หลังจากสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 1 (ค.ศ.1913-1921) ประธานาธิบดีวูดโรว์ วิลสัน (Woodrow Wilson)แห่งสหรัฐอเมริกา ได้เสนอให้ก่อตั้งองค์การสันนิบาตชาติขึ้น
ซึ่งเป็นแนวความคิดที่จะป้องกันมิให้เกิดสงครามร้ายแรงที่จะทำลายล้างประชาชาติขึ้นอีก
โดยให้สถาปนาองค์การสันนิบาตชาติขึ้นเพื่อเป็น องค์กรกลางที่จะใช้แก้ปัญหากรณีพิพาทระหว่างประเทศ โดยสันติวิธีเพื่อดำรงรักษาสันติภาพอันถาวรไว้ โดยประชุมครั้งแรก
ณ นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ค.ศ.1920
ประธานาธิบดีวูดโรว์ วิลสัน (Woodrow Wilson)แห่งสหรัฐอเมริกา
การปฏิบัติงานขององค์การสันนิบาตชาติในฐานะองค์การระหว่างประเทศอาจนับได้ว่าล้มเหลวแม้ได้ทำการแก้ไขปัญหาข้อขัดแย้งได้สำเร็จอยู่บ้างแต่ส่วนใหญ่เป็นปัญหาที่ไม่ค่อยมีผลกระทบต่อสังคมโลกและเป็นปัญหาที่ชาติมหาอำนาจไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรง
ผลงานขององค์การสันนิบาตชาติที่ประสบความสำเร็จ เช่น
กรณีหมู่เกาะโอลันด์ (Aland Islands) ที่สวีเดนและฟินแลนด์ต่างแย่งชิงกันจะเข้าครอบครองใน ค.ศ. 1917 สวีเดนถือโอกาสส่งกองทหารเข้าไปยึดหมู่เกาะนี้ แต่ถูกกองทัพเยอรมนีซึ่งสนับสนุนขบวนการกู้ชาติของฟินแลนด์ขับไล่ ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 จึงมีการเสนอปัญหานี้ให้องค์การสันนิบาตชาติพิจารณาตัดสินให้มอบหมู่เกาะโอลันด์อยู่ภายใต้อำนาจอธิปไตยของฟินแลนด์ แต่ต้องเป็นดินแดนปลอดทหารและมีสถานภาพกึ่งอิสระ
ผลงานขององค์การสันนิบาตชาติที่ไม่ประสบความสำเร็จ เช่น
เหตุการณ์รุนแรงที่เกาะคอร์ฟู(Corfu Incident)ใน ค.ศ. 1923
อิตาลีใช้กำลังเข้ายึดครองเกาะคอร์ฟูของกรีซ เพื่อบีบบังคับรัฐบาลกรีซให้ชดใช้ค่าเสียหายกรณีฆาตกรรมนายพลอิตาลี เหตุการณ์นี้ท้าทายความมีประสิทธิภาพของการประกันความมั่นคงร่วมกันขององค์การสันนิบาตชาติซึ่ง ไม่สามารถยับยั้งหรือลงโทษอิตาลีได้ ทั้ง ๆ ที่กรีซและอิตาลีต่างก็เป็นสมาชิกขององค์การสันนิบาตชาติ
เหตุการณ์ญี่ปุ่นรุกรานแคว้นแมนจูเรียของจีนในค.ศ. 1931
องค์การสันนิบาตชาติก็ไม่สามารถใช้มาตรการใดลงโทษญี่ปุ่น
ได้วิกฤตการณ์ระหว่างประเทศที่แสดงถึงความล้มเหลวขององค์การสันนิบาตชาติ
ที่ชัดเจนที่สุด คือ สงครามอะบิสซิเนีย(Abyssinian War) ที่อิตาลีส่งกองทัพบุกอะบิสซิเนียโดยไม่ประกาศสงครามเมื่อ ค.ศ.1935และสามารถยึดกรุงแอดดิสอาบาบาได้ในค.ศ. 1936 ซึ่งสมัชชาขององค์การสันนิบาตชาติได้ลงมติประณามอิตาลีว่าเป็นฝ่ายรุกรานอิตาลีจึงตอบโต้องค์การสันนิบาตชาติด้วยการลาออกจากการเป็น
สมาชิกองค์การสันนิบาตชาติใน ค.ศ. 1937
เหตุการณ์ทั้ง 2 เหตุการณ์นี้ทำให้
- ญี่ปุ่น ถอนตัวออกไปใน ค.ศ. 1933
- อิตาลี ถอนตัวออกไปใน ค.ศ. 1937
ตั้งแต่ ค.ศ. 1937 ประเทศมหาอำนาจที่ยังคงเป็นสมาชิกตั้งแต่เริ่มก่อตั้งจึงมีเพียง
อังกฤษ และ ฝรั่งเศส
วันสันนิบาตชาติ ตรงกับวันที่ 10 มกราคมของทุกปี เป็นวันก่อตั้งองค์การระหว่างรัฐบาลทั่วโลกแห่งแรก เพื่อปกป้องสันติภาพของโลก
รู้หรือไม่ ทุกวันที่ 10 มกราคมเป็นวันสันนิบาตชาติ ซึ่งก่อตั้งขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 มกราคม ค.ศ. 1920 ภายหลังจากการประชุมสันติภาพปารีส หลังจากที่สงครามโลกครั้งที่หนึ่งได้ยุติลง โดยมีประธานาธิบดีวูดโรว์ วิลสัน (Woodrow Wilson) ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาเป็นผู้เสนอ ซึ่งเป็นองค์การที่แก้ปัญหากรณีพิพาทระหว่างประเทศด้วยสันติวิธีและดำรงสันติภาพอันถาวร
เป้าหมายหลักขององค์กรสันนิบาตชาติ คืออะไร
เป้าหมายหลักขององค์กรสันนิบาตชาติ คือ การป้องกันไม่ให้เกิดสงครามผ่านทางการรักษาความปลอดภัยโดยรวม การลดอาวุธและยุติข้อพิพาทระหว่างประเทศผ่านทางการเจรจาและอนุญาโตตุลาการ และสนธิสัญญาที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สหภาพแรงงาน การปฏิบัติตัวต่อประชากรชาวพื้นเมือง การค้าขายมนุษย์และยาเสพติดที่ผิดกฎหมาย การค้าขายอาวุธปืน สุขภาพทั่วโลก เชลยสงคราม และการปกป้องชนกลุ่มน้อยในยุโรป
โดยกติกาสัญญาของสันนิบาตชาติได้ถูกลงนามเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน ค.ศ. 1919 ซึ่งเป็นส่วนที่หนึ่งของสนธิสัญญาแวร์ซาย และมีผลบังคับใช้ร่วมกับสนธิสัญญาอื่น ๆ เมื่อวันที่ 10 มกราคม ค.ศ. 1920 ซึ่งการประชุมครั้งแรกของสมัชชาสันนิบาตได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน ค.ศ. 1920
ขณะที่ประเทศที่เป็นฝ่ายชนะในสงครามโลกครั้งที่ 1 ทุกประเทศได้ลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพ เป็นสมาชิกขององค์การสันนิบาตชาติโดยอัตโนมัติ โดยประเทศที่แพ้สงครามสามารถเข้าร่วมได้ แต่ต้องปฏิบัติตามสนธิสัญญาสันติภาพให้เรียบร้อยเสียก่อน ส่วนประเทศอื่น ๆ หากต้องการเข้าเป็นสมาชิกต้องได้รับความเห็นชอบจากการออกเสียง 2 ใน 3 ของประเทศสมาชิก แต่สหรัฐอเมริกาแม้จะเป็นผู้ริเริ่มแต่ก็ไม่ได้เป็นสมาชิก เนื่องจากสภาคองเกรสไม่ยอมให้สัตยาบัน โดยอ้างว่าต้องปฏิบัติตามวาทะมอนโร ซึ่งมีนโยบายไม่ยุ่งเกี่ยวและแทรกแซงทางการเมืองของประเทศฝั่งยุโรป
วัตถุประสงค์ขององค์การสันนิบาตชาติ มีอะไรบ้าง
วัตถุประสงค์ที่สำคัญที่สุดขององค์การสันนิบาตชาติคือการดำรงสันติภาพและป้องกันสงครามในอนาคต โดยมีหลักการในความร่วมมือกัน ดังนี้
1. ร่วมมือกันรักษาความปลอดภัยและความมั่นคงระหว่างประเทศ
2. เป็นองค์การกลางในการตัดสินชี้ขาดกรณีพิพาทระหว่างประเทศ
3. ร่วมมือกันดำเนินการลดกำลังอาวุธยุทโธปกรณ์
4. ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อเปิดสัมพันธ์ทางการทูต
ผลงานขององค์การสันนิบาตชาติ มีอะไรบ้าง
องค์การสันนิบาตชาติได้มีคำตัดสินมอบหมู่เกาะอาลันด์อยู่ภายใต้อำนาจอธิปไตยของฟินแลนด์ แต่ต้องเป็นดินแดนปลอดทหารและมีสถานภาพกึ่งทางการ หลังจากที่เมื่อปี ค.ศ.1917 สวีเดนและฟินแลนด์แย่งกันครอบครอง หมู่เกาะอาลันด์ (Aland Islands) โดย สวีเดนถือโอกาสนำกำลังทหารบุกยึด แต่ถูกกองทัพเยอรมันที่สนับสนุนฟินแลนด์ขับไล่เสียก่อน