ท่านอาฬารดาบสกับท่านอุทกดาบส ตายจากความเป็นคนไปเกิดเป็นอรูปพรหม
- "..เมื่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว พระองค์ทรงต้องการให้คนอื่นมีความสุขด้วย
- ทรงนึกว่าใครหนอที่จะรับพระธรรมเทศนาที่พระองค์บรรลุแล้วได้ ก็ทรงหวนนึกขึ้นมาได้ว่าท่านอาจารย์ทั้งสองคือ ท่านอาฬารดาบส กับ ท่านอุทกดาบส
- สองท่านเป็นอาจารย์สอนให้พระองค์ได้สมาบัติ ๘ ฉะนั้นในเมื่อท่านสอนให้ลูกศิษย์ได้สมาบัติ ๘ ได้ ตัวท่านก็ต้องได้สมาบัติ ๘ ด้วย
- การได้สมาบัติ ๘ คือ รูปฌาน ๔ และอรูปฌาน ๔ จิตละเอียดมาก
- ถ้ารับพระธรรมเทศนาจากองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าแผล็บเดียวก็เป็นอรหันต์ปฏิสัมภิทาญาณ คำว่า "ปฏิสัมภิทาญาณ" หมายความว่า
- ๑) ฉลาด ถ้าเขาพูดมาโดยย่อ ก็สามารถอธิบายให้ละเอียด เข้าใจชัดได้
- ๒) ถ้าเขาพูดมายาวๆ ก็สามารถย่อให้สั้นเข้า พอจำได้
- ๓) มีความฉลาดในภาษา มีปัญญารอบรู้ทุกอย่าง มีฤทธิ์ด้วยประการทั้งปวง
- เป็นอันว่าอภิญญา ๖ และวิชชา ๓ มีอะไร ปฏิสัมภิทาญาณก็มีหมด สำหรับปฏิสัมภิทาญาณนี้ ต้องทรงสมาบัติ ๘ ก่อน
- องค์สมเด็จพระชินวรทรงคิดว่า จะไปเทศน์ให้ท่านอาจารย์ทั้งสองฟัง เพื่อจะได้บรรลุมรรคผล
- ก่อนที่องค์สมเด็จพระทศพลจะทรงทำอะไร ท่านมีพระพุทธญาณ เป็นเครื่องรู้
- ทรงใช้ทิพย์จักขุญาณดูว่าอาจารย์ทั้งสองเวลานี้อยู่ที่ไหน ก็ทราบได้ว่าเวลานี้
- อาจารย์ทั้งสองตายจากความเป็นคนไปเกิดเป็นอรูปพรหม ไม่มีอายตนะคือไม่มีเครื่องรับ
- ไม่มีตาจะรับ ไม่มีหูจะรับ มีแต่ตาไม่มีหู ตีใบ้ก็ยังใช้ได้ มีแต่หูไม่มีตา ใช้เสียงก็ยังดี
- แต่นี่ไม่มีทั้งหูทั้งตา มีแต่จิตลอยเคว้งคว้างอยู่ในอากาศ
- สมเด็จพระบรมโลกนาถก็ทรงปลงอนิจจังว่า "โอหนอ น่าเสียดายอาจารย์ทั้งสอง ฉิบหายจากความดีเสียแล้ว"
- เพราะว่าองค์สมเด็จพระประทีปแก้ว ไม่มีโอกาสจะสนองคุณท่านอาจารย์ทั้งสอง เนื่องจากไม่มีอายตนะจะรับ ความจริงพราหมณ์เขาก็เก่ง เขามีการสอนกันถึงสมาบัติ ๘
- พรหมที่ว่ามี ๒๐ ชั้น เป็นพรหมที่มีรูป ๑๖ ชั้นและพรหมที่ไม่มีรูปที่เรียกกันว่าอรูปพรหมอีก ๔ ชั้น
- ความจริงไม่ได้เป็นชั้นที่ต่อสูงขึ้นไปเป็นชั้นที่ ๑๗,๑๘,๑๙,๒๐ หมายถึงไม่ได้อยู่สูงกว่าพรหมที่มีรูปและอรูปพรหม ไม่ได้ตั้งปนอยู่กับรูปพรหม
- แต่อยู่ในช่องกึ่งกลางระหว่างรูปพรหมชั้นที่ ๘ กับรูปพรหมชั้นที่ ๙ จะเห็นเป็นทะเลอากาศขาวเป็นประกายระยิบระยับแพรวพราว มีความกว้างขวางมองหาที่สุดของพื้นที่ไม่ได้ หาวิมานสักหลังก็ไม่มี หารูปกายสักรูปหนึ่งก็ไม่มี
- สิ่งที่จัดว่าเป็นวัตถุในด้านของความเป็นทิพย์สักหน่อยหนึ่งก็ไม่มี แดนนี้เขาเรียกว่าแดนอรูปพรหม ที่เขาบอกว่าเป็นพรหมแล้วมีรูปร่างเหมือนฟักแฟง แบบนี้ยังไม่รู้จริง
- ถ้าหากว่ารูปไม่มีแล้วอะไรเป็นพรหม ก็จิตของพรหมแต่ละพรหมที่เห็นเป็นประกายระยิบระยับแพรวพราวอยู่ในบริเวณของอากาศนั้นแต่ไม่มีรูป
- พรหมทั้งหลายพวกนี้ไม่มีรูป ก็เพราะในสมัยที่เป็นมนุษย์เขาไม่ต้องการรูปเขาเกลียดรูป
- เนื่องจากเวลาหนาวก็ดี ร้อนก็ดี หิวก็ดี กระหายก็ดี ป่วยไข้ไม่สบายก็ดี ปวดอุจจาระปัสสาวะก็ดี ถูกเพื่อนต่อว่าหรือถูกเจ้าหนี้มาทวงหนี้ก็ดี
- เขาคิดว่าอาการที่ไม่ชอบใจทั้งหมดเป็นเพราะมีร่างกายเป็นสำคัญ ถ้ายังมีร่างกายอยู่เพียงใด ความทุกข์ทั้งหลายเหล่านี้ก็จะปรากฏแก่เรา ฉะนั้นจึงได้บำเพ็ญบารมีในด้านอรูปฌานคือ
- ๑) อากาสานัญจายตนะ พิจารณาอากาศเป็นสำคัญว่า อากาศหาที่สุดมิได้
- ๒) แล้วพิจารณา วิญญาณัญจายตนะ ดูวิญญาณว่า วิญญาณนี้ก็หาที่สุดมิได้เหมือนกัน
- ๓) แล้วก็ได้ อากิญจัญญายตนะ ถือว่าในโลกนี้ไม่มีอะไรเป็นสำคัญ มันสลายตัวหมด
- ๔) แล้วก็พิจารณา เนวสัญญานาสัญญายตนะ เลยทำอารมณ์ของตัว เป็นคนที่มีความจำ แต่ทำเหมือนว่าจำไม่ได้ คือไม่รับรู้อะไรทั้งหมด
- สำหรับอรูปพรหมทั้งหมด ๔ ชั้นนี้เป็นพรหมที่มีความอาภัพมาก เพราะว่าเวลาพระพุทธเจ้าเทศน์โปรดไม่มีโอกาสจะรับฟัง
- ไม่เหมือนบรรดารูปพรหมทั้งหลายที่มีโอกาสฟังเทศน์จากพระพุทธเจ้า เมื่อฟังเทศน์แล้วแต่ละคราว บรรดาพรหมที่เป็นพระอริยเจ้าอยู่บ้าง ก็เป็นพระอรหันต์เข้านิพพานไป
- บรรดาพรหมที่ทรงฌานโลกีย์ก็เป็นพระอริยเจ้าเสียก็มาก เป็นอันว่าพรหมมี ๒๐ ชั้นก็จริง เป็นรูปพรหมเสีย ๑๖ ชั้น ตั้งอยู่ระดับหนึ่ง สำหรับอรูปพรหม ๔ ชั้นอยู่อีกเขตหนึ่งไม่ได้ปนกัน..
- โปรดฟังทุกคลิปด้วยวิจารณญาณ จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ได้
- เจ้าชายสิทธัตถะ พบอาจารย์ทั้งสองและฝากตัวเป็นศิษย์ ได้รับการสอนวิชาความรู้ต่างๆ แนะนำการฝึกสมาธิ ซึ่งอาจารย์คนสำคัญทั้ง 2 ของเจ้าชาย คือ ท่่านอาจารย์อาฬารดาบส และท่านอาจารย์อุทกดาบส (บทสนทนา ศิษย์ อาจารย์)
เจ้าชายสิทธัตถะทรงศึกษาวิชาใด กับอาฬารดาบส และอุทกดาบส
Q. เจ้าชายสิทธัตถะทรงศึกษาวิชาในข้อใด กับอาฬารดาบส กาลามโคตร และอุททกดาบส รามบุตร answer choices. ความรู้ทางศิลปศาสตร์
อาฬารดาบสและอุทกดาบสมีความเกี่ยวข้องอะไรกับพระพุทธเจ้า
* เหมือนดังท่านอาฬารดาบสกาลามโคตร และอุทกดาบสรามบุตร ผู้เคยเป็นครูของพระผู้มีพระภาคเจ้าของเรา ในสมัยที่พระพุทธองค์กำลังแสวงหาโมกขธรรม การที่ท่านอาจารย์ทั้งสองนี้ได้ไปบังเกิดในอรูปภพ ทำให้พลาดโอกาสที่จะได้ฟังพระสัทธรรมอันประเสริฐจากพระพุทธองค์ ต้องไปเสวยสุขเป็นเวลายาวนานเป็นหมื่นๆ มหากัป จากนั้นก็ต้องกลับมาเกิดใหม่เพื่อ ...
เหตุใดพระพุทธเจ้าจึงเลือกศึกษาที่สำนักอาฬารดาบสและอุททกดาบส
๔. พระมหาบุรุษได้ทรงศึกษาในสำนักอาฬารดาบสและอุทกดาบสจนจบวิชาความรู้ของอาจารย์ การที่กล่าวว่าพระองค์ตรัสรู้ชอบด้วยพระองค์เองโดยไม่มีใครเป็นครูอาจารย์ นั้นเพราะเหตุไร ? (๒๕๕๔) ตอบ : เพราะความรู้ที่เรียนในสำนักดาบสทั้ง ๒ นั้น เป็นโลกิยธรรม ส่วนความรู้ที่ตรัสรู้เองนั้น เป็นโลกุตรธรรมที่ไม่มีใครรู้มาก่อน ฯ
อาฬารดาบส อ่านอย่างไร
คําอ่าน อ่านว่า เท-วะ-ทูต อ่านว่า พะ-หนวด อาฬารดาบส อ่านว่า อา-ลา-ระ-ดา-บด