4 คือ สเกลการอ่านค่าของอัตราการขยายของทรานซิสเตอร์
5 คือ สเกลสำหรับการอ่านค่าแรงไฟสำหรับการตรวจเช็คแบตเตอรี่ที่ไม่เกิน 1.5 V.
6 คือ สเกลสำหรับการอ่านค่าของเสียง มีตัวเลขทางบวก ตั้งแต่ 0 – +(10) dB? และ ทางลบ? 0 – (-10)
มัลติมิเตอร์ คือเครื่องมือที่วัดค่าทางไฟฟ้าได้หลายชนิด เช่น วัดแรงดันไฟฟ้าเป็นโวลด์ ความต้านทานเป็นโอห์ม และกระแสไฟฟ้าเป็นมิลลิแอมแปร์ จึงมักเรียกชื่อเป็น VOM meter (voit-ohm-milliammerter) โดยก่อนทำการวัดค่าทุกครั้งจะต้องทำการปรับตั้งที่ปุ่มปรับบนหน้าปัดดังนี้
- ปรับตั้งเข็มสำหรับชี้ค่าบนหน้าปัด (pointer adjustment) ให้ชี้ที่ 0 โดยใช้ไขควงปรับเข็มให้ชี้ตรง 0 บนหน้าปัดด้านซ้ายก่อนปรับตั้งปุ่มอื่น ๆ ต่อไป
- ปรับสวิตซ์เลือกระบบการวัด (function switch) เพื่อเลือกระบบไฟที่จะวัดเป็นระบบไฟฟ้ากระแสตรง (DC) หรือระบบไฟฟ้ากระแสสลับ (AC)
- 3ปรับสวิตซ์เลือกย่านการวัด (range switch) สำหรับเลือกช่วงในการวัดให้เหมาะสม ถ้าไม่รู้ค่าที่จะทำการวัดให้เลือกย่านการวัดที่ลำดับสูงไว้ก่อน หลังจากวัดและอ่านค่าได้โดยประมารแล้วจึงเลือกปรับสเกลการวัดที่เหมาะสมภายหลัง
- ปรับปุ่มตั้งค่าความต้านทานเป็นศูนย์ (zero ohms adjuxtment) โดยการเสียบสายวัดทั้งสองเส้นที่ช่องเสียบและแตะปลายสายเพื่อปรับค่าความต้านทานให้เข็มชี้ค่า 0 ก่อนนำมิเตอร์ไปใช้วัดค่าเพื่อเป็นการชดเชยกรณีที่แบตเตอรี่ที่ใช้กับมิเตอร์มีกำลังไฟลดลง ถ้าไม่สามารถปรับให้ตรง 0 ได้ให้เปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่
เชียงใหม่แอร์แคร์เอ็นจิเนียริ่ง
จำหน่าย ติดตั้ง รับเหมา วางระบบ เครื่องปรับอากาศ เครื่องทำน้ำอุ่น จำหน่ายอะไหล่แอร์ราคาส่งทั่วประเทศ พร้อมบริการหลังการขายครบครัน
สวัสดีครับ…ยินดีต้อนรับสู่โลกของบทความทางด้านอุตสาหกรรม วันนี้เราขอนำเสนอบทความที่เป็นส่วนหนึ่งของเครื่องมือทดสอบทางไฟฟ้า นั้นคือ มัลติมิเตอร์เครื่องมือวัดที่สามารถวัดปริมาณไฟฟ้าได้อย่างหลากหลาย ถ้าเพื่อนๆ ชาว EF SOCIETY พร้อมแล้วเราไปท่องโลกมัลติมิเตอร์กันเลยครับผม ^^มัลติมิเตอร์ ชื่อภาษาอังกฤษ Multimeter คือ เครื่องมือหรืออุปกรณ์วัดค่าต่างๆของไฟฟ้าชนิดหนึ่ง ที่สามารถใช้ได้ทั้งกับไฟฟ้ากระแสตรง (Direct Current : DC) และไฟฟ้ากระแสสลับ (Alternating Current Electricity : AC) ค่าต่างๆที่ มัลติมิเตอร์สามารถวัดได้ก็เช่น แรงดันไฟฟ้า, กระแส, ความต้านทาน, ความต่างศักย์ เป็นต้น
ที่มาของ มัลติมิเตอร์ คือเมื่อก่อนวิศวกรจะวัดค่าต่างๆของไฟฟ้าในแต่ละทีต้องมีการพกเครื่องวัดไฟฟ้าหลายๆแบบ เช่น โวลท์มิเตอร์ แอมป์มิเตอร์ โอห์มมิเตอร์ ในการวัดเพื่อให้ได้ค่าที่ต้องการ แต่เพื่อความสะดวกและรวดเร็วจึงมีการคิดค้นเครื่องมือที่สามารถวัดค่าต่างๆของไฟฟ้าได้ในครั้งเดียว คือ มิลติมิเตอร์นั่นเอง
1. มิลติมิเตอร์แบบอนาล็อก หรือแบบเข็ม (Analog Multimeter) เป็นประเภทที่ใช้ในยุคแรกๆ และปัจจุบันก็ยังมีการใช้อยู่บ้างแต่ไม่นิยมมากนัก ข้อดีคือราคาที่ไม่สูงมาก อ่านค่าง่าย แต่ก็มีข้อเสียอยู่เยอะพอสมควรถ้าใช้ไม่ชำนาญในการใช้เครื่องมือก็อาจมีการอ่านค่าผิด หรือค่าที่ได้อาจจะไม่ตรงตามจริงขึ้นอยู่กับปัจจัยแวดล้อมขณะวัดค่าด้วย และไม่มีตัวบันทึกข้อมูล ผู้ใช้ต้องจดบันทึกข้อมูลเอง
2. มิลติมิเตอร์แบบดิจิตอล หรือแบบตัวเลข (Digital Multimeter) เป็นแบบที่พัฒนาต่อจากแบบอนาล็อกหรือแบบเข็ม โดยการการแสดงค่าต่างๆที่วัดได้จะออกมาในรูปแบบตัวเลขและตัวหนังสือ ข้อดีคือมีความแม่นยำในการวัดค่าสูง อ่านค่าง่าย สะดวกในการใช้งาน บางรุ่นมีการเชื่อมต่อข้อมูลเพื่อดูค่าต่างๆ ผ่านสาย USB และยังสามารถอ่านค่าและควบคุมมิเตอร์จากหน้าซอฟแวร์ได้ มัลติมิเตอร์แบบดิจิตอลยังจำแนกออกได้อีก 2 ประเภทคือแบบมือถือและแบบตั้งโต๊ะ
สำหรับในอุตสาหกรรมโรงงานหรือกิจการต่าง ๆ ในยุค 4G มีเครื่องมือวัดกระแสไฟฟ้าอีกประเภทหนึ่งที่หลายกิจการและโรงงานได้หันมาใช้งานและกำลังเป็นที่สนใจมากในตอนนี้คือ Clamp Meter เป็นเครื่องวัดกระแสไฟฟ้าแบบไร้สาย
หลักงานทำงานของ Clamp Meter คือ การนำเอาตัวเครื่องนี้ไปคล้องกับสายไฟตามจุดต่างๆที่เราต้องการวัดค่าไฟฟ้า โดยจุดเด่นของอุปกรณ์นี้ที่ดีกว่า แอมป์มิเตอร์ โวลท์มิเตอร์ มัลติมิเตอร์คือ ตัวเครื่องส่งข้อมูลที่วัดได้ผ่านระบบ Bluetooth ไปเก็บไว้ที่ตัวเก็บข้อมูล Gateway และส่งข้อมูลผ่านระบบอินเตอร์เน็ตไปแสดงบน Web Service ที่สามารถข้อมูลได้ทั้งบนคอมพิวเตอร์ และ แอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน
ภาพหลักการทำงานของเครื่องวัดไฟฟ้าแบบไร้สาย (Clamp Meter)
ข้อดีและจุดเด่นของเครื่องวัดไฟฟ้าแบบไร้สาย (Clamp Meter)
- สามารถอ่านและรับรู้ค่าต่างๆได้แบบ Realtime
- ติดตั้งง่ายเพียงแค่คล้องกับสายไฟในจุดที่ต้องการวัด
- สามารถทราบความผิดปรกติในระบบไฟฟ้าของเราได้อย่างรวดเร็ว
- มีขนาดเล็กกะทัดรัด
- มีเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิภายในตัว
- มีการแจ้งเตือนผ่าน Line
- ข้อมูลถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัย
- ลดการใช้ทรัพยากรบุคคล
- สามารถวิเคราะห์ข้อมูลการใช้ไฟฟ้าได้ผ่าน Web Service
- สามารถดาวน์โหลดข้อมูล Excel เพื่อดูย้อนหลังได้
- ประหยัดการใช้ไฟได้โดยการตรวจสอบว่ากระแสไฟยังวิ่งผ่านอยู่หรือเปล่าในกรณีที่เราหยุดใช้ไฟแล้ว
สำหรับเจ้าของกิจการหรือโรงงานอุตสาหกรรมแล้ว เครื่องมือวัดไฟฟ้าแบบไร้สาย (Clamp Meter) ก็เป็นอีกเครื่องมีนึงที่ตอบโจทย์ในการจัดการระบบไฟฟ้าได้เป็นอย่างดี ด้วยระบบต่างที่ที่ซัพพอร์ท ได้อย่างรวดเร็วและสะดวกยิ่งขึ้น