที่คาดว่าลูกค้าจะต้องการเพิ่มเติม แล้วนำเสนอขึ้นมาให้โดยอัตโนมัติบนหน้าเว็บไซต์อี-คอมเมิร์ชของลูกค้ารายนั้นๆ ทั้งนี้ ลูกค้าแต่ละคน ไม่จำเป็นต้องนำเสนอสินค้าเดียวกัน จากการสังเกตพฤติกรรมการซื้อสินค้า พบว่าภาคเอกชนจะมีการเก็บข้อมูล ชื่อ ที่อยู่ เพศ เชื้อชาติ อายุ ประวัติการซื้อสินค้า ชนิดสินค้า เวลาที่ซื้อ มูลค่าสินค้า นำมาวิเคราะห์จับคู่กับสินค้าอื่นที่มีศักยภาพ ทั้งนี้ เงื่อนไขหรือสูตรการจับคู่อาจแตกต่างกันไป ตามกลุ่มลูกค้าหรือประชากรในแต่ละประเทศ หรือตามกลุ่มสังคมหรือวัฒนธรรม
นอกจากนั้น ภาคเอกชนได้นำข้อมูล Big-Data มาใช้ประโยชน์ เพื่อยกระดับธุรกิจ ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีแชทบอท Chatbot ที่สามารถรับมือกับความต้องการข้อมูลของลูกค้าที่ติดต่อเข้ามาจำนวนมหาศาลผ่าน Messaging Application ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว ฉับไว พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง และนี่คือจุดเปลี่ยนสำคัญของการให้บริการที่จะเข้ามาใช้งานแทนคน (Agent)
แม้ว่าเรื่องราวของ Big-Data ฟังดูแล้วยุ่งยาก ไม่ว่าจะเป็นอุปสรรคในระหว่างการนำไปประยุกต์ใช้งาน ไปจนถึงการปรับกระบวนการทำงานใหม่ เพื่อให้เอื้อต่อการจัดเก็บข้อมูล อีกทั้งความจำเป็นที่จะต้องปรับนโยบายรัฐหรือเอกชนให้สอดคล้องกับการทำ Big-Data ด้วยหรือไม่? จะทำได้สำเร็จหรือไม่? สารพัดเรื่องที่จะเกิดขึ้น
Big-Data ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่หลายคนกลัวหรือไม่เข้าใจ อาจเพราะมันใหญ่และมีรายละเอียดเยอะมาก จึงทำให้การใช้งาน Big-Data ค่อนข้างมีอุปสรรค แต่แท้จริงแล้วอุปสรรคต่าง ๆ นี้ล้วนเป็นสิ่งที่ทุกองค์กรต้องเผชิญหน้า เพื่อพัฒนาและก้าวกระโดดต่อไป ขอเป็นกำลังใจให้เรียนรู้เรื่องไกล้ตัวนี้อย่างต่อเนื่อง นะครับ
ที่มา://www.ops.go.th/main/index.php/knowledge-base/article-pr/657-big-data
อัพเดทครั้งสุดท้าย เมื่อ 31 ตุลาคม 2022