ในปัจจุบัน OLED TV ถือว่าเป็นสุดยอดจอทีวีที่ดีที่สุดของยุคสมัยนี้แล้ว แต่ก่อนจะเป็นจอทีวี ได้มีการวิวัฒนาการของจอทีวีมาหลายรุ่นแล้ว ดังนั้นวันนี้เราจะมาพูดถึงการวิวัฒนาการของจอทีวี ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
1. จอทีวี CRT (Cathode Ray Tubes) เป็นจอทีวีหลังตุง มีมุมมองกว้าง ให้กำลังความสว่างของจอภาพมาก ถ้ามองเป็นเวลานานอาจจะทำให้แสบตาได้ ใช้งานตั้งแต่ยุคทีวีจอขาวดำ จนถึงทีวีจอสี แต่ในปัจจุบันไม่เป็นที่นิยมแล้ว เพราะทีวีจอ CRT ใช้พื้นที่เยอะ และกินไฟเยอะ
2. จอทีวี LCD (Liquid Crystal Display) เป็นทีวีจอบาง ไม่มีแบบหลังตุงแล้ว ช่วยประหยัดพื้นที่ กินไฟน้อยลง และสามารถเล่นเกม Slotxo ได้ด้วยครับ แต่มุมองศาในการรับชมจะน้อยกว่าจอทีวี CRT เวลามองจากทางด้านข้างจะมองไม่ชัด และเราต้องมองตรงกับหน้าจอเท่านั้น
3. จอทีวี LED (Light Emitting Diode) ที่ออกมาทดแทนเทคโนโลยี LCD เป็นหลอดไฟขนาดจิ๋ว 3 สี คือ แดง, เขียว และน้ำเงิน เพียงแค่ 1 หลอดก็สามารถเปล่งแสงสีได้มากมายตามการผสมสีของแม่สีทั้งสาม ซึ่งเจ้าหลอด LED กินไฟน้อย ให้สีสันที่ชัดเจนมีความสว่างสูง และมีอัตราการตอบสนองรวดเร็ว
4. จอทีวี OLED (Organic Light Emitting Diodes) เป็นจอภาพที่มีลักษณะคล้ายแผ่นฟิล์ม ซึ่งมีส่วนประกอบเป็นสารอินทรีย์ที่สามารถเปล่งแสงเองได้เมื่อได้รับพลังงานไฟฟ้า เรียกว่ากระบวนการอิเล็กโทรลูมิเนเซนส์ (Electroluminescence) โดยไม่ต้องพึ่งพาแสง Backlight และจะไม่มีการเปล่งแสงในบริเวณที่ภาพสีดำ ส่งผลให้สีดำนั้นดำสนิท และช่วยประหยัดพลังงาน
คนอายุสัก 50 ปีขึ้นไป อาจจะเกิดปลงอะไรสักอย่างในบ้าน อะไรสักอีก คนวัยนี้รู้ว่าช่วงระยะเวลาหนึ่งในชีวิต โทรทัศน์ กลายเป็นไอเท็มที่มีความสำคัญมากของทุกคน ต้องมีทุกบ้าน บ้านไหนมีทีวีเครื่องใหม่ เครื่องใหญ่ จะกลายเป็นคนที่บอกได้เลยว่า พอมีฐานะ แต่มาตอนนี้ทีวีกลายเป็นของที่มีก็ได้ไม่มีก็ได้ เนื่องจากทุกคนหันไปดูจอในมือถือกันหมด อย่างไรก็ตาม เรามาย้อนดูกันว่าวิวัฒนาการของทีวีตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมีเรื่องอะไรน่าสนใจกันบ้าง
โทรทัศน์ขาวดำ และสัญญาณนาล็อค
ในยุคแรกที่เราพอจะย้อนกลับไปได้เกี่ยวกับโทรศัพท์ ยุคนั้นต้องบอกว่าโทรทัศน์จะเป็นเหมือนกับตู้สี่เหลี่ยมตัวอ้วนๆ ภาพในจอเป็นสีขาวดำเท่านั้น สัญญาณที่ส่งมาจะเป็นระบบอนาล็อค ซึ่งสัญญาณแบบนี้อย่าถามหาเรื่องความคมชัดเลย น้อยมากหากจังหวะและจุดรับสัญญาณไม่ดีจริง ภาพจะเบลอ ไปจนถึงไม่สามารถดูได้เลย แม้จะเป็นเพียงแค่ภาพขาวดำมัวๆ แต่แค่นั้นก็ถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่ว้าวมากของโทรทัศน์ บ้านใครมีถือว่าฐานะเลย อีกอย่างโทรทัศน์กลุ่มนี้เวลาเปลี่ยนช่องจะต้องไปกดช่องเปลี่ยนช่องสัญญาณจากตัวทีวีเท่านั้น
โทรทัศน์สี
จากความพยายาม และเทคโนโลยีที่มากขึ้น ทำให้โทรทัศน์ได้พัฒนาตัวเองครั้งสำคัญในเวลาต่อมา นั่นก็คือ การพัฒนาจากขาวดำไปสู่ระบบสี แน่นอนว่าการที่เราได้มองเห็นภาพสีสวย เหมือนของจริง มันเป็นก้าวกระโดดครั้งสำคัญเลยก็ว่าได้ จากนั้นโทรทัศน์ก็ได้พัฒนาแข่งขันด้านความสมจริงของสีว่าใครจะทำโทรทัศน์ออกมาสีสวยกว่ากัน อีกหนึ่งเทคโนโลยีที่พัฒนาในช่วงเวลาใกล้เคียวกัน เป็นเรื่องของการระบบรีโมต ตอนนั้นได้มีการคิดค้นให้เราสามารถเปลี่ยนช่องทีวีได้แม้จะไม่ได้อยู่ใกล้กับตัวทีวีก็ตาม แน่นอนว่าเรื่องนี้สร้างความตื่นตัวให้กับคนยุคนั้นได้ดีเลย จนทำให้โทรทัศน์สีกลายเป็นไอเท็มที่ทุกบ้านต้องมีในตอนนั้นไป
เคเบิ้ลทีวี และ เครื่องเล่น
อีกหนึ่งเรื่องที่ทีวีมีการพัฒนาตัวเองมาด้วย นั่นก็คือเครื่องเล่น ยี่ห้อเครื่องใช้ไฟฟ้าพยายามสร้างเครื่องเล่นขึ้นมาเพื่อเอามาใช้กับทีวีและสร้างคุณค่าของทีวีให้มากขึ้น จนสำเร็จเป็นเครื่องเล่นวิดีโอ จนกลายเป็นเครื่องเล่น ซีดี, ดีวีดี ในเวลาต่อมา อีกด้านหนึ่งที่ถูกพัฒนามาพร้อมกันเป็นเรื่องเคเบิ้ลทีวีที่ใครมีเงินก็จะสามารถเข้าถึงได้ การได้ดูช่องต่างๆ ที่นอกเหนือจากช่องธรรมดาเป็นอะไรที่คนมีตังค์จริงๆ จะเข้าถึงได้ในเวลานั้น
สัญญาณดาวเทียม
จากความสำเร็จเรื่องเคเบิ้ลทีวีแบบเสียเงินรายเดือน ทำให้ทีวีได้พัฒนาตัวเองอีกครั้งคราวนี้ไม่ใช่เรื่องของความใหญ่หน้าจอโทรทัศน์ เรื่องความคมชัดของภาพอย่างเดียว แต่เป็นการพัฒนาเรื่องของเคเบิ้ลดาวเทียมหรือเรารู้จักกันในเรื่องของกล่องสัญญาณทีวี ที่จะทำให้การดูทีวีคมชัดมากขึ้น หลากหลายช่องมากขึ้น ไม่ต้องมาคอยปรับหนวดกุ้งเพื่อหาสัญญาณอีกต่อไป ยุคนี้โทรทัศน์จะถูกเชื่อมกับจานดาวเทียมเยอะมาก มองไปทางไหนก็เห็นแต่คนติดจานดาวเทียมกันทั้งนั้น ไม่ว่าใครก็อยากจะดูทีวีชัดๆ กันจริงไหมล่ะ
โทรทัศน์ที่ทำอะไรได้มากขึ้น
หลังจากแข่งขันเรื่องความใหญ่ และเทคโนโลยีอื่นมานาน สุดท้ายการพัฒนาโทรทัศน์ก็มาแข่งกันในเรื่องพื้นฐานอีกครั้งคราวนี้นอกจากความใหญ่ ยังแข่งกันเรื่องความบาง เบา ติดตั้ง ยกเก็บได้ง่ายด้วย หน้าจอก็แข่งกันเรื่องปริมาณความคมชัดของเม็ดสี และอื่นเพื่อให้โทรทัศน์มีประสิทธิภาพมากขึ้น จนกระทั่งมีการแข่งขันให้จอทีวีกลายเป็น smart tv ที่สามารถดู YouTube, Netflix หรือความบันเทิงอื่นได้มากกว่าทีวีธรรมดา แบบที่เราเห็นกันได้ในปัจจุบันนี้
เป็นหนึ่งในเครื่องใช้ไฟฟ้าสามัญประจำบ้านที่ใช้ในการรับรายการข่าวสารทั้งภาพ และความบันเทิงผ่านภาพและเสียงจากการออกอากาศของรายการที่ส่งมาผ่านสัญญาณโทรทัศน์ เมื่อสัก 20 กว่าปีก่อน คอมพิวเตอร์ยังไม่ได้รับความนิยมมากนักทำให้ทีวีได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าเป็นยุค “ทีวีบูม” เลยทีเดียว แต่ในปัจจุบันเนื่องจากอินเทอร์เน็ต และเครื่องคอมพิวเตอร์วิวัฒนาการอำนวยความสะดวกมากขึ้นทำให้ทีวีสมัยนี้ ได้รับความนิยมน้อยลงเมื่อเทียบกับสมัยก่อนอย่างมาก แต่ทีวีสมัยนี้ก็ยังมีประโยชน์ที่หลากหลายขึ้นจากการปรับตัวตามกระแสความต้องการของผู้บริโภคนั่นเอง เอาล่ะ.. เรามาดูกันดีกว่าว่าวิวัฒนาการของทีวีสมัยก่อน กับทีวีในสมัยนี้มีความแตกต่างกันอย่างไรกันบ้าง!?
ทีวีฮุนได LED น่าใช้ไหม ดีอย่างไรมารู้จักกับ 6 รุ่นยอดนิยมในไทยกัน
2019.10.13
มารู้จักกับทีวีฮุนได สมร์ททีวีน้องใหม่จากค่ายเกาหลีกันว่า เจ๋งจริง สมราคาหรือเปล่า คลิก! อ...
ทีวีในยุคเริ่มต้น : ทีวีขาวดำ
ในยุคแรกทีวีสมัยก่อนจะไม่ได้มีภาพให้เห็น แต่จะมีเพียงแค่ “เสียง” ที่เป็นสิ่งบันเทิงเพียงอย่างเดียว บวกเข้ากับจินตนาการของผู้ฟังจนทำให้เกิดภาพในหัวขึ้นมาเพื่อสร้างความเพลิดเพลินให้กับตัวเอง ความบันเทิงของคนสมัยก่อนที่สามารถทำได้คือ การฟัง “วิทยุ” แบบ FM และ AM หรือ “แผ่นเสียง” ที่เรียกได้ว่ามีราคาที่สูงลิบเลยทีเดียว หลังจากนั้นทีวีก็ได้เริ่มวิวัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ฟังจนกระทั่งมีภาพให้เห็น แต่เป็นเพียงภาพขาวดำเท่านั้น ในสมัยนั้นจึงมักเรียกทีวีประเภทนี้กันอย่างติดปากว่า “ทีวีขาวดำ” นั่นเอง แถมภาพที่ถูกส่งออกมายังปราศจากความคมชัดอย่างมาก แต่ก็ยังเป็นสิ่งทีดีกว่าการจินตนาการตามเสียงจากวิทยุของคนสมัยก่อนอย่างมากเลยทีเดียว
ทีวีในยุคที่สอง : ทีวีสี
ในเวลาต่อมาเข้ามาของ “ทีวีสี” ที่เพิ่มสีสันให้การชมทีวีกลายมาเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มความบันเทิงให้กับคนในสมัยก่อนเป็นอย่างมาก ด้วยการส่งสัญญาณโทรทัศน์แบบ “อานาล็อค” ที่มีช่องรายการให้เลือกชมมากขึ้น แต่ไม่เกิน 106 ช่องรายการ แต่ด้วยความละเอียดอ่อนของการส่งสัญญาณที่ถูกรบกวนได้ง่ายจากทั้งภายในและภายนอก ทำให้เกิดปัญหาของภาพที่ไม่ค่อยชัดเจน แถมยังมีปัญหาเกิดขึ้นหากสัญญาณเบา แรง หรือผู้รับชมอยู่ห่างจากทีวีมากจนเกินไปอีกด้วย ทำให้ต้องมีผู้ชำนาญการพิเศษมาทำการออกแบบโครงข่ายการออกรายการโทรทัศน์เพื่อแก้ไข หรือลดทอนปัญหาดังกล่าวให้น้อยลง การรับชมทีวีของคนในสมัยก่อนจึงเป็นสิ่งที่มีความท้าทาย และเต็มไปด้วยปัญหาอย่างมากมายเลยทีเดียว
ทีวียุคที่สาม : ทีวีดิจิทัล
เมื่อทีวีได้รับความนิยมมากขึ้นจนกระทั่งกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของทุกครอบครัว การแข่งขันพัฒนาทีวีจึงเกิดขึ้นอย่างมาก พร้อมกับทำการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจากทีวีในสมัยยุคอานาล็อค กลายเป็นระบบทีวีดิจิทัล (Digital TV) กลายเป็นทีวีที่มีความคมชัดมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งในปัจจุบันสามารถส่งสัญญาณภาพที่มีความคมชัดได้ในระดับ 4K เลยทีเดียว ในขณะเดียวกันก็ลดทอนปัญหาการรบกวนสัญญาณให้น้อยลง จากที่เกิดขึ้นภายในและภายนอกของทีวี นอกจากนี้ยังมีรายการทีวีให้เลือกรับชมเป็นจำนวนมากถึง 600-800 ช่อง แถมยังสามารถคัดกรองรายการที่ต้องการชมให้มีความเหมาะสมกับความต้องการ
ทีวียุคที่สี่ : ไอพีทีวี
เป็นยุคที่ทำให้ทีวีมีความแตกต่างจากทีวีสมัยก่อนเป็นอย่างมาก ด้วยการเพิ่มจำนวนช่องของรายการที่สามารถรับชมได้มากขึ้น และยังเปลี่ยนให้ทีวีมีคุณสมบัติในการใช้งานที่มากขึ้นกว่าเดิม สามารถรับชมรายการทีวีได้อย่างคมชัดเท่ากันทุกช่อง ปัญหาสัญญาณรบกวนเองก็ถูกแก้ไขให้น้อยลงเป็นอย่างมาก ในขณะเดียวกันก็มีการเปิดช่องทางให้สื่อประชาสัมพันธ์ และโฆษณาสามารถเขาถึงผู้บริโภคผ่านทางทีวีได้มากขึ้น เช่น การสั่งซื้อสินค้าและบริการผ่านทางโทรทัศน์ได้เลย หรือสามารถใช้เป็นทีวี ในขณะเดียวกันก็สามารถเล่นอินเทอร์เน็ตได้ด้วย เป็นต้น