สำหรับคนที่ชื่นชอบการออกกำลังกายจนกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน คงรู้สึกหงุดหงิดใจไม่น้อย เมื่อวิกฤติการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 (COVID-19) ทำให้คุณไม่สามารถไปไปออกกำลังกายในที่สาธารณะหรือเข้าโรงยิมได้ เนื่องจากสถานที่เหล่านั้น กลายเป็นพื้นที่เสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ประกอบกับหน่วยงานภาครัฐได้ขอให้หลีกเลี่ยงจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายกว่านี้
แต่การใช้ชีวิตวนเวียนอยู่กับการกิน นอน ทำงาน นั่งดูซีรีย์ และก็วนลูปไปเรื่อย ๆ แบบนี้ จากหุ่นที่เคยดูเพรียวก็เริ่มมีไขมันเข้ามาสอดแทรก หากปล่อยไว้ก็คงไม่ดี ดังนั้น การมองหาวิธีออกกำลังกายที่สามารถทำได้ที่บ้าน แถมยังสามารถเผาผลาญไขมัน เพื่อให้คุณกลับมามีเอวบาง ๆ หน้าท้องแบน ๆ อีกครั้งคงดีไม่น้อย และวันนี้เรามี 4 ท่าออกกำลังกาย ลดหน้าท้อง แบบเร่งด่วน มาแนะนำให้สาว ๆ และหนุ่ม ๆ ได้ไปลองเล่นกันดู
1. ท่า Mountain climber- เริ่มด้วยท่าเริ่มในการวิดพื้น ให้ลงน้ำหนักที่มือและนิ้วโป้งทั้งสองข้าง ยืดเข่าและสะโพกให้ตรง งอเข่าทำ 90 องศากับสะโพก
- เหยียดขาข้างที่งอออกกลับไปในท่าเตรียมวิดพื้น แล้วสลับงอเข่าอีกข้างทำมุม 90 องศากับสะโพก ทำขาทั้งสองข้างสลับกันเป็นเวลาเซ็ทละ 20-30 วินาที
[advanced_iframe iframe_hide_elements=”header,footer,#filterWrapper,.bread” src=”//www.shopat24.com/health/health-exercise/fitness-exercise/?show=all&filter.from_PRICE=1000&filter.to_PRICE=1150&sortBy=si&filter.initial_from_PRICE=230&filter.initial_to_PRICE=75000&view=6/&utm_source=blog&utm_medium=iframe” change_iframe_links=”a” change_iframe_links_target=”_blank”]
เคยรู้สึกกันหรือไม่ว่าหลายๆ ครั้งที่เราไปออกกำลังกาย เล่นกีฬาหนักๆ หวังว่าจะได้เบิร์นพลังงาน และขจัดเจ้าไขมันส่วนเกินลงไปบ้าง แต่เจ้าไขมันที่แอบมาอยู่นิ่งๆ ที่รอบเอวก็ยังจะดื้อ ไม่ยอมหลบไปไหน ทั้งๆ ที่กิจกรรมที่เราทำ การออกกำลังกายหนักๆ ก็น่าที่จะได้เผาผลาญพลังงานไปได้เยอะแล้ว ลองมาดูกันว่ากีฬาที่เราไปเล่น กับการออกกำลังกายแต่ละประเภท ช่วยเผาผลาญพลังงานกันอย่างไรบ้าง
“ออกกำลังกาย” แบบไหน เผาผลาญพลังงานได้เท่าไร?
กอล์ฟ
การออกรอบ เล่นกอล์ฟ เป็นเวลาประมาณ 1 ชม. จะเผาผลาญพลังงานประมาณ 250 กิโลแคลอรี่ ดูจะน้อยกว่าการเดิน
เดิน
หากเดินอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาประมาณ 1 ชม. จะเผาผลาญพลังงานได้ประมาณ 325 กิโลแคลอรี่ ใกล้เคียงกับการเล่นแบดมินตัน
แบดมินตัน
หากเราเล่นแบดมินตันเป็นเวลาประมาณ 1 ชม. จะเผาผลาญพลังงานได้ถึงประมาณ 350-400 กิโลแคลอรี่
แอโรบิค
การออกกำลังกายที่เผาผลาญพลังงานได้เป็นอย่างดี ได้แก่การเต้นแอโรบิค ที่จะเผาผลาญพลังงานประมาณ 500-600 กิโลแคลอรี่
วิ่งเหยาะ
การวิ่งเหยาะ เผาผลาญพลังงานประมาณ 600-700 กิโลแคลอรี่
ปั่นจักรยาน
การปั่นจักรยาน ด้วยความเร็วประมาณ 20 ก.ม. ต่อชั่วโมง เผาผลาญพลังงานประมาณ 700 กิโล แคลอรี่
ว่ายน้ำ
การว่ายน้ำ ด้วยความเร็วประมาณ 3 ก.ม. ต่อ ชั่วโมง เผาผลาญพลังงานประมาณ 850 กิโลแคลอรี่ จากการออกกำลังกายประมาณ 1 ชั่วโมงเท่าๆ กัน
ยกมาให้ดูกันพอเป็นตัวอย่าง คงพอจะเห็นว่าการออกกำลังกายที่ได้ผลดีที่สุดในด้านการเผาผลาญพลังงาน คือการออกกำลังกายที่ไม่หนัก ไม่ได้เน้นที่การเคลื่อนไหวเร็วๆ แต่เน้นที่การเคลื่อนไหวที่ต่อเนื่องของร่างกายหลายๆ ส่วน ใครที่กำลังมองหากิจกรรมเพื่อขจัดเจ้าไขมันส่วนเกิน หรือกำลังวางแผนอยากจะลดน้ำหนัก คงพอจะมองเห็นแนวทางกันบ้างแล้ว
HIIT การออกกำลังกายที่ช่วยเผาผลาญพลังงานได้มากกว่าปกติ
และจากข้อมูลที่ได้นำมาฝากกัน คงทำให้หลายๆ คนนึกไปถึงการออกกำลังกายในแบบ HIIT (High Intensity Interval Training) ซึ่งก็คือการแบ่งช่วงการออกกำลังกายออกเป็นช่วงสั้นๆ สลับกันระหว่างการออกกำลังกายในระดับความเร็วสูงสุด และการออกกำลังกายในระดับความเร็วปานกลาง โดยจะทำสลับกันเป็นเซ็ต
ข้อดีของการออกกำลังกายแบบ HIIT
ข้อดีของการออกกำลังกายในลักษณะนี้ นอกเหนือจากการได้กระตุ้นการทำงานของหัวใจให้ได้ทำงาน และแข็งแรงขึ้นแล้ว ยังเป็นการเผาผลาญพลังงานที่ให้ผลลัพธ์เต็มที่ ภายในระยะเวลาที่สั้นลง อีกทั้งการออกกำลังกายในแบบ HIIT ยังสามารถใช้ได้กับเครื่องออกกำลังกายประเภทคาร์ดิโอ ทุกประเภทที่มีอยู่ในฟิตเนสและยังสามารถทำได้ด้วยการออกกำลังกายประเภทอื่นๆ เช่นการวิ่ง อีกด้วย
เอาล่ะ ได้ข้อมูลกันไปพอสมควรแล้ว มาเริ่มต้นดูแลสุขภาพกันดีกว่า เปลี่ยนชุด หยิบรองเท้า แล้วเตรียมตัวไปออกกำลังกายกันได้เลย
สวัสดีค่ะ สาวๆ SistaCafe ทุกคน
การออกกำลังกายคือกุญแจสำคัญที่จะทำให้ร่างกายของคุณแข็งแรงมากกว่าเดิม ที่สำคัญยังทำให้หุ่นดีอีกด้วย สำหรับใครที่อยากให้หุ่นดี วันนี้เรามีวิธีการออกกำลังกายทั้ง 9 รูปแบบมาฝาก จะมีอะไรบ้าง มาดูไปพร้อมๆ กัน
1. ปั่นจักรยาน
วิธีที่ดีที่สุดในการลดความอ้วนได้แก่การปั่นจักรยาน แค่การปั่นจักรยานอย่างหนักหน่วงเพียง 1 ชั่วโมงก็สามารถเผาผลาญได้ถึง 850 แคลอรี่ แต่สำหรับใครที่อยู่ในเมืองหลวง การเลือกซื้อเครื่องปั่นจักรยานนับเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ คุณสามารถปั่นได้ทุกเวลาที่บ้านตามต้องการ และควรดื่มน้ำให้เพียงพอในระหว่างปั่น
2. กระโดดเชือก
กระโดดเชือกไม่ได้เป็นเกมสำหรับเด็กอีกต่อไป อันที่จริงแล้วการออกกำลังกายที่ดีที่สุดที่ช่วยเผาผลาญแคลอรี่ส่วนเกินในช่วงเวลาที่สั้นที่สุดก็คือการกระโดดเชือก โดยการที่คุณกระโดดเชือกหนึ่งชั่วโมงสามารถเผาผลาญได้ประมาณ 700-800 แคลอรี่ อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับความหนักหน่วงของการกระโดดเชือกด้วยนะคะ หากเป็นมือใหม่ควรกระโดดเชือกสัก 10 - 20 นาที ก็เพียงพอแล้ว
3. ว่ายน้ำ
ใครที่ไม่ชอบการออกกำลังกายให้เสียเหงื่อ การว่ายน้ำคือทางเลือกที่ดีที่สุด โดยการว่ายน้ำ 1 ชั่วโมงสามารถเบิร์นได้มากถึง 700 แคลอรี่ โดยการว่ายน้ำยังช่วยให้คุณมีรูปร่างที่ดี ทำให้คุณได้สวมบิกีนี่สวยๆ และผ่อนคลายในช่วงฤดูร้อนได้
4. แอโรบิก
แอโรบิกเป็นการออกกำลังกายที่สนุกสนาน และยังช่วยให้คุณเห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วที่สุดภายในระยะเวลาที่สั้นที่สุด การเริ่มต้นออกกำลังกายด้วยการแอโรบิคเหมาะสมอย่างมาก เพราะจะทำให้คุณสนุกสนานไปพร้อมๆ กับเสียงเพลงได้เลยทีเดียว
5. วิ่งลู่วิ่งไฟฟ้า
การวิ่งบนลู่วิ่งเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการเผาผลาญไขมันในร่างกาย คุณสามารถลดแคลอรี่ได้ถึง 600 แคลอรี่ต่อชั่วโมง โดยคุณควรตั้งค่าเพลย์ลิสต์ที่คุณชื่นชอบในขณะออกกำลังกายจะช่วยให้คุณมีแรงจูงใจตลอดชั่วโมงการออกกำลังกาย แต่ก็อย่าลืมจับที่จับแฮนด์ในระหว่างวิ่งไว้ด้วยนะคะ เสียการทรงตัวอาจจะล้มไม่เป็นท่าได้
6. Zumba
ถ้าคุณรักการเต้น นี่คือข่าวดีสำหรับคุณ! การเต้นซุมบ้าได้รับการยอมรับว่าเป็นการออกกำลังกายที่มีประสิทธิภาพและง่ายที่สุดในการเผาผลาญแคลอรี่ โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องเป็นนักออกแบบท่าเต้นมืออาชีพ แค่มีเพียงหัวใจที่เต็มไปด้วยความกระตือรือร้นและอยากขยับร่างกาย เท่านี้ก็พอแล้ว
7. แอโรบิกในน้ำ
แอโรบิกในน้ำเป็นสิ่งที่คุณต้องลอง เพราะแม้ไม่มีเหงื่อแต่ก็สามารถเผาผลาญแคลอรี่ส่วนเกินและช่วยให้รูปร่างของคุณดูดีขึ้นได้ การเต้นแอโรบิคในน้ำแต่ละครั้งจะทำให้คุณสามารถเผาผลาญแคลอรี่ได้ 200 ถึง 400 แคลอรี่เลยทีเดียว
8. วิ่ง
การวิ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นหนึ่งในการออกกำลังกายที่มีพลังมากที่สุดตลอดกาล การวิ่งช่วยลดความเครียดและภาวะซึมเศร้า อีกทั้งยังช่วยให้คุณรู้สึกสดชื่น โดยการวิ่งสามารถเผาผลาญแคลอรี่ประมาณ 600 แคลอรี่ภายในหนึ่งชั่วโมง หรือมากกว่านั้นหากคุณวิ่งให้เร็วมากขึ้น
9. HIIT
HIIT ย่อมาจาก High Intensity Interval Training วิธีการฝึกก็คือ วอร์มอัพ 5 นาที จากนั้นวิ่งให้เร็วที่สุดเป็นเวลา 8 วินาที จากนั้นจึงค่อยๆ ผ่อนความเร็วลงมาจนกระทั่งเป็นช้ามาก แต่ไม่ได้หยุดวิ่ง เป็นเวลา 12 วินาที ทำเช่นนี้สลับกันไปเรื่อยๆ ทั้งหมด 20 ถึง 30 นาที หลังจากเสร็จแล้วจึงคูลดาวน์ 5 นาที โดยการออกกำลังกายแบบนี้จะสามารถเบิร์นแคลอรี่ได้มากถึง 9 เท่า
และนี่ก็เป็นเคล็ดลับการออกกำลังกายที่ดีที่สุด 9 รูปแบบ คุณสามารถเลือกได้ตามที่ต้องการและความชอบเลยค่ะ รับรองหุ่นสวย เป๊ะปัง รออยู่ไม่ไกลแน่นอน แต่ก็อย่าหักโหมมากนะคะ เอาเท่าที่ร่างกายไหว เน้นความต่อเนื่อง สม่ำเสมอจะดีกว่า วันนี้ขอลาไปก่อนนะคะ บ๊ายบาย
ติดตามบทความใหม่ๆได้ที่ SistaCafe Facebook
SistaCafe เว็บไซต์รวบรวมบทความสำหรับผู้หญิง //sistacafe.com
♥ ดาวน์โหลด App SistaCafe ฟรีได้แล้ววันนี้! ♥
iOS : AppStore
Android : PlayStore