เครื่องพิมพ์และถ่ายเอกสารสี FUJI XEROX
แนะนำ
เครื่องถ่ายเอกสารสี Fuji Xerox WC7855 All-in-One Laser Printers WorkCentre®
-
เครื่องถ่ายเอกสารสี Fuji Xerox WC7855 All-in-One Laser Printers WorkCentre® + Microcut30R
-
เครื่องถ่ายเอกสารสี Fuji Xerox WC7855All-in-One Laser Printers WorkCentre® + Microcut30Q
-
เครื่องถ่ายเอกสารสี Fuji Xerox WC7855 All-in-One Laser Printers WorkCentre® + MicrocutZ3
ขายดี
สติกเกอร์ Laser Glossy (เงา) ขนาด A3 Sticker สำหรับเครื่องพิมพ์เลเซอร์ Fuji Xerox
มีหลายคุณสมบัติให้เลือก
ขายดี
สติกเกอร์ Laser Matt (ด้าน) ขนาด A3 Sticker สำหรับเครื่องพิมพ์เลเซอร์ Fuji Xerox
มีหลายคุณสมบัติให้เลือก
ใหม่ล่าสุด
สติกเกอร์กระดาษ Laser Matt (ด้าน) ขนาด A3 Sticker สำหรับเครื่องพิมพ์เลเซอร์ Fuji Xerox
มีหลายคุณสมบัติให้เลือก
ใหม่ล่าสุด
สติกเกอร์กระดาษ Laser Gloss (เงา) ขนาด A3 Sticker สำหรับเครื่องพิมพ์เลเซอร์ Fuji Xerox
มีหลายคุณสมบัติให้เลือก
ใหม่ล่าสุด
กระดาษสติกเกอร์ KRAFT PAPER STICKER A3 ขนาด A3 สำหรับเครื่องพิมพ์เลเซอร์ Fuji Xerox
มีหลายคุณสมบัติให้เลือก
บทความ สาระน่ารู้เกี่ยวกับเครื่องปริ้นฉลากสินค้าและเครื่องตัดสติกเกอร์ไดคัท ปริ้นฉลากใช้เองถูกกว่าจริงหรือ? รับปริ้นสติกเกอร์ได้กำไรดี!
เปิดร้านรับปริ้นและตัดสติกเกอร์ฉลากสินค้าลงทุนเท่าไหร่? เปิดร้านรับปริ้นสติกเกอร์ ไม่ว่าจะเป็น ฉลากส...
ปริ้นฉลากสินค้าเองถูกกว่าไปจ้างโรงงานจริงหรือ? ไม่อยากจ้างร้านพิมพ์แล้ว เพราะว่าออกแบบเป็น มีความรู้...
หากคุณกำลังมองหาเครื่องพิมพ์ฉลากสินค้าหรือสติกเกอร์ราคาถูก Microink ยินดีแนะนำและบริการจัดส่งสินค้าพ...
พิมพ์วันที่ผลิตสินค้าไม่ต้องไปจ้างโรงงานแล้ว เพราะพิมพ์เองได้ด้วยเครื่องปั๊มวันที่ Ecomini Print เคย...
แนะนำเครื่องพรินต์ ยี่ห้อไหนดี 2022 สำหรับพิมพ์งานและรูปภาพทั่วไป ใช้งานที่บ้านก็ได้ ใช้ที่ออฟฟิศก็ดี มีรุ่นไหนน่าสนใจบ้างมาดูกัน
ถึงแม้ว่าในยุคปัจจุบันจะมีการใช้กระดาษกันน้อยลง เนื่องจากหันมาส่งไฟล์แบบดิจิทัลมากขึ้น แต่สำหรับงานบางอย่างก็อาจยังมีความจำเป็นต้องพิมพ์เป็นกระดาษหรือเอกสารอยู่ ทำให้เครื่องพรินต์เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่หลายคนต้องมี และถ้าหากใครกำลังตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องพรินต์มาใช้สักเครื่อง วันนี้เราก็มีคำแนะนำมาฝากกัน โดยจะเน้นไปที่เครื่องพรินต์ Inkjet (อิงค์เจ็ต) ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปมากที่สุด
เครื่องพรินต์มีกี่ประเภท
เลือกยังไงให้เหมาะกับการใช้งาน
1. เครื่องพรินต์แบบ Inkjet (อิงค์เจ็ต)
เป็นเครื่องพรินต์ประเภทที่คนนิยมใช้และมีราคาประหยัดที่สุด ขนาดกะทัดรัด ใช้ไฟน้อย ราคาหมึกถูก สามารถใช้พิมพ์งานทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นเอกสาร รูปภาพ และอื่น ๆ ทั้งแบบสีและแบบขาว-ดำ เหมาะสำหรับใช้งานทั่วไปตามบ้านและออฟฟิศ
2. เครื่องพรินต์แบบ Laser (เลเซอร์)
เครื่องพรินต์แบบนี้เหมาะสำหรับใช้ในองค์กรหรือสำนักงานต่าง ๆ ที่ต้องเน้นการพิมพ์เอกสารจำนวนมาก ๆ และมีการใช้งานเครื่องค่อนข้างหนัก แต่จะมีราคาค่อนข้างสูง และไม่ค่อยเหมาะกับการพิมพ์รูปภาพเท่ากับเครื่องพรินต์ Inkjet
3. เครื่องพรินต์ 3D (ทรีดี)
คือ เครื่องพรินต์โมเดล 3 มิติ ซึ่งถูกพัฒนามาจากเครื่องพรินต์แบบ Inkjet โดยจะเป็นการพิมพ์ออกมาเป็นชิ้นงาน 3 มิติ ที่มีสีสันและต้องเก็บรายละเอียดรอบด้าน เหมาะแก่การใช้งานเฉพาะด้านหรือใช้ในงานอดิเรก เช่น ผลิตโมเดลฟิกเกอร์ งานออกแบบผลิตภัณฑ์ หรือสร้างชิ้นส่วนต่าง ๆ เป็นต้น
วิธีเลือกซื้อเครื่องพรินต์
การจะเลือกซื้อเครื่องพรินต์มาใช้สักเครื่องนั้นมีเรื่องหลัก ๆ ที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อ ดังนี้
1. ประเภทของเครื่องพรินต์
ตามที่ได้กล่าวในหัวข้อด้านบนคือ เครื่องพรินต์จะมีแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่ Inkjet, Laser และ 3D ซึ่งก็ควรพิจารณาดูว่าต้องการเน้นใช้งานแบบไหนเป็นหลัก แต่โดยทั่วไปแล้วสำหรับบ้านและออฟฟิศขนาดเล็กมักจะนิยมใช้เครื่องพรินต์ Inkjet กันมากที่สุด เนื่องจากมีราคาไม่แพง สามารถใช้พิมพ์ได้ทั้งงานเอกสารและรูปภาพ
2. แบบหมึกตลับหรือหมึกแท็งก์
ปัจจุบันเครื่องพรินต์จะมีทั้งรุ่นที่ใช้หมึกแบบตลับมาตรฐานและแบบหมึกแท็งก์ ซึ่งถ้าหากต้องการเน้นพิมพ์ในปริมาณเยอะ ๆ แต่อยากลดต้นทุนและค่าใช้จ่าย ควรเลือกใช้แบบหมึกแท็งก์ เพราะการซื้อหมึกเติมครั้งละมาก ๆ จะประหยัดกว่า แถมยังไม่ต้องเปลี่ยนตลับหมึกบ่อยอีกด้วย แต่ถ้าใช้งานไม่เยอะก็อาจไม่คุ้ม เพราะเครื่องพรินต์รุ่นหมึกแท็งก์จะมีราคาที่สูงกว่า จึงขอแนะนำให้ใช้เป็นแบบหมึกตลับแทน
3. เน้นพิมพ์อย่างเดียวหรือ All-in-one
ถ้าหากคุณต้องการใช้งานเครื่องพรินต์เฉพาะการพิมพ์เอกสารหรือรูปภาพ การเลือกซื้อเครื่องพรินต์รุ่นปกติก็น่าจะเพียงพอแล้ว แต่ถ้าหากต้องการใช้งานอย่างอื่นด้วย เช่น สแกนหรือถ่ายเอกสาร ควรเลือกซื้อเป็นรุ่น All-in-one เนื่องจากสามารถใช้ทำได้ทุกอย่างในเครื่องเดียวนั่นเอง
4. แบบมีสายหรือไร้สาย
เครื่องพรินต์ทั่วไปจะใช้การเชื่อมต่อแบบมีสาย ไม่ว่าจะเป็นการเสียบ USB กับคอมพิวเตอร์ หรือผ่านสาย LAN แต่ถ้าหากคุณไม่อยากยุ่งยากกับการเดินสาย อาจเพิ่มเงินอีกสักหน่อยเพื่อซื้อเป็นรุ่นที่รองรับ Wi-Fi ซึ่งนอกจากจะไม่ต้องเสียบสายแล้ว ยังสามารถสั่งพิมพ์จากอุปกรณ์ไร้สายอย่างมือถือ หรือสั่งพิมพ์ผ่านอินเทอร์เน็ตจากนอกบ้านก็ได้อีกเช่นกัน
5. สเปกอื่น ๆ
นอกจากคุณสมบัติหลักดังที่ได้กล่าวไปในข้อก่อน ๆ แล้ว อาจพิจารณาสเปกส่วนอื่น ๆ ของเครื่องพรินต์ ไม่ว่าจะเป็นความละเอียดในการพิมพ์ ความเร็วในการพิมพ์ ขนาดกระดาษที่รองรับ และอื่น ๆ ซึ่งขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้งานของแต่ละบุคคล
เครื่องพรินต์ 2022 มีรุ่นไหนน่าสนใจบ้าง
1. Epson EcoTank L1216 A4 Ink Tank Printer
เครื่องพรินต์ขนาดกะทัดรัด ดีไซน์สีขาวเรียบ ๆ หมึก 1 ชุด รองรับงานพิมพ์ได้สูงถึง 4,500 หน้า สำหรับงานพิมพ์ขาว-ดำ และ 7,500 หน้า สำหรับงานพิมพ์สี เติมหมึกง่าย ไม่หกเลอะเทอะ พิมพ์แบบไร้ขอบได้สูงสุดขนาด 4R พร้อมเทคโนโลยี Heat Free ที่ไม่ใช้ความร้อนในการพิมพ์
- ราคา 4,390 บาท
ภาพจาก : epson.co.th
2. Canon PIXMA E3170
เครื่องพรินต์ไร้สายแบบ ALL-IN-ONE ทำได้ทั้งพิมพ์ สแกน และถ่ายสำเนาเอกสาร ขนาดกะทัดรัด พร้อมหน้าจอ LCD สำหรับการพิมพ์งานต้นทุนต่ำ หมึกชุดหนึ่งสามารถพิมพ์ได้ถึง 400 หน้า และรองรับการสั่งพิมพ์แบบไร้สายผ่าน Wi-Fi
- ราคา 2,890 บาท
ภาพจาก : th.canon
3. HP Ink Tank 315
เครื่องพรินต์แบบแท็งก์หมึก สามารถพิมพ์หน้าสีได้ถึง 8,000 หน้า พิมพ์ขาว-ดำได้ถึง 6,000 หน้า ด้วยระบบตลับหมึกความจุสูง ทำให้ใช้ต้นทุนต่อหน้าต่ำมาก เติมหมึกง่าย ไม่หกเลอะเทอะ พิมพ์ข้อความได้เข้มและคมชัด สามารถพิมพ์ภาพและเอกสารแบบไร้ขอบได้ หมึกทนทาน ไม่ซีดจางง่าย
- ราคา 4,390 บาท
ภาพจาก : hp.com
4. Brother DCP-T220 Ink Tank Printer
เครื่องพรินต์มัลติฟังก์ชันอิงค์แท็งก์ที่มีขนาดกะทัดรัด พิมพ์ได้รวดเร็วและคมชัด สีสัดสนใส ถาดกระดาษรองรับได้ 150 แผ่น พร้อมช่องใส่กระดาษด้วยมือทีละแผ่นด้านหลัง ใช้ขวดน้ำหมึกขนาดใหญ่ พิมพ์ขาว-ดำได้ถึง 7,500 หน้า และพิมพ์สีได้ถึง 5,000 หน้า เติมหมึกง่าย ไม่หกเลอะเทอะ
- ราคา 4,290 บาท
ภาพจาก : brother.co.th
5. Epson L805 Wi-Fi Photo Ink Tank Printer
เครื่องพรินต์ความละเอียดสูง พิมพ์ภาพได้คมชัด ให้โทนสีกว้างขึ้นด้วยชุดหมึก 6 สี รองรับ Wi-Fi ในตัว ทำให้สามารถสั่งพิมพ์งานแบบไร้สายได้ รองรับการพิมพ์ภาพถ่ายขนาด 4R ได้มากถึง 1,800 ภาพ และยังใช้พิมพ์สกรีนแผ่น CD และ DVD ได้อีกด้วย
- ราคา 11,690 บาท
ภาพจาก : epson.co.th
6. Canon PIXMA E4570
อีกหนึ่งเครื่องพรินต์ไร้สาย ALL-IN-ONE ขนาดกะทัดรัด พร้อมรองรับการสแกน ถ่ายสำเนาเอกสาร แฟกซ์ และการพิมพ์สองหน้าแบบอัตโนมัติสำหรับการพิมพ์แบบต้นทุนต่ำ สามารถป้อนเอกสารได้ถึง 20 แผ่นแบบอัตโนมัติ พิมพ์ได้ถึง 400 หน้า ด้วยตลับหมึกความจุสูง รวมทั้งสั่งพิมพ์แบบไร้สายผ่าน Wi-Fi ได้
- ราคา 3,290 บาท
ภาพจาก : th.canon
7. HP DeskJet Ink Advantage 2777 All-in-One Printer
เครื่องพรินต์แบบ All-in-One ที่รองรับทั้งการพิมพ์ สแกน และถ่ายเอกสาร รองรับ Dual-band Wi-Fi ในตัว พร้อมระบบรีเซตตัวเอง เพื่อการเชื่อมต่อที่ดียิ่งขึ้น สามารถสั่งการได้ผ่านมือถือด้วยแอปฯ HP Smart
- ราคา 3,090 บาท
ภาพจาก : hp.com
หลังจากที่ได้รู้ถึงวิธีการเลือกซื้อเครื่องพรินต์ รวมทั้งทำความรู้จักกับรุ่นที่น่าสนใจแต่ละยี่ห้อกันไปแล้ว ถ้าหากมีรุ่นไหนเข้าตา สนใจอยากได้มาใช้งาน สามารถหาซื้อกันได้ตามร้านค้าชั้นนำเลย แต่ก่อนตัดสินใจซื้อก็อย่าลืมพิจารณาความต้องการของตัวเอง และบริการหลังการขายของยี่ห้อนั้น ๆ ให้ดีด้วยนะครับ
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : Epson, Canon, HP, Brother